ตอนที่ 225 เตรียมการใหญ่
ถังเทียนใช้ป้ายเกียรติยศชาวยุทธติดต่อพี่จิ่งหาว
เขาส่งข้อความขอให้พี่จิ่งหาวช่วยหากำลังคนที่เชื่อถือได้ผู้ยินดีจะร่วมทุนกับเขา เขายังบอกตำแหน่งของเขาและขอให้ใครก็ได้มาถึงให้ได้ภายในสามวัน
ในเวลาอันรวดเร็ว จิ่งหาวก็ให้คำตอบส่งข้อมูลให้เขาว่าอู่กวงอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้ที่สุด ดังนั้นถังเทียนจึงสามารถติดต่อกับเขาได้
ถังเทียนประหลาดใจอย่างมากที่อู่กวงอยู่ใกล้ๆ
เขาเป็นคนที่ต่อสู้ได้ดี
**********************************
อู่กวงกำลังกังวลใจอยู่พอดี เขาเพิ่งใช้เงินและคะแนนของเขาหมดไป
เขาไม่รู้ว่าจะไปหาทำธุรกิจได้ที่ไหน? ยุ่งจริงๆ!หลังจากพบถังเทียนที่เป็นแกะอ้วนในครั้งล่าสุด เขาหมดห่วงและมีเวลาว่างไปช่วงเวลาหนึ่ง แต่ในเวลาไม่ช้า เขาก็กลับสู่สภาพจนกรอบมีปัญหาเรื่องการเงินอีกครั้ง
“เฮ่อ..ฮ้า...เฮ่ย!สองสามวันมานี้ผ่านไปโดยไม่ได้อะไร จะมีใครให้เงินข้าได้บ้าง!”
ทันใดนั้นป้ายนักสู้สมาพันธ์ชาวยุทธเปล่งแสงขึ้น ใครเรียกหาเขาในตอนนี้?
จิตใจและป้ายเกียรติยศของเขาเชื่อมถึงกัน พอเขาเห็นเป็นถังเทียน ก็ตื่นเต้นดีใจทันที“น้องถัง มีงานอะไรจะแนะนำให้พี่อู่บ้าง ข้ากำลังลำบากอยู่พอดี...”
“หมู่ดาวกาเหรอ? อ่าฮะ! ข้าอยู่นี่แล้ว! โอว... โอว.. เจ้าทำอะไรอยู่ที่นี่?”
“สามวันเหรอ? ไม่ต้อง! ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ไหนแล้ว สบายใจได้ ข้าจะรีบไปถึงที่นั่นภายในวันครึ่งเลย”
“ต้องการกำลังคนเพิ่มเหรอ? ข้าหาได้ ข้ามีคนสนิทอยู่สองคนคู่หูของข้าที่สนิทกัน สบายใจได้พวกเขาดีพอในระดับสวรรค์วิถี ข้าไม่โกหกเจ้าอย่างแน่นอน”
“ไม่พอ, น้องถัง เจ้าต้องการอะไรกันแน่อย่าบอกข้านะว่าเจ้าต้องการกวาดล้างหมู่บ้านกระบี่หมู่ดาวกา ฮะฮะ ล้อเล่นล้อเล่นน่า..ไม่มีปัญหา ตราบใดที่น้องถังให้เงินข้าต่อให้เจ้าต้องการกวาดล้างหมู่บ้านกระบี่ทั้งหมดก็ไม่มีปัญหา..ใช่ข้าสามารถทำได้ สมาพันธ์ชาวยุทธของเราไม่มีอีกต่อไปแล้วแต่ข้ามีนักสู้ที่ทรงพลังผู้สามารถช่วยได้แน่”
“อือ..ระดับสวรรค์วิถี เอ่อ.. สี่คน! ข้าสามารถหาได้สักสี่คน! อะไรนะ, เจ้าต้องการหมดเลยเหรอ? น้องถัง,เจ้ารู้ไหมว่าค่าจ้างครั้งนี้...เหรียญดาวเหรอ? เหรียญดาวก็ได้เช่นกัน, อะไรนะ... ห้า..โอวพระเจ้า, ห้าล้านนนนนน...ซีดดดดดดด!”
