Ep.488 - เมืองในตำนาน
3/3
Ep.488 - เมืองในตำนาน
ราชามังกรคลั่งคือผู้ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นพลังรบส่วนบุคคลหรือกองทหาร หรืออิทธิพล ล้วนเป็นเบอร์หนึ่งของอาณาจักรมังกรโลกา
ฮังอวี่ นาเซอร์ร่วมมือกันยึดแคว้นเดียวดาย แต่แคว้นเดียวดายเป็นแค่หนึ่งในเก้าแคว้นใหญ่เท่านั้น
แคว้นเดียวยังไม่พอ!
ต้องมากกว่านี้!
หากพอใจแค่นี้ แล้วรอวันที่มังกรคลั่งมาถึง พวกเขาคงไม่พ้นถูกฆ่าตาย!
ดังนั้นถ้าต้องการสู้กับเฮสการ์ ต้องมองหาขุมพลังอื่นๆที่มีประสิทธิภาพ
นาเซอร์กล่าวขึ้นในเวลานี้ “เมื่อ 60 ปีก่อน คือช่วงเวลาที่พันธมิตรหนามทมิฬทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังเป็นครั้งเดียวที่พวกเรามีโอกาสสั่นคลอนเมืองมังกร”
“สั่นคลอนเมืองมังกร?” ฮังอวี่ตกใจเล็กน้อย “พวกคุณทำได้ยังไง?”
เหตุใดเมืองมังกรถึงเป็นเบอร์หนึ่ง? นั่นเพราะมันตั้งอยู่กลางสันเขามังกร หรืออีกชื่อหนึ่งสันเขามังกรสาบสูญ หากคิดบุกเมือง กองทัพของคุณต้องฟันฝ่าอุปสรรคและอันตรายนับไม่ถ้วน
ใช้เวลาเดินทัพนานมากผ่านทางที่เหมือนดั่งเขาวงกตเพียงเพื่อมายังเมืองมังกร
และเนื่องจากสันเขามังกรมีมอนสเตอร์ เมือง และประชากรมากที่สุดในอาณาจักรนี้ ดังนั้นอาศัยเพียงกองพลอากาศ บินไปตรงๆไม่ได้
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการเข้าถึงที่ยากและง่ายต่อการป้องกัน เมืองมังกรจึงแทบไม่มีโอกาสที่จะพ่ายแพ้!
ขนาดแผนในหัวของฮังอวี่ เขายังคิดแค่ว่าขอแค่รักษาเสถียรภาพของแคว้นเดียวดายให้มั่นคงก็พอ รอให้เผ่ามนุษย์นับแสนเข้ามาที่นี่ และตราบใดที่มีเวลาให้พัฒนาซักหนึ่งปี ถึงเวลานั้นค่อยไปปิดล้อมสันเขามังกร
ดังนั้นในระยะสั้นๆไม่มีทางสั่นคลอนเมืองมังกรได้!
ชัดเจนว่านาเซอร์เห็นความตกใจของฮังอวี่ เขากล่าวว่า “ด้วยพลังรบของพันธมิตรหนามทมิฬเพียงอย่างเดียวยากที่จะสั่นคลอนเมืองมังกร ไม่ต่างอะไรจากการเอาไข่กระทบหิน แต่ในช่วงเวลานั้น พวกเราบางคนได้ค้นพบซากเมืองโบราณ!”
ได้ยินคำนี้ ท่าทีของฮังอวี่แปรเปลี่ยนไป เรารู้สึกจี๊ดๆในสมอง ชิ้นส่วนของความทรงจำหนึ่ง คล้ายถูกกระตุ้น
นาเซอร์เห็นท่าทีแปลกๆของเขา เอ่ยถามทันที “เป็นอะไรไป?”
ฮังอวี่กล่าว “ผมไม่เป็นไร พูดต่อได้เลย”
“จากเรื่องเล่าที่สืบต่อกันมา หลังจากซ่อมแซมเมืองบางส่วนแล้ว ในเวลานั้นพันธมิตรได้ค้นพบว่ามันคือเมืองลอยฟ้าที่สามารถโบยบินในอากาศ! หรือจะเรียกว่าป้อมปราการลอยฟ้าก็ได้ มันสามารถตัดผ่านภูมิประเทศสันเขามังกรอย่างหมดจด แล้วโจมตีเมืองมังกรจากทางอากาศ!”
ฮังอวี่เริ่มใช้ความคิด
อย่างไรก็ตาม
ครั้งนี้ไม่ได้เค้นจากความทรงจำของจอมปราชญ์ แต่มันคือความทรงจำของตัวเขาเอง
ฮังอวี่จำได้ว่าซามูเอลเคยกล่าวไว้ ใครก็ตามที่กำจัดราชามังกรคลั่ง
ผู้นั้นจะได้เป็นเจ้านายของเมืองหนามทมิฬ
และเมืองหนามทมิฬไม่ใช่เมืองธรรมดา! มันสมควรเป็นเมืองลอยฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยการเหนี่ยวนำมนตรา!
ในแง่ความคิด นี่คือยานรบขั้นสูงที่เพียบพร้อมไปด้วยฟังก์ชั่นของเมือง แต่เพราะมันไม่ใช่เมืองธรรมดา จนถึงตอนนี้เฮสการ์เลยยังไม่พบเบาะแสใดๆ
นาเซอรืกล่าวต่อว่า “น่าเสียดาย เพื่อซ่อมเมืองลอยฟ้า พันธมิตรได้ใช้ทรัพยากรทั้งหมด แต่เมื่อบูรณะเมืองเสร็จ พวกเขากลับถูกเฮสการ์โจมตีเสียก่อน ได้รับความพ่ายแพ้อย่างหนัก กลุ่มกระจัดกระจาย แผนการโจมตีจึงเป็นอันล้มเหลวไป”
ฮังอวี่เอ่ยถาม “คุณกำลังจะบอกว่า พวกเราต้องหาเมืองนี้ให้เจอใช่ไหม?”
“ใช่ ตราบใดที่เมืองหนามทมิฬสามารถใช้งาน พวกเราก็สามารถรวบรวมกองทัพพันธิมตรที่กระจัดกระจายอยู่ทั่ว อาณาจักรมังกรโลกาได้” น้ำเสียงของนาเซอร์เริ่มเปลี่ยนไป “กระนั้น ที่ตั้งของเมือง ในขณะนั้นเพื่อรักษาความลับ จึงมีน้อยคนนักที่ล่วงรู้ และผู้รู้ส่วนใหญ่ล่วงลับไปแล้ว ตอนนี้กระทั่งข้าก็ไม่รู้ว่ามันซ่อนอยู่ที่ไหน”
ส่วนที่ยากที่สุดในตอนนี้ คือเมื่อหกสิบปีก่อน นาเซอร์ยังไม่ปลุกภูมิปัญญา จึงไม่มีส่วนร่วมกับเรื่องนี้ ดังนั้นไม่ทราบข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้อง
เมื่อนาเซอร์เข้าร่วมพันธมิตรหนามทมิฬ เขาก็ลอบพัฒนาตัวเองอย่างช้าๆในแคว้นเดียวดาย และเพื่อไม่ให้ถูกเฮสการ์จับได้ ตลอดมาเขาจึงไม่คิดออกค้นหาเมืองลอยฟ้า
เพราะท้ายที่สุดแล้วอาณาจักรมังกรโลกาใหญ่โตมาก ใครจะรู้ว่าเมืองลอยฟ้าหายไปไหน?
บัดนี้เนื่องจากการจุติของเผ่ามนุษย์ ทำให้นาเซอร์มีความหวังที่จะจัดการกับเฮสการ์ ดังนั้นตัดสินใจเสี่ยงเปิดเผยสถานะของตัวเองก่อนกำหนด ประกาศสงครามออกไป
การล้างแค้นของเฮสการ์จะมาถึงในไม่ช้า
แล้วพวกเขาจะสามารถค้นหาเมืองนี้เจอได้ในเวลาอันสั้นหรือ?
ไม่ต้องสงสัยเลย ภารกิจนี้เป็นงานที่ท้าทายมาก แต่ก็คุ้มค่าที่จะลอง!
มุมปากฮังอวี่ยกยิ้ม เมืองโบราณมากมายในอาณาจักรมังกรโลกา ล้วนแต่อยู่ในความทรงจำของจอมปราชญ์
แม้ความทรงจำส่วนใหญ่ยังคงหลับใหล แต่เมื่อถูกกระตุ้นจากภายนอก ข้อมูลก็จะปรากฏขึ้นมา!
ดังนั้นเมื่อนาเซอร์กล่าวถึงเรื่องนี้ มันเลยเป็นการช่วยฟื้นความทรงจำของฮังอวี่
ฮังอวี่คิดทบทวนพักหนึ่งแล้วกล่าวว่า “ผมพอมีวิธีค้นหาเมือง”
นาเซอร์เอ่ยถามอย่างสงสัย “วิธีใด?”
“อืม เรื่องนี้ถ้าให้อธิบายมันค่อนข้างซับซ้อน แต่ทุกที่ในอาณาจักรมังกรโลกามีเผ่ามนุษย์อยู่ พวกเราในฐานะเผ่าพันธุ์มนุษย์ มีความสามารถพิเศษบางอย่าง ดังนั้นน่าจะหาเมืองนี้ได้ไม่ยาก”
ฮังอวี่ค่อนข้างมั่นใจว่าจะหาเมืองพบ
แต่ตอนนี้สิ่งที่เขากังวลคือเรื่องอื่น “ปัญหาคือมันต้องใช้เวาในการค้นหา แต่กองทัพราชามังกรจะมาถึงในไม่ช้า”
นาเซอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ข้าจะปกป้องแคว้นเดียวดายให้เอง ตราบใดที่ข้ายังอยู่ เว้นเสียแต่เฮสการ์มาเอง มิเช่นนั้นในช่วงสั้นๆ อย่าหวังจะทำลายแคว้นเดียวดายได้”
ตกลงตามนี้!
ฮังอวี่ออกตามหาเมืองลอยฟ้า
นาเซอร์อยู่ข้างหลังคอยปกป้องแคว้นเดียวดาย
ด้วยการพึ่งพาความทรงจำของจอมปราชญ์ ฮังอวี่ไม่คิดว่าการค้นหาเมืองนี้จะยากเกินมือ
อิทธิพลของเฮสการ์ในแคว้นเดียวดายมีจำกัดมาก ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะแคว้นเดียวดายอยู่ห่างจากสันเขามังกรมากที่สุด
นาเซอร์ดำรงตำแหน่งผู้ครองแคว้นมาเป็น 20 ปี ความเกรงกลัวและเคารพในตัวเขาของเหล่าขุนนาง ไม่ด้อยไปกว่าความกริ่นเกรงเฮสการ์
ดังนั้นฝากเรื่องนี้ไว้กับเขา ไม่น่าเป็นปัญหาอะไร
ฮังอวี่ตามตัวสุนัขเพื่อถามไถ่สถานการณ์ปัจจุบัน
หวังเอ๋อตอบว่า “ฮ่ง เจ้านายไม่ต้องกังวล ในอาณาเขตของเมืองพายุระห่ำ เมืองเพลิงทมิฬ และเมืองพันหนองน้ำ เริ่มมีทีมมนุษย์ไปตั้งรกรากแล้ว ขุนนางเล็กบางตนที่ไม่เชื่อฟังถูกกำจัดออกไป”
“ถ้าไม่นับเมืองที่ยึดได้ ในดินแดนอิสระหลายแห่ง ก็เริ่มมีมนุษย์ไปตั้งรกรากแล้ว ภายใต้ร่มธงของผู้ครองแคว้น แผนปฏิรูปกำลังดำเนินการอย่างช้าๆ”
ฮังอวี่พยักหน้าและกล่าวว่า “บอกเหล่าจ้าวกับเหล่าฉูให้เร่งลงมือ ให้ทำเหมือนตามรูปแบบการปกครองเมืองธารทะเลทราย ยกเว้นภาษีทุกเมือง มอบสวัสดิการให้ แบบนี้เหล่าขุนนางจะยอมละทิ้งความบาดหมางไว้เบื้องหลัง และไม่ก่อความวุ่นวาย แต่ถ้ายังมีพวกดื้อด้าน ก็กำจัดมันให้หมด”
“ฮ่ง สู้เพื่อปกป้องภายในให้เข้มแข็งก่อน เปิ่นหวังเข้าใจหลักการนี้ดี”
ฮังอวี่สั่ง “ฉันจะออกจากแคว้นเดียวดายสักระยะหนึ่ง ตามหาพลังใหม่เพื่อจัดการกับเฮสการ์ ทุกภารกิจต่อจากนี้ ทั้งหมดให้ไปรายงานเหล่าจ้าวกับเหล่าฉู”
ทีมมังกรครามมีเสถียรภาพมากเสมอมา ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางหรือเกิดการทรยศใดๆ
นี่ทำให้ฮังอวี่โล่งใจมาก แม้สถานการณ์ในปัจจุบันของแคว้นเดียวดายจะค่อนข้างวุ่นวาย แต่เขาเชื่อว่าฉูและจ้าวจะสามารถสยบมันได้
...
ตามความทรงจำ มีความเป็นไปได้สูงว่าเมืองหนามทมิฬน่าจะอยู่ในแคว้นทะเลตะวันตก
ฮังอวี่กลับไปเจียงเฉิง เติมเสบียงสำคัญบางส่วน เพื่อเตรียมพร้อมออกเดินทาง