ตอนที่ 8-45 ลงมืออย่างเลวร้าย
ประติมากรรมชิ้นนี้เป็นงานที่ลินลี่ย์เพิ่งทำเสร็จสิ้นเมื่อไม่นานนี้ เพราะทักษะในปัจจุบันของลินลี่ย์ ทำให้การสลักหินของเขาก็อยู่ในระดับสูงเช่นกัน หญิงสาวที่มีผมสีเงินผู้นี้ได้ตรวจสอบประติมากรรมจากทุกมุมอย่างรอบคอบ
“ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมจริงๆ”
หลังจากตรวจสอบดูรูปประติมากรรมด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างดีชั่วเวลาหนึ่ง นางหันศีรษะมามองลินลี่ย์ “พี่ลีย์, ข้ารู้สึกว่าประติมากรรมของท่านดีกว่าของที่อาจารย์ข้ามี แต่ข้าไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดี”
แม้ว่าจะมีเด็กสาวน่ารักอย่างนั้นมองดูเขาอย่างนี้ แต่ลินลี่ย์ก็ยังรู้สึกหงุดหงิด
“แม่นางดันลิน ข้าจำเป็นต้องฝึกต่อ” ลินลี่ย์พูดอ้อม
หญิงสาวผมเงินพยักหน้า “ก็ได้, ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” ทันทีที่นางพูดคำเหล่านี้ลินลี่ย์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่แล้วหญิงสาวผมสีเงินก็ยังคงพูดต่อไปว่า"อย่างไรก็ตามพี่ลีย์หลังจากจบการฝึกแล้วท่านจะต้องสอนวิธีแกะสลักหินให้ข้าบ้าง"
ลินลี่ย์ทำหน้าแข็ง “งานประติมากรรมคือหนึ่งในศิลปะสุดยอด ข้าจะสอนวิธีการลับให้คนอื่นได้ง่ายๆ อย่างไร?”
ความจริง ประติกรรมระดับอาจารย์ใหญ่จะไม่รับศิษย์ง่ายๆอยู่แล้ว
“โอว” หญิงสาวผมเงินก้มหน้าด้วยความผิดหวัง และเริ่มเดินไปใกล้กำแพงจากนั้นด้วยการกระโจนง่ายๆ นางก็โดดไปอยู่อีกด้านหนึ่ง
“ในที่สุดนางก็ไปเสียที” ลินลี่ย์ถอนหายใจยาว
แต่จากนั้นเด็กสาวผมเงินก็โผล่หัวออกมาอยู่เหนือกำแพง “พี่ลีย์ ท่านฝึกให้ดีเล่าเสร็จแล้วข้าจะมาหาท่าน” หลังจากพูดแล้วนางแยกจากไปอีก
ลินดอนกลับไปที่ห้องนอนของนาง นั่งลงบนเก้าอี้ หน้าของนางเปลี่ยนเป็นเย็นชาตามปกติ และนัยน์ตานางเย็นชาและไร้เมตตาเหมือนเคย ถ้าลินลี่ย์เห็นนาง เขาคงไม่ยอมเชื่อแน่ว่าจะมีคนทำได้อย่างนั้น
“ลินลี่ย์ผู้นี้มากระแวงคนทุกคนและไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้เขาง่ายๆนี่เป็นเรื่องลำบากจริงๆ”
ในฐานะเทวทูตประทับความจริงลินดอนไม่ต้องให้นางและเทวทูตคนอื่นต้องมาตายพร้อมกับลินลี่ย์
อย่างไรก็ตามในฐานะเทวทูตตนหนึ่ง นางไม่สามารถขัดคำสั่งได้
ไปทีละขั้นตอน
นางน่าจะฆ่าลินลี่ย์ได้ง่ายๆ นั่นคงจะดีกว่ายอมสละชีวิตของนางไม่ใช่หรือ?
“เพราะการทุ่มเทดูแลที่ลินลี่ย์แสดงต่อเจนน์และคีนทำให้ไม่รู้สึกว่าเขาจะสงสัยอะไรเรามาก” ลินดอนนึกถึงแผนนี้ได้หลังจากรู้เรื่องที่ลินลี่ย์ปฏิบัติต่อเจนน์และคีนอย่างไร
ตราบใดที่ลินดอนสามารถเข้าไปใกล้ตัวลินลี่ย์และเพราะนางมีพลังของนักสู้ระดับเก้า นางสามารถลอบเข้าไปใกล้ร่างมนุษย์ของเขา นางจะมีโอกาสถึง 90%ในการฆ่าเขาในสถานการณ์เช่นนั้น
“บางทีเป็นเพราะเขารู้สึกได้ถึงพลังของข้า” ลินดอนส่ายหัว “ลินลี่ย์ผู้นี้ไม่มีความรู้สึกสงสัย ข้าพูดคำว่าอาจารย์ข้าไปเจ็ดคำ แต่เขาก็ยังไม่ถามข้าว่าอาจารย์ข้าเป็นใคร”
ความจริงลินดอนเตรียมแผนไว้เป็นพรวนสำหรับไว้หลอกลินลี่ย์
แม้ว่าลินดอนจะดูเหมือนว่าอายุน้อยมาก แต่ในความเป็นจริงอายุจริงของนางอาจจะมากกว่าเดลิน โคเวิร์ทมากก็ได้ เวลาหมื่นปีที่นางใช้เวลาอยู่ในดินแดนเทพของมหาเทพเจิดจรัสไม่ได้ส่งผลกระทบต่อนางเหมือนกับหลายทศวรรษที่นางใช้ไปที่นี่
…..
“จากบุคลิกและทัศนคติของหญิงสาวผมเงินดูเหมือนจะเป็นเจ้าหญิงที่เจ้าอารมณ์” ลินลี่ย์หงุดหงิด “แต่พลังของนาง...”
ความจริงลินลี่ย์ระแวงกองกำลังของศาสนจักรเจิดจรัสอย่างต่อเนื่อง
เท่าที่ลินลี่ย์กังวลกองกำลังของศาสนจักรเจิดจรัสน่าจะอยู่ใกล้ๆ เขาแล้วในตอนนี้ และตอนนี้นักรบสาวระดับเจ็ดก็โผล่ขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย? แม้ว่าลักษณะของนางจะน่ารักกระตือรือร้น แต่ลินลี่ย์ไม่ยอมเชื่อนางง่ายๆ
ก่อนที่เขาจะเชื่อใครบางคน เขาจะใช้กำลังของพวกนั้นไตร่ตรองก่อน
ถ้านางเป็นสาวน้อยอ่อนแอผู้ไม่มีแรงแม้แต่จะฆ่าไก่ทัศนคติของลินลี่ย์บางทีอาจดีกว่านี้มาก ที่สำคัญต่อให้ท่านให้อาวุธสตรีอย่างนี้ นางก็คงไม่สามารถทำร้ายเขาได้ แต่เด็กสาวผู้นี้แตกต่างออกไป
ถ้านางจู่โจมทำร้ายเขาในระยะใกล้ๆกะทันหัน เป็นไปได้มากว่านางอาจทำร้ายเขาจนบาดเจ็บหนักหรือฆ่าเขาก็ได้
“หรือว่ามือสังหารที่ศาสนจักรเจิดจรัสส่งมาไล่ล่าข้าครั้งนี้จะเป็นเด็กสาวคนนี้?” แต่เมื่อคิดถึงความไร้เดียงสา ความบริสุทธิ์ในดวงตาของเด็กสาวผมเงิน ลินลี่ย์พบว่ายากจะเชื่อ
คืนนั้น
เด็กสาวผมเงินมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้นางเข็นรถอาหารโรงแรมมาอยู่ที่หน้าประตู
“พี่ลีย์ ข้าถือโอกาสทำหน้าที่แทนพนักงานเอาอาหารค่ำมาส่งให้ท่าน” ลินดอนส่งเสียงใสแจ๋วดังมาจากข้างนอก ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อมองดูนาง เขารู้สึกว่าปวดหัว
“เจ้าอีกแล้ว?”
“มีปัญหาอะไรเหรอ?” ลินดอนกระเง้ากระงอด “พี่ลีย์ ข้าเอาอาหารค่ำมาให้ท่าน ดังนั้นท่านสอนการสลักหินให้ข้าได้ไหม? ตกลงนะ”
“ไม่” ลินลี่ย์ปฏิเสธ
“ขี้ตืด” ลินดอนย่นจมูก “เมื่อข้าทำอาหารให้อาจารย์ข้า อาจารย์ของข้าจะทำทุกอย่างให้ข้าเมื่อข้าขอเขา ท่านช่างตระหนี่โดยแท้”
“อาจารย์เจ้าก็คืออาจารย์ของเจ้า แต่ข้าไม่ใช่” ลินลี่ย์ไม่เห็นด้วย
คนแปลกหน้าผู้นี้อย่างน้อยเป็นนักสู้ระดับเจ็ดและบางทีอาจสูงมากกว่านั้น ลินลี่ย์ไม่ยอมให้นักสู้สตรีผู้นี้เข้าใกล้เขาแน่ ขณะที่การสอนวิธีแกะสลักหินให้ใครก็ตามจำเป็นต้องมีการใกล้ชิดเป็นธรรมดา
ที่สำคัญช่วงเวลาอย่างนี้เป็นช่วงเวลาที่เขาคาดว่าศาสนจักรเจิดจรัสจะลงมือต่อเขา
“จำไว้, ข้าไม่ต้องการให้เจ้ามาส่งอาหารค่ำให้ข้าอีก” ลินลี่ย์พูดเย็นชา
ลินดอนสีหน้าเปลี่ยนและจ้องมองลินลี่ย์อย่างไม่พอใจ “เหลวไหล เจ้าไม่รู้หรือว่าเมื่อไหร่มีคนทำดีต่อเจ้า ข้าจะไปฟ้องอาจารย์ของข้าแน่นอน เขาจะมาฆ่าเจ้าถึงที่นี่แน่”
“ฆ่าข้า?” ลินลี่ย์มองดูหญิงสาวมีสีหน้าที่โกรธเคือง
“แน่นอน อาจารย์ของข้าแข็งแกร่งทรงพลังมาก” เด็กสาวผมเงินพูดด้วยความหยิ่งผยอง
“อาจารย์ผู้แข็งแกร่งของเจ้าคือใครกัน?” ลินลี่ย์ถาม
เด็กสาวผมเงินพูดอย่างหยิ่งยโส “ข้าจะบอกเจ้าให้ก็ได้ ชื่อของอาจารย์ของข้าก็คือแฮนด์เซน”
“เซียนกระบี่เลิศปฐพีแฮนด์เซนน่ะหรือ?” ลินลี่ย์สะดุ้ง
ในทั่วจักรวรรดิโอเบรียนถ้าเทพสงครามถูกมองว่าเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่ง อย่างนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่ายอดฝีมือที่สูงสุดเป็นอันดับสองก็คือเซียนกระบี่เลิศปฐพีแฮนด์เซน เซียนกระบี่เลิศปฐพีแฮนด์เซนเป็นเซียนระดับสูงมาหลายปีแล้วและยังไม่เคยพ่ายแพ้ในการประลองฝีมือกับยอดฝีมือระดับเซียนคนใดมาก่อน
เขาเป็นผู้สมบูรณ์พร้อมทั้งในพลังรุกและพลังรับ
นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่เย็นชาและห่างเหินมาก แทบไม่มีอะไรที่สามารถขัดขวางการพัฒนาของเขา ยอดฝีมือระดับเซียนผู้ไร้ตำหนิสมบูรณ์แบบเด่นล้ำเหนือทุกคน ความสมบูรณ์แบบเกินไปของเขาคือเหตุผลที่ทำให้คนอื่นขนานนามเขาว่าเซียนกระบี่เลิศปฐพี
“งั้นตอนนี้เจ้ารู้ตัวแล้วว่าเจ้าสมควรจะกลัวใช่ไหม?” หญิงสาวผมเงินหัวเราะอย่างหยิ่งยโส “แต่ไม่ต้องห่วง ตราบใดที่เจ้าสอนวิธีแกะสลักให้ข้า ข้าจะไม่ฟ้องอาจารย์”
“มิน่าเล่า” ลินลี่ย์มองดูหญิงสาวผมเงิน “ปัจจุบันนี้เจ้าเป็นนักสู้ระดับใด?”
“ระดับแปดแล้ว” สตรีผมเงินพูดด้วยความภูมิใจ “เจ้าคิดจะทำอะไร? ทั่วทั้งจักรวรรดิมียอดฝีมือระดับแปดไม่มากนักหรอกที่อายุน้อยกว่าข้า”
ลินลี่ย์ชำเลืองมองสตรีผมเงิน “แม่นางดันลิน,ท่านกลับไปบอกอาจารย์ท่านได้เลยว่าข้าไม่ยินดีจะสอนแกะสลักหินให้ท่าน ข้าต้องการดูว่าเขาจะมาหาและข้าฆ่าข้ายังไง”
หญิงสาวผมเงินสะดุ้งและจากนั้นอารมณ์นางอ่อนลง นางพูดขอร้อง “พี่ลีย์ข้าขอร้องท่าน แค่สอนข้าหน่อยเถอะนะ?” ขณะที่นางพูด นางเดินเข้ามาใกล้ลินลี่ย์
ลินลี่ย์ถอยตรงๆสามก้าวจนเข้าไปในห้องโถงของเขา
“แม่นางดันลิน ตอนนี้ข้าอยากพัก เชิญเจ้ากลับไปเถอะ” ลินลี่ย์ปิดประตูบ้าน
“ฮึ่ม”
หญิงสาวผมเงินแค่นเสียงจากนั้นเดินจากไป
สองวันต่อมาหญิงสาวผมเงินพยายามทุกวิถีทาง นางซื้อชุดสวยงามมาเป็นของขวัญให้ลินลี่ย์ บางทีก็แกล้งมองลินลี่ย์อย่างน่าสงสาร เหมือนกับว่านางปฏิเสธจะยอมรับความจริงว่าลินลี่ย์จะไม่ยอมสอนวิชาแกะสลักหินให้กับนาง
วันที่สี่
เช้าวันนี้ลินดอนมาที่ลานบ้านของลินลี่ย์อีกครั้งเหมือนกับทุกวันที่ผ่านมา
“พี่ลี่ย์, ตอนนี้ข้าจะไปแล้วนะ” ลินดอนพูดด้วยน้ำเสียงยอมแพ้
ลินลี่ย์มองดูหญิงสาวผมเงินด้วยความประหลาดใจ สามวันที่ผ่านมานี้ ลินลี่ย์อิดหนาระอาใจกับนางจนถึงขั้นปวดหัวทุกทีที่เห็นนาง ยิ่งกว่านั้นลินลี่ย์ยังไม่แน่ใจว่าเด็กสาวคนนี้เป็นใครกัน
หรือว่าจะเป็นคนของศาสนจักรเจิดจรัส?
หรือว่าเป็นศิษย์ของเซียนกระบี่เลิศปฐพีจริงๆ?
แต่ยิ่งเขามีปฏิกิริยาตอบสนองกับลินดอนลินลี่ย์ก็ยิ่งรู้สึกว่าเด็กสาวผมเงินเป็นคนร่าเริงกระตือรือร้น เขาไม่คิดว่านางจะเป็นคนของศาสนจักรเจิดจรัส
“ถ้านางเป็นนักฆ่าของศาสนจักรเจิดจรัส อย่างนั้นข้าคงหวั่นเกรงฝีมือในการแสดงของนางเสียแล้ว” ลินลี่ย์ลอบบอกกับตนเองในใจ
ลินดอนมองลินลี่ย์อย่างจนใจ “พี่ลีย์, ข้าเคารพเทิดทูนอาจารย์ข้าอยู่เสมอ และอาจารย์ข้าก็ชอบงานประติมากรรม ข้าจึงต้องการแกะสลักงานดีๆ ให้ท่าน แต่ท่านกลับไม่ยินดีจะสอนข้า”
“มันไม่มีประโยชน์ ถ้าเจ้าไม่มีเวลาและไม่มีพรสวรรค์เพียงพอ” ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ
ลินดอนตาเป็นประกาย นางรีบพูด “ข้ามีทั้งเวลาและพรสวรรค์”
“เจ้าเป็นจอมเวทสายธาตุดินหรือเปล่า?” ลินลี่ย์ถามทันที
“ไม่” ลินดอนส่ายศีรษะจากนั้นถามด้วยความสงสัย “แล้วนี่เกี่ยวอะไรกับการเป็นจอมเวทสายธาตุดิน?”
ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ “ถ้าเจ้าไม่ใช่จอมเวทสายธาตุดินนั่นหมายความว่าเจ้าไม่มีพรสวรรค์ที่จำเป็นต่อการเรียนงานสลักหินจากข้า” ลินลี่ย์กำลังบอกความจริง การสลักหินของสำนักสิ่วตรง ประติมากรจะต้องเป็นจอมเวทสายธาตุดิน
“ท่านเพิ่งจะแต่งเรื่องขึ้นมา” ลินดอนก้าวเท้าเข้ามาจนห่างลินลี่ย์เพียงนิ้วเดียว “ข้าไม่เคยได้ยินใครพูดมาก่อนว่าการสลักหินจำเป็นต้องเป็นจอมเวทสายธาตุดิน”
“มีหลายอย่างที่เจ้าไม่รู้” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น
ตอนนี้ลินดอนห่างลินลี่ย์อยู่สองเมตร ลินดอนกำลังคำนวณในใจ “ระยะห่างสองเมตร ในร่างมนุษย์ของเขาข้าจะมีพลังมากกว่าลินลี่ย์มาก ข้าน่าจะมีโอกาสฆ่าเขา”
เดิมทีลินดอนต้องการให้ระยะของทั้งสองคนอยู่ใกล้ก่อนที่นางจะลงมือ
แต่ลินลี่ย์ไม่เปิดโอกาสให้นาง
“พี่ลีย์ ข้ารู้ว่าท่านโกหก พี่ลีย์,ข้าอยากจะถามท่านเป็นครั้งสุดท้าย ท่านยินดีจะสอนการสลักประติมากรรมหินให้ข้าได้หรือไม่?” ลินดอนมองดูลินลี่ย์ด้วยนัยน์ตาเต็มไปด้วยความหวัง
ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ
“โอว” ลินดอนก้มหน้าไม่สนองตอบอะไร
แต่ในทันทีนั้นเองลินดอนพุ่งเข้าหาลินลี่ย์ทันที ความเคลื่อนไหวของนางรวดเร็วราวสายฟ้าขณะที่ลินดอนชักมีดสั้นออกมาถือไว้ในมือขวา
สองเมตร พวกเขาอยู่ใกล้กันมาก
แต่ทันใดนั้นประกายแสงสีม่วงประหลาดวาบขึ้น
ลินดอนเพียงรู้สึกเหมือนกับว่าประกายกระบี่สีม่วงกระพริบวาบไปทั่วอย่างต่อเนื่องครอบคลุมมีดและแขนของนาง
“หืม”
ลินดอนปล่อยมีดทันทีขณะที่นางตบฝ่ามือซ้ายใส่ลินลี่ย์
บึ้ม!
ฝ่ามือทั้งสองปะทะกันกันและลินดอนรีบพุ่งมาข้างหน้า แต่ลินลี่ย์เคลื่อนไหวถอยหลังด้วยท่าทางประหลาดในพริบตาก็ถอยไปอยู่ที่กำแพง
“โฮกกกก”
แฮรุและบีบีทั้งสองยืนประกบข้างลินลี่ย์ แต่ก่อนที่แฮรุและอีกฝ่ายจะสามารถโจมตีได้ ลินดอนก็ถอยหนีทันที
“เจ้าต้องการฆ่าข้าใช่ไหม?” ลินลี่ย์จ้องมองลินดอนอย่างเย็นชา
ลินดอนเงยหน้าขึ้น ลินดอนพูดอย่างไม่พอใจ “ลีย์, ฟังนะ, ข้า,ดันลินไม่เคยขอร้องใครมาก่อนในชีวิต ข้าเพิ่งทำไปแล้ว แม้แต่กับอาจารย์ข้า ข้าก็ไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อน สามวันเต็มๆ ข้าพยายามทุกอย่าง ขอร้องให้เจ้าสอนข้า แต่เจ้าปฏิเสธอยู่เรื่อย ดังนั้นจะเป็นยังไงถ้าข้าฆ่าเจ้าเสียในตอนนี้? ยังมีอะไรผิดด้วยหรือ?”
“เหตุผลที่ดื้อด้าน” ลินลี่ย์มองดูลินดอน
ลินดอนยืนอยู่ที่ประตูบ้านพักของลินลี่ย์จ้องมองเขาด้วยความโกรธ “ถ้าเจ้ามีความสามารถก็มาฆ่าข้าได้เลย คนของข้าจะตามมาถึงในไม่ช้า ถ้าเจ้ากล้ารังแกข้า ข้าจะบอกพวกเขา”
ตอนนี้ความปรารถนาจะฆ่าของลินลี่ย์เพิ่มขึ้นมาก
ไม่ว่าเรื่องที่ดันลินผู้นี้จะเป็นศิษย์ของเซียนกระบี่เลิศปฐพีจริงหรือไม่นางก็พยายามจะฆ่าเขาแน่นอน
แต่ลินลี่ย์มีความรู้สึกถึงอันตรายที่แปลกประหลาด
เขาไม่สามารถอธิบายได้ว่ามาจากไหน แต่ความรู้สึกนี้เตือนเขา..อย่าไล่ตามดันลิน ถ้าทำ จะต้องอันตรายมาก
“ฮึ, เจ้าไม่กล้าฆ่าข้าในตอนนี้ใช่ไหม? งั้นข้าจะไปก่อน” ลินดอนผลักประตูบ้านออกไปอย่างหยิ่งยโส จากนั้นเริ่มเดินออกไป ลินลี่ย์ไม่ไล่ตามนางเพียงแต่สั่งลินลี่ย์ในใจให้ดำดินและไปดูว่ามีอะไรข้างนอก
ยามนี้ที่นอกประตูบ้านพักของลินลี่ย์
ยอดฝีมือระดับเก้าอื่นอีกห้าคนรออยู่ด้านนอกประตู พวกเขาประจำตำแหน่งอยู่นานแล้วพร้อมจะร่วมกับลินดอนตั้งพยุหะเทวทูตศึกได้ทุกเมื่อ
เมื่อลินดอนเดินออกมานอกสนาม นางใช้สายตาส่งสัญญาณให้อีกห้าคน
ทั้งห้าคนติดตามลินดอนจากไปอย่างรวดเร็ว
“ฮึ่ม” เมื่อออกจากโรงแรม ลินดอนไม่พอใจอย่างมาก“ถ้าเพียงแต่เจ้าลินลี่ย์ไล่ตามข้ามา เราทั้งหกคนก็จะฆ่าลินลี่ย์ได้ในพริบตา แต่เขายังซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักกับอสูรเวทสองตัวอยู่เคียงข้างเขา ขืนให้เราหกคนวิ่งไล่เข้าไปข้างใน เขาก็สามารถหนีไปได้อย่างแน่นอน”
ลินดอนรู้ดีว่าการฆ่าลินลี่ย์ภายในเมืองหลวงมณฑลไม่ใช่การตัดสินใจที่ฉลาด ที่สำคัญแม็คเคนซี่อยู่ในปราสาทใกล้ๆ ด้วยความเร็วของแม็คเคนซี่เขาอาจบินมาที่นี่ได้ในพริบตา
“ท่านหญิง เราควรจะทำยังไงกันดี?” อีกห้าคนมองดูลินดอน
“ดำเนินการตามแผนต่อไป” ลินดอนกล่าวอย่างเย็นชา “สำหรับการฆ่าลินลี่ย์แบบแลกชีวิต นั่นควรเป็นเงื่อนไขสุดท้าย เอาไว้ใช้ในกรณีที่เราไม่มีทางเลือก” อีกห้าคนพยักหน้า
แม้แต่เทวทูตก็ไม่ยินดีจะโยนชีวิตของพวกเขาทิ้งไปง่ายๆ
“ฮืม?”ทันใดนั้นลินดอนเห็นบุรุษและสตรีคนหนึ่งมีคนคอยคุ้มครองสองสามคน ลินดอนได้เห็นภาพเจนน์และคีนก่อน “ข้ายังไม่ได้ไปหาพวกเขาแท้ๆ แต่พวกเขากลับส่งตัวเองเข้ามาหาข้าเองหรือ?” ริมฝีปากของลินดอนโค้งเป็นรอยยิ้ม