อู่กวงสูดลมหายใจลึก
คนละห้าล้านเหรียญดาว ครั้งละห้าวันนั่นก็หมายความว่าวันละหนึ่งล้าน!
แม้ว่าสำหรับนักสู้สวรรค์วิถีคนหนึ่งด้วยค่าตัวขนาดนั้นก็แทบจะทำให้พวกเขาบ้าได้แน่นอน! นักสู้ระดับสวรรค์วิถีก็ต้องกินต้องใช้,การ์ดวิทยายุทธต้องใช้เงิน ความต้องการเหรียญดาวเพื่อใช้ฝึกฝนมักจะไม่พออยู่เสมอ! ต่อให้เป็นนางงามหรือเป็นวีรบุรุษหากปราศจากเหรียญดาวพวกเขาไม่มีทางได้เป็นวีรบุรุษผู้กล้าหรือนางงามได้เลย
ตาของอู่กวงแดงอย่างรวดเร็ว รังสีฆ่าฟันของเขาพุ่งพรวด
“ไม่มีปัญหาแน่นอน! เจ้าคือนายจ้างบอกมาว่าเจ้าต้องการฆ่าใคร? ให้ข้าห้าล้าน,ภายในห้าวัน ข้าจะฆ่าใครก็ได้ตามที่เจ้าขอ! น้องถังอย่าห่วงเราพี่น้องมีชื่อเสียงและมีศักดิ์ศรีแน่นอน”
“วันเดียว! ข้าใช้เวลาแค่วันเดียว!เราจะสะพายดาบของเราไปปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าเจ้า!”
อู่กวงชักดาบหักออกมาตบที่หน้าอกตนเอง ในดวงตามีรอยเส้นเลือดขึ้นให้เห็น
*******************************
“ตอนนี้ เราต้องเปลี่ยนแผนของเราเล็กน้อย” ถังเทียนกวาดตามองผ่านทุกคน “พรุ่งนี้จะมีนักสู้สวรรค์วิถีห้าคนมาช่วยเราเพิ่ม!”
............!
เสียงสูดลมหายใจจากเซี่ยชิงทุกสามารถได้ยินได้ สภาพเช่นนั้นทำให้ในหัวของเขาวุ่นวายสับสนไปหมด จากนั้นหัวใจของเขาเต็มไปด้วยความกลัว จอมยุทธถังคงไม่...คงไม่คิดจะถล่มหมู่ดาวกาหรอกนะ...
นักสู้ระดับสวรรค์วิถีห้าคน นั่นเป็นแนวคิดแบบไหน พลังที่น่ากลัวขนาดนั้นถ้าพวกเขากวาดล้างทุกอย่างตามเส้นทางไม่มีทางที่หมู่บ้านกระบี่แห่งไหนจะสามารถต้านรับพวกเขาได้ ถ้าพวกเขาต้องการจะหยุดยั้งพวกเขาให้ได้ก็ต้องให้หมู่บ้านกระบี่ที่แข็งแกร่งสองสามแห่งร่วมมือเป็นพันธมิตรร่วมกัน
พลังนี้แข็งแกร่งมาก
สำหรับนักสู้สวรรค์วิถีห้าคนมาปรากฏตัวพร้อมกัน แม้แต่เฒ่าบอดซอกำศรวลอาจต้องถอยจากพลังที่ได้เปรียบ
เซี่ยชิงมองดูถังเทียนอย่างตื่นกลัว ในใจเขาว่างเปล่าจอมยุทธถังไม่พูดอะไรต่อสักคำ เขารวบรวมนักสู้สวรรค์วิถีมาห้าคน, เรื่องนี้เรื่องนี้ เรื่องนี้...
หลิงซิ่วมองดูถังเทียนอย่าประหลาดใจ “เจ้าจะทำอะไรกันแน่?”
แม้ว่าอาเฮ่อจะมิได้อ้าปากพูด แต่ก็ปรากฏแววประหลาดใจอยู่ในดวงตาของเขา หมู่ดาวกระเรียนฟ้าตกต่ำมาเป็นเวลานานแล้วและสมาชิกระดับสวรรค์วิถีก็สามารถใช้มือนับได้ แต่ข้างๆ มารดาของเขา พลังและภูมิหลังของเขาก็มิอาจนึกภาพได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้นักสู้สวรรค์วิถีห้าคนนับว่าไม่ใช่เรื่องเล็ก
ปิงและขลุ่ยวิเศษไม่ได้มีอาการตอบสนองแต่อย่างใด พวกเขาทราบข้อมูลก่อนแล้ว
ด้วยนักสู้สวรรค์วิถีห้าคน การเผชิญหน้ากับกองทัพอสูรหินกรวด อัตราการคว้าชัยชนะได้สำเร็จในครั้งนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ท่านอาจกล่าวได้ว่าหลังจากได้นักสู้ระดับสวรรค์วิถีมาช่วยก็เหมือนกับตอกตะปูปิดฝาโลง
“จุดหมายหลักของแผนเราก็คืออสูรหินกรวด”
ถังเทียนสามารถเข้าใจความหมายคำว่า ‘คนตายเพื่อสมบัติ,นกตายเพื่ออาหาร’ เป็นอย่างดี ความคิดปัจจุบันของเขาก็คือทำไมจำนวนของอสูรหินกรวดจึงมีน้อยนัก?
“อสูรหินกรวด?”
ทุกคนจ้องมองเขาอย่างงงงวย อสูรหินกรวด...
“ใช่แล้ว อสูรหินกรวด! พูดให้ตรงตัวยิ่งกว่าเดิมก็คือทองอีกา” ถังเทียนไม่ปิดบังเซี่ยชิง “เวลาห้าวันเป้าหมายหลักของเราก็คือทองอีกา! เราจำเป็นต้องได้รับทองอีกาจำนวนมากที่สุดในเวลาที่สั้นที่สุด”
“ทำไมต้องห้าวันด้วย?” อาเฮ่อถามทันที
“เพราะคนทั้งห้านี้ ข้าจ้างพวกเขาไว้เป็นเวลาห้าวันคนละหนึ่งล้านเหรียญดาวต่อวัน” ถังเทียนเฉลยอย่างไม่มีปิดบัง
ทุกคนตกตะลึงต่อการใช้จ่ายมือเติบของถังเทียน ห้าวัน, คนหนึ่งจ้างวันละล้านเหรียญดาว ห้าคนก็คือยี่สิบห้าล้านเหรียญดาว...
เซี่ยชิงไม่เพียงแต่ตะลึงเท่านั้น เขาตะลึงจนสั่นทั้งตัว กล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างของเขากำลังสั่นเมื่อคิดว่ารายได้เดือนละพันห้าร้อยเหรียญดาวที่เขาทำได้คนพวกนี้ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน แม้ว่าพวกเขาจะทำเงินได้เดือนละหมื่นเท่าก็คงจะได้เพียงสิบห้าล้าน....
หน้าของเซี่ยชิงขาวซีดขณะที่เขากลืนน้ำลาย ถังเทียนสามารถทำเงินยี่สิบห้าล้านเหรียญดาวจากสิ่งที่เขาคิด นั่นไม่ใช่แค่สิ่งที่เขามี! ขณะเดียวกัน ถ้าเขายังไม่เข้าใจคุณค่าทองอีกาเขาก็นับว่าโง่จริงๆ แล้ว
แต่ใจของเขาไม่กล้าคิดเรื่องอื่นที่ทำให้เสียสมาธิ นอกจากความมีน้ำใจที่เขาแสดงออกมา ถังเทียนยังมีพลังที่แปลกประหลาด ด้วยพลังเพียงนิ้วเดียวเขาสามารถทำลายหมู่บ้านตระกูลเซี่ยได้
“เวลาเป็นเงินทอง”
ถังเทียนจดจำบทเรียนนี้ไว้เสมอ ขณะที่ตาเขาเป็นประกายสีแดงเขาปรึกษาแผนการกับปิงและขลุ่ยวิเศษ
“เราจะใช้เวลาให้เร็วที่สุดในการกำจัดอสูรหินกรวด ดังนั้นวิธีที่เร็วที่สุดก็คือสังหารจ้าวอสูรหินกรวดให้ได้ก่อนแล้วจากนั้นเราค่อยคร่ากุมเฒ่าบอด ลุงขลุ่ยช่วยใช้วิทยายุทธเสียงเพลงและปล่อยให้อสูรหินกรวดฆ่าฟันกันเอง เซี่ยชิงนำคนอีกสองสามคนไปสกัดอสูรหินกรวดไม่ให้หลบหนี ถ้าเจ้านำลูกบ้านของเจ้าไปช่วยเก็บรวบรวมทองอีกาได้เร็ว จะทำให้ประหยัดเวลาเราไปมาก”
เซี่ยชิงพยักหน้าทันที “ไม่มีปัญหา”
ถังเทียนพูดต่อ “หลังจากนั้น เราจำเป็นต้องให้ปิงกำหนดเส้นทางสักสองสามเส้นทาง เส้นทางที่จะนำไปสู้การซื้อทองอีกาของพวกเขา นี่ต้องทำให้รวดเร็ว ถ้าพวกเขารู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ พวกเขาจะไม่ขายทองแน่นอนอาเฮ่อกับเซี่ยชิงจะต้องดำเนินการเรื่องนั้น”
อาเฮ่อพยักหน้าอย่างใจเย็น “ตกลง”
เซี่ยชิงตอบทันทีเช่นกัน “ขณะเดียวกัน ข้าจะรวบรวมคนที่น่าเชื่อถือสองสามคนเพื่อที่ว่าในวันเดียวกันนี้พวกเขาจะได้ไปดำเนินธุรกิจรวบรวมทอง”
ถังเทียนใช้เงินยี่สิบห้าล้านเหรียญที่ยังเหลือตั้งเป็นทุนให้ทั้งสองคน“ซื้อมาให้มากเท่าที่พวกท่านจะทำได้”
เซี่ยชิงรับการ์ดสกุลเงินดวงดาวมา มือของเขาสั่น หน้าของเขาเห่อด้วยความกังวล
อาเฮ่อยังใจเย็นอยู่มาก
หลิงซิ่วอดถามไม่ได้ “แล้วข้าเล่า? จะให้ข้าทำอะไร?”
“เจ้าก็ต้องติดตามข้าแน่นอน” ถังเทียนยังมีสีหน้าปกติ
“ก็แล้วเราจะทำอะไรกัน?” หลิงซิ่วถามอย่างเหลืออด
“เจ้าจะรู้เมื่อถึงเวลา” ถังเทียนมีสีหน้าสบายใจ “เอาล่ะ, ไปพักได้เราจะรอจนกว่าพวกเขามาถึงในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นทุกคนต้องออมพลังเอาไว้”
**************************
ถังเทียนกลับเข้าไปในประตูแสง
ปิงหยุดอยู่หน้าถังเทียน “เจ้าควรจะใช้เวลานี้ฝึกฝนโล่ตะลุยเลือดสักนิดดีกว่านะ”
“เวลาแค่วันเดียว ข้าจะฝึกอะไรได้?” ถังเทียนไม่เข้าใจ
“ปกติมันอาจไม่มีประโยชน์ แต่สำหรับการรบในวันพรุ่งนี้ จะได้ใช้ประโยชน์จากมันแน่นอน” ปิงอธิบายทันที “ด้วยพลังในปัจจุบันของเจ้า จะเอาชนะจ้าวอสูรหินกรวดได้ไม่ใช่เรื่องง่ายจริงไหม?”
ถังเทียนคิดถึงการต่อสู้ครั้งล่าสุดกับจ้าวอสูรหินกรวด เขาพยักหน้า “นั่นน่ะสิ, เจ้านั่นยากจะเอาชนะได้เหมือนกัน”
“ถ้าเจ้าสามารถปลดปล่อยพลังได้มากกว่าปกติถึงสามเท่าเจ้าจะฆ่ามันได้ไหม?” ปิงถาม
“ย่อมฆ่าได้แน่นอน” จากนั้นถังเทียนก็จำได้ “แต่ข้าไม่รู้วิธีใช้โล่”
ปิงยังคงมีสีหน้าสงบ “มาพูดถึงการต่อสู้ เจ้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่พรุ่งนี้จะไม่เป็นไร เจ้าสามารถเรียนรู้การใช้มันได้ การโจมตีธรรมดาจากอสูรหินกรวดอย่างน้อยเจ้าก็สามารถป้องกันได้ ถ้าเจ้าสามารถทนรับการโจมตีได้เจ้าจะสามารถปลดปล่อยพลังและกำจัดจ้าวอสูรหินกรวดได้ นั่นคือสิ่งที่เจ้าพวกกองทัพดาวออฟิอูคัส(คนแบกงู) เคยทำได้! มันร้ายกาจมาก เจ้าพวกนั้นสามารถคิดวิธีการที่ร้ายกาจมาใช้ได้เจ้าไม่เร่งรีบไม่ใช่หรือ? นี่คือความคิดที่ดีที่สุดในตอนนี้”
ถังเทียนรู้สึกว่าปิงพูดมีเหตุผล “งั้นเรามาลองกันเลย”
ตกลงใจได้ดังนั้น เขาเอาโล่ตะลุยเลือดออกมา แล้วยืนตั้งท่าป้องกัน แล้วบอกปิง“มาเลย, มาลองดูกัน”
“เจ้าต้องการให้ข้าโจมตีเจ้าเหรอ?” ปิงถาม
“ใช่แล้ว ข้าก็อยากลองดูว่าเจ้าของเล่นนี้จะดีจริงเหมือนกับที่ลุงว่าหรือเปล่า” ถังเทียนมีแผนบางอย่าง “มาเลย เอาให้แรงขึ้นก็ได้”
“ใช้แรงมากขึ้น?” โดยไม่ต้องพูดอะไรเพิ่มเขาสวมชุดพยัคฆ์ฟ้า หรี่ตา “ข้าชอบใช้แรงมากๆอยู่แล้ว”
พอเข้าสวมชุดพยัคฆ์ฟ้า
ปัง!
จู่ๆ ภาพเลือนรางก็มาปรากฏอยู่ต่อหน้าโล่ตะลุยเลือด อากาศด้านหน้าโล่ตะลุยเลือดระเบิดออกและระเบิดปราณรูปวงกลมระเบิดใส่โล่ตะลุยเลือดขาโลหะสีน้ำเงินเตะใส่โล่อย่างรุนแรง
ถังเทียนรู้สึกเหมือนกับว่าถูกอสูรร้ายขวิดใส่ ทั้งร่างของเขาปลิวลอยไปเหมือนกระสอบทราย
หลังจากกระเด็นออกไปสองสามเมตร กระสอบทรายก็ล้มกระแทกกับพื้น
“เป็นยังไงบ้าง? รู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นบ้างไหม” น้ำเสียงล้อเล่นของปิงดังจากหัวของเขา
ถังเทียนใช้เรี่ยวแรงอย่างยากลำบากกว่าจะตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาได้ สีหน้าของเขาเหยเกขณะถลึงตามองพยัคฆ์ฟ้า
เจ้างี่เง่านี่!
ถังเทียนขยับและอุ่นเครื่องแก้อาการชาที่ไหล่ ความห้าวของเขามิได้ลดลง “ฮึ..แรงนิดเดียวอย่างนี้ลุงยังบอกว่ากระชุ่มกระชวยหรือนี่? ลุงนี่แก่เกินไปจนไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว ข้านึกว่าลูกเตะของลุงจะเตะวัวให้ตายได้ซะอีก!แต่กะอีแค่เรี่ยวแรงแค่นั้นน่ะหรือ?”
“อย่างนั้นจะเล่นต่อไหม?” ปิงถามยืนยัน
“มาเลย” ถังเทียนตั้งสมาธิยิ่งตั้งเขาอยู่ในท่านั่งม้า และไม่เชื่อว่าเขาจะป้องกันไม่ได้
ร่างปิงหายไปจากสายตาของถังเทียน
ไวมาก!
ทันใดนั้นถังเทียนจับความเคลื่อนไหวร่างสีน้ำเงินที่วาบผ่านไปทางซ้ายเหมือนสายฟ้าและนัยน์ตาเขาเบิกกว้าง
จับได้แล้ว!