ตอนที่แล้วตอนที่ 8-44 เพื่อนบ้าน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 8-46 เปลี่ยนแผน

ตอนที่ 8-45 ลงมืออย่างเลวร้าย


ประติมากรรมชิ้นนี้เป็นงานที่ลินลี่ย์เพิ่งทำเสร็จสิ้นเมื่อไม่นานนี้ เพราะทักษะในปัจจุบันของลินลี่ย์ ทำให้การสลักหินของเขาก็อยู่ในระดับสูงเช่นกัน หญิงสาวที่มีผมสีเงินผู้นี้ได้ตรวจสอบประติมากรรมจากทุกมุมอย่างรอบคอบ

“ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมจริงๆ”

หลังจากตรวจสอบดูรูปประติมากรรมด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างดีชั่วเวลาหนึ่ง  นางหันศีรษะมามองลินลี่ย์  “พี่ลีย์, ข้ารู้สึกว่าประติมากรรมของท่านดีกว่าของที่อาจารย์ข้ามี  แต่ข้าไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดี”

แม้ว่าจะมีเด็กสาวน่ารักอย่างนั้นมองดูเขาอย่างนี้  แต่ลินลี่ย์ก็ยังรู้สึกหงุดหงิด

“แม่นางดันลิน ข้าจำเป็นต้องฝึกต่อ” ลินลี่ย์พูดอ้อม

หญิงสาวผมเงินพยักหน้า  “ก็ได้, ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”  ทันทีที่นางพูดคำเหล่านี้ลินลี่ย์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่แล้วหญิงสาวผมสีเงินก็ยังคงพูดต่อไปว่า"อย่างไรก็ตามพี่ลีย์หลังจากจบการฝึกแล้วท่านจะต้องสอนวิธีแกะสลักหินให้ข้าบ้าง"

ลินลี่ย์ทำหน้าแข็ง  “งานประติมากรรมคือหนึ่งในศิลปะสุดยอด  ข้าจะสอนวิธีการลับให้คนอื่นได้ง่ายๆ อย่างไร?”

ความจริง ประติกรรมระดับอาจารย์ใหญ่จะไม่รับศิษย์ง่ายๆอยู่แล้ว

“โอว”  หญิงสาวผมเงินก้มหน้าด้วยความผิดหวัง  และเริ่มเดินไปใกล้กำแพงจากนั้นด้วยการกระโจนง่ายๆ นางก็โดดไปอยู่อีกด้านหนึ่ง

“ในที่สุดนางก็ไปเสียที”  ลินลี่ย์ถอนหายใจยาว

แต่จากนั้นเด็กสาวผมเงินก็โผล่หัวออกมาอยู่เหนือกำแพง  “พี่ลีย์ ท่านฝึกให้ดีเล่าเสร็จแล้วข้าจะมาหาท่าน”  หลังจากพูดแล้วนางแยกจากไปอีก

ลินดอนกลับไปที่ห้องนอนของนาง  นั่งลงบนเก้าอี้  หน้าของนางเปลี่ยนเป็นเย็นชาตามปกติ  และนัยน์ตานางเย็นชาและไร้เมตตาเหมือนเคย  ถ้าลินลี่ย์เห็นนาง  เขาคงไม่ยอมเชื่อแน่ว่าจะมีคนทำได้อย่างนั้น

“ลินลี่ย์ผู้นี้มากระแวงคนทุกคนและไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้เขาง่ายๆนี่เป็นเรื่องลำบากจริงๆ”

ในฐานะเทวทูตประทับความจริงลินดอนไม่ต้องให้นางและเทวทูตคนอื่นต้องมาตายพร้อมกับลินลี่ย์

อย่างไรก็ตามในฐานะเทวทูตตนหนึ่ง นางไม่สามารถขัดคำสั่งได้

ไปทีละขั้นตอน

นางน่าจะฆ่าลินลี่ย์ได้ง่ายๆ  นั่นคงจะดีกว่ายอมสละชีวิตของนางไม่ใช่หรือ?

“เพราะการทุ่มเทดูแลที่ลินลี่ย์แสดงต่อเจนน์และคีนทำให้ไม่รู้สึกว่าเขาจะสงสัยอะไรเรามาก” ลินดอนนึกถึงแผนนี้ได้หลังจากรู้เรื่องที่ลินลี่ย์ปฏิบัติต่อเจนน์และคีนอย่างไร

ตราบใดที่ลินดอนสามารถเข้าไปใกล้ตัวลินลี่ย์และเพราะนางมีพลังของนักสู้ระดับเก้า นางสามารถลอบเข้าไปใกล้ร่างมนุษย์ของเขา นางจะมีโอกาสถึง 90%ในการฆ่าเขาในสถานการณ์เช่นนั้น

“บางทีเป็นเพราะเขารู้สึกได้ถึงพลังของข้า”  ลินดอนส่ายหัว “ลินลี่ย์ผู้นี้ไม่มีความรู้สึกสงสัย ข้าพูดคำว่าอาจารย์ข้าไปเจ็ดคำ แต่เขาก็ยังไม่ถามข้าว่าอาจารย์ข้าเป็นใคร”

ความจริงลินดอนเตรียมแผนไว้เป็นพรวนสำหรับไว้หลอกลินลี่ย์

แม้ว่าลินดอนจะดูเหมือนว่าอายุน้อยมาก  แต่ในความเป็นจริงอายุจริงของนางอาจจะมากกว่าเดลิน โคเวิร์ทมากก็ได้ เวลาหมื่นปีที่นางใช้เวลาอยู่ในดินแดนเทพของมหาเทพเจิดจรัสไม่ได้ส่งผลกระทบต่อนางเหมือนกับหลายทศวรรษที่นางใช้ไปที่นี่

…..

“จากบุคลิกและทัศนคติของหญิงสาวผมเงินดูเหมือนจะเป็นเจ้าหญิงที่เจ้าอารมณ์” ลินลี่ย์หงุดหงิด “แต่พลังของนาง...”

ความจริงลินลี่ย์ระแวงกองกำลังของศาสนจักรเจิดจรัสอย่างต่อเนื่อง

เท่าที่ลินลี่ย์กังวลกองกำลังของศาสนจักรเจิดจรัสน่าจะอยู่ใกล้ๆ เขาแล้วในตอนนี้  และตอนนี้นักรบสาวระดับเจ็ดก็โผล่ขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย?  แม้ว่าลักษณะของนางจะน่ารักกระตือรือร้น  แต่ลินลี่ย์ไม่ยอมเชื่อนางง่ายๆ

ก่อนที่เขาจะเชื่อใครบางคน  เขาจะใช้กำลังของพวกนั้นไตร่ตรองก่อน

ถ้านางเป็นสาวน้อยอ่อนแอผู้ไม่มีแรงแม้แต่จะฆ่าไก่ทัศนคติของลินลี่ย์บางทีอาจดีกว่านี้มาก ที่สำคัญต่อให้ท่านให้อาวุธสตรีอย่างนี้ นางก็คงไม่สามารถทำร้ายเขาได้ แต่เด็กสาวผู้นี้แตกต่างออกไป

ถ้านางจู่โจมทำร้ายเขาในระยะใกล้ๆกะทันหัน  เป็นไปได้มากว่านางอาจทำร้ายเขาจนบาดเจ็บหนักหรือฆ่าเขาก็ได้

“หรือว่ามือสังหารที่ศาสนจักรเจิดจรัสส่งมาไล่ล่าข้าครั้งนี้จะเป็นเด็กสาวคนนี้?”  แต่เมื่อคิดถึงความไร้เดียงสา ความบริสุทธิ์ในดวงตาของเด็กสาวผมเงิน  ลินลี่ย์พบว่ายากจะเชื่อ

คืนนั้น

เด็กสาวผมเงินมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้นางเข็นรถอาหารโรงแรมมาอยู่ที่หน้าประตู

“พี่ลีย์ ข้าถือโอกาสทำหน้าที่แทนพนักงานเอาอาหารค่ำมาส่งให้ท่าน”  ลินดอนส่งเสียงใสแจ๋วดังมาจากข้างนอก  ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้ม  เมื่อมองดูนาง เขารู้สึกว่าปวดหัว

“เจ้าอีกแล้ว?”

“มีปัญหาอะไรเหรอ?”  ลินดอนกระเง้ากระงอด  “พี่ลีย์ ข้าเอาอาหารค่ำมาให้ท่าน ดังนั้นท่านสอนการสลักหินให้ข้าได้ไหม? ตกลงนะ”

“ไม่” ลินลี่ย์ปฏิเสธ

“ขี้ตืด” ลินดอนย่นจมูก  “เมื่อข้าทำอาหารให้อาจารย์ข้า อาจารย์ของข้าจะทำทุกอย่างให้ข้าเมื่อข้าขอเขา  ท่านช่างตระหนี่โดยแท้”

“อาจารย์เจ้าก็คืออาจารย์ของเจ้า  แต่ข้าไม่ใช่” ลินลี่ย์ไม่เห็นด้วย

คนแปลกหน้าผู้นี้อย่างน้อยเป็นนักสู้ระดับเจ็ดและบางทีอาจสูงมากกว่านั้น ลินลี่ย์ไม่ยอมให้นักสู้สตรีผู้นี้เข้าใกล้เขาแน่ ขณะที่การสอนวิธีแกะสลักหินให้ใครก็ตามจำเป็นต้องมีการใกล้ชิดเป็นธรรมดา

ที่สำคัญช่วงเวลาอย่างนี้เป็นช่วงเวลาที่เขาคาดว่าศาสนจักรเจิดจรัสจะลงมือต่อเขา

“จำไว้, ข้าไม่ต้องการให้เจ้ามาส่งอาหารค่ำให้ข้าอีก”  ลินลี่ย์พูดเย็นชา

ลินดอนสีหน้าเปลี่ยนและจ้องมองลินลี่ย์อย่างไม่พอใจ  “เหลวไหล เจ้าไม่รู้หรือว่าเมื่อไหร่มีคนทำดีต่อเจ้า ข้าจะไปฟ้องอาจารย์ของข้าแน่นอน เขาจะมาฆ่าเจ้าถึงที่นี่แน่”

“ฆ่าข้า?” ลินลี่ย์มองดูหญิงสาวมีสีหน้าที่โกรธเคือง

“แน่นอน อาจารย์ของข้าแข็งแกร่งทรงพลังมาก” เด็กสาวผมเงินพูดด้วยความหยิ่งผยอง

“อาจารย์ผู้แข็งแกร่งของเจ้าคือใครกัน?”  ลินลี่ย์ถาม

เด็กสาวผมเงินพูดอย่างหยิ่งยโส  “ข้าจะบอกเจ้าให้ก็ได้  ชื่อของอาจารย์ของข้าก็คือแฮนด์เซน”

“เซียนกระบี่เลิศปฐพีแฮนด์เซนน่ะหรือ?”  ลินลี่ย์สะดุ้ง

ในทั่วจักรวรรดิโอเบรียนถ้าเทพสงครามถูกมองว่าเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่ง อย่างนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่ายอดฝีมือที่สูงสุดเป็นอันดับสองก็คือเซียนกระบี่เลิศปฐพีแฮนด์เซน  เซียนกระบี่เลิศปฐพีแฮนด์เซนเป็นเซียนระดับสูงมาหลายปีแล้วและยังไม่เคยพ่ายแพ้ในการประลองฝีมือกับยอดฝีมือระดับเซียนคนใดมาก่อน

เขาเป็นผู้สมบูรณ์พร้อมทั้งในพลังรุกและพลังรับ

นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่เย็นชาและห่างเหินมาก แทบไม่มีอะไรที่สามารถขัดขวางการพัฒนาของเขา  ยอดฝีมือระดับเซียนผู้ไร้ตำหนิสมบูรณ์แบบเด่นล้ำเหนือทุกคน ความสมบูรณ์แบบเกินไปของเขาคือเหตุผลที่ทำให้คนอื่นขนานนามเขาว่าเซียนกระบี่เลิศปฐพี

“งั้นตอนนี้เจ้ารู้ตัวแล้วว่าเจ้าสมควรจะกลัวใช่ไหม?”  หญิงสาวผมเงินหัวเราะอย่างหยิ่งยโส  “แต่ไม่ต้องห่วง  ตราบใดที่เจ้าสอนวิธีแกะสลักให้ข้า  ข้าจะไม่ฟ้องอาจารย์”

“มิน่าเล่า” ลินลี่ย์มองดูหญิงสาวผมเงิน “ปัจจุบันนี้เจ้าเป็นนักสู้ระดับใด?”

“ระดับแปดแล้ว” สตรีผมเงินพูดด้วยความภูมิใจ “เจ้าคิดจะทำอะไร? ทั่วทั้งจักรวรรดิมียอดฝีมือระดับแปดไม่มากนักหรอกที่อายุน้อยกว่าข้า”

ลินลี่ย์ชำเลืองมองสตรีผมเงิน  “แม่นางดันลิน,ท่านกลับไปบอกอาจารย์ท่านได้เลยว่าข้าไม่ยินดีจะสอนแกะสลักหินให้ท่าน  ข้าต้องการดูว่าเขาจะมาหาและข้าฆ่าข้ายังไง”

หญิงสาวผมเงินสะดุ้งและจากนั้นอารมณ์นางอ่อนลง นางพูดขอร้อง  “พี่ลีย์ข้าขอร้องท่าน แค่สอนข้าหน่อยเถอะนะ?” ขณะที่นางพูด นางเดินเข้ามาใกล้ลินลี่ย์

ลินลี่ย์ถอยตรงๆสามก้าวจนเข้าไปในห้องโถงของเขา

“แม่นางดันลิน ตอนนี้ข้าอยากพัก เชิญเจ้ากลับไปเถอะ” ลินลี่ย์ปิดประตูบ้าน

“ฮึ่ม”

หญิงสาวผมเงินแค่นเสียงจากนั้นเดินจากไป

สองวันต่อมาหญิงสาวผมเงินพยายามทุกวิถีทาง นางซื้อชุดสวยงามมาเป็นของขวัญให้ลินลี่ย์  บางทีก็แกล้งมองลินลี่ย์อย่างน่าสงสาร เหมือนกับว่านางปฏิเสธจะยอมรับความจริงว่าลินลี่ย์จะไม่ยอมสอนวิชาแกะสลักหินให้กับนาง

วันที่สี่

เช้าวันนี้ลินดอนมาที่ลานบ้านของลินลี่ย์อีกครั้งเหมือนกับทุกวันที่ผ่านมา

“พี่ลี่ย์, ตอนนี้ข้าจะไปแล้วนะ”  ลินดอนพูดด้วยน้ำเสียงยอมแพ้

ลินลี่ย์มองดูหญิงสาวผมเงินด้วยความประหลาดใจ  สามวันที่ผ่านมานี้ ลินลี่ย์อิดหนาระอาใจกับนางจนถึงขั้นปวดหัวทุกทีที่เห็นนาง  ยิ่งกว่านั้นลินลี่ย์ยังไม่แน่ใจว่าเด็กสาวคนนี้เป็นใครกัน

หรือว่าจะเป็นคนของศาสนจักรเจิดจรัส?

หรือว่าเป็นศิษย์ของเซียนกระบี่เลิศปฐพีจริงๆ?

แต่ยิ่งเขามีปฏิกิริยาตอบสนองกับลินดอนลินลี่ย์ก็ยิ่งรู้สึกว่าเด็กสาวผมเงินเป็นคนร่าเริงกระตือรือร้น  เขาไม่คิดว่านางจะเป็นคนของศาสนจักรเจิดจรัส

“ถ้านางเป็นนักฆ่าของศาสนจักรเจิดจรัส  อย่างนั้นข้าคงหวั่นเกรงฝีมือในการแสดงของนางเสียแล้ว”  ลินลี่ย์ลอบบอกกับตนเองในใจ

ลินดอนมองลินลี่ย์อย่างจนใจ  “พี่ลีย์, ข้าเคารพเทิดทูนอาจารย์ข้าอยู่เสมอ และอาจารย์ข้าก็ชอบงานประติมากรรม ข้าจึงต้องการแกะสลักงานดีๆ ให้ท่าน  แต่ท่านกลับไม่ยินดีจะสอนข้า”

“มันไม่มีประโยชน์ ถ้าเจ้าไม่มีเวลาและไม่มีพรสวรรค์เพียงพอ”  ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ

ลินดอนตาเป็นประกาย  นางรีบพูด “ข้ามีทั้งเวลาและพรสวรรค์”

“เจ้าเป็นจอมเวทสายธาตุดินหรือเปล่า?”  ลินลี่ย์ถามทันที

“ไม่” ลินดอนส่ายศีรษะจากนั้นถามด้วยความสงสัย  “แล้วนี่เกี่ยวอะไรกับการเป็นจอมเวทสายธาตุดิน?”

ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ  “ถ้าเจ้าไม่ใช่จอมเวทสายธาตุดินนั่นหมายความว่าเจ้าไม่มีพรสวรรค์ที่จำเป็นต่อการเรียนงานสลักหินจากข้า”  ลินลี่ย์กำลังบอกความจริง  การสลักหินของสำนักสิ่วตรง  ประติมากรจะต้องเป็นจอมเวทสายธาตุดิน

“ท่านเพิ่งจะแต่งเรื่องขึ้นมา”  ลินดอนก้าวเท้าเข้ามาจนห่างลินลี่ย์เพียงนิ้วเดียว  “ข้าไม่เคยได้ยินใครพูดมาก่อนว่าการสลักหินจำเป็นต้องเป็นจอมเวทสายธาตุดิน”

“มีหลายอย่างที่เจ้าไม่รู้”  ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น

ตอนนี้ลินดอนห่างลินลี่ย์อยู่สองเมตร  ลินดอนกำลังคำนวณในใจ  “ระยะห่างสองเมตร ในร่างมนุษย์ของเขาข้าจะมีพลังมากกว่าลินลี่ย์มาก ข้าน่าจะมีโอกาสฆ่าเขา”

เดิมทีลินดอนต้องการให้ระยะของทั้งสองคนอยู่ใกล้ก่อนที่นางจะลงมือ

แต่ลินลี่ย์ไม่เปิดโอกาสให้นาง

“พี่ลีย์ ข้ารู้ว่าท่านโกหก  พี่ลีย์,ข้าอยากจะถามท่านเป็นครั้งสุดท้าย ท่านยินดีจะสอนการสลักประติมากรรมหินให้ข้าได้หรือไม่?” ลินดอนมองดูลินลี่ย์ด้วยนัยน์ตาเต็มไปด้วยความหวัง

ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ

“โอว” ลินดอนก้มหน้าไม่สนองตอบอะไร

แต่ในทันทีนั้นเองลินดอนพุ่งเข้าหาลินลี่ย์ทันที ความเคลื่อนไหวของนางรวดเร็วราวสายฟ้าขณะที่ลินดอนชักมีดสั้นออกมาถือไว้ในมือขวา

สองเมตร  พวกเขาอยู่ใกล้กันมาก

แต่ทันใดนั้นประกายแสงสีม่วงประหลาดวาบขึ้น

ลินดอนเพียงรู้สึกเหมือนกับว่าประกายกระบี่สีม่วงกระพริบวาบไปทั่วอย่างต่อเนื่องครอบคลุมมีดและแขนของนาง

“หืม”

ลินดอนปล่อยมีดทันทีขณะที่นางตบฝ่ามือซ้ายใส่ลินลี่ย์

บึ้ม!

ฝ่ามือทั้งสองปะทะกันกันและลินดอนรีบพุ่งมาข้างหน้า แต่ลินลี่ย์เคลื่อนไหวถอยหลังด้วยท่าทางประหลาดในพริบตาก็ถอยไปอยู่ที่กำแพง

“โฮกกกก”

แฮรุและบีบีทั้งสองยืนประกบข้างลินลี่ย์  แต่ก่อนที่แฮรุและอีกฝ่ายจะสามารถโจมตีได้  ลินดอนก็ถอยหนีทันที

“เจ้าต้องการฆ่าข้าใช่ไหม?”  ลินลี่ย์จ้องมองลินดอนอย่างเย็นชา

ลินดอนเงยหน้าขึ้น  ลินดอนพูดอย่างไม่พอใจ  “ลีย์, ฟังนะ, ข้า,ดันลินไม่เคยขอร้องใครมาก่อนในชีวิต ข้าเพิ่งทำไปแล้ว แม้แต่กับอาจารย์ข้า ข้าก็ไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อน สามวันเต็มๆ ข้าพยายามทุกอย่าง ขอร้องให้เจ้าสอนข้า  แต่เจ้าปฏิเสธอยู่เรื่อย  ดังนั้นจะเป็นยังไงถ้าข้าฆ่าเจ้าเสียในตอนนี้?  ยังมีอะไรผิดด้วยหรือ?”

“เหตุผลที่ดื้อด้าน”  ลินลี่ย์มองดูลินดอน

ลินดอนยืนอยู่ที่ประตูบ้านพักของลินลี่ย์จ้องมองเขาด้วยความโกรธ “ถ้าเจ้ามีความสามารถก็มาฆ่าข้าได้เลย  คนของข้าจะตามมาถึงในไม่ช้า  ถ้าเจ้ากล้ารังแกข้า ข้าจะบอกพวกเขา”

ตอนนี้ความปรารถนาจะฆ่าของลินลี่ย์เพิ่มขึ้นมาก

ไม่ว่าเรื่องที่ดันลินผู้นี้จะเป็นศิษย์ของเซียนกระบี่เลิศปฐพีจริงหรือไม่นางก็พยายามจะฆ่าเขาแน่นอน

แต่ลินลี่ย์มีความรู้สึกถึงอันตรายที่แปลกประหลาด

เขาไม่สามารถอธิบายได้ว่ามาจากไหน  แต่ความรู้สึกนี้เตือนเขา..อย่าไล่ตามดันลิน  ถ้าทำ จะต้องอันตรายมาก

“ฮึ, เจ้าไม่กล้าฆ่าข้าในตอนนี้ใช่ไหม?  งั้นข้าจะไปก่อน”  ลินดอนผลักประตูบ้านออกไปอย่างหยิ่งยโส  จากนั้นเริ่มเดินออกไป  ลินลี่ย์ไม่ไล่ตามนางเพียงแต่สั่งลินลี่ย์ในใจให้ดำดินและไปดูว่ามีอะไรข้างนอก

ยามนี้ที่นอกประตูบ้านพักของลินลี่ย์

ยอดฝีมือระดับเก้าอื่นอีกห้าคนรออยู่ด้านนอกประตู  พวกเขาประจำตำแหน่งอยู่นานแล้วพร้อมจะร่วมกับลินดอนตั้งพยุหะเทวทูตศึกได้ทุกเมื่อ

เมื่อลินดอนเดินออกมานอกสนาม  นางใช้สายตาส่งสัญญาณให้อีกห้าคน

ทั้งห้าคนติดตามลินดอนจากไปอย่างรวดเร็ว

“ฮึ่ม” เมื่อออกจากโรงแรม ลินดอนไม่พอใจอย่างมาก“ถ้าเพียงแต่เจ้าลินลี่ย์ไล่ตามข้ามา เราทั้งหกคนก็จะฆ่าลินลี่ย์ได้ในพริบตา แต่เขายังซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักกับอสูรเวทสองตัวอยู่เคียงข้างเขา  ขืนให้เราหกคนวิ่งไล่เข้าไปข้างใน  เขาก็สามารถหนีไปได้อย่างแน่นอน”

ลินดอนรู้ดีว่าการฆ่าลินลี่ย์ภายในเมืองหลวงมณฑลไม่ใช่การตัดสินใจที่ฉลาด  ที่สำคัญแม็คเคนซี่อยู่ในปราสาทใกล้ๆ  ด้วยความเร็วของแม็คเคนซี่เขาอาจบินมาที่นี่ได้ในพริบตา

“ท่านหญิง เราควรจะทำยังไงกันดี?”  อีกห้าคนมองดูลินดอน

“ดำเนินการตามแผนต่อไป”  ลินดอนกล่าวอย่างเย็นชา  “สำหรับการฆ่าลินลี่ย์แบบแลกชีวิต  นั่นควรเป็นเงื่อนไขสุดท้าย  เอาไว้ใช้ในกรณีที่เราไม่มีทางเลือก”  อีกห้าคนพยักหน้า

แม้แต่เทวทูตก็ไม่ยินดีจะโยนชีวิตของพวกเขาทิ้งไปง่ายๆ

“ฮืม?”ทันใดนั้นลินดอนเห็นบุรุษและสตรีคนหนึ่งมีคนคอยคุ้มครองสองสามคน  ลินดอนได้เห็นภาพเจนน์และคีนก่อน  “ข้ายังไม่ได้ไปหาพวกเขาแท้ๆ  แต่พวกเขากลับส่งตัวเองเข้ามาหาข้าเองหรือ?”  ริมฝีปากของลินดอนโค้งเป็นรอยยิ้ม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด