ตอนที่ 221 โจรชิงทรัพย์
ฉินฟงไม่อาจเข้าใจงานอดิเรกที่แปลกประหลาดของเจ้านายได้ แต่เขาพึงพำกับตัวเองและได้แต่ติดตามเงียบๆ แม้ว่าเซรีนจะงดงามแต่สำหรับคนอย่างเขาที่เป็นสู้โง่งมมุ่งแต่ฝึกวิทยายุทธอย่างเดียวมองดูแล้วก็งั้นงั้น
เขาคงสนใจแต่สตรีที่สามารถฉีกร่างเสือโคร่งเสือดาวได้
“อะไรนะ? ลุงฟงสนใจอามู่ตั่วเหรอ?” คุณชายหยอกล้อ
ผู้คุ้มกันทุกคนหัวเราะ อามู่ตั่วเป็นนักสู้หญิงที่มีชื่อในกลุ่มองครักษ์
หน้าของฉินฟงแดง แต่เขาไม่โกรธ “ข้าไม่มีรสนิยมอย่างคุณชาย ข้าแค่รู้สึกว่าพวกผู้หญิง ยิ่งผิวหยาบหนาก็ยิ่งดี
คนในกลุ่มหัวเราะล้อเลียน “ข้าสงสัยว่าหนังของลุงฟงจะทนทานหรือเปล่า”
พอถึงตอนนี้แม้แต่คุณชายของพวกเขาก็หัวเราะขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ อามู่ตั่วแข็งแกร่ง แต่อารมณ์ของนางร้ายกาจมากว่ากันในเรื่องของระดับฝีมือในกลุ่มขององครักษ์ อามู่ตั่วมีคุณค่ามากกว่าฉินฟงเสียอีก
ฉินฟงหัวเราะพร้อมกับทุกคน แต่เมื่อถึงตอนนี้ ในใจของเขากลับตื่นตัวขึ้น
“ระวัง!
ฉินฟงตะโกนขึ้นทันที ฟิ้ว..หินก้อนใหญ่ขนาดโต๊ะปลิวผ่านไปทันทีระดับความเร็วของมันเร็วมาก เสียงหวีดหวิวต่ำ เป้าหมายก็คือคุณชาย
ก้อนหินไวดุจสายฟ้า บวกกับขนาดที่ใหญ่โต ทำให้เสียงลมแหวกอากาศทำให้มันดูน่ากลัวยิ่งขึ้น
คุณชายได้แต่ตะลึงค้างอย่างเดียว
ความโกรธพลุ่งขึ้นในดวงตาของฉินฟงเขาเข้าไปประกบข้างตัวคุณชายด้วยความยากลำบาก ยังมีคนกล้าลอบทำร้าย เขาโกรธ ขณะที่เขาแกว่งไหล่ร่างสูงใหญ่กำยำของเขาพุ่งไปข้างหน้าปล่อยให้คนอื่นตามมาข้างหลังและมาปรากฏตัวอยู่หน้าก้อนหินใหญ่ทันที
“เจ้าอยากตายสินะ!”
รัสมีแสงคลุมหมัดของเขา ขณะที่เขาต่อยใส่ก้อนหิน
บึ้ม!
ก้อนหินแตกทำลาย เศษหินพุ่งกระเด็นไปทั่วบริเวณ ขณะที่ฉินยืนอยู่ที่เดิมไม่เคลื่อนไหวเลยสักนิด
ดวงตาของฉินฟงพร่าเลือนขณะที่มีร่างหนึ่งพุ่งตรงเข้ามาที่อกเขา
ไม่ดีแน่
หัวใจของฉินฟงเต้นแรง นักฆ่าผู้น่ารังเกียจนี้กล้าซ่อนตัวอยู่หลังก้อนหิน
เจ้าคนร้าย
ฉินฟงยกเข่ากระแทกโดยตรง ถ้าเข่านี้กระแทกถูก ฝ่ายตรงข้ามจะต้องตายอย่างน่าสยดสยอง
แต่นักฆ่านั้นปราดเปรียวไหลลื่นเกินว่าเขาจะนึกภาพออก ฉินฟงรู้สึกว่าท้องของเขาเจ็บปวด เข่าของเขาอ่อนในทันใดและเขาเห็นหลังของนักฆ่านั้นเข้ามาใกล้อกเขา
พลังทำลายที่แข็งแกร่งปลดปล่อยออกมา เขารู้สึกเหมือนกันว่าโดนอสูรดวงดาวเล่นงานเขาไม่สามารถควบคุมร่างตัวเองได้อีกต่อไป และปลิวถอยหลังกลับมา
ฉินฟงที่ตอนแรกคอยขัดขวางทุกอย่างไม่ให้เข้ามาใกล้คุณชายกลับปลิวเข้าหาเจ้านายเสียเอง
คุณชายเกอเพียงแต่เห็นว่าฉินฟงขวางอยู่ข้างหน้าเขา และหมัดของเขาต่อยใส่ก้อนหินแตกกระจาย แต่ทันใดนั้นเสียงระเบิดก็ดังขึ้นและเขาปลิวถอยหลังกลับมา พลังเขาเจ้านายแข็งแกร่ง แต่ประสบการณ์การต่อสู้ของเขาน้อยนิด ในฐานะคนที่ใช้เวลากินดื่มอย่างเพลิดเพลินสภาพร่างกายของเขาจึงสะโอดสะองเมื่อเห็นฉินฟงปลิวเข้ามาหาเขา เขาแตกตื่นโบกมือขาสั่น
ฉินฟงมีประสบการณ์ต่อสู้ ยังประสบกับการลอบทำร้ายขณะที่ตอนแรกเขามึนงงจากนั้นเขาก็จำเป้าหมายของศัตรูได้ทันที
ไม่ดีเลย
เป้าหมายของเขาคือคุณชาย!
หน้าของฉินฟงเปลี่ยนไปมาก
แต่ความเคลื่อนไหวของนักฆ่าเร็วกว่าที่เขาจะทันตั้งตัวกรงเล็บทั้งห้าเปล่งแสงวาบ ขณะที่มันตะปบใส่ร่างของเขา เหมือนกับกรงเล็บเหล็กแทงเข้าร่างเขา ปราณตลอดทั้งร่างถูกระบายออกไป
เมื่อเขารู้ตัว อกของเขาก็ว่างเปล่า เขามองไม่เห็นศัตรู หน้าของเขาซีดขาว
ปัง, เขาล้มกระแทกพื้นอย่างแรง
เขาไม่สนใจความเจ็บปวด ในหางตาของเขา เขาเห็นเจ้านายตกอยู่ในเงื้อมมือของศัตรู ความหวังของเขาสลายหายไป
คอของเจ้านายเขาถูกกรงเล็บของศัตรูที่ดูเหมือนกรงเล็บเหล็กคว้าจับไว้แน่นทำให้คุณชายไม่สามารถหายใจได้ ศัตรูเหยียดมือของเขาออก และคุณชายได้แต่เขย่งปลายเท้าอย่างช่วยไม่ได้
เมื่อเผชิญหน้ากับนัยน์ตาของบุรุษหน้ากากอุรังอุตัง หัวใจของคุณชายกลายเป็นว่างเปล่า
ข้า.. ข้า.. ตกอยู่ในความควบคุมของคนอื่นจริงๆ หรือนี่...
คุณชายผู้ที่ค่อยๆ เรียกความรู้สึกกลับมา ภาพเลือนรางเริ่มชัดเจนและหน้าอุรังอุตังค่อยๆ ชัด เมื่อเผชิญหน้ากับอุรังอุตังที่หยาบกร้าน ในสายตาของคุณชายผู้ได้รับการตามใจอย่างต่อเนื่องเห็นมาแต่ภาพวาดและงานศิลปะก็เป็นเหมือนกับเห็นภาพที่น่ากลัว
องครักษ์อื่นทุกคนจ้องมองภาพข้างหน้าด้วยสายตาว่างเปล่าคิดอะไรไม่ออก
“อุรังอุตัง! เจ้ากล้าดียังไง...”
“หุบปาก!”
…
เสียงตะโกนโวยวายทั้งหมดเนื่องจากพวกเขาสูญคนที่เป็นผู้นำจนเกิดความกลัวหยุดลงทันที หน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความกลัว ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้านายของพวกเขา ใครก็ตามที่อยู่ในเหตุการณ์จะไม่มีทางรอด
“พวกเจ้าทุกคนหุบปาก!”
ฉินฟงตะโกนลั่นดังเหมือนฟ้าผ่า ส่งผลให้เหล่าผู้คุ้มครองทุกคนเงียบเสียงแต่โดยดี ฉินฟงค่อยๆ ยืนขึ้น อกของเขามีรูอยู่สองสามแห่งและมีเลือดไหล แต่ฉินฟงไม่สนใจในเวลานั้น ขณะที่สายตาของเขาจับจ้องมองดูบุรุษสวมหน้ากากผู้ลึกลับ
“สหาย, เราไม่เคยล่วงเกินเจ้ามาก่อนใช่ไหม?”
“ล่วงเกิน?” เสียงแหบแห้งดังออกมาจากเบื้องหลังหน้ากาก “เหรียญดาวนั่นแหละยั่วโมโหข้า! บอกข้ามา ข้าแข็งแกร่งทรงพลังมาก แต่ข้ายากจนนัก นั่นมีเหตุผลหรือไม่?”
นี่เป็นคำพูดจากความรู้สึกในใจของถังเทียน
ฉินฟงถอนหายใจได้ในตอนนี้ ฟังดูเหมือนว่าฝ่ายตรงข้ามมาที่นี่เพื่อต้องการเงิน
“ใช่, นั่นช่างไม่สมเหตุผลจริงๆ” ฉินฟงกล่าวตามต้องการ “สหาย, ปล่อยเจ้านายข้าลงก่อน ร่างกายของเจ้านายข้าไม่แข็งแรง เขากลัว สหาย,เหรียญดาวของเจ้าจะหายไปหมดเพราะทำอย่างนี้”
“หึหึหึ” บุรุษที่สวมหน้ากากอุรังอุตังหัวเราะอย่างชั่วร้าย “ข้ากลัวมาก พวกเจ้ามีกันหลายคน”
ฉินฟงข่มความต้องการตะคอกใส่เขา เจ้าน่ะหรือกลัว? ถ้าเจ้ากลัว เจ้าไม่เป็นต้องทำเช่นนั้น
แต่เขาไม่ต้องการจะก่อกวนฝ่ายตรงข้าม เขาพูดอย่างใจเย็น “อย่างนั้น,สหายจะให้ข้าทำยังไง เจ้าถึงจะปล่อยเจ้านายข้า?”
“เหรียญดาว! แน่นอน ต้องเป็นเหรียญดาว!” ถังเทียนแกล้งส่งเสียง “พวกเจ้ากล้าควักเงินห้าร้อยล้านเหรียญดาวเพื่อสตรีคนเดียว แล้วเจ้านายของพวกเจ้าควรจะมีค่าเท่าใด?”
ฉินฟงกำลังจะเปลี่ยนใจ ดูเหมือนเจ้านายของเขาใช้จ่ายเงินอย่างฟุ่มเฟือยจนเป็นเหตุให้คนอื่นไล่ตามเงินของเขามาด้วยความโล�
“ทำไมเจ้าไม่เสนอราคามาเล่า” ฉินฟงกล่าว
“โอ๊ะ..โอว, เจ้าช่างเป็นคนตรงแท้ๆ” เข้าทางถังเทียนแล้ว “ขอสักพันล้านเหรียญดาว!อย่าบอกนะว่าเจ้านายของเจ้าไม่อาจเทียบราคาได้กับสตรีสองคน!”
ฉินฟงแกล้งฝืนยิ้ม “อย่าล้อเราเล่นเลย, สหายใครจะจ่ายพันล้านเหรียญดาวเพื่อสตรีพวกนั้นได้? เจ้านายข้าแค่เพียงยกมาคุยโอ้อวดห้าร้อยล้านเหรียญดาวเท่านั้น”
เมื่อคุณชายได้ยินเช่นนั้น ในที่สุดเขาก็ตั้งตัวได้และเสริมขึ้นโดยเร็ว “ข้าพูดไปอย่างนั้นจริงๆ ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้า เจ้าค้นตัวข้าได้
หลังจากนั้น คุณชายนั้นตอบสนองอย่างรวดเร็ว ในใจเขา เขารู้สึกแย่
“ค้นเหรอ?” ถังเทียนเอียงคอไตร่ตรองจากนั้นเขาผงกศีรษะ “นั่นเป็นความคิดที่ดี อย่างนั้นเราเอาของเล่นทั้งหมดออกมาจากตู้อาวุธอควาเรียสก่อน”
“ข้าไม่มี...” คุณชายเกอทำสายตาหลุกหลิก
ถังเทียนไม่อดกลั้นกับเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ เขารวบนิ้วแน่นขึ้น นัยน์ตาของคุณชายเกอแทบถลนขณะที่หน้าของเขาเหมือนกับปลาที่ใกล้ตาย
“สหาย!” ฉินฟงเครียดกว่าเดิมขณะที่เขารีบกล่าว “เราจะมอบให้เจ้า”
หลังจากนั้นสิบห้าวินาทีถังเทียนก็ผ่อนคลายมือที่จับคุณชายเกอ ตาของของคุณชายเกอเหลือกขาวขณะที่เขาไออย่างรุนแรง พลังนิ้วของถังเทียนในตอนนี้ทรงพลังน่ากลัวมาก หลังจากบดฝนทั่งถึงหมื่นแท่ง ความพยายามของเขานับว่าไม่สูญเปล่า แม้ว่าเขาไม่ใช้ปราณเที่ยงแท้เขาก็สามารถบดฝนแผ่นเหล็กหนาห้าเซนติเมตรได้ หลังจากใช้ปราณแท้แผ่นเหล็กก็ไม่ต่างจากกระดาษยุ่ย
ตอนนี้คุณชายเกอหวาดกลัวหมดหวังแล้ว เขาไม่เคยอยู่ในสภาพอย่างนั้นมาก่อนเผชิญหน้ากับความตายใกล้ชิดขนาดนั้น หลังจากถูกทรมาน เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขาตายไปครั้งหนึ่งแล้ว
เงิน อำนาจความงามที่น่าลุ่มหลงทั้งหมดล้วนไร้ความหมายเมื่อเขาเผชิญหน้ากับความตาย
เขาล้วงคนโทสมบัติออกมาทันที
คนโทคล้ายขวดสีเงินขนาดเท่าฝ่ามือถูกนำออกมาว่างอยู่ต่อหน้าถังเทียน ตาของเขาเป็นประกายขณะที่เขาอดทำปากซี้ดซ้าดอย่างช่วยไม่ได้“หูย, นั่นเป็นของคุณภาพดีมากเลยนะนั่น”
มันเป็นของที่มีคุณภาพสูง คนโทเงินนี้เรียกว่าอควาเรียสเงินเป็นหนึ่งในสมบัติชั้นสูงในบรรดาสมบัติดวงดาวของหมู่ดาวคนแบกหม้อน้ำนั่นสามารถเก็บของได้มากกว่าตู้อาวุธอควาเรียสและสิ่งอื่นโดยพื้นฐานมันคือห้องเก็บของขนาดเล็ก
“ยกเลิกเครื่องหมายการใช้ที่เจ้าทำไว้ซะ”
เสียงแหบแห้งดังขึ้นเยือกเย็นเหมือนดาบ ไม่มีความลังเลอยู่ในน้ำเสียงของเขา
คุณชายเกอมองดูแปลกประหลาด ขณะที่เขาปลดเครื่องหมายของเขาบนคนโทเงินอย่างว่าง่าย
※※※
แก๊ง แก๊ง แก๊ง!
สัญญาณเตือนภัยดังขึ้น เหล่านักสู้ทุกคนในค่ายต่างระมัดระวังแววตกใจปรากฏอยู่บนใบหน้าของพวกเขา และทั้งค่ายก็ตกอยู่ในความวุ่นวายไปหมด
นักสู้วัยเยาว์คนหนึ่งมีใบหน้าเขียวคล้ำปรากฏที่ประตูทางเข้าค่าย
ตัวของเขามีประกายวาววับจากเกราะสมบัติ มองดูแล้วเขาเหมือนกับเป็นเทพสงคราม มือข้างหนึ่งถือขวาน เขาตะโกนลั่น“อามู่ตั่ว, มั่วหลิน,กุ่ยหู, เซียวต้า, เซียวเอ้อ!”
เงาร่างสองสามร่างวิ่งเข้ามาอยู่ต่อหน้านักสู้หนุ่มที่ร้องเรียก
“นายท่านตกอยู่ในความยุ่งยากแล้ว”
นักสู้หนุ่มมองดูท่าทางดุร้าย ผมสีทองมองดูเหมือนบอลที่มีเปลวไฟทำให้นักสู้คนอื่นที่ถูกเรียกมาดูเป็นกังวล
“ไปกันเดี๋ยวนี้เลย”
นักสู้ผมทองขี่ม้านำอยู่ข้างหน้า ส่วนคนอื่นไล่ตามหลัง
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” อามู่ตั่วอดถามไม่ได้ “ฉินฟงไปกับนายท่านด้วยไม่ใช่หรือ?”
ชายหนุ่มผมทองทำหน้าเครียด “เครื่องหมายที่คนโทเงินของนายท่านถูกลบออกไป”
เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัยตู้อควาเรียสเงินของศิษย์ทุกคนในตระกูลซื่อจะต้องผ่านกรรมวิธีบางอย่าง ทันทีที่เกิดเหตุไม่คาดคิดทางตระกูลจะสังเกตได้ทันทีตู้เก็บของอควาเรียสเงินบางชิ้นมีความสามารถระบุถึงตำแหน่งของพวกมันด้วย
“อา!”
ทุกคนอ้าปากค้าง ถอนการใช้งานตู้อควาเรียสเงินบ่งบอกถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ อาจเป็นได้ว่านายท่านเสียชีวิตหรือถูกจับคุมขัง ไม่ว่าทางใดล้วนแล้วแต่ไม่ใช่เรื่องดีแน่
ทันใดนั้นบุรุษหนุ่มผมทองกล่าว “อย่างนี้แย่แน่ เบาะแสทุกอย่างบนตู้อควาเรียสของนายท่านถูกลบไปแล้ว!”
เมื่อคนอื่นได้ยิน พวกเขาตะลึงกันไปหมด
※※※
ถังเทียนหยิบคนโทเงินขึ้นมาและเตรียมทำเครื่องหมายใช้งานของตนเอง แต่ในทันใดนั้นเขารู้สึกว่าจิตวิญญาณพลังยุทธภายในตัวเขาพลุกพล่าน มีความคิดอย่างหนึ่งทำให้เขาใช้จิตวิญญาณพลังยุทธตรวจดูอย่างระมัดระวังและเขาค้นพบทันทีว่ามีเบาะแสเล็กน้อยบางส่วนอยู่บนตู้เก็บของอควาเรียส
ถ้าเขาไม่ดูอย่างระมัดระวัง แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะสังเกตเห็น
แน่นอนว่า นี่เป็นกลลวงอย่างหนึ่ง!
ถังเทียนยิ้มเขารีบโยนตู้เก็บของอควาเรียสเงินลงในเพลิงจิตวิญญาณพลังยุทธเงินของเขาทันที
วืดดดด!
ทันใดนั้นตู้ควาเรียสเงินเปล่งแสงเล็กน้อยมันทนต่อเพลิงจิตวิญญาณพลังยุทธเงินของถังเทียน แต่จิตวิญญาณพลังยุทธเงินนั้นแข็งแกร่งมาก ในไม่ช้าก็ไม่มีร่องรอยเหลืออยู่ในตู้อควาเรียสเงิน รัศมีบนตู้อควาเรียสเงินหมองลงหลังจากกระพริบสิบครั้งรัศมีของตู้อควาเรียสเงินก็หายไปโดยสิ้นเชิง
เมื่อถังเทียนตรวจดูอีกครั้งจนแน่ใจว่าไม่มีข้อผิดพลาดอะไรแล้วก่อนเขาจะผูกมัดการใช้งาน
คุณชายเกอมองดูถังเทียนอย่างมึนงง ความสงบใจเย็นในตอนแรกเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่แตกตื่นราวกับว่าเขาเห็นผี
ภายในเสี้ยววินาทีความเชื่อมโยงกับตู้อควาเรียสเงินที่เขามีอยู่ก็หายไปทั้งหมด
เป็น... เป็นไปได้ยังไง...
นั่นมัน... นั่นมัน... เป็นสิ่งที่ผู้อาวุโสของตระกูลทุกคนทำให้เฉพาะตัว..
คุณชายตกตะลึงขณะที่ถังเทียนเปิดการใช้งานตู้อควาเรียสเงิน
ถังเทียนเริ่มหอบหายใจ
**********************************************