ตอนที่แล้วตอนที่ 17 เยื่องเท้าสู่โลกเวทมนตร์ (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 19 เด็กชายเจริญวัย (อ่านฟรี)

ตอนที่ 18 เติบโตขึ้น (อ่านฟรี)


แม็กนัสอ่านหนังสือต่อ เขากำลังอ่านมันให้ดังขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากอาเธอร์ก็สนใจอยากจะได้ยินมันเช่นกัน

"คนที่ไม่มีเวทมนตร์ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่ามักเกิ้ลในยุคกลางมักกลัวเวทมนตร์เป็นพิเศษ แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับเวทมนตร์ได้ดีนัก มีบางครั้งซึ่งไม่บ่อยนักที่พวกเขาจับแม่มดหรือพ่อมดตัวจริงได้ การเผาก็ไม่มีผลใดๆ ทั้งสิ้น แม่มดหรือพ่อมดจะใช้ คาถาไฟเย็นขั้นพื้นฐานแล้วแสร้งทำเป็นกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดในขณะที่เพลิดเพลินไปกับความรู้สึกที่อุ่นๆ จั๊กจี้

อันที่จริง เวนเดลินตัวประหลาดชอบถูกเผามากเสียจนยอมให้ตัวเองถูกจับได้ไม่น้อยกว่าสี่สิบเจ็ดครั้งจากการแปลงร่างในหลายรูปแบบ" ​

“ผู้วิเศษพวกนี้บ้าไปแล้ว” อาเธอร์อุทานเมื่อได้ยินเช่นนั้น

"มันแปลกๆ นะมีใครชอบโดนไฟคลอกบ้าง" แม็กนัสสงสัยเสียงดัง

"ฮ่าฮ่า เจ้าหนู เจ้าต้องเข้าใจว่ามีบางคนชอบของแปลกๆ มากมาย เอาเถอะ เลิกอ่านหนังสือพวกนี้ได้แล้ว มา ข้าจะสอนวิธีควงดาบให้เจ้าเอง" อาเธอร์เสนออย่างตื่นเต้น

“แล้วผมจะไปเอาดาบมาจากไหน เราไม่ได้อยู่ในยุคโบราณอีกแล้วนะ” แม็กนัสระบุคำถามที่ชัดเจน

~อะไรนะ.. เขาไม่ได้รับดาบสองเล่มที่ข้าทิ้งไว้ในกล่องนั้นหรือ? เดี๋ยวก่อน กล่องนั้นอยู่ที่ไหน~ อาเธอร์สงสัย

“ข้าเข้าใจดี แต่เราสามารถใช้ดาบปลอมได้เช่นกัน อาจจะทำจากไม้ก็ได้” อาเธอร์แนะนำ

“อืม ผมก็ไม่มีอะไรทำแล้ว ก็เลยว่าจะซื้อ หวังว่าพ่อกับแม่จะไม่ว่าอะไรนะ” แม็กนัสพึมพำ

"นั่นแหละไอ้หนูของข้า หากข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าจะทำให้เจ้ากลายเป็นนักดาบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก" อาเธอร์โอ้อวด

"ผมมั่นใจว่าถ้าผมฝึกดีๆ ผมก็เป็นได้ เพราะตอนนี้เหลือนักดาบไม่มากนัก เทคโนโลยีทำให้การฆ่าฟันง่ายขึ้นมาก คุณรู้อะไรเกี่ยวกับระเบิดปรมาณูไหม?" แม็กนัสถาม

"ไม่รู้ มันคืออะไร?" อาเธอร์ถามด้วยความสนใจ

"มันเป็นวัตถุขนาดเล็กคล้ายลูกบอล สร้างขึ้นด้วยความช่วยเหลือของวิทยาศาสตร์ พวกเขาใช้มันในสงครามโลกครั้งที่ 2 แถวประเทศทางตะวันออกของญี่ปุ่น คุณรู้หรือไม่ว่าระเบิดลูกเดียวคร่าชีวิตผู้คนไปเท่าไหร่" แม็กนัสถาม รอคอยปฏิกิริยาของอาเธอร์

"เท่าไหร่ล่ะ?" อาเธอร์ถาม

"140,000 คนในหนึ่งเมือง และอีก 70,000 คนในอีกเมืองหนึ่ง ทั้งหมดเสียชีวิตในเวลาไม่กี่วินาที" แม็กนัสเปิดเผย

"อุ๊... น่ากลัวมาก ข้าคงครองโลกได้ถ้ามีพวกนั้น พวกที่ตายทั้งหมดเป็นศัตรูหรือเปล่า" อาเธอร์ถาม

“ไม่ใช่ พวกเขาส่วนใหญ่เป็นเด็ก, ผู้หญิง ผมอ่านเจอในหนังสือ หลายคนบอกว่ามันเป็นเรื่องไม่ดี และหลายคนบอกว่าเป็นเรื่องดีเพราะสงครามยุติลง” แม็กนัสตอบด้วยสีหน้าสับสน

*เฮื่อออ*

“ข้าไม่เคยฆ่าพลเรือน พวกเดียวที่ข้าใช้ดาบคือศัตรูของข้าเท่านั้น ผู้หญิงและเด็กเป็นเพียงผู้ยืนดู ถ้ามีระเบิดแบบนี้และถูกใช้กับคน ข้าคงต้องบอกว่ามนุษยชาติตกต่ำลงจริงๆ บางทีมันอาจจะไม่ใช่คำสาปแต่เป็นพร ที่ได้มีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่ทุกสิ่งล้วนเรียบง่าย” อาเธอร์แสดงความคิดเห็นในขณะที่รู้สึกหดหู่เล็กน้อย

แม็กนัสไม่ได้ฟังเขาแล้ว เขาอ่านหนังสือของเขาต่อไป

...

1 เดือนต่อมา

ชีวิตของแม็กนัสเป็นปกติดี นอกจากความสามารถทางร่างกายและจิตใจที่เพิ่มขึ้นของเขาก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก เขาใช้เวลาว่างส่วนใหญ่ไปกับการอ่านหนังสือของฮอกวอตส์

เขาไม่สนใจวิชาในโรงเรียนอีกต่อไปเพราะเขาเรียนรู้ทุกอย่างแล้วจนถึงม. 1 แล้ว ในขณะเดียวกัน เขาสนใจที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับโลกเวทมนตร์ แต่เขาก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นกันหลังจากที่ได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับกรินเดลวัลด์ และจากนั้นเขาก็เข้าใจว่าบางคนในโลกเวทมนตร์เห็นพวกที่เกิดจากมักเกิ้ลหรือลูกครึ่งมักเกิ้ลเป็นอย่างไร

แม็กนัสซื้อดาบไม้มาด้วย มันออกจะใหญ่ไปสำหรับคนตัวเท่าเขา แต่อาเธอร์บอกให้เขาซื้ออันใหญ่เพื่อที่เขาจะได้ปรับตัวตามของจริง เขายังคงออกกำลังกายกับบ๊อบบี้ ตอนนี้เขาไม่อ้วนอีกต่อไปแล้ว และช่วงนี้สาวๆ บางคนก็เริ่มเรียกเขาว่าแบรนดอนแทนบ๊อบบี้แล้ว

อย่างน้อยๆ มันก็กระตุ้นให้เขาออกกำลังกายกับแม็กนัส แม็กนัสพยายามผลักดันตัวเอง เขาจะวิ่งมากขึ้น ออกกำลังกายมากขึ้น เขาจะเรียนวิชาดาบจากอาเธอร์และฝึกฝนมันในสนามหลังบ้านเล็กๆ ของเขาด้วย

ข้อดีคือไม่มีใครมองเห็นหรือได้ยินอาเธอร์ ดังนั้นแม็กนัสจะวางภาพเหมือนไว้ที่หน้าต่างซึ่ง อาเธอร์สามารถเห็นเขาในสวนหลังบ้านได้ จากนั้นเขาก็จะฝึกแม็กนัส

"ดี ดี... เจ้ามีพรสวรรค์... แน่นอนว่าเป็นเพราะสายเลื… เอ่อ.. ข้าหมายความว่าเจ้าสามารถเป็นสุดยอดได้ด้วยการฝึกฝน

แต่สิ่งที่ข้าสอนเจ้าก็แค่พื้นฐาน วิธีที่ข้าใช้ในการต่อสู้ไม่ใช่แค่การแกว่งดาบแบบธรรมดา แต่เป็นสิ่งที่ข้าสร้างขึ้น”

“เจ้าไม่ควรใช้แค่ดาบเท่านั้น แต่ต้องใช้กำปั้น ขา และหัวของเจ้าเพื่อสยบคู่ต่อสู้ด้วย เจ้าต้องมีความคล่องตัวมากสำหรับสิ่งนั้น แม้ข้าจะต่อสู้กับผู้คนด้วยการต่อสู้ด้วยดาบ บางคนบอกว่าข้าสู้ด้วยวิธีที่สกปรก แต่ข้าก็เหนือกว่าพวกเขา

“แม็กนัส เจ้าต้องเรียนรู้วิธีใช้ร่างกายด้วย เจ้าต้องควบคุมแต่ละส่วนได้” อาเธอร์นำทางเขาจากหน้าต่าง

แม็กนัสเข้าใจสิ่งที่อาเธอร์พูด เขาต้องเป็นนักศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานที่สามารถถือดาบได้

"แม็กนัส...ลูกรัก แม่ได้รับโทรศัพท์จากโรงเรียนของลูก พวกเขาอยากให้แม่ไปโรงเรียนในวันพรุ่งนี้ พวกเขาบอกว่าต้องการพูดคุยเกี่ยวกับอนาคตของลูกน่ะจะ" เกรซมาที่สวนหลังบ้าน

แต่เมื่อเธอมาถึง เธอเห็นเขากำลังตีลังกากลับหลัง เขาฝึกฝนมันมาเป็นเวลานานแล้ว และเขาก็ทำได้ดีมาก

เกรซหยุดขวางทางและพูดเสียงดังว่า "ลูกทำอะไรน่ะ ถ้าลูกล้มลงแล้วทำตัวเองเจ็บล่ะจะทำยังไง?"

เมื่อได้ยินพวกเขา อดัมก็มาเช่นกัน "มานี่เถอะที่รัก เขางอท่อนเหล็กบนรถบัส การตีลังกากลับหลังคงไม่อะไรเขาไม่ได้หรอก"

"แต่..." เธออยากจะเถียงแต่เห็นอดัมเดินไปข้างหน้า

“ผมจะโชว์ให้ดูว่ามันไม่มีพิษมีภัยอะไร ภรรยาคนสวยของผม” อดัมอ้างอย่างมั่นใจ

เขาดึงกางเกงขึ้นเพื่อไม่ให้มันขาด จากนั้น เขาพยายามกระโดดตีลังกากลับหลังมันเกือบจะดูดีทีเดียว

*พลัก*

"อ๊าก หลังฉานน..." เขาซบหน้าลงร้องไห้

เกรซกุมมือตัวเอง “ฉันต้องเตือนคุณกี่ครั้งแล้ว ตอนนี้คุณเป็นวิศวกร ร่างกายของคุณขึ้นสนิม บางทีคุณควรไปวิ่งกับแม็กนัสทุกเช้า แม็กนัส พรุ่งนี้แม่จะไปโรงเรียนกับลูก”

อดัมรีบยืดตัวตรง "เอาน่าเกรซ มันเป็นแค่การคำนวณผิดในส่วนของผม ไม่ต้องไปวิ่งทุกเช้าหรอก"

เกรซไม่สนใจเขาและกลับเข้าไปข้างใน อดัมมองดูแม็กนัสพร้อมกับถอนหายใจ "พอเดาว่า พ่อคงต้องให้ลูกปลุกพ่อทุกเช้า"

แม็กนัสหัวเราะเบา ๆ “ฮิฮิ เข้าใจแล้วฮะพ่อ”

จากนั้นอดัมเดินกลับเข้าไปในบ้านโดยเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและเรียกเกรซพร้อมกัน

แม็กนัสส่ายหัวและฝึกฝนต่อไป

"ฮ้า ฮ้า ฮ้า..." เขาต่อยอากาศเพื่อฝึกซ้อม

"ฮ้าาา.."

*วูช*

“อะไรน่ะ...” อาเธอร์อุทานจากชั้นบน เขาย่นคิ้วจดจ่อกับหมัดของเด็กชาย

"ฮ้าาา..."

*วูช*

“แม็กนัส...หยุดก่อน...” เขาตะโกน

แม็กนัสเงยหน้าขึ้นมองพลางถามด้วยสายตาของเขา

"ฮ่าฮ่าฮ่า... เจ้าหนูเติบโตไวมาก ตอนนี้เวลาที่เจ้าชก กำปั้นของเจ้าจะสร้างประกายไฟได้จริง ไม่ใช่แค่ควันอีกแล้ว แต่มีประกายของไฟอยู่จริงๆ" อาเธอร์เปิดเผย

"ผมหรอ?" แม็กนัสตกใจมองไปที่กำปั้นของเขา เขาหยุดซ้อมพลางวิ่งกลับไปที่ห้องของเขา เขาไปชกหน้ากระจกในห้อง

"ว๊าวว... ฉันกำลังสร้างประกายไฟจริงๆ แต่ทำไมกันหล่ะ? ฉันเพิ่งตรวจสอบเมื่อวานนี้ มันก็ออกมาแค่ควัน" เขาสงสัย

“เด็กนั่นไม่ได้บอกว่าเจ้าจะบรรลุวุฒิภาวะทางเวทมนตร์ตอนอายุ 11 ขวบเหรอ บางทีเมื่อเจ้าโตขึ้น พลังของคุณจะปรากฎออกมาเอง” อาเธอร์อนุมานได้

"อืม เป็นไปได้จริงๆ ผมรอไม่ไหวแล้วที่จะโตขึ้น" เขาอุทานออกมาอย่างตื่นเต้น

“และพ่อแม่ของเจ้าก็จะแก่เฒ่าลงเมื่อเจ้าโตขึ้น” อาเธอร์แสดงความคิดเห็น

แม็กนัสหน้าเศร้าทันที “ขอบคุณที่ทำให้ผมเสียอารมณ์ ตอนนี้คุณสนุกอยู่ใต้เตียงได้แล้ว ผมจะไปหาพวกเขา หึ...”

“เดี๋ยวๆ ...อย่าคว่ำหน้า...”

...

วันถัดมา,

เกรซไปที่โรงเรียนกับแมกนัส เธอไม่รู้ว่าครูต้องการพูดถึงอะไร เขาเพิ่งอายุ 9 ขวบไม่ใช่หรอ?

เธอถูกพาไปที่ห้องครูใหญ่ อาจารย์ใหญ่ประจำชั้นของแมกนัสก็อยู่ที่นั่นด้วย

"ขอบคุณที่สละเวลานะครับคุณนายแกรนท์ เราทราบดีว่าคุณยุ่งแค่ไหน เราจะไม่เสียเวลามากเกินไป เราสังเกตเห็นว่าแม็กนัสแตกต่างจากเด็กคนอื่นๆ" ครูใหญ่เริ่มพูด เขาเป็นชายวัย 50 ปลายๆ

“ค่ะ เขาก็เป็นแบบนั้นแหละ” เกรซพยักหน้า มองไปที่แม็กนัสซึ่งกำลังมองมาที่เธอเช่นกัน

ครูใหญ่กล่าวต่อว่า "คุณนายแกรนท์ครับ เราสังเกตเห็นว่าแม็กนัสสามารถแก้โจทย์ได้อย่างง่ายดายตั้งแต่ของม. 1 ดังนั้นเราจึงตัดสินใจว่าจะเลื่อนชั้นให้เขาเป็นม. 2 ในปีการศึกษาหน้าโดยตรงเลยดีหรือไม่?"

“โอ้ นั่นสินะ ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ เอาตามที่แม็กนัสต้องการ” เกรซตอบอย่างไม่ใส่ใจ เธอรู้อยู่แล้วว่าวันนี้จะมาถึงสักวันหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่ามันจะมาถึงเร็วขนาดนี้

ได้ยินเช่นนี้ ครูใหญ่ก็ดีใจ ในความเป็นจริง เขามีแรงจูงใจอย่างอื่นมากกว่าแค่ช่วยให้แม็กนัสได้ขึ้นชั้นปีที่สูงขึ้น เขากำลังจะบอกกับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นให้ลงข่าวเกี่ยวกับแม็กนัสที่โดดข้ามชั้นเรียน 2 ปี เขาต้องการเพิ่มความสนใจให้แก่โรงเรียนเพื่อดึงดูดเด็กๆ มากขึ้น นอกจากนี้เนื่องจาก แม็กนัสมีชื่อเสียง เขาเชื่อว่าหลายคนจะสนใจ

เขาแทบจะลอยแล้ว "งั้น แม็กนัส เธอพร้อมที่จะขึ้นม. 2 หรือยัง?"

แต่แม็กนัสไม่ตอบ สิ่งนี้ทำให้หัวใจของครูใหญ่หดหู่เล็กน้อย เขาความรู้สึกถึงลางไม่ดีบางอย่าง

“ผมขอปฏิเสธครับ” แม็กนัสปฏิเสธอย่างหนักแน่น

"ฮ่าฮ่า... ดี ดี... เธอจะชอบเด็กม. 2 ... เดี๋ยว? อะไรนะ? ทำไมล่ะ?" ครูใหญ่อุทานด้วยความตื่นตระหนกปนสลดบนใบหน้าของเขาทันที

_____________________________

เพจแปลถ้าเช่นนั้นข้าขอลา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด