ตอนที่แล้วตอนที่ 16 มิตรภาพมาก่อน เรื่องเงินค่อยว่ากัน (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 18 เติบโตขึ้น (อ่านฟรี)

ตอนที่ 17 เยื่องเท้าสู่โลกเวทมนตร์ (อ่านฟรี)


เย็นวันเดียวกันนั้น หลังจากโทรบอกล่วงหน้าแล้ว พ่อแม่ของ บ๊อบบี้ก็มาถึงบ้านของ แม็กนัสตายายของแมกนัสก็อยู่ที่นั่นด้วย และดูมีชีวิตชีวามากมีคนมาเต็มบ้านไปหมด

"บ๊อบบี้มากับฉัน ไปที่ห้องฉันกันดีกว่า" แม็กนัสเรียกเพื่อนของเขาที่นั่งเหงียมๆ ระหว่างพ่อแม่ของเขา

บ๊อบบี้มองไปที่แม่ของเขาและเธอก็พยักหน้า เขาเลยเผ่นไปชั้นบนอย่างมีร่าเริง

“แล้วพ่อแม่นายโอเคกับเงินหรือเปล่า? อย่าบอกนะว่าพวกเขาจะเอามาคืนน่ะ” แม็กนัสถาม

บ๊อบบี้อธิบายว่า "พวกเขาตกลงแล้ว แต่พวกเขาต้องการถามความเห็นพ่อกับแม่ก่อนว่าเห็นด้วยป่าว?"

"หืม.. ฉันคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรหรอก มาสิ ฉันจะเอารูปเหมือนให้ดุ...แป๊บนะ... ฉันจะให้นายสัมผัสเองเลย ฉันยังไม่รู้ว่าจะให้นายดูยังไง " แม็กนัสกล่าว

เห็นได้ชัดว่าบ๊อบบี้รู้สึกตื่นเต้นกับเรื่องนี้ ดังนั้น เมื่อแม็กนัสหยิบภาพวาดออกมาจากหลังเตียงของเขา บ๊อบบี้ก็เริ่มสัมผัสมันไปทั่ว

"ข้าหวังว่าข้าจะไม่ถูกเรียกว่าโลลิค่อนสำหรับเรื่องนี้นะ โปรดจำไว้ว่า ข้ามิได้เป็นคนเริ่ม" เสียงของอาเธอร์ดังขึ้น เขาได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ทุกประเภทเนื่องจากการถูกแขวนในสถานที่ที่มีปฏิสัมพันธ์ในที่สาธารณะมากเกินไป

"โลลิค่อนคืออะไรฮะ?" แม็กนัสถาม

*กระแอม* "ถึงเจ้าจะยังเด็กเกินไป แต่เจ้าก็ควรรู้เรื่องนี้ แม็กนัสน้อย โลลิค่อนเป็นผู้ใหญ่ที่เสื่อมทรามที่จ้องจะล่อลวงเด็กๆ...ไปในเส้นทางแบบผู้ใหญ่..." เขาอธิบาย [อาเธอร์นี่อย่างเสื่อมอ่ะ 55]

ดวงตาของแม็กนัสเบิกกว้าง เขาเข้าใจความหมายของคำว่า "ในแบบผู้ใหญ่" เขาเคยเห็นนิตยสารบางฉบับที่เขาไม่ค่อยภูมิใจนักและรู้เรื่องบางอย่างที่เขาไม่สามารถคุยกับพ่อแม่ได้

“พูดอะไรน่ะแม็ก?” บ๊อบบี้ถามพร้อมเอียงคอ

แม็กนัสมองดูตำแหน่งที่มือของบ็อบบี้วางอยู่บนภาพ "บ็อบบี้ เอามือออกเร็ว ตะ-ตรงนั้นคือจุดที่ชายในภาพกำลังฉี่"

อี๋... โรคจิต...” บ๊อบบี้ดึงแขนกลับอย่างรวดเร็ว

"เฮ้ ข้าเปล่านะ" อาเธอร์เปล่งเสียง

“ทำไมเขาถึงมองไม่เห็นคุณฮะ อาเธอร์?” แม็กนัสถาม

“ข้าจะไปรู้ได้ยังไง อาจเป็นเพราะเขาไม่มีเวทมนตร์หรืออะไรประมาณนั้นมั้ง?” อาเธอร์คาดเดาอีกอย่างนี้เขาเป็นมักเกิ้ล ดังนั้นความรู้ทางเวทมนตร์ของเขาจึงจำกัดอยู่แค่สิ่งที่เขาเห็นเมอร์ลินแสดงให้ดูเท่านั้น

"แล้วคุณเคยเห็นภาพคนขยับได้ตอนคุณยังมีชีวิตอยู่เปล่าฮะ?" แม็กนัสถาม

"อืมม... จากที่เจ้าว่าก็ ใช่ ข้าเห็นไม่เยอะนักหรอก ก็นะ ไม่มีได้มีคนสร้างเยอะนักหรอกสมัยนั้น" อาเธอร์พึมพำพลางครุ่นคิด

แม็กนัสหันไปหาบ็อบบี้ "บางทีฉันน่าจะรอให้ซิเรียสมาก่อน ฉันจะโชว์ภาพเหมือนให้เขาดู เขามีเวทย์มนตร์ด้วย ก็ถ้าเขามองไม่เห็นคุณ ก็อาจมีบางสิ่งที่พิเศษเกิดขึ้นกับภาพคุณนะ"

“ซิเรียสคือใครหรอ?” อาร์เธอร์และบ็อบบี้ถามพร้อมกัน

“โอ้ เขาคือเด็กที่ฉันเล่าให้ฟังไง บ็อบบี้ เขามาจากบ้านที่เก่าแก่ที่สุดหรืออะไรซักอย่างนี่แหละ บ้านตระกูลแบล็ค ทั้งตระกูลเป็นพวกผู้วิเศษ แต่เห็นเขาบอกว่าพ่อแม่เขาเป็นพวกเหยียดเชื้อชาติน่ะ เช่นพวกไม่มีเวทมนตร์หรือไม่ก็พวกที่ไม่ได้เกิดจากตระกูลพ่อมดแม่มดรุ่นแรกน่ะ” แม็กนัสอธิบาย

อาเธอร์เย้ยหยัน "หึ เก่าแก่ที่สุดกับตูดข้านี่ ข้าไม่เคยได้ยินชื่อพวกเขาเลย และข้าก็รู้จักพวกผู้วิเศษและลอร์ดผู้สูงศักดิ์ทุกคนในอังกฤษในเวลานั้น"

“ฟังดูแย่นะ แม็ก มีคนแย่ๆ แบบนี้อยู่ในโลกเวทมนตร์ด้วย นายแน่ใจนะว่าอยากเข้าร่วม” บ๊อบบี้ถามด้วยความเป็นห่วง

"ฉันต้องอยากอยู่แล้ว ฉันมีพรสวรรค์ที่เกิดมาพร้อมกับพลังเหล่านี้นะพวก บางทีสักวันหนึ่งฉันสามารถเอาชนะพวกขี้เหยียดทั้งหมดได้" แม็กนัสพูดพร้อมกำหมัดแน่น

"ฮ่าฮ่า... นี่สิถึงเหมาะสมกับเป็นผู้สืบ… เอ่อ ข้าหมายความว่า จิตวิญญาณที่ดี แม็กนัส เจ้ามีจิตวิญญาณที่ดี" อาเธอร์ยกย่องเขา

แต่แล้วจู่ๆ แม็กนัสก็จำอะไรบางอย่างได้ เขาต้องออกจากโรงเรียนใหม่เมื่ออายุ 11 ขวบ

“บ๊อบบี้ ฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกนาย” แม็กนัสหันมาทำหน้าโหมดจริงจัง

"อะไรหรอ?" บ๊อบบี้ถาม

"ซิเรียสบอกฉันว่ามีโรงเรียนเวทมนต์ในสกอตแลนด์ ที่ซึ่งสอนแม่มดและพ่อมดรุ่นเยาว์ทุกคน ฉันจะได้รับจดหมายตอบรับเมื่อฉันอายุ 11 ขวบและจะไปที่นั่น" เขาเปิดเผย.

บ๊อบบี้ยืนอยู่ตรงนั้นเงียบๆ "คุณจะอยู่ที่นั่นตลอดไปไหม"

"แน่นอนว่าไม่ ฉันจะมีวันหยุด บ๊อบบี้ นายเป็นเหมือนน้องชายฉัน ฉันอาจจะไปที่นั่นแต่ก็แค่ชั่วคราว เมื่อเรียนจบแล้วจะเอาของวิเศษเด็ดๆ มาให้ดูกัน เราสามารถเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองเพื่อสร้างบางสิ่งด้วยเวทมนตร์ได้” แม็กนัสพูดด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง

“ฉันเข้าใจแล้ว แม็ก ถ้าฉันมีเวทมนตร์ ฉันก็คงอยากเรียนมันเหมือนกัน ไม่ต้องห่วงฉันหรอก นายจะกลายเป็นจอมเวทย์ที่เก่งที่สุดในโลก” บ๊อบบี้ตอบกลับ แต่เขารู้สึกเศร้า

แม็กนัสเดินไปข้างหน้าและตบไหล่ของเขา "น้องชาย นายจะเศร้าไปทำไม? ด้วยเวทมนตร์นี้ เราอาจมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไป

เราใช้ชีวิตให้สนุก แต่ก่อนหน้านั้น เราต้องเติบโตขึ้น แข็งแกร่งขึ้น และร่ำรวยยิ่งขึ้น"

บ๊อบบี้พยักหน้า ~ใช่ เราจะมีเวลาทั้งชีวิตให้สนุกสุดเหวี่ยง~

“เพราะฉะนั้นตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เราทั้งสองจะออกกำลังกันแต่เช้าตรู่” แม็กนัสโพล่ง

"ใช่ เราช... เดี๋ยว อะไรนะ? ไม่ แม็ก ฉันจะไม่ตื่นก่อนอาหารเช้านะ" บ๊อบบี้ตัวสั่นทันทีที่คิดจะออกกำลังกาย

"นั่นคือเหตุผลที่ฉันจะไปที่บ้านนายทุกวันและทำแบบนี้" แม็กนัสวางมือลงบนแขนของบ็อบบี้

บ๊อบบี้มองเขาแปลกๆ "ทำอะไรขอนา-...อ๊าาา....ร้อนเฟ้ย..."

"นี่คือวิธีที่ฉันจะปลุกนายทุกวัน ทหารเอ๋ย ก่อนที่ผมจะไป ผมจะทำให้คุณกลายเป็นผู้ชายเต็มตัว" เขาเล่นมุกนายทหาร

ตอนนั้นเอง อาเธอร์เฝ้าดูพี่น้องทั้งสองอย่างเงียบๆ ยกเว้นชื่อ หัวเราะและการล้อเล่น เขายิ้ม ~แมกนัสเป็นส่วนผสมระหว่างฉันกับเมอร์ลินจริงๆ อา ฉันคิดถึงวันเก่าๆ ฉันสงสัยว่าไอ้แก่นั่นกำลังทำบัดซบอะไรอยู่ในที่ๆ พวกเขาเรียกว่าโรงเรียน~

...

ฮอกวอตส์,

“เมอร์ลิน ทำไมท่านถึงใจร้ายกับอาเธอร์นัก คนร่าเริงคนนั้นต้องถูกท้าทายทางจิตใจจากความเหงาตลอดหลายปีมานี้”ภาพบุคคลพูดกับภาพที่ด้านข้าง เป็นภาพเหมือนของเซอร์คาโดแกนพ่อมดและอัศวินโต๊ะกลมที่สาบานตน

เสียงทุ้มๆ แก่ๆ เย้ยหยัน "หึ จิตใจของเขาไม่แตกง่ายๆ หรอกนะ คาโดแกน ข้าแน่ใจว่าเขากำลังสาปแช่งข้าและทุกสิ่งรอบตัวเขาในตอนนี้ *ฮ๊าชุ้วว*... ดูสิ ตอนนี้เขาคงกำลังสาปแช่งข้าอยู่"

*เห่อ*

"เป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ท่านทั้งสองสามารถทำงานร่วมกันได้โดยไม่ต้องฆ่ากันเอง" เซอร์คาโดแกนถอนหายใจ

“ฮ่าฮ่า นั่นคือเสน่ห์ของความเป็นพี่น้องของเรา ในวันที่มืดมนนั้น เราอาจดึงขาของกันและกันเพื่อให้รู้สึกดีขึ้น เพียงแต่ตอนนี้ข้ารู้สึกดีขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา” เมอร์ลินประกาศ

"ทำไมรึ?" เซอร์คาโดแกนถาม

“อ่า..เดี๋ยวก็รู้ ในที่สุด อีกไม่กี่ปีเขาก็จะมาแล้ว” เมอร์ลินยังคงเก็บเป็นความลับ

...

กลับมาที่บ้านของแม็กนัส ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น อดัมและเกรซบอกพ่อแม่ของบ็อบบี้ถึงสิ่งที่จำเป็นต้องรู้ พ่อแม่ของบ๊อบบี้จ่ายเงินจำนองทั้งหมดอย่างง่ายดาย ตอนนี้ รายได้ทั้งหมดต่อเดือนของพวกเขาจะใช้สำหรับการดำรงชีพของพวกเขาเองเท่านั้น และทำให้มาตรฐานการครองชีพของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ในทางกลับกัน บ็อบบี้ร้องไห้ทุกเช้าเพราะแม็กนัสจะมาปลุกและลากเขาออกไปวิ่ง เด็กชายผมแดงตัวจ้ำม่ำเริ่มลดไขมันลงบ้างแล้ว แม็กนัสพยายามสร้างความมั่นใจให้กับเขา เขามีปมด้อยโดยไม่รู้ตัวเพราะปัญหาเรื่องเงินในครอบครัว แม็กนัสยังสอนวิชาต่างๆ ให้กับเขาแล้วเขาอยากให้เพื่อนซี้ของเขาประสบความสำเร็จในชีวิต

เช่นเดียวกับที่แม็กนัสคาดไว้ หลังจากที่เขาได้รับเหรียญกล้าหาญ ผู้คนจำนวนมากมาสัมภาษณ์เขาทั้งทางโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ นิตยสารหลายฉบับต้องการให้เขาขึ้นปก เขาจะไม่ปฏิเสธเงินฟรีที่พวกนั้นมอบให้ แม็กนัสจึงถือว่าโชคดีอยู่เล็กน้อย ซึ่งเขาตัดสินใจใช้สำหรับโรงเรียนเวทมนตร์ของเขาในภายหลัง

เขาเหลือเงิน 900 ปอนด์จากก่อนหน้านี้ที่ฝากไว้ให้กับพ่อของเขา บอกให้เขาลงทุนในบางสิ่งหรือที่ไหนสักแห่งเพราะเขาไม่ต้องการมัน เหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งปีครึ่งก่อนที่เขาจะเข้าเรียนในโรงเรียนเวทมนตร์ได้

ตลอดเวลาที่ผ่านมาเวทมนตร์ของเขาก็เหมือนเดิม แต่เขาใจจดใจจ่อรอให้ซิเรียสมามอบหนังสือให้เขาเพื่อที่เขาจะได้ใช้เวลาให้มีค่า

...

*ติ๊งต่อง*

“อรุณสวัสดิ์ครับคุณน้า แม็กนัสอยู่ที่นี่หรือเปล่าครับ?”

"โอ้ ซิเรียส อรุณสวัสดิ์จ้า เกิดอะไรขึ้นกับเธอน่ะ?" เกรซถาม

ทันทีที่แม็กนัสได้ยินเสียงนี้จากชั้นล่าง เขาก็โผล่ไปที่บันไดแล้วตะโกนว่า "ขึ้นมานี่สิ..."

หลังจากนั้นไม่นานซิเรียสก็เข้ามาหลังจากหลบเลี่ยงคำถามของ เกรซครั้งนี้ได้ แต่กลายเป็นว่าทำแม็กนัสตกใจแทน ซิเรียสมีผ้าพันแผลที่นิ้วของเขา

“เกิดอะไรขึ้น ซิเรียส?” เขาถาม

ซิเรียสนั่งลงบนเตียงพร้อมกับถอนหายใจ "แม่ฉันน่ะสิจะอะไรซะอีกล่ะ ยัยแม่มดแก่นั่นทำให้ฉันท่องจำและเขียนเครื่องรางบนกระดาษเป็นสิบๆ ครั้ง ทุกครั้งที่ฉันหยุด เธอจะทุบนิ้วฉันด้วยไม้"

แม็กนัสตกใจมาก พ่อแม่ทำแบบนี้กับลูกได้อย่างไร? “นายโทรแจ้งตำรวจหรือยัง?”

“ฮ่าฮ่า ไม่มีตำรวจในโลกเวทมนตร์แม็กนัส เรามีแต่มือปราบมารไม่ก็ผู้บังคับใช้กฎหมาย แต่พวกเขาทั้งหมดเป็นหุ่นเชิดที่ไร้ค่าสำหรับตระกูลอย่างฉัน” ซิเรียสตอบกลับด้วยความรังเกียจ

“ฉันหวังว่านายจะเอาหนังสือแนะนำกฎของโลกเวทมนตร์มาให้ฉันดูนะ จะได้รู้ว่าโลกนี้เลวร้ายแค่ไหน?” แม็กนัสพูด

“แน่นอน... แต่นแต๊น...” ซิเรียสหยิบกระเป๋าใบเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋ากางเกง

แม็กนัสมองหน้าเขาอย่างขบขัน “อะไรน่ะ? ฉันควรจะแปลกใจไหม?”

*แค็กๆ*

“สมองกลวงเอ๊ย… ฉันก็ลืมเสมอเลยว่านายเป็นพวกรุ่นแรก

นี่คือกระเป๋าที่มีการลงคาถาขยายพื้นที่ เป็นของแม่ฉันแต่อีกไม่นานฉันจะเผาทิ้ง ก็นะ ทำไมจะไม่ล่ะ”

“มานี่ ฉันเอาหนังสือทั้งหมดที่เรามีจนถึงปี 4 และหนังสือที่เกี่ยวข้องกับโลกพ่อมด ตอนนี้ ฉันขอแนะนำว่าอย่าเปิดอะไรที่เกินปี 1 ก่อนเริ่มฮอกวอตส์ ไม่อย่างนั้นนายจะผิดหวัง หนึ่งบวกสองมันไม่ง่ายเลย” ซิเรียสเตือนเขา

“ฉันตัดสินเองได้แต่ก็ขอบใจนะซิเรียส หนังสือพวกนี้จะช่วยให้ฉันหายเบื่อได้บ้าง” แม็กนัสแสดงความขอบคุณ

“ไม่เป็นไร พ่อมดก็ควรช่วยเหลือกัน ฉันไม่เหมือนพ่อแม่ของฉัน ฉันสาบานว่าฉันจะขายทุกอย่างที่เป็นของครอบครัวเมื่อได้รับมรดก” เป็นอีกครั้งที่ซิเรียสเริ่มสาปแช่งครอบครัวของเขา

แม็กนัสเดินไปที่รูปเหมือนของอาเธอร์ และเรียกซิเรียส "เฮ้ นายเห็นอะไรตรงนี้ไหม"

ซิเรียสมองเขาพร้อมกับเลิกคิ้ว เขาเดินเข้าไปใกล้เพราะเห็นแม็กนัสยืนเหมือนกำลังถืออะไรบางอย่างอยู่

"อืมม... ฉันไม่เห็นนะ" เขาตอบกลับ แต่แล้วเขาก็โบกมือและทันใดนั้นมือของเขาก็ชนเข้ากับบางสิ่ง

“เคราเมอร์ลิน...” ซิเรียสอุทาน

“เกิดอะไรขึ้นกับเคราของเขา? เขาหัวโล้นหรือเปล่า วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…” อาเธอร์เริ่มกระตือรือร้นทันทีที่ได้ยินชื่อของเมอร์ลิน

“นี่คือภาพวาดที่มีเวทมนตร์ มีเพียงฉันเท่านั้นที่มองเห็นมัน แล้วคนที่อยู่ในภาพนั้นเขาบอกว่าเขาคือกษัตริย์อาเธอร์ เพนดราก้อน” แม็กนัสเปิดเผย

"อืม ไม่เคยได้ยินชื่อเขาเลย แต่นี่น่าทึ่งมาก แม็ก นายหามันมาจากไหน?" ซิเรียสถามโดยไม่สนใจกษัตริย์เลย

Magnus เพิกเฉยต่อคำสาปแช่งของอาเธอร์ที่ซิเรียสจำชื่อเขาไม่ได้

"ฉันพบมันที่บ้านของราชินี ในพิธีมอบรางวัล ฉันก็ไปจิ๊กมา" แม็กนัสเปิดเผย

ซีเรียสกระพริบตาสองสามครั้ง ทันใดนั้นเขาก็เริ่มหอนด้วยเสียงหัวเราะ "อะฮ่าฮ่าฮ่า...นายเอามันมาจากใต้จมูกของแม่มดแก่นั่นเหรอ บ้าไปแล้ว แม็กนัส ฉันคิดว่ามิตรภาพของเราจะเป็นตำนาน ฉันเห็นตัวเองสร้างความเสียหายในโรงเรียนแล้ว แต่นายต้องเข้าบ้านกริฟฟินดอร์ให้ได้นะ ส่วนฉัน แน่ใจนะว่าจะไปที่นั่นแหง"

แม็กนัสส่ายหัวให้กับแนวโน้มการทำลายล้างของเพื่อนผู้วิเศษของเขาคนนี้ "แน่นอน เราจะดูว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น แต่ก่อนอื่น เราต้องหาว่าทำไมนายถึงมองไม่เห็นสิ่งนี้"

หลังจากนั้นเพื่อนทั้งสองก็คุยกันถึงเรื่องเวทมนตร์เกี่ยวกับภาพเหมือน หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ซิเรียสก็กลับบ้านเช่นกัน แม็กนัสเปิดหนังสือเล่มแรกอย่างเป็นทางการ ซึ่งนำเขาไปสู่โลกแห่งเวทมนตร์อย่างเป็นทางการ

“เดี๋ยวนะ… นี่มันแค่คัมภีร์ไบเบิล…” แม็กนัสบ่น เขาจึงปิดหนังสือและอ่านชื่อของมัน และก็ใช่จริงๆ แล้วมันเขียนว่า "ไบเบิล"

เขาวางมันลงและหยิบหนังสืออีกเล่มหลังจากอ่านชื่อของมัน "ประวัติศาสตร์เวทมนตร์โดยบาธิลดา แบ็กช็อต"

"อืม นี่น่าจะเป็นการเริ่มต้นที่ดี" เขาพึมพำกับตัวเองและเริ่มอ่าน แน่นอนว่าหลังจากล็อคประตูแล้ว

[A/N: เขาจะถูกคัดเข้าบ้านไหนกันน้า? เดากันได้ป่าว?]

_____________________________

เพจแปลถ้าเช่นนั้นข้าขอลา

เซอร์คาโดแกน

เมอร์ลิน

หนังสือประวัติศาสตร์และเวทมนตร์

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด