ทาสแห่งเงา บทที่ 33 สัตว์กินซาก
'เชี่ย!'
นี่เป็นความคิดเดียวในหัวของซันนี่ในขณะที่เขาล้มลงไปข้างหลังอย่างงุ่มง่าม ปล่อยให้ก้ามปูงับเข้าหากันตรงหน้าของเขาด้วยเสียงดัง "แคร๊ก" ใบมีดไคติน*ที่ขรุขระนั้นอยู่ใกล้มากจนเขาสามารถมองเห็นเศษโคลนที่ติดอยู่บนพื้นผิวได้อย่างชัดเจน
(ไคติน* สารที่ประกอบเป็นเปลือกของแมลงทุกชนิด รวมถึง กุ้ง ปู)
ซันนี่ล้มหลังกระแทกพื้น หลีกเลี่ยงการโจมตีที่ไม่คาดคิดได้อย่างหวุดหวิด ข้อดีคือเขาสามารถหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ แต่สิ่งที่แย่คือเขานอนแผ่อยู่กับพื้น ไม่สามารถสร้างระยะห่างระหว่างเขากับผู้โจมตีได้อย่างรวดเร็ว ก้ามปูขนาดใหญ่ยังคงลอยอยู่ด้านบน
เมื่อซันนี่ตระหนักได้เช่นนั้น เขาก็กลิ้งไปด้านข้างอย่างสิ้นหวัง ในเวลาต่อมาก้ามปูก็พุ่งลงมาส่งแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยผ่านโคลน หากไม่ใช่เพราะปฏิกิริยาที่รวดเร็วของเขาแล้วละก็ หน้าอกของซันนี่คงพังทลายเพราะแรงระเบิดนั้นอย่างแน่นอน
เขาเริ่มยืนขึ้นเมื่อก้ามปูเหวี่ยงไปด้านข้าง โชคดีที่ซันนี่พร้อม แทนที่จะพยายามหลบ หรือสกัดกั้นการโจมตีนี้ เขายอมปล่อยให้ก้ามปูชนกับมือที่ยื่นออกมากันแรงกระแทกไว้
ขณะที่แขนของเขาส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ซันนี่ก็ใช้แรงระเบิดนั้นช่วยให้ร่างของเขาลอยขึ้นไปในอากาศ ด้วยวิธีนี้ อย่างน้อยที่สุด เขาจะสามารถออกจากระยะของก้ามปูได้
เขาอาจไม่ได้รับการสอนวิธีการต่อสู้ แต่สิ่งหนึ่งที่เขารู้ดีคือวิธีที่จะล้ม!
แทนที่จะคอหัก หรือจุกยามเมื่อตกลงมา เขากลับสามารถประคองร่างของตัวเองและกลิ้งไปอย่างว่องไวก่อนที่จะหยุดลงห่างจากสัตว์อสูรที่ซุ่มโจมตีด้วยระยะทางช่วงหนึ่ง
'ฉันจะเอาคืน!' ซันนี่นึกถึงคำวิจารณ์ประชดประชันของเขาต่อการต่อสู้ของผู้กล้าได้ 'การกลิ้งเป็นส่วนสำคัญของเทคนิคการต่อสู้สัตว์อสูรที่น่ายกย่อง!'
จากนั้น เขาก็เงยหน้าขึ้นมอง พยายามตรวจสอบสถานการณ์
ในที่สุดผู้โจมตีก็แสดงตัวต่อหน้าเขา มันมุดออกมาจากใต้โคลน ทอดเงาขนาดใหญ่เหนือซันนี่ที่คุกเข่าอยู่ ดวงตาเล็กๆ ของมันเปี่ยมไปด้วยความโกรธ ความหิว และความอาฆาตพยาบาท
มันเป็นหนึ่งในสัตว์อสูรก้ามปูที่เขาใช้เวลามากในการสังเกต สัตว์อสูรขนาดใหญ่ยืนตระหง่านเหนือเขาด้วยความสูงเกือบสามเมตร ขยับขากรรไกรล่างของมันและส่งเสียงร้องที่แหลมคมและเสียดแทง
'ทำไมแกถึงไม่กินซากยักษ์พร้อมกับเพื่อนที่เหลือของแก ไอ้สัสปู?!'
อย่างไรก็ตามคำตอบที่มีต่อความขุ่นเคืองในคำอุทธรณ์ของซันนี่นั้นค่อนข้างชัดเจน สัตว์อสูรดูเหมือนจะอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างแย่ ขาทั้งแปดที่เหมือนเคียวหักไปครึ่งหนึ่ง และมีรอยแตกในกระดองหนา แต่ละข้างมีเลือดข้นหนืดไหลซึมออกมา นอกจากนี้ มันยังยังขาดก้ามปูไปข้างหนึ่งจากสองข้าง ซึ่งดูเหมือนจะถูกฉีกออกจากที่ไหล่
ถ้าไม่ใช่เพราะสภาพที่น่าสมเพชนี้ สิ่งมีชีวิตนี้คงไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวอยู่ในโคลน โดยหวังที่จะจับเหยื่อง่ายๆ มันอาจจะติดตามสัตว์อสูรตัวอื่นและเข้าร่วมงานเลี้ยงก็เป็นได้ ซันนี่โชคไม่ดีที่สะดุดกับการซุ่มโจมตีของมัน
เขาพึ่งพาความสามารถในการสอดแนมเงาของเขามากเกินไป จนลืมไปว่ามันไม่ได้ช่างสังเกตมากไปกว่ามนุษย์ที่ตื่นแล้ว มันยังไร้น้ำหนักและไม่ได้ยินอีกด้วย นั่นคือสาเหตุที่สัตว์อสูรไม่ตอบสนองเมื่อเงาผ่านกับดักของมันเมื่อหนึ่งนาทีก่อนหน้านี้
ในทางกลับกันซันนี่ก็อาจคิดว่าตัวเองโชคดีด้วยตรรกะเดียวกัน เขาคงไม่สามารถหลบการโจมตีอย่างฉับพลันของสัตว์อสูรได้ หากไม่ใช่เพราะมันพิการ และความเชื่องช้าของมัน
แต่การไตร่ตรองถึงโชคของเขาอาจจะต้องเป็นภายหลัง เพราะในตอนนี้ซันนี่มีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำมากกว่านั้น นั่นก็คือ พยายามเอาชีวิตรอด
'กลับมาที่นี่!' เขาสั่งเงาและกระโดดไปด้านข้าง
ในวินาทีถัดมา พื้นที่ซึ่งเขาครอบครองชั่วขณะก่อนหน้าก็ถูกสัตว์อสูรโจมตีจนแหลกสลาย ก้ามปูขนาดใหญ่กระแทกเข้าที่ด้านข้างของเสาปะการัง ส่งเศษสีแดงเข้มปลิวว่อนไปทุกทิศทุกทาง
ซันนี่ทรงตัวได้และเคลื่อนไหวต่อไป เขาหวังว่าสัตว์อสูรตัวใหญ่ที่มีเกราะหนา และได้รับบาดเจ็บจะไม่สามารถเทียบความเร็วกับเขาได้ แต่โชคไม่ดีที่กลับกลายเป็นว่ามันว่องไวอย่างน่าประหลาด ขาที่เหมือนเคียวของมันเจาะโคลนที่อยู่ข้างหลังเขา และก้ามปูก็ลอยขึ้นไปในอากาศอีกครั้ง ขู่ว่าจะตัดหัวเด็กหนุ่มอยู่ทุกวินาที
ซันนี่เบี่ยงตัวหลบคีมหนีบ และในที่สุดก็ได้รับการบรรเทาโทษในวินาทีที่สอง ตาของเขากวาดไปรอบๆ ค้นหาสิ่งที่จะใช้เป็นอาวุธอย่างสิ้นหวัง เกือบจะในทันที เขาสังเกตเห็นกระดูกยาวที่เรียบและแหลมคมถูกทิ้งไว้โดยสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จักซึ่งโผล่ขึ้นมาจากโคลน เขาก้มลงจับกระดูกชิ้นนั้นโดยไม่ลดความเร็วลง ดึงกระดูกออกด้วยการดึงอย่างแรงเพียงครั้งเดียว
กระดูกยาวเกือบหนึ่งเมตรครึ่งที่มีปลายแหลมแคบ มันเกือบจะเหมือนหอก ปัญหาคือ แม้จะเพิ่มความยาวของหอกชั่วคราวนี้ได้ แต่ระยะการโจมตีของซันนี่ก็ยังสั้นกว่าของสัตว์อสูรอยู่ดี เขายังสงสัยว่ามันจะสามารถเจาะกระดองแข็งนั้นได้หรือไม่
ในระยะสั้น เขาต้องเข้าไปใกล้และเล็งไปที่รอยร้าวในเกราะของสัตว์อสูร อย่างไรก็ตามเขาไม่กล้าที่จะทำ ในระยะทางสั้นๆ นั้น เจ้าสัตว์อสูรสามารถทุบเขาให้แหลกได้ง่ายๆ โดยใช้แค่น้ำหนักและโครงที่ใหญ่โตของมันเท่านั้น
มีความคิดบ้าๆ เข้ามาในหัวของซันนี่
ด้วยความตกตะลึงเล็กน้อย เขาตัดสินใจไม่ได้ชั่วขณะว่าเป็นผลจากความกล้า หรือความโง่เขลา ไม่ว่าจะด้วยเพราะเหตุใด เขาก็ไม่ได้บ้าพอที่จะพิจารณาเรื่องนี้จริงๆ
ในขณะนั้น ก้ามปูก็ฟาดออกมาอีกครั้ง ครั้งนี้ซันนี่หลบช้าไปเล็กน้อย ผลที่ตามมาก็คือ ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่ขาซ้ายของเขา ขอบก้ามปูเฉี่ยวมันไป ผ้าห่อศพของนักเชิดหุ่นยึดเอาไว้ได้ ไม่ยอมให้สัตว์อสูรได้เห็นเลือด แต่แรงกระแทกก็เพียงพอที่จะเหวี่ยงซันนี่ให้ร่วงลงกับพื้น
ไม่มีเวลาฟื้นตัว
เมื่อดวงตาของเขาเบิกกว้าง ซันนี่ก็เข้าใจว่าถึงเวลาที่จะต้องทำบ้าๆ แล้ว ดังนั้นแทนที่จะพยายามหลบ เขากลับหยุดเคลื่อนไหวและปล่อยให้สัตว์อสูรใช้ก้ามปูจับที่ลำตัวของเขา
ทันใดนั้น แรงกดอันน่าสะพรึงกลัวก็กดลงไปยังที่ซี่โครงของเขา ซันนี่รู้สึกราวกับว่าร่างของเขากำลังจะแยกออกจากกัน แต่ชุดเกราะของเขาที่ได้รับจากการเอาชนะจ้าวปีศาจที่ตื่นขึ้น กลับต้านทานการกัดของสัตว์อสูรได้ กล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายของเขาเกร็ง ชะลอช่วงเวลาที่อวัยวะภายในของเขาจะกลายเป็นข้าวต้มไว้ได้
ในวินาทีต่อมา เงาของซันนี่ก็ตกลงลงมาจากด้านบน ล้อมรอบผ้าห่อศพของนักเชิดหุ่นด้วยคุณสมบัติการป้องกันของเกราะที่ได้รับการปรับปรุง เขาสามารถต้านทานอ้อมกอดที่บดขยี้ของก้ามปูได้ดีขึ้น
ซันนี่และสัตว์อสูรดูเหมือนจะมาถึงทางตัน เด็กหนุ่มไม่สามารถปลดปล่อยตัวเองจากการเกาะกุมของสัตว์อสูรได้ ในขณะที่สัตว์อสูรไม่สามารถสังหารเหยื่อโดยผ่าครึ่งด้วยก้ามปูของมันเช่นกัน
พวกเขาจ้องหน้ากัน จากนั้น ก็เกิดไฟลุกโชนขึ้นในดวงตาของสัตว์ร้าย มันคลิกขากรรไกรล่างและยกซันนี่ขึ้นในอากาศ พาเขาเข้าใกล้ปากมันมากขึ้น เห็นได้ชัดว่าตั้งใจที่จะกัดหัวของเขาให้ขาด
'ทำไมทุกคนถึงพยายามจะกินฉัน?! ฉันอร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ?!'
ซันนี่ไม่ได้ดิ้นรนเมื่อสัตว์อสูรดึงเขาเข้ามาใกล้กับขากรรไกรของมัน เขารู้ว่ามีโอกาสเพียงครั้งเดียวที่จะมีชีวิตอยู่
ในช่วงสุดท้ายซันนี่ปล่อยให้เงาไหลจากผ้าห่อศพของนักเชิดหุ่นไปลงบนกระดูกแหลมคมที่เขายังคงกำแน่นอยู่ในมือ จากนั้นเขาก็รวบรวมกำลังทั้งหมดที่มี โน้มตัวไปข้างหน้าและผลักกระดูกไปข้างหน้าด้วยพลังให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
หอกกระดูกดำพุ่งไปข้างหน้าและแทงผ่านดวงตาเล็กๆ ของสัตว์ร้ายจมลึกลงไป ดวงตาอีกข้างของสัตว์อสูรหรี่ลง
เขากัดฟันทนความเจ็บปวดที่ซี่โครงแทบไม่ไหว ซันนี่บิดหอกกระดูกพยายามสร้างความเสียหายให้กับสมองของสัตว์ร้ายให้ได้มากที่สุด
สองสามวินาที ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นเขาก็รู้สึกว่าแรงกดบนร่างกายของเขาลดลง
ปากก้ามปูเปิดออก ปล่อยให้ซันนี่ร่วงลง ขณะที่เขากำลังอารมณ์เสีย สัตว์อสูรตัวใหญ่ก็ล้มลงกับพื้นก็เช่นกัน หอกกระดูกยังคงยื่นออกมาจากหัวของมัน อาบไปด้วยของเหลวสีฟ้า
ซันนี่ครางและสูดลมหายใจอย่างเจ็บปวด
[เจ้าได้สังหารสัตว์ร้ายที่ตื่นแล้ว สัตว์กินซาก]
[เจ้าได้รับอุปกรณ์: ดาบสีฟ้า]
[… เงาของเจ้าแข็งแกร่งขึ้น]