ตอนที่แล้วตอนที่ 222 โจรไอคิวสูง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 224 มูลค่าของทองอีกา

ตอนที่ 223 โล่ตะลุยเลือด


“เอาของนั่นมาให้ข้าดูหน่อย” น้ำเสียงของปิงอ่อยลง

ถังเทียนแสดงท่าทีสับสน แต่ก็ยื่นส่งโล่ในมือให้ปิงปิงก้มหน้าตรวจสอบและลูบโล่ดูด้วยความหลงใหล แม้ว่าโล่จะดูเก่าแก่มากก็ตาม พอมองดูก็เห็นแต่เพียงชั้นฝุ่นเกาะหนาเตอะ เขาปาดฝุ่นออกไป โล่ส่องแสงสว่างนวลตากว่าเดิม เป็นสีแดงโลหิตเลือนราง  แบบของโล่ก็ไม่ได้ดูแปลกประหลาดมันดูเรียบง่ายธรรมดา

“นั่นคือสมบัติแห่งหมู่ดาวโล่ใช่ไหม?” ขลุ่ยวิเศษถามด้วยความสงสัย

สมบัติประเภทโล่ที่ล้ำยุคมีพลังมากที่สุดจะต้องมาจากหมู่ดาวโล่ หมู่ดาวโล่เป็นหมู่ดาวที่ผลิตสมบัติดวงดาวประเภทโล่ออกมามากที่สุด

“ไม่ใช่” น้ำเสียงของปิงหม่นหมอง  “นี่คือโล่ตะลุยเลือดจากกองทัพดาวคนแบกงู  ศัตรูร้ายกาจในอดีตของเรา”

ขลุ่ยวิเศษนึกได้ทันที “กองทัพดาวคนแบกงูจากสามกองทัพมหาอำนาจ!”

“ใช่” อารมณ์ของปิงหม่นหมอง  แต่เขาฝืนหัวเราะ  “นี่คือสิ่งที่น่าเกลียดที่สุดในตอนนั้นน่าเศร้า ในตอนนี้ไม่มีใครรู้จักมันแล้ว นี่คือของดี  เห็นมันปนอยู่ในกองขยะแล้ว นี่มันเกินไปจริงๆ...”

เขาไม่อาจพูดต่อไป เนื่องจากเขาทนไม่ได้ จึงได้แต่ถอนหายใจ  ยุคของพวกเขาผ่านไปนานมาก  ชาวฟ้าอย่างปิงก็มาจากอดีต หลังจากถูกทับถมอยู่ใต้ฝุ่นหนาก็ไม่มีผู้ใดจำเขาได้

“โล่ตะลุยเลือดนี่ แข็งแกร่งหรือเปล่า?” ถังเทียนถาม

ปิงบอกว่าพวกเขาเกลียดสิ่งนี้มากที่สุดในอดีต กับสิ่งที่เขาพูดออกมาก็ต้องเป็นของคุณภาพสูงแน่นอน  เมื่อสามารถทำให้ปิงอยู่ในสภาพอย่างนั้นได้ย่อมไม่ใช่ของธรรมดาแน่นอน อย่างน้อยถังเทียนก็เข้าใจตรงจุดนี้

“เจ้าต้องดูว่าใครใช้มันอยู่” ปิงกลับสงบได้อย่างรวดเร็ว และจู่ๆ เขาก็หัวเราะ“แต่ข้าต้องบอกไว้ก่อน มันเหมาะกับเจ้าดี โล่ตะลุยเลือดเหมาะกับคนมีร่างกายแข็งแรง  สามารถบุกใส่ศัตรูได้ด้วยพลังมหาศาลและทำให้ศัตรูเลือดนองไปทุกแห่ง ร่างกายของเจ้าจะเป็นเหมือนฟองน้ำและเก็บกักพลังที่กระจัดกระจาย ตราบใดที่เจ้าสามารถเข้าไปถึงจุดที่เป็นแหล่งเก็บกักพลังงานซึ่งก็ต้องบอกว่าเป็นจุดเริ่มต้น เจ้าจะสามารถระเบิดพลังตัวเองออกมาได้หลายเท่าทวีคูณ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ถังเทียนและขลุ่ยวิเศษตะลึงเป็นครั้งแรกที่ได้ยินเรื่องราวสมบัติที่น่ากลัวเช่นนี้

“ดังนั้นเจ้าคงรู้แล้วนะว่าของเล่นนี่มันน่าเกลียดเพียงไหน”  ปิงหัวเราะ “โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มาจากกองทัพดาวคนแบกงู  ถึงพวกเขาจะรับการโจมตีของเจ้าเงียบๆ  แต่พวกเขาก็อันตรายมาก  บางครั้งเรามีการพูดอย่างหนึ่งขณะที่สู้กับคนจากกองทัพดาวคนแบกงู ถ้าท่านไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้ภายในสิบกระบวนท่า  อย่างนั้นท่านจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย  ถ้าในยี่สิบกระบวนท่ายังชนะไม่ได้ท่านควรเลิกป้องกันแล้วหนีซะ”

“หนี?”  ถังเทียนตะลึง  “หนีจริงๆ น่ะหรือ?”

“ถูกแล้ว!”  ปิงพยักหน้า

ราวกับว่าถังเทียนได้ยินอะไรบางอย่างที่คาดไม่ถึง “พวกลุงวิ่งหนีจริงๆน่ะเหรอ? พวกลุงควรรักษาพื้นที่และสู้ต่อไม่ใช่เหรอ?”

“นั่นจะเป็นไปได้ยังไง?” ปิงหัวเราะลั่น “ไม่ใช่ว่าการต่อสู้ทุกครั้งจะเป็นสงครามตัดสินครั้งสุดท้าย  เป็นเรื่องยากที่เจ้าจะเข้าใจช่วงเวลาของเราว่าการต่อสู้มีบ่อยมากมายขนาดไหน ในเดือนหนึ่งต่อสู้กันยี่สิบวัน นั่นก็นับว่าธรรมดาแล้ว ถ้าเรามัวแต่รักษาพื้นที่ของเราและสู้จนตายในแต่ละครั้ง  เราก็คงได้สูญพันธุ์กันหมด  ในยุคนั้นเนื่องจากการต่อสู้มีอยู่ทุกหนแห่ง  การมีชีวิตอยู่รอดได้เป็นหลักการขั้นพื้นฐาน”

ถังเทียนคิดเรื่องนี้แล้วและรู้สึกว่าปิงพูดถูก

ปิงพูดต่อ  “ทหารดาบโล่ของกองทัพกลุ่มดาวคนแบกงูเป็นเหมือนลูกโป่ง ทุกครั้งที่พวกเขาดูดซับพลังโจมตีของศัตรูก็เหมือนกับลูกโป่งที่อัดอากาศจนพองเต็ม  ยิ่งพวกเขาดูดซับพลังไว้มากพวกเขาก็ยิ่งสะสมปราณเอาไว้ได้มาก และพวกเขาจะเพิ่มอันตรายมาก  พวกเขาสามารถโจมตีเจ้าอย่างรุนแรงได้ทุกเมื่อ และความจริงก็คือพลังระเบิดนั้นน่ากลัวมาก พวกเขาสามารถใช้เพียงกระบวนท่าเดียวเอาชนะนักสู้ที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขาได้ เจ้ารู้ไหมว่าเราตั้งฉายาให้พวกเขาในเวลานั้นว่าไง?”

“อะไรเหรอ?” ถังเทียนโพล่งออกมา

“ลูกโป่งระเบิด”  ปิงมีสีหน้ารำลึกถึงความหลัง  “พวกเขาชิงความได้เปรียบของตนเอง  ดังนั้นพวกเขาจึงสวมชุดที่แข็งมากลักษณะสั้นและหยาบพวกเขาจะมีจุดศูนย์ถ่วงร่างกายต่ำมากและบางครั้งเมื่อเราใช้อาวุธจักรกลเพื่อระเบิดพวกเขา  จึงมีโอกาสพลาดที่จะผลักดันพวกเขาสูง  พวกเขาเป็นเหมือนก้อนโลหะที่หนักและโง่”

ถังเทียนนึกถึงลูกเหล็กอ้วนกลมเป็นกลุ่มอยู่ในสนามรบและเขารู้สึกละอายใจทันที

“อย่างนั้นพวกเขาก็ต้องอาศัยเคล็ดต่อสู้แบบนั้นใช่ไหม?”  ถังเทียนสงสัย

“เคล็ดเพียงเท่านี้ก็พอแล้ว” ปิงแค่นเสียง “แค่วิชาโล่ป้องกันของพวกเขาก็นับว่าเป็นวิชาฟ้าประทานแล้ว  ถ้าพวกเขาพูดกันว่าน้ำไม่สามารถกระเซ็นผ่านได้คำพูดนั้นนับว่าไม่เกินจริงเลย พวกเขาได้รับการขนานนามว่ากองทหารดาบโล่ และเขาก็มีดาบอยู่ในมือเพื่อประโยชน์แก่การใช้งานสองประการ  ประการแรกใช้เพื่อการป้องกัน  พวกเขาพัฒนาวิชาดาบเพื่อใช้ป้องกัน  ไม่ยากที่จะทำความเข้าใจ  เคล็ดดาบที่ใช้ตั้งรับเป็นเรื่องที่น่ารำคาญเหมือนกับแมลงวัน  ประการต่อมาใช้พร้อมกับโล่เมื่อเกิดแรงระเบิดใช้ในการโจมตี พวกเขาถนัดในการโจมตีรูปแบบนี้ แม้ว่าจะใช้กระบวนท่าน้อยมาก เพียงหนึ่งหรือสองกระบวนท่าเท่านั้น  แต่แค่เพียงสองกระบวนท่านี้ พวกเขาก็ฝึกฝนอย่างหนักหน่วงจริงจังจนอยู่ในจุดสมบูรณ์แบบ  แล้วมันก็ทรงประสิทธิภาพมากเสียด้วย  และยิ่งบวกกับพลังระเบิดที่พวกเขาสะสมไว้ระหว่างตั้งรับการโจมตีด้วยแล้วโอว โอว ข้ายังจำได้เป็นอย่างดี เงาสะท้อนของดาบ มันไม่เหมือนกับฝนดาบฟ้า เคล็ดวิชาแบบนั้นไม่อาจเทียบกับวิชานี้ได้ และผู้ใช้วิชานี้ก็เลวร้ายมาก   แต่โล่และโล่โจมตีที่ตามมายิ่งร้ายกาจมาก  ข้าเคยต่อสู้มาก่อนครั้งหนึ่ง มันอันตรายมาก  ข้าได้แต่ปกป้องตนเองจากดาบแต่ข้าไม่เคยคาดหวังเลยว่าเขาจะใช้โล่โจมตีข้า แต่หลังจากนั้นเมื่อหลายคนใช้อาวุธนี้ ทุกคนจึงรู้เคล็ดการใช้”

ถังเทียนผมตั้งชันเมื่อได้ยินคำอธิบายเคล็ดการใช้

ขลุ่ยวิเศษยกย่อง “ข้าไม่เคยคิดเลยว่ายุคโบราณจะมีท่วงท่าที่สมบูรณ์เช่นนั้น  ดาบสำหรับใช้จู่โจมกลับไม่ได้ใช้จู่โจม  แต่ใช้ป้องกันโล่ซึ่งใช้สำหรับป้องกันกลับไม่ได้ใช้ป้องกัน แต่ใช้จู่โจม การใช้เพื่อทำสิ่งที่ตรงกันข้ามได้นั้นงดงาม งดงามจริงๆ”

ถังเทียนมองดูโล่ตะลุยเลือดในมือของเขาและรู้สึกสนใจ

“ทหารดาบโล่แห่งกองทัพดาวคนแบกงู เกณฑ์แรกของพวกเขาก็คือต้องมีความเหมาะสมมากเมื่อมีความแข็งแรงราวกับฟ้าประทาน นั่นยิ่งเป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่เหมาะสมที่สุดแล้ว เสี่ยวถังกับเจ้ายุงแมลงวันนั่นนับว่าเข้ากันได้ดี”

ตาของถังเทียนเหลือบมองกองสิ่งของ เขาเปลี่ยนหัวข้อสนทนา  “ตอนนี้ยังไม่ต้องพูดถึงโล่ตะลุยเลือดก่อน  มาช่วยข้าตรวจดูหน่อยยังมีของมีค่าอื่นอีกหรือไม่?”

ปิงลังเล ขณะที่เขามองดูกองขยะ และลังเลที่จะขึ้นไปดู

แต่ขลุ่ยวิเศษเดินเข้าไปดูและเริ่มแยกสิ่งของออกเป็นหมวดหมู่

สิ่งของหลักๆ ของถังเทียนก็คือชิ้นของที่ส่องประกาย เมื่อเห็นว่าของเหล่านั้นมีประกายเรืองแสงรอบๆ  นั่นต้องเป็นสมบัติอย่างแน่นอน!

ในพริบตา  เขาขุดคุ้ยเฉพาะสิ่งของที่มีประกายเอามารวมกัน“ดูสมบัติเหล่านี้สิ”

ขลุ่ยวิเศษมองดูขณะที่ถังเทียนดึงของออกมา เขาถึงกับหัวเราะลั่น

ถังเทียนสงสัย  “อะไรเหรอ?”

ขลุ่ยวิเศษเป็นขุนพลวิญญาณที่สุภาพเรียบร้อย เขารีบหยุดหัวเราะ  “ของทั้งหมดเหล่านี้ไม่ใช่สมบัติดวงดาวเป็นแค่สินค้าหรูหราราคาแพง  ทั้งส่วนผสมการตัดเย็บ ผ่านการคัดเลือกอย่างระมัดระวัง ดูเหมือนว่าคนที่เจ้าปล้นมาจะไม่ธรรมดาเลยทีเดียว”

“ของเหล่านี้มีราคาเท่าไหร่?” ถังเทียนพูดตรงจุด

“ราคา?”  ขลุ่ยวิเศษนิ่งงัน  แต่เขารีบกระแอม พลางหัวเราะเบาๆ “จะว่าแพงก็แพง  จะว่าถูกก็ถูก ของทั้งหมดนี้สำหรับคนรวยก็ถือว่าเป็นสินค้าราคาถูก เห็นชุดยาวดำแบบนี้ตัดจากผ้ากำมะหยี่คุณภาพดีที่สุด และราคาแพงมากพวกกุลบุตรจากตระกูลร่ำรวยเมื่อเห็นมันคงจะตื่นเต้นมาก   แล้วเจ้าดูอัญมณีเม็ดนี้สิเป็นอัญมณีคุณภาพดีสีชมพูหาได้ยากและเนื้อมันบริสุทธิ์  เมื่อประดับมันเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ  เจ้าจะตกเป็นจุดศูนย์กลางความสนใจทันที  สาวงามนับไม่ถ้วนจะต้องรุมตอมเจ้าจะมีสักกี่คนที่ต้านทานเสน่ห์น่าหลงใหลนั้นได้?”

“อย่างนั้นของเหล่านี้ก็เป็นสินค้าชั้นดีสินะ”  ถังเทียนก็ยังคงไม่เข้าใจ  “ถ้าอย่างนั้นที่บอกว่าราคาถูกก็ใช่หมายความว่ายังไง?”

ขลุ่ยวิเศษยังคงอธิบายต่อ  “เพราะสิ่งของเหล่านี้ถูกสร้างเป็นพิเศษสำหรับคนรวยเหล่านั้นไม่สิ, ที่ถูกต้อง ต้องบอกว่ามีแต่คนรวยเท่านั้นที่จะใช้มันได้ สิ่งของเหล่านี้ร่ำรวยประวัติศาสตร์และสามารถติดตามได้ง่ายจะขายมันออกไปนั้นทำได้ยาก  เจ้าไม่รู้จักมันมากนัก ตระกูลเล็กๆ ไม่แยแสว่ามันเป็นของที่ถูกขโมยมาหรือไม่  พวกเขาจงใจซื้อมาเนื่องจากมันถูก  แต่สำหรับตระกูลใหญ่และร่ำรวยจริงๆ  พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่มีความพิถีพิถันมากและไม่สามารถยอมรับของทุกอย่างที่มีที่มาไม่ชัดเจน  ถ้าพวกเขาถูกคนอื่นหัวเราะเยาะ  นั่นจะเป็นเรื่องแย่ยิ่งกว่าตายเสียอีก”

“นั่นก็หมายความว่า ของเหล่านี้ไม่มีค่างวดอะไร”  น้ำเสียงของถังเทียนซึมเซา

“สำหรับเจ้า มันไม่มีราคาค่างวดจริงๆ” ขลุ่ยวิเศษพูดตามตรง

“ไอ้คนเจ้าสำราญบัดซบเอ๊ย” ถังเทียนตะโกน  “วันทั้งวันมันคิดแต่เรื่องสตรี,ทุด, ตระกูลเก่าประสาอะไรกัน  มันจะต้องตกมาอยู่ในเงื้อมมือสวะอย่างข้าไม่ช้าก็เร็วล่ะ”

ขลุ่ยวิเศษตะลึง เป็นไปได้หรือนี่ที่คนผู้นี้ไม่ได้เรียนรู้อะไรจากการปล้นเลย?ชิงสมบัติของคนอื่นมาแล้วยังสบถด่าคนอีก...

ถังเทียนหันไปมองปิงอย่างโกรธเคือง ปิงผายมือ “มีการ์ดขุนพลวิญญาณอยู่สองสามใบ แต่ยังไม่ถือว่าคุณภาพดี  ข้าคิดว่าเจ้าอาจไม่ต้องการก็ได้สิ่งที่มีค่าก็คือโล่ตะลุยเลือดนั่นแหละ”

หน้าของถังเทียนเดี๋ยวดำเดี๋ยวแดง เมื่อคิดว่าเขาปล้นยานสมบัติเพียงแค่เพื่อพบว่ามีแต่กองขยะเศษทองแดงเศษโลหะเขารู้สึกหงุดหงิดจนอยากกระอักโลหิต

แต่ในพริบตา เขาก็ฝืนยิ้มและพูด “ฮ่าฮ่า อย่างน้อยก็ยังมีสิบห้าล้านเหรียญดาว”

หลังจากนั้น เขาก้าวเข้าไปในห้องจิตวิญญาณพลังยุทธเพื่อตามหาเซรีน

ถนนในเมืองสามวิญญาณเงียบมาก พวกบัดซบนั่นยังคงอยู่ในดาวป่าเมเปิลมีเพียงประตูดวงดาวบานเดียวที่นำทางจากดาวป่าเมเปิลมายังเมืองสามวิญญาณและเจ้าพวกนั้นไม่มีทางคิดว่าถังเทียนกลับไปยังเมืองสามวิญญาณแล้ว

เชิญสนุกเพลิดเพลินอยู่ในดาวป่าเมเปิลเถอะ!

ถังเทียนเดินเข้าไปในร้านขายการ์ดของเซรีน เมื่อเซรีนเห็นถังเทียน ตาของนางเป็นประกายไม่สามารถกลั้นยิ้มได้  นางเดินเข้ามา “วันนี้ข้าได้การค้ารายใหญ่แล้ว”

“เจ้าขายเกราะจักรกลไปยี่สิบล้านใช่ไหม?” ถังเทียนเลิกคิ้วกล่าว “ข้าอยู่ข้างนอกพอดี”

นางเบาเสียงและบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ของนาง  แน่นอนนางต้องยกย่องว่าถังเทียนกล้าหาญเพียงไหนและวิธีที่เขาตัดสินใจได้เร็วและวิธีการที่เขาประเมินการ

แต่เมื่อเซรีนได้ยินว่าถังเทียนได้รับกองสิ่งของดีๆ จากคนชั้นสูงนางแทบจะหัวเราะออกมาดังๆ

จากนั้นถังเทียนเอาเกราะหิมะแรกออกมาและพูดด้วยความภูมิใจ  “ฮ่าฮ่า ดูสิ ข้าเอากลับมาแล้ว”

เซรีนหัวเราะอยู่นาน  หลังจากผ่านไปนานนางก็หยุดหอบหายใจ และพูดต่อ  “ราคาของเจ้าสิ่งนี้แค่หนึ่งล้านสองแสนเหรียญดาว  ข้าตั้งใจโก่งราคาเขาทำไมเจ้าถึงเอากลับมา? แล้วข้าจะเอาออกมาขายได้อีกเหรอ? ข้าตั้งใจจะโก่งราคาเอาเงินมากๆ และไม่ขายมันอีก  แต่เจ้าก็เอากลับมาได้ ฮะฮะฮะ”

ถังเทียนยิ้มฝืดๆ

*************************************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด