ตอนที่ 222 โจรไอคิวสูง
ถังเทียนมองดูกองสิ่งของภายในตู้อควาเรียสเงิน ลมหายใจของเขาแทบขาดห้วง
แค่เพียงกวาดมองแว่บหนึ่ง ถังเทียนมองเห็นแสงและประกายจากสิ่งของ ประกายรัศมีรอบๆ ของเหล่านั้นจากที่เห็นเขาสามารถบอกได้ว่าของเหล่านั้นไม่ธรรมดา
ข้าเจอทองเข้าให้แล้ว
เลือดลมพลุกพล่านอยู่ในใจเขา แต่ถังเทียนรีบสงบใจโดยเร็ว“การ์ดสกุลเงินดวงดาว”
ความปรารถนของคุณชายเกอพังทลายไปแล้วเขาควักการ์ดสกุลเงินดวงดาวออกมาจากอกของเขา “ทุกอย่างอยู่ในนี้ เหลืออยู่เพียงสิบห้าล้านเหรียญดาว”
เจ้ายังกล้าพูดห้าร้อยล้านเหรียญดาว...
เจ้าผียากไร้เอ๊ย!
เขาไม่มีเงินแต่ยังบังอาจพยายามจีบหญิง
ถังเทียนสบถอยู่เงียบๆ
ฉินฟงจ้องมองถังเทียนอย่างตั้งใจ เขากำลังมองหาโอกาสอยู่เสมอ แต่ถังเทียนไม่ให้โอกาสเขาเลยสักครั้ง ดังนั้นเขาจึงพูด “สหาย, ตู้เก็บของอควาเรียสก็เป็นของเจ้าแล้วการ์ดสกุลเงินดวงดาวก็ยังเป็นของเจ้าอีก เจ้าจะปล่อยเจ้านายเราได้หรือยัง นั่นเป็นไปได้ไหม?”
ถังเทียนไม่ได้ใส่ใจเขา และยังใช้มืออีกข้างหนึ่งค้นตัวคุณชายเกออีกครั้งและตามคาดเขาไม่พบอะไร เมื่อเห็นเช่นนั้นสายตาถังเทียนเปลี่ยนไปมองที่ผู้คุ้มกัน “พวกเจ้าทุกคน เอาของที่มีออกมาให้หมด ใครก็ตามที่บังอาจเม้มเอาไว้คอยดูก็แล้วกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเจ้านายของพวกเจ้า ได้เวลาแสดงความจงรักภักดีของพวกเจ้าแล้ว”
องครักษ์ทุกคนมองหน้ากันเอง
ฉินฟงกัดฟัน “ทุกคน..เอาของออกมาให้หมด, ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเม้มของเอาไว้”
พูดจบแล้วเขาเป็นคนแรกที่เอาของชิ้นเล็กชิ้นน้อยออกมาจากตัวและเททุกอย่างออกมาหนด ในไม่ช้าบนพื้นก็เต็มไปด้วยสิ่งของสีสันสดใสเต็มไปด้วยของทุกที่ องครักษ์เหล่านี้ใช้ชีวิตอย่างลำบากกันดาร พวกเขามีสิ่งของมากมาย เพื่อความปลอดภัยของเจ้านาย ไม่มีใครกล้าทำอะไรโง่ๆ
ถังเทียนไม่สนใจมอง เนื่องจากตู้เก็บของอควาเรียสชั้นเงินมีพื้นที่ขนาดใหญ่และไวเท่าความคิด ของทุกอย่างถูกดูดเข้ามาข้างใน
พวกองครักษ์ทุกคนมองดูถังเทียนเหมือนกับว่าพวกเขากำลังเห็นสัตว์ประหลาดพวกเขาไม่เคยเห็นโจรที่น่าเกลียดผู้โลภมากมาก่อน แม้กระทั่งของกินอย่างนี้ ทั้งกระดาษชำระ ผ้าเช็ดตัว มีดปอกผลไม้ถ้วยน้ำชาและทุกอย่าง ไม่มีเหลือไว้เลย
เมื่อสามารถเอาชนะฉินฟงได้ก็หมายความว่าเขาเป็นนักสู้สวรรค์วิถีคนหนึ่งเช่นกัน ทำไมเขาถึงต้องมาที่นี่ด้วย....
แม้ว่าฉินฟงจะหงุดหงิด แต่เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
ความจริงเขาต้องการพูดน้องชาย, น้องชาย, เจ้าใช้ชีวิตอย่างลำบากยากแค้นในโลกนี้มาได้ยังไง ในกรณีที่เจ้าเองก็เป็นนักสู้ระดับสวรรค์วิถี... ทำอย่างนี้...
ถังเทียนไม่สนใจความคิดพวกเขาแม้แต่น้อยเขาสามารถได้ยินเสียงฝีเท้ากำลังตรงมาทางเขา เขาเก็บของทุกอย่าง บนพื้นที่เต็มไปด้วยสมบัติกลายเป็นพื้นที่ว่างเปล่าทันที
ขณะที่ทุกคนกำลังจ้องมองเตรียมจะอ้าปาก จู่ๆ ถังเทียนก็เหวี่ยงคุณชายเกอไปให้ฉินฟงทันทีขณะเดียวกันก็หมุนตัวและวิ่งหนีด้วยความเร็วสูงสุด
ถังเทียนใช้กำลังมาก ทำให้คุณชายเกอร้องด้วยความกลัวและหลับตาแน่น เพราะเกรงว่าเจ้านายจะได้รับบาดเจ็บฉินฟงย่อตัวในท่านั่งม้าและคว้าเจ้านายเขาไว้ได้อย่างมั่นคง
เจ้านายเขาเป็นลมหมดสติทันที และถังเทียนในเวลานี้มองเห็นแต่เพียงจุดดำเล็กๆในระยะไกล
ฉินฟงกัดฟันโยนเจ้านายให้องครักษ์อีกคนหนึ่ง “ดูแลเขาด้วย”
พูดจบก็พุ่งออกไปราวกับลูกธนู ฉินฟงวิ่งตรงไปยังทิศทางที่ถังเทียนหนีไป
หลังจากนั้นชั่วครู่ นักสู้ผมทองก็วิ่งนำหน้ามาถึง เมื่อเห็นเจ้านายที่สลบสีหน้าของเขาเปลี่ยน เขาแตะหัวใจของเจ้านาย จากนั้นจึงมีสีหน้าผ่อนคลาย “ไม่มีปัญหา เขาก็แค่ตกใจ”
ทุกคนถอนหายใจโล่งอก ไม่ว่ายังไงเจ้านายปลอดภัยแล้ว นั่นนับว่าสวรรค์โปรดแล้ว
อามู่ตั่วถามทันที “ฉินฟงอยู่ไหน?”
“ฉินฟงไล่ตามโจรไปแล้ว” องครักษ์คนหนึ่งชี้ไปที่ทิศทางที่พวกเขาจากไป “ทางนั้น เขาไปได้ไม่นาน”
นักสู้ผมทองมีนัยน์ตาเป็นประกายเยือกเย็น ลักษณะทั้งตัวเขาเหมือนกับดาบที่หลุดจากฝัก “มั่วหลิน, ส่งเจ้านายกลับบ้าน คนที่เหลือ ตามข้ามา!”
อามู่ตั่วไม่รอฟังคำสั่งของเขา นางวิ่งลุยขึ้นไปก่อน คนที่เหลือมีใบหน้าโกรธเกรี้ยว เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้สร้างความวุ่นวายให้กับพวกเขาและเป็นเรื่องอับอายขายหน้าอย่างมาก พวกเขาทุกคนเป็นนักสู้ที่มีเกียรติภาคภูมิใจ ไม่เคยประสบกับความอัปยศมาก่อน
คนผู้นั้นต่อให้เขามีปีก ก็คงยากจะบินหนีไปได้
ความเร็วของพวกเขารวดเร็ว และเร็วมากเนื่องจากพวกเขาเร็วจนเห็นร่างของฉินฟงแต่ไกลอย่าง และแม้แต่โจรที่อยู่ไกลออกไปก็กำลังวิ่งอยู่ในระยะไกล นักสู้ผมทองและพวกที่เหลือตื่นตัวทันที ขณะที่อามู่ตั่วผิวปาก
ฉินฟงได้ยินเสียงผิวปาก ความคิดของเขาตื่นตัว เขาจึงผิวปากตอบ
ถังเทียนสังเกตแล้วว่ามีคนไล่ตามหลัง แต่เขาไม่ตื่นเต้น ขณะที่ใบหน้าหลังหน้ากากกำลังยิ้ม
เจ้าพวกโง่ เจ้าอยากเล่นเกมส์ทายใจกับหนุ่มชาวฟ้า พวกเจ้าทุกคนจะตายกันเร็วยิ่งขึ้น
เมื่อต้องพัวพันกับการต่อสู้ เงินและสมบัติ ความคิดของถังเทียนจะโดดเด่นเช่นกัน เขาใช้ความเร็วในระดับที่ไม่เร็วเกินไม่ช้าเกิน ตั้งใจจะหลอกล่อให้พวกเขาตามมา
คนที่กำลังไล่ตามเขาคิดว่าเขากำลังตื่นเต้นและไม่รู้วิธีเลือกเส้นทาง แต่เขาได้เตรียมเส้นทางไว้แล้ว ปิงอยู่บริเวณเมืองสามวิญญาณมาเป็นเวลานานและประตูดวงดาวใกล้ๆ ทั้งหมดนั้นเขารู้จักเป็นอย่างดี
ตามเส้นทางที่ปิงบอก ทิศทางข้างหน้าควรจะมีประตูดวงดาวแห่งหนึ่ง
เป็นไปตามคาด ไม่นานหลังจากนั้น ด้านหน้าเขาปรากฏเมืองขนาดเล็กและนั่นทำให้ถังเทียนตื่นเต้น เมืองน้อยๆ นี้ชื่อว่า ‘ป่าเมเปิ้ล’ ประตูดวงดาวของเมืองสามวิญญาณ ชื่อของประตูดวงดาวมาจากความจริงว่ามันคือเมืองเล็กที่อยู่ได้เพราะประตูดวงดาวเมืองป่าเมเปิลมีประตูดวงดาวบานหนึ่ง ที่จะนำไปสู่ดาวป่าเมเปิล
ไม่ต้องสงสัยความสำคัญของประตูดวงดาวนี้เลย แม้ว่าจะมีการกระตุ้นใช้งานระหว่างดาวป่าเมเปิลและเมืองสามวิญญาณก็จริงทว่าไม่บ่อยนัก แต่ก็ยังทำให้เกิดเมืองเล็กที่นี่ได้
ความเร็วของถังเทียนคงที่ เมื่อเขาเข้ามาในเมืองก็สร้างความประหลาดใจให้คนมากมาย
แต่เมื่อทุกคนเห็นเหล่าทหารยามกำลังไล่หลังถังเทียน พวกเขาจึงค่อยตื่นตัว
ฉินฟงและคนที่เหลือจะรู้ความคิดถังเทียนได้ยังไง ฉินฟงตะโกนขึ้นอย่างกังวล “ขัดขวางเขาไว้”
ไม่มีใครเคลื่อนไหว
พวกเขาไม่โง่เช่นกัน ดูจากความเร็วและพลังของถังเทียนแล้ว เขาไม่ใช่คนธรรมดาสามัญแน่นอน ในเมืองเล็กๆ อย่างเมืองสามวิญญาณ ถ้านักสู้ระดับสวรรค์วิถีปรากฏตัว เขาย่อมสามารถไปไหนมาไหนได้อย่างสบาย
โดยไม่ต้องพูดซ้ำ ถังเทียนเข้าไปในประตูดวงดาว
หลังจากนั้นยี่สิบวินาที ฉินฟงที่กำลังไล่ตามหลังเขาก็เข้าประตูดวงดาวด้วยเช่นกัน
หนึ่งนาทีต่อมาบุรุษนักสู้ผมทองและคนอื่นๆก็วิ่งผ่านเข้าไปในประตูดวงดาวเช่นกัน
เมื่อออกมาจากประตูดวงดาวอีกด้านหนึ่ง พวกเขาพบเห็นใบหน้าบิดเบี้ยวของฉินฟง ทุกคนที่อยู่รอบๆ มองดูคนกลุ่มนี้แสดงสีหน้ากลัวทันที ใครเห็นก็รู้ว่าคนกลุ่มนี้เป็นพวกแข็งแกร่งทรงพลัง ยิ่งไปกว่านั้นทุกคนมองดูดุร้ายและไม่ควรเข้าไปตอแยด้วย
“เราคลาดกับเขา!” ฉินฟงเจ็บใจ “หลังจากเลี้ยวเข้ามาแล้วเราคลาดกับเขา!”
“หายไปทันทีเหรอ?” นักสู้ผมทองรำพึง “ดูเหมือนว่านี่คือพื้นที่ของเขา เขาต้องซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งเป็นแน่!”
เขากวาดตามองดูรอบตัว สายตาของเขาคมชัดราวกับจะมองทะลุหัวใจผู้คนได้ ทุกคนรอบตัวเขาก้มหัวเนื่องจากไม่กล้าสบตากับเขา
กุ่ยหูพึมพำ “เขาคงถอดหน้ากากออกแล้วเปลี่ยนชุดให้กลมกลืนเป็นแน่”
คนอื่นนัยน์ตาเป็นประกาย, ใช่แล้ว!นั่นเป็นวิธีเป็นไปได้มากที่สุด
นักสู้ผมทองสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย “พวกเจ้าแต่ละคนเฝ้าไว้คนละด้านและปิดล้อมบริเวณนี้ไว้ อย่าให้ใครออกไปจากที่นี่ได้!”
มีสองสามคนตะโกนขึ้นพร้อมกัน และในทันใดนั้นเองพวกเขาเฝ้าป้องกันพื้นที่ที่ได้กำหนดไว้
ทันใดนั้นเสียงอึกทึกอื้ออึงก็ดังขึ้นในฝูงชน นักสู้ผู้กล้าคนหนึ่งยืนขึ้น “พวกเจ้าเป็นตัวอะไร? ทำไมพวกเจ้า...”
ประกายแสงทองทะลุผ่านอกของนักสู้ผู้นั้น
ฉัวะ!
เลือดสาดกระเซ็นทั่วบริเวณและกระเด็นขึ้นฟ้า นักสู้ผู้นี้ถูกตัดขาดสองท่อน
นักสู้ผมทองรั้งขวานของเขากลับมาและมองดูกองเลือดเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาดูอำมหิตไร้น้ำใจ “พวกเราทำไม? มีใครข้องใจข้าอีก?”
ฉินฟงและคนอื่นรู้ว่าหัวหน้าโกรธจริงๆ
แต่พวกเขาโกรธแค้นกันทุกคน พวกเขาไม่กลัวคนกลุ่มนี้ แม้ว่าจะมีมากกว่าก็ตาม
การกระทำที่ไร้ความปราณีของนักสู้ผมทองสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มคนที่รวมตัวกันทันที หนึ่งในนักสู้ลุกขึ้นยืนออกมาจากกลุ่มคนใบหน้าเขาเขียวคล้ำ “อะไรกัน? แค่เพราะเจ้ามีพลัง เจ้าก็สามารถฆ่าคนในดาวป่าเมเปิลนี้ได้ตามอำเภอใจอย่างนั้นหรือ?”
นักสู้ผมทองเหลือบมองเขาทันที เมื่อเขาควงขวาน นัยน์ตาเป็นประกายสีทองสะท้อนและพุ่งเข้าหานักสู้ผู้นี้
นักสู้ผู้นี้ใบหน้าซีดทันที มีดาบใหญ่เล่มหนึ่งอยู่ในมือเขาเขาคำรามและฟันดาบใส่ทันที
ดาบเปล่งประกายสีแดงเหมือนกับงูเหลือมยักษ์ตรงเข้าหารัศมีขวานสีทอง
บึ้ม!
ประกายรูปงูใหญ่ฉีกขาดเป็นชิ้นๆ ทันทีเหมือนกับพลุแตกกระจาย นักสู้ผู้นั้นสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาไม่ทันมีเวลาได้ตอบสนองรัศมีสีทองก็กระแทกใส่หน้าอกของเขา
ปัง!
เลือดฉีดพุ่งกระจายในท้องฟ้า ขณะที่นักสู้ผู้นั้นล้มหน้าคว่ำกับพื้น
นักสู้ผมทองอำมหิตไร้ความปราณี ขณะที่ทุกคนรอบตัวเขาหน้าซีด กลัวจนไม่มีใครกล้าบ่นสักคำ
“ค้น!” นักสู้ผมทองตะโกนสั่ง
ราวกับสุนัขป่าและพยัคฆ์ เหล่านักสู้เริ่มตรวจค้นบรรดาผู้คนในที่นั้น
*******************************
เมื่อเห็นถังเทียนหอบหายใจหนัก ขณะที่เขามาปรากฏตัวที่ค่ายฝึกทหารใหม่ ปิงรู้สึกประหลาดใจ “ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่ได้เล่า? เอ่,เจ้าช่วยหลิงซิ่วส่งฟลามิงโกไปไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงรีบกลับมาที่นี่เล่า”
ถังเทียนหอบหายใจ “ข้ามีธุรกิจต้องทำ!”
“ธุรกิจ?” หน้าไพ่ของปิงเป็นประกายยินดีในตอนนี้ เขารีบเข้ามาทันที “ธุรกิจแบบไหนกัน?”
“ปล้น!” ถังเทียนพูดหน้าตาเฉย
“ปล้น?” ปิงสำรวจถังเทียนด้วยความประหลาดใจ “นี่ไม่ใช่นิสัยการกระทำของเจ้า เจ้าเริ่มกระทำธุรกิจที่จะไม่ช่วยอะไรเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
จากนั้นถังเทียนจึงเล่าเรื่องเซรีนพบกับความลำบากและวิธีที่เขาติดตามคนกลุ่มนี้ไปและโจมตีพวกเขาก่อนที่เขาจะเข้าไปในประตูดวงดาวและใช้ประตูแสงดาวกางเขนใต้หลบหนีออกมา เขาปิดท้ายด้วยคำพูดลำพองตน"บางทีพวกนั้นยังคงวนเวียนไปมาอยู่ดาวป่าเมเปิลก็เป็นได้! นอกจากนี้พวกนั้นมั่นใจว่าข้าคือจอมโจรใหญ่จากดาวป่าเมเปิล พวกเขาไม่มีทางคิดว่าข้าอยู่กับเซรีน”
ปิงตกใจ “ทำไมเจ้าถึงเริ่มสู้เล่า เจ้าใช้สมองคิดอย่างคอบแล้วใช่ไหม?”
แต่ปิงรีบเข้าเรื่องสำคัญทันที “มาดูกันซิว่าเจ้าได้อะไรมาบ้าง?”
ขลุ่ยวิเศษอยู่ด้านข้างโดยไม่พูดอะไรสักคำ เขาได้แต่ลอยตัวอยู่รอบๆถังเทียนด้วยความตื่นเต้น
ถังเทียนเห็นด้วยและเอาของทุกอย่างออกมาจากตู้เก็บของอควาเรียสเงินทันที
ปัง, กองสิ่งของขนาดภูเขาย่อมๆ เกินกว่าสิบเมตรกองอยู่ต่อหน้าพวกเขา
พวกเขาตกใจกันหมด
หลังจากนั้นชั่วขณะ ปิงค่อยรู้สึกตัวและอุทาน “นี่เจ้าไปปล้นรถขนเสบียงมาหรือนี่?”
ขลุ่ยวิเศษตะลึงเช่นกัน แต่หลังจากนั้นเขาก็ถอนหายใจ
“เดี๋ยวก่อน!” ทันใดนั้นปิงเดินมาหน้ากองสัมภาระและหยิบกระดาษชำระชิ้นหนึ่งออกมา ขณะที่มองดูถังเทียนด้วยสีหน้าแปลก เขาถาม “ทำไมมีของแบบนี้ที่นี่...”
หนังตาของเขากระตุก จากนั้นเขาหยิบแก้วที่สนิมเขรอะขึ้นมาจากกองสัมภาระ “อย่าบอกข้านะว่าเจ้าไปคุ้ยมาจากกองขยะหลังบ้าน?ต่อให้เจ้าโยนของพวกนี้ทิ้งกลางถนน ก็ยังไม่มีใครกล้าหยิบขึ้นมา”
ขลุ่ยวิเศษเอามือก่ายหน้าผาก นี่ทนดูไม่ไหวเลยจริงๆ
ถังเทียนอายเล็กน้อย แต่ไม่นานเขาก็มีนัยน์ตาเป็นประกาย จากตรงกลางกองสัมภาระน้อยมีของบางอย่างที่ดูคล้ายกับโล่ “ดูสิ,มันเรืองแสงด้วย ต้องเป็นสมบัติอย่างแน่นอน”
ปิงมองดูโล่ในมือถังเทียน เขาตกใจตะลึงงัน