ตอนที่แล้วตอนที่ 8-43  ชุมนุมในเบซิล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 8-45 ลงมืออย่างเลวร้าย

ตอนที่ 8-44 เพื่อนบ้าน


เมืองเอกเบซิลคือฐานที่ตั้งของตระกูลชาร์คมาแต่โบราณกาลแล้ว  ที่นี่อยู่ในมณฑลพายัพ,ในมณฑลพายัพนี้ตระกูลชาร์คถือได้ว่าเหมือนกับเป็นกษัตริย์ประจำท้องถิ่น  ระหว่างที่มีการประชุมตระกูลประจำปีจะมีตระกูลสาขาต่างๆเข้ามายังเมืองเอกของมณฑล

ในเมืองเอกของมณฑลพายัพนี้มีปราสาทที่ใหญ่โตโอฬารและเก่าแก่มาก  นี่คือที่ทำการของตระกูลชาร์ค

วันที่ 14 พฤศจิกายนปี 10008 ตามปฏิทินยูลาน นี่คือวันที่ปราสาทตระกูลชาร์คมักถูกตกแต่งอย่างงดงามประณีตและสว่างไสวอยู่ตลอด  จำนวนของทหารยามเฝ้าประตูเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าเช่นกันเมื่อเทียบกับในอดีต  นอกจากนี้สมาชิกตระกูลสาขาที่มาจากทั่วทุกมุมโลกจะต้องผ่านประตูนี้

“พี่เจนน์,ปราสาทของตระกูลใหญ่กว่าของเราอย่างน้อยก็สิบเท่าเลย” คีนมองผ่านม่านประตูรถม้าด้วยความรู้สึกอัศจรรย์ใจ

รถม้าคันนี้มีคนอยู่สามคนคือคีน ไอรีนและเจนน์

เจนน์จ้องมองประตูเช่นกันนางพยักหน้ากล่าว “ตระกูลมียอดฝีมือมากกว่าของเราเยอะ ข้าสงสัยว่าท่านปู่ทวดคงจะอยู่ที่นั่นเช่นกัน”

ท่านปู่ทวดที่เจนน์พูดถึงก็คือแม็คเคนซี่

แต่ละปีที่จัดงานชุมนุมของตระกูลบางครั้งแม็คเคนซี่ก็เข้าร่วม แต่บางครั้งก็ไม่ร่วม  อย่างไรก็ตามเมื่อสองปีที่แล้ว  แม็คเคนซี่ได้ปรากฏตัวอีกครั้งหนึ่ง ภาพดังกล่าวสร้างความพอใจให้เจนน์และคีนซึ่งมีความปรารถนาจะได้พบเห็นวีรบุรุษที่ทุกคนในตระกูลเทิดทูนบูชา

“เป็นไปได้มาก ไอรีนยังไม่เคยเห็นท่านปู่ทวดเลย” คีนจับมือภรรยา

ขบวนมาถึงปราสาทอย่างรวดเร็วและหยุดชะงัก  เจนน์ คีนและไอรีนรู้กฎกันทุกคน  พวกเขาลงจากรถม้า

“เจนน์!”  เสียงดีใจกระตือรือร้นดังขึ้น

ทันทีที่ได้ยินเสียงนี้เจนน์ขมวดคิ้ว แต่จากนั้นนางก็ฉีกยิ้ม นางหันหน้าไปมองบุรุษหนุ่มผู้ที่ผมเป็นประกาย “พี่อัลเบิร์ต”

“พี่อัลเบิร์ต!”  คีนและไอรีนทักทายอย่างสุภาพ

อัลเบิร์ตดูเหมือนเป็นคนที่มั่นใจในตนเอง  การได้รับการศึกษาตั้งแต่เขาอายุยังน้อยทำให้เขามีกลิ่นอายของตระกูลขุนนางหัวโบราณ  แต่เมื่อดูจากหน้าตาของเขา  ใครๆก็สามารถบอกได้ว่าคนผู้นี้เป็นเสือผู้หญิงสมองกลวง

แต่อัลเบิร์ตเป็นบุตรคนโตที่สุดของประมุขตระกูลชาร์คและจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งคนต่อไป

ประมุขตระกูลในอนาคตของตระกูลชาร์คใครจะกล้าดูถูกอัลเบิร์ตและไม่ให้เกียรติเขาเล่า?

“เจนน์, เจ้ายิ่งโตก็ยิ่งสวยขึ้นทุกปีเลยนะ  คีน ไอรีนอย่าเอาแต่ยืนบื้ออยู่ตรงนี้เลย  เข้ามาเถอะ” อัลเบิร์ตพาเจนน์และคนอื่นเข้าปราสาทอย่างเป็นกันเอง

เพราะการชุมนุมของตระกูลจัดขึ้นในวันที่15 พฤศจิกายน คนจึงมาถึงในวันที่ 14 น้อยมาก คืนวันที่ 14 ปราสาทชาร์คมีชีวิตชีวามากขึ้น

“พี่เจนน์ รู้สึกระอาอัลเบิร์ตอีกแล้วเหรอ?”

คีนเดินมาที่ห้องเจนน์ เมื่อเห็นเจนน์ยืนอยู่ที่หน้าต่างและถอนหายใจ  เขาเดาได้ทันทีว่าเจนน์คิดเรื่องอะไรอยู่

เจนน์หันหน้ามามองน้องชายนาง  นางกล่าวอย่างหงุดหงิด  “อัลเบิร์ตนั้นไม่มีเจตนาที่ดี  แต่ละครั้งที่เราประชุมตระกูล  เขาจะมาคอยเกาะแกะกวนใจข้าหลายวันนี้คงไม่มีทางผ่านไปอย่างราบรื่น”

“พี่” คีนคว้ามือพี่สาวไว้ และพูดในเชิงขอโทษ  “ข้ารู้ว่าเหตุผลเดียวที่พี่ยังไม่ไปพร้อมกับพี่ลีย์เป็นเพราะพี่ต้องการใช้เวลาอยู่กับข้าต่ออีกหลายวัน”

“คีน” เจนน์ลูบศีรษะน้องชายด้วยความรัก  “คีน, เดี๋ยวนี้เจ้าสูงกว่าข้าแล้ว”

คีนก้มหน้าเงียบ

เจนน์ดูแลคีนตั้งแต่พวกเขายังอายุน้อย ตั้งแต่ตอนที่พวกเขามาถึงในสหภาพศักดิ์สิทธิ์  มารดาของพวกเขาก็ป่วยอยู่หลายครั้งครา  ดังนั้นเจนน์จึงต้องดูแลคีนเหมือนที่มารดาทำ

ความรักความผูกพันระหว่างสองพี่น้องนี้ลึกซึ้งมาก

“เจนน์, น้องเจนน์”  เสียงอัลเบิร์ตดังขึ้นอีกครั้ง

เจนน์กับคีนขมวดคิ้วทั้งคู่ ไม่มีร่องรอยความยินดีอยู่ในใบหน้าพวกเขาในตอนนี้เลย  อัลเบิร์ตผู้นี้มักน่ารำคาญและอึดอัดตามพัวพันเหมือนกับงูเหลือม

ในพริบตาอัลเบิร์ตก็มาถึงที่ทางเข้าประตู

“เจนน์, โอวคีน, เจ้าก็อยู่ที่นี่ด้วย” อัลเบิร์ตยิ้มกว้าง  “เจนน์,เรากำลังจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ที่โถงใหญ่ เจนน์, ไปด้วยกันเถอะ  ข้าให้คนจัดเตรียมชุดราตรีที่งดงามไว้ให้เจ้าหลายๆชุดแล้ว”

เจนน์ส่ายศีรษะ  “ไม่จำเป็น, ข้าไม่สบายและรู้สึกเวียนหัว”

“ทำไมเจ้าถึงรู้สึกไม่สบายล่ะ?  ขอข้าดูซิ” อัลเบิร์ตก้าวเข้ามาตั้งใจจะแตะหน้าผากเจนน์  เจนน์ถอยออกไปสองก้าวทันที

คีนหัวเราะคิกคักอยู่ด้านข้าง  “พี่อัลเบิร์ต, พี่สาวข้ารู้สึกไม่สบาย  ปล่อยให้นางพักก่อนเถอะ”

อัลเบิร์ตยืนอึ้งอยู่กับที่ครู่หนึ่งจากนั้นหัวเราะและพยักหน้า  “ก็ได้”  จากนั้นเขาจ้องมองคีน  “คีนเจ้ามากับข้าสักเดี๋ยว  น้องเจนน์ พักผ่อนให้ดีล่ะ,  ถ้ามีอะไรที่เจ้าต้องการก็บอกให้พวกบ่าวทราบด้วย”  เขาทำท่ากับคีน

คีนพยักหน้าจากนั้นเดินตามอัลเบิร์ตออกไป

ภายในสวนดอกไม้

อัลเบิร์ตกับคีนกำลังเดินด้วยกัน  อัลเบิร์ตยังเงียบ และคีนก็ไม่พูดอะไร

หลังจากนั้นเป็นเวลานาน...

“คีน, รู้สึกยังไงบ้างที่ได้เป็นเจ้าเมือง?”  อัลเบิร์ตถามทันที

คีนสะดุ้ง เขาตอบช้าๆ“ก็ดีนะ”

อัลเบิร์ตหัวเราะและพยักหน้า  “แน่นอนว่าดี เจ้าปกครองคนเป็นล้านๆนะคีน เจ้าต้องเข้าใจว่าทั่วทั้งมณฑลพายัพมีเมืองปกครองหลักอยู่เพียงสิบเมือง ตำแหน่งอย่างเจ้าเมืองเป็นที่ต้องการอย่างมาก  คนหลายคนจับตามองตำแหน่งเหล่านั้นตาเป็นมัน  ที่สำคัญคือตระกูลชาร์คเราเป็นตระกูลใหญ่”

ราวกับจะเข้าใจอะไรบางอย่างคีนพยักหน้า

ตระกูลชาร์คเริ่มมีสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง ตามปกติแต่ละรุ่นจะมีจำนวนมากกว่าที่ผ่านมา  ในอดีตเหตุผลที่บิดาของคีนเคานท์เว็ดถือว่ามีความโชคดีพอจึงได้รับตำแหน่งเจ้าเมืองเพราะเขาสนิทมากกับประมุขตระกูลคนก่อน

ความจริงเจ้าเมืองในเมืองต่างๆถูกควบคุมและตัดสินโดยประมุขตระกูลชาร์ค

ที่สำคัญตระกูลชาร์คมีอำนาจบริหารจัดการมณฑลพายัพแต่เพียงตระกูลเดียว

“คีน,เจ้าควรรู้ว่าญาติผู้น้องข้าหลายคนก็โตกันแล้ว อย่างเช่นน้องสามของข้า ตอนนี้เขาเป็นคนสำคัญในกองทัพ คนมากมายเหล่านี้อยากจะเป็นเจ้าเมืองกันทั้งนั้น”  อัลเบิร์ตมองดูคีนด้วยสีหน้าคล้ายยิ้มและไม่ยิ้ม

คีนรู้ว่าอัลเบิร์ตจะพูดอะไร

“และไม่ใช่แค่พี่น้องของข้า  ลุงๆของข้าก็เช่นกัน  ในอดีตพวกเขาไม่สามารถเอาชนะพ่อเจ้าได้  แต่พวกเขาไม่เคยยอมแพ้”

อัลเบิร์ตมองดูคีน  “คีน, ข้าประทับใจในตัวเจ้ามากแต่เจ้าก็ต้องเข้าใจนะว่า  การจะได้บางสิ่งมาก็ต้องมอบบางอย่างออกไป”

คีนยังคงเงียบ

“คีน, เจ้าได้รับตำแหน่งเจ้าเมืองไปแล้ว ใช่,แต่ข้า, คือประมุขตระกูลในอนาคต สามารถทำให้เจ้าสูญเสียมันไปได้เช่นกัน”

“พี่อัลเบิร์ต พูดความต้องการของท่านออกมาตามตรงดีกว่า” คีนฝืนยิ้มเต็มหน้า

อัลเบิร์ตหัวเราะ  “ฮ่าฮ่า, เจ้าคือญาติผู้น้องของข้าจริงๆ  แน่นอน ข้าไม่บังคับเจ้าให้ทำอะไรแน่ ข้าแค่หวังว่าในอนาคตเราจะมีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น  ตัวอย่างเช่นเจ้าสามารถยกพี่สาวเจ้าให้แต่งงานกับข้า เจ้าคิดว่ายังไงบ้าง?”

คีนรู้สึกโกรธ

เขารู้ความตั้งใจของอัลเบิร์ตมานานแล้ว  สุภาพสตรีที่อ่อนโยนงดงามมีคุณธรรมอย่างเจนน์โดยเฉพาะหลังจากเริ่มฝึกเวทธาตุน้ำแล้วกลับขัดเกลาจนนางมีเสน่ห์มากขึ้น

อัลเบิร์ตลุ่มหลงนางมาตลอดเวลาช่วงนี้

แต่อัลเบิร์ตอายุสามสิบปีแล้วและมีภรรยาสามคน  ถ้าพี่สาวของคีนแต่งงานกับเขา นางก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าภรรยาน้อยคนหนึ่งเท่านั้น

นอกจากนี้พี่สาวของเขากำลังติดตามลินลี่ย์

“พี่อัลเบิร์ต ข้าบอกท่านไปแล้วว่าในอดีตพี่สาวข้ามีคนที่นางชอบอยู่แล้ว”  คีนตอบอย่างจนปัญญา

“ตลกน่ะ” อัลเบิร์ตแค่นเสียง  “คีนถ้าพี่สาวเจ้ามีคนที่นางชอบ ทำไมนางถึงยังไม่แต่งงาน?  และถ้านางชอบใครคนหนึ่ง  เราก็แค่ส่งคนไปฆ่าเขาก็สิ้นเรื่อง”

อัลเบิร์ตต้องการเจนน์มานานแล้ว  ไม่เพียงแต่นางงดงามเท่านั้น  นางยังเป็นจอมเวทคนหนึ่ง  หลังจากที่คนๆ หนึ่งฝึกเวทอายุของพวกเขาจะยืนยาวขึ้น มีแนวโน้มว่าแม้เมื่อนางจะอายุถึงหกสิบหรือเจ็ดสิบปี  เจนน์ก็ยังคงดูเหมือนสุภาพสตรีอายุสามสิบ อัลเบิร์ตย่อมต้องการได้ภรรยาอย่างนี้เป็นธรรมดา

“ท่านไม่สามารถฆ่าเขาได้  คนที่พี่สาวข้าชอบเป็นยอดฝีมือระดับเก้า”  คีนปั้นเรื่องในใจ

“นักสู้ระดับเก้า?”  อัลเบิร์ตไม่พอใจ

นี่เป็นเรื่องลำบาก  ถ้าปัจจุบันเขาเป็นประมุขตระกูล เขาสามารถใช้ทหารที่แข็งแกร่งของตระกูลออกไปฆ่ายอดฝีมือระดับเก้าก็ย่อมได้  แต่เขาเป็นเพียงผู้สืบทอด  คนที่อยู่ในมือของเขามีค่อนข้างจำกัด ทั้งพวกเขาก็ไม่ได้แข็งแกร่งมาก

“คีน, จะให้ดีที่สุด เจ้าอย่าโกหกข้าก็แล้วกัน”  อัลเบิร์ตจ้องคีนอย่างเย็นชา

คีนคำนับเล็กน้อย  “พี่อัลเบิร์ต ข้าย่อมไม่โกหกแน่นอน พี่สาวข้าชอบเขา เรื่องนั้นข้าทำอะไรไม่ได้  พี่อัลเบิร์ต ข้าไม่รบกวนท่านอีกต่อไปแล้ว ขออำลา”

อัลเบิร์ตแค่นเสียงเย็นชาจ้องมองดูคีนเดินจากไป

“ห้าปี” อัลเบิร์ตจ้องมองตำแหน่งห้องของเจนน์ “ครั้งนี้ ข้าจะไม่ปล่อยให้เจนน์หลุดมือไปอีกอย่างแน่นอน  ดังนั้นต่อให้เขาเป็นยอดฝีมือระดับเก้าแล้วไงเล่า? เขากล้ารุกรานตระกูลชาร์คหรือ?” นัยน์ตาของอัลเบิร์ตดุร้ายเหมือนหมาป่า

วันที่ 15ลินลี่ย์ไปที่ทำการหอการค้าดอว์สันแต่เช้าตรู่ เขาใช้ป้ายตราแสดงสถานะผู้อาวุโสส่งคนไปที่หมู่บ้านยอดเมฆเพื่อแจ้งซาสเลอร์และคนอื่นว่าเขาจะไปถึงล่าช้าหน่อย

และจากนั้นลินลี่ย์พักอยู่เงียบๆในโรงแรมไนล์

มีเรือนเกินกว่าสิบหลังอยู่ที่โรงแรมไนล์ทั้งหมดมีขนาดสูงและสร้างปล่องไฟไว้ ลินลี่ย์พักอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง

ภายในลานบ้านของเขาลินลี่ย์เพิ่งเสร็จงานแกะสลักและจากนั้นเขาเริ่มควงดาบหนักอดาแมนเทียมด้วยความพอใจ

บีบีและแฮรุทั้งสองพักอยู่บนพื้นอย่างเกียจคร้าน

หลังจากฝึกด้วยดาบหนักมาสักพักลินลี่ย์ก็หยุด ทันใดนั้นเขาเกิดความคิดในใจ “เป็นเวลาหนึ่งปีแล้วตั้งข้าถึงระดับแปดชั้นสูง ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ ข้ามักจะมีความรู้สึกว่าข้าสามารถบรรลุระดับใหม่ได้  แต่เพราะเหตุผลบางประการ ยังมีส่วนพลาดเล็กๆน้อยๆ บางอย่าง”

สำหรับคนธรรมดาการจะบรรลุจากระดับแปดชั้นสูงเป็นระดับเก้าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

แต่สำหรับสุดยอดนักรบ  ความแตกต่างระหว่างระดับทั้งสองนั้นยิ่งใหญ่มาก  เมื่อเข้าสู่ระดับเก้า  ลินลี่ย์ในร่างมังกรแปลงจะเป็นนักสู้ระดับเซียน

“ข้าไม่อาจเร่งเกินไปได้  ความเร็วในการฝึกฝนของข้าก็นับว่าเร็วมากอยู่แล้ว”  ลินลี่ย์ยังคงสงบเมื่อจ้องไปทางทิศใต้ลินลี่ย์เริ่มคิดถึงเรื่องราวของวอร์ตันน้องชายของเขาอีกครั้ง “เมื่อข้าบรรลุระดับเก้า  ข้าจะไปยังเมืองหลวงเพื่อพบกับน้องชาย  ข้าไม่ได้พบวอร์ตันมาเป็นเวลานานแล้ว”

ตั้งแต่วอร์ตันจากบ้านไปเมื่อเขาอายุหกปีมุ่งสู่จักรวรรดิโอเบรียนพร้อมกับพ่อบ้านแอชลี่ย์สองพี่น้องก็ไม่เคยพบกันอีกเลย

ตอนนี้วอร์ตันอายุยี่สิบสองปีแล้ว อีกเดือนหนึ่งเขาจะอายุยี่สิบสามปี

“หืม?” ทันใดนั้นลินลี่ย์หันไปมองที่ลานกำแพง

บ้านเดี่ยวดำเนินกิจการโดยโรงแรมอยู่ใกล้กันทั้งหมดและจะมีที่ดินกั้นแบ่งไว้ เวลานี้ในบ้านหลังที่ติดกับลินลี่ย์ มีคนเช่าพักอยู่และคนผู้นั้นปีนกำแพงและแอบมองมาทางตำแหน่งนี้

แขกที่เข้าพักนี้เป็นสุภาพสตรีที่น่ารักมาก  ดวงตาที่กระจ่างของนางจ้องมาทางลินลี่ย์ แต่สายตานางจับจ้องอยู่ที่เสือดำเมฆาที่อยู่บนพื้น

“โหว, เสือดำอะไร ตัวใหญ่จัง” สุภาพสตรีผู้นั้นกระโดดข้ามกำแพงมาอย่างคล่องแคล่วและวิ่งตรงมาที่แฮรุ

“อย่าแตะต้องเขา”  ลินลี่ย์ตะโกนทันที

หญิงสาวนั้นชะงักทันทีนางยิ้มและหัวเราะให้ลินลี่ย์  “พี่ชายข้าไม่เคยเห็นเสือดำที่ตัวใหญ่และน่ารักอย่างนั้นมาก่อน  ขอแตะหน่อยได้ไหม?”

สุภาพสตรีผู้นี้มีผมสีเงินและดวงตาของนางทอประกายปัญญา นางยิ้มเต็มหน้า  แต่นางชุดที่นางสวมเป็นชุดนักรบหญิง

ลินลี่ย์ประเมินเด็กสาวผมเงินผู้นี้

พลังของนักรบยากจะประเมินได้แค่การมอง แต่ลินลี่ย์สามารถบอกได้จากราศีของเด็กสาวนี่ว่านางอย่างน้อยเป็นนักรบระดับเจ็ดหรืออาจสูงมากกว่านั้น

“แฮรุไม่ชอบให้คนอื่นแตะต้อง”  ลินลีย์พูดอย่างใจเย็น

เด็กสาวผมเงินอดทำกระเง้ากระงอดมิได้นางเชิดจมูกใส่ขณะทำท่าไม่พอใจ “ฮึ, ข้าไม่เชื่อเจ้าหรอก,อสูรเวทของอาจารย์ข้ายังยอมให้ข้าแตะต้องได้บ่อยๆ เลย” สตรีผมเงินวิ่งเข้าไปหาแฮรุ

“โฮกกกก”แฮรุยืนขึ้นทันทีขณะที่มันแยกเขี้ยวใส่เด็กสาวผมเงินอย่างเย็นชา

เด็กสาวผมเงินสะดุ้งทันที  นางถอยออกไปสองก้าว

“ข้าบอกเจ้าแล้ว แฮรุไม่ชอบให้ใครแตะต้อง  พอเถอะ เจ้ากลับไปที่ของเจ้าได้แล้ว”  ลินลี่ย์ขอให้นางจากไป

หญิงสาวผมเงินยิ้มยั่วยวนให้ลินลี่ย์  “อาจารย์ของข้าบอกข้าว่าอสูรเวทประเภทเสือดำน่ากลัวมาก  อย่างนั้นพี่ชาย  ท่านก็ต้องแข็งแกร่งมากเช่นกัน  ข้าขอซ้อมมือกับท่านได้ไหม?”

“ซ้อมมือ?” ลินลี่ย์ไม่ชอบให้ชีวิตของเขาต้องถูกคนอื่นรบกวน

“ข้าขอแนะนำตัวเองก่อน  ข้าชื่อดันลิน”  หญิงสาวผมเงินพูดพร้อมกับยิ้มน่ารัก

“เจ้าเรียกข้าว่าลีย์ก็ได้  แต่ข้าไม่มีเวลาให้เจ้า  ตอนนี้เจ้ากลับไปได้แล้ว”  ลินลี่ย์ยังคงพูดอย่างเยือกเย็น สำหรับเด็กสาวที่อย่างน้อยเป็นนักสู้ระดับเจ็ด  นางไม่โผล่ออกมาง่ายๆ เป็นแน่

เด็กสาวผมเงินทำท่างอนอย่างช่วยไม่ได้  “โอว เข้าใจแล้ว”และจากนั้นนางหันหลังจากไป แม้ว่าใจนางจะเต็มไปด้วยความหงุดหงิด “ลินลี่ย์ผู้นี้เย็นชาจริงๆ จะเข้าใกล้เขาเป็นเรื่องยาก แต่ข้าไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แน่ ถ้าข้าสามารถฆ่าเขาได้ง่ายๆ ข้าก็จะทำ”

เด็กสาวผมเงินผู้นี้ก็คือลินดอน

แต่ว่ากันในเรื่องของอารมณ์ลินดอนเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ในอดีตนางเป็นเทวทูตที่เย็นชา แต่ตอนนี้นางกลับกลายเป็นน่ารักกระตือรือร้น  ต้องยอมรับว่าฝีมือในการแสดงของนางนั้นเข้าขั้นน่ากลัวจริงๆ

“โอว, พี่ลีย์ ท่านเป็นประติมากรหรอกหรือ?” ลินดอนมองดูรูปสลักที่ลินลี่ย์เพิ่งสลักเสร็จและวิ่งมาดูด้วยความตื่นเต้น  นางจ้องมองดูอย่างมีความสุข  “อาจารย์ของข้าชอบรูปแกะสลักแต่เขาไม่รู้วิธีแกะสลักด้วยตนเอง” ขณะที่นางกล่าว ลินดอนตรวจดูรูปแกะสลักด้วยความอยากรู้เป็นอย่างมาก

ลินลี่ย์ขมวดคิ้วไม่พอใจ

เด็กสาวผมเงินผู้นี้น่ารำคาญจริงๆ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด