ตอนที่ 20 ราชาของข้า (อ่านฟรี)
ปีใหม่ผ่านไป ตอนนี้เป็นเดือนมกราคมปี 1970 วันเกิดของแม็กนัสเป็นวันที่ 15 มกราคมด้วย ดังนั้นสำหรับเขาแล้วมันเหมือนมีเรื่องสนุกวนไปวนมาอีก วันแรกก็คริสต์มาส ปีใหม่ และก็วันเกิดของเขา
แชดแมวอ้วนสีดำเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งครอบครัวได้อย่างราบรื่น ส่วนใหญ่เป็นเพราะชีวิตของเจ้าแมวนี่ขี้เกียจเกินกว่าจะขยับเขยื้อน แต่แชดก็ยังถูกแมกนัสกับเกรซดูแลอยู่ตลอดไม่ว่าจะให้อาหารที่เหมาะสมเพื่อให้เขามีสุขภาพดีขึ้นด้วย
"ฮ้าา...ฮ้าาา..." แม็กนัสซ้อมดาบไม้ของเขาที่สวนหลังบ้าน
*แปะ* *แปะ*
มันเป็นวันอาทิตย์และพ่อแม่ของเขาก็อยู่บ้าน ถึงอย่างนั้นเกรซยังต้องไปโรงพยาบาลในวันอาทิตย์บางวันเนื่องจากเหตุฉุกเฉิน พวกเขาเฝ้าดูเด็กชายเคลื่อนไหวอย่างเหลือเชื่อในขณะที่เขากำลังหวดดาบ
“บางทีลูกชายของเราอาจกลายเป็นนักฟันดาบโอลิมปิกก็ได้นะสักวันนึง” เกรซแสดงความคิดเห็น
“เอ๋ นั่นมันกีฬาแต๋วชัดๆ ผมอยากเห็นเขาเป็นนักมวย ดูร่างกายเขาสิ เขามีกล้ามเป็นมัดๆ” อดัมแย้ง
"เจ้ากล้าดียังไงมาเรียกนักดาบว่าแต๋ว..." อาเธอร์เดือดดาลจัดแต่ไม่มีใครได้ยินนอกจาก แม็กนัส
“มาสิ แม็กนัส ให้พ่อสอนมวยลูกนี้กว่า” อดัมเดินไปข้างหน้า
“แม็กนัส ตื้บเขาเลยจ่ะลูก” เกรซพูดจากด้านหลังด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น
แม็กนัสวางดาบลงและมองไปที่พ่อของเขา "พ่อแน่ใจใช่ไหมฮะ?"
อดัมหัวเราะเบา ๆ “ไม่เป็นไรน่า ลูกชาย ไม่ต้องห่วง พ่อจะดูแลลูกเอง”
แม็กนัสยักไหล่และเตรียมพร้อม เขาตั้งท่าแบบลวกๆ ส่วนสูงของเขาเตี้ยกว่าพ่อมาก และขนาดหมัดของเขาก็ดูกระจ่อยร่อย
“ลงมือเลย แม็ก ต่อยมาที่มือพ่อเลย” อดัมพยายามฝึกฝนเขา
แม็กนัสขยับเอวได้ดีและกระแทกที่ฝ่ามือดัง *ผั่ว*
มันเป็นเสียงที่ดังมาก ดวงตาของอดัมกับเกรซเบิกกว้างทันทีที่ได้ยิน
“อ๋า... หมัดนี้แรงมากเลยนะแม็ก ฝ่ามือของพ่อรู้สึกชาเลยเนี่ย” อดัมอุทาน
“ผมไม่ได้อ่อนนะฮะพ่อ ผมแข็งแรงมาก” แม็กนัสพองหน้าอกออกมาอย่างภาคภูมิใจ
"เหมียว..." แชดเห็นด้วยเป็นภาษาแมว
“ดูสิฮะ แม้แต่แชดก็ยังยอมรับว่าผมแข็งแกร่ง” แม็กนัสยักไหล่และเดินไปเล่นกับแมวที่นอนกลมอยู่บนพื้นราวกับมันฝรั่ง
"ลูกรัก อีก 2 วัน จะถึงวันเกิดของลูกแล้วอยากได้อะไรเป็นของขวัญจ๊ะ" เกรซถาม
แม็กนัสคิดอยู่ครู่หนึ่ง "อืมม... ไม่รู้สิฮะ ผมมีทุกอย่างที่ต้องการแล้ว ผมยังได้เงิน 1,000 ปอนด์สำหรับปีนี้จากเงินสมทบประจำปีของเหรียญจอร์จ ครอสด้วย
ผมไม่คิดว่าต้องการอะไรอีก ทั้งหมดที่ผมต้องการคือสนุกไปกับพ่อกับแม่และทุกคนฮะ"
"อ๊ายย... มานี่สิ ลูกโตเร็วจังเลย เหลือให้เวลาแม่ได้สปอยหน่อยสิจ๊ะ" เกรซกอดเขาแน่นพลางลูบแก้มเด็กชาย
แม็กนัสหัวเราะอย่างเขินอาย “คิคิ แม่จ๋าก็สปอยผมตั้งแต่เกิดแล้วนี่ฮะ ตอนนี้มีชาดที่พร้อมจะให้สปอยแทนแล้ว”
เขายื่นแมวไปหน้าให้เกรซกอดมันต่อไป ตอนนี้ชาดถือว่าเป็นเบาะอย่างเป็นทางการของบ้าน
“พ่อฮะ จำสัญญาวันนี้ได้ไหมฮะ พ่อจะไปส่งผมกับบ๊อบบี้ที่สวนสัตว์” แม็กนัสถาม
"แน่นอน ไปกันเถอะลูก" อดัมยังถูฝ่ามือที่เจ็บอยู่เลย
...
แม็กนัสมีเหตุผลจำเป็นต้องไปที่สวนสัตว์ อาเธอร์แนะนำไว้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้บอกเหตุผลที่เป็นรูปธรรมใดๆ แต่เขาแค่บอกว่าเด็กชายควรไปที่นั่นและพยายามพูดคุยกับสัตว์ชนิดต่างๆ แม็กนัสรู้ว่าเขาจะดูโง่มากหากทำแบบนั้น แต่เขาก็ตกลงหากมีเวทมนตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง
ในไม่ช้าอดัมก็ไปส่งพวกเขาที่สวนสัตว์ในขณะที่เขาไปตลาดเพื่อซื้อของชำสำหรับงานเลี้ยงวันเกิดของแม็กนัส
"แม็ก นายจะคุยกับสัตว์ตัวไหน?" บ๊อบบี้ถาม
"ไม่รู้สิ เขาไม่ได้บอกให้หาสัตว์อะไร" แม็กนัสยักไหล่ เขาไม่รู้ว่าเหตุผลที่อาเธอร์ไม่บอกเกี่ยวกับสัตว์ก็เพราะว่ามันหายากมาก
"ลองดูสิ มันคือช้าง" บ๊อบบี้ชี้แล้วมุ่งหน้าไปยังทิศทางหนึ่ง สำหรับเขาแล้ว นี่เป็นการเที่ยวที่ดีเขาจะต้องสนุกกับมัน
แม็กนัสก็ตามมาด้วย เบื้องหน้าคือช้างที่ดูร่าเริงชื่อจัมโบ้ เขากำลังกินกล้วยอย่างมีความสุขในขณะที่ผู้คนมองดูเขา
“คุยกับเขา แม็ก” บ็อบบี้สะกิดเขา
แม็กนัสไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร “ฉันควรพูดแบบคนหรือทำเสียงช้างดีล่ะ?”
“ทำเสียงช้างได้ไหม?” บ๊อบบี้ถาม
“ไม่ ฉันเดาว่ามันเป็นภาษามนุษย์” แม็กนัสพึมพำ จากนั้นด้วยพฤติกรรมไร้ยางอาย แม็กนัสเริ่มตะโกน คนรอบข้างคิดว่าพวกเขาเป็นเด็กที่ตื่นเต้น
“จัมโบ้ เป็นไงบ้าง?” เขาตระโกน
*ผั่ว*
จัมโบ้ขว้างกล้วยใส่หน้าแม็กนัส ดีที่เขามีสัญชาตญาณที่รวดเร็วมากเขาเลยหลบทัน
"ฉันไม่รู้ว่าเขาโกรธฉันหรือเข้าใจฉันแล้วอยากแบ่งกล้วยให้แหะ" แม็กนัสพูดอย่างสับสน
"ฉันไม่คิดว่าเขาจะเข้าใจฉันนะ บ๊อบบี้ ไปดูสัตว์ที่อยู่ในกรงกัน" เขาตัดสินใจ
ในไม่ช้าพวกเขาก็เข้าสู่บริเวณที่สัตว์เลื้อยคราน งู กิ้งก่า แมงมุม รวมถึงสัตว์ขนาดเล็กและอันตรายต่างๆ
ที่นั่นพวกเขาพยายามพูดกับสัตว์หลายชนิด มีงูเหลือมอยู่ในกรงแก้ว มันกำลังนอนหลับอุตุ (น่าจะตัวนี้แหละ ที่แฮร์รี่ปล่อยไป)
"เพื่อน ลองจินตนาการดูสิถ้าเราต้องใช้ชีวิตแบบนี้จะรู้สึกยังไง? อยู่ในที่ปิดล้อม ไม่มีอิสระ" บ๊อบบี้พึมพำ
“ฉันรู้ เราทุกคนพูดถึงเสรีภาพแล้วก็ไปเป็นทาสสัตว์ ฉันชอบอุทยานแห่งชาติมากกว่า อย่างน้อยพวกเขาก็สามารถอาศัยอยู่ในที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติได้” แม็กนัสให้ความเห็น
พวกเขาตรวจสอบสัตว์แต่ละตัวทีละตัว แต่แล้วจู่ๆ แม็กนัสก็ได้ยินเสียงบางอย่าง
“ดูเด็กคนนี้สิ โคตรน่าเกลียดอ่ะ”
แม็กนัสมองไปรอบๆ เพื่อดูว่าเสียงมาจากไหน ในไม่ช้าเขาก็พบจุดกำเนิด มันเป็นกรงของมังกรโคโมโด มีเด็กอ้วนคนหนึ่งมองพวกเขาด้วยความตื่นเต้น
แม็กนัสไปที่นั่นพลางมองดูกิ้งก่ายักษ์พวกนี้ สายตาของพวกเขาประสานกันพลันเกิดความเงียบขึ้นสองสามวินาที
ไม่นานมันก็สร้างความตกตะลึงให้กับทุกคน มังกรโคโมโดทั้งหมดก็แห่กันมาตามทิศทางของแม็กนัส
"คุณเข้าใจผมใช่ไหม?" แม็กนัสถาม
พวกเขาพยักหน้าพร้อมกัน ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น และในไม่ช้าคนอื่นๆ ก็ตามมาทั้งหมด
"ราชาของข้า..."
"ราชาของข้า..."
"ราชาของข้า..."
แม็กนัสเกาหัวด้วยความหงุดหงิด “หยุด หยุด อย่าสร้างเรื่อง เข้าใจผมได้ยังไง?”
"เราไม่รู้" หนึ่งในนั้นตอบกลับ
"เรารู้สึกใกล้ชิดกับพระองค์ ท่านมหาบรรพบุรุษ" เพิ่มอีกหนึ่ง
แม็กนัสพยักหน้า “โอเค ผมจะกลับมาใหม่ อาจต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่ผมจะพาพวกคุณออกไปจากที่นี่ให้ได้ ผมขอสัญญา”
“เยสสสส... ราชา... ราชาของเรา...” พวกเขาร้องแม้ว่าแม็กนัสจะจากไปแล้วก็ตาม
บ๊อบบี้แค่ยืนอ้าปากค้างอยู่ข้างหลังเขา “แม็ก นายเพิ่งคุยกับพวกนั้นหรอ?”
"ใช่ และพวกเขาถือว่าฉันเป็นราชาด้วยเหตุผลอะไรซักอย่าง" แม็กนัสตอบอย่างเหนื่อยล้า
“นี่มันเจ๋งไปเลย...” บ๊อบบี้อุทานเสียงดัง แม็กนัสต้องรีบเอามือปิดปาก
"ชู่ๆ... เอาล่ะ เรากลับกันเถอะ เราจะถามอาเธอร์บ้าง ตอนนี้นายอยากกินอะไรไหม? แม็กนัสวางมือบนไหล่ของบ็อบบี้แล้วเดินไปที่โรงอาหาร
ระหว่างทางพวกเขาผ่านคอกกอริลลา เห็นกอริลลาตัวใหญ่นั่งนิ่งๆ แม็กนัสเลยโยนกล้วยที่เขาได้รับจากช้างจัมโบ้ไป
กอริลล่าจับมันได้อย่างเชี่ยวชาญ จากนั้นแสดงสัญญาณแห่งชัยชนะให้แม็กนัสเห็น
"ฮ่าฮ่า นั่นเป็นกอริลลาที่เท่มาก" บ๊อบบี้หัวเราะเบา ๆ
"กอริลล่าทุกตัวก็เจ๋ง..เพื่อน"
...
แม็กนัสไม่รู้ว่ากำลังมีการถกเถียงกันในสวนสัตว์ หลังจากที่แม็กนัสออกไปแล้ว งูเหลือมในกรงแก้วอีกตัวตรงข้ามห้องโถงก็ถามคำถามกับมังกรโคโมโด
"เขาคือใคร?" งูถาม
"นั่นคือราชาของเรา..." ชาวโคโมโดตอบ
“หึ ไม่สิ เขาเป็นราชาของฉัน ฉันเองก็ได้ยินเขาเหมือนกัน เขาให้ความรู้สึกคุ้นเคย...เหมือนครอบครัว” งูเหลือมกล่าวว่า
“จริงเหรอ? ลึกลับอะไรอย่างนี้” โคโมโดตอบกลับ พวกเขาทั้งหมดถูกทำให้สับสนโดยมนุษย์ แต่สมองของพวกเขาไม่ได้มีประสิทธิภาพทางจิตมากพอที่จะจดจ่อกับหัวข้อเดิมนานเกินไป ดังนั้นพวกเขาจึงลืมเรื่องแม็กนัสไปอย่างรวดเร็ว
...
ตามที่คาดไว้อาเธอร์ไม่ได้บอกอะไรแม็กนัสว่าทำไมเขาถึงทำเช่นนี้ได้ แม็กนัสจึงได้แต่ยักไหล่และมุ่งความสนใจไปที่การเรียนของเขา ขณะนี้เขากำลังเรียนรู้หนังสือฮอกวอตส์ชั้นปีที่ 2 เขายังไม่สามารถใช้เวทมนตร์ใดๆ ได้ สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือท่องจำทุกอย่าง เขารู้สึกทึ่งกับสิ่งเหล่านี้มาก และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่เคยเบื่อเลย สิ่งที่เขาต้องการในตอนนี้คือสักวันหนึ่งจะสามารถร่ายมนตร์เหล่านี้และดูว่าพวกมันทำอะไรได้บ้าง
ในขณะเดียวกัน อาเธอร์ก็มองไปที่ แม็กนัสผู้มีพัฒนาการที่รวดเร็วอย่างมาก เขาครุ่นคิดเกี่ยวกับแม็กนัสอย่างเงียบๆ ถึงอย่างไรเขาก็สามารถประเมินได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
~ เขาเป็นสัตว์ประหลาดในทุกด้าน ข้าเกือบจะถ่ายทอดวิชาดาบหมดสิ้นแล้ว ข้าหวังว่าเขาจะไม่ทิ้งข้าไปหลังจากใช้ข้าจน... อา เดี๋ยวก่อน ฟังดูไม่เหมาะเลย...~ [นี่ก็เสื่อมตลอด]
...
แม็กนัสใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมาก แต่การดำรงอยู่ของเขาสร้างความเจ็บปวดให้กับคนอีกผู้หนึ่งซึ่งก็คือราชินี เธอกำลังจะเป็นบ้าเนื่องจากการคุกคามต่อสายเลือดทั้งหมดของเธอ
เธอเห็นแผ่นศิลาเป็นต้นเหตุของปัญหา เธอจึงเรียกทหารมากำจัดมัน มันถูกระเบิดทิ้งลงทะเลเผาเป็นเถ้าถ่าน
แต่ทุกครั้ง มันจะปรากฎขึ้นบนบัลลังก์ของเธออย่างน่าอัศจรรย์ ราวกับจะหัวเราะเยาะเธอว่าไม่ช้าก็เร็ว เธอจะต้องสละที่นั่งให้กับทายาทโดยชอบธรรม
เกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้ทำให้ผมของเธอขาวเร็วขึ้น เธอนั่งอยู่ในสำนักงานโดยเอามือกุมศีรษะ รู้สึกรำคาญกับอาการปวดหัว
เธอก้มลงมองหนังสือพิมพ์บนโต๊ะ
“ผู้รับเหรียญกล้าหาญจอร์จ ครอส อัจฉริยะสุดๆ กำลังจะข้าม ป.6-ม.1 ไปแล้ว เฮ่อ บางคนเกิดมาดีกว่าคนอื่นๆ” เธอพึมพำกับตัวเองแล้วโยนมันลงถังขยะ
"ทำไมครอบครัวของเราถึงมีอัจฉริยะที่ฉลาดล้ำแบบนี้ไม่ได้ สิ่งเดียวที่ฉันได้คือลูกชายที่เย่อหยิ่งโง่เง่าเอาและแต่ใจและลูกสาวที่ไม่ช่วยอะไรเลย" เธอสาปแช่งครอบครัวของเธอเอง
_____________________________
[ฉากที่เหล่าโคโมโดขานแม็กนัสว่า ราชาของข้า ได้รับแรงบันดาลใจมาจากคลิปนี้]
Do not jump my queen - Vrchat Ugandan Knuckles Tribe
แชด
มังกรโคโมโด
งูในตู้กระจก(น่าจะเป็นงูเหลือมพม่าตัวเดียวกับที่แฮร์รี่มาปล่อยไป)