ตอนที่ 224 – ตอนที่ 206 มารดาผู้ลึกลับ
เย่ว์หยางกังวลว่าตระกูลเซี่ยจะโต้ตอบทันทีเมื่อพวกเขาได้ทราบข่าว และมุ่งแก้แค้นไปที่แม่สี่และเด็กหญิง
ดังนั้น เย่ว์หยางรีบกลับมาที่เมืองไป๋ฉือ
สมบัติต่างๆ ที่บ้านของเขาว่างเปล่าไปแล้ว แม่สี่และเด็กหญิงน้อยจากไปแล้วพร้อมกับคนของอาจารย์จิ้งจอกเฒ่า มีแต่เพียงผู้สูงอายุไม่กี่คนอยู่เฝ้าบ้าน เย่ว์หยางรู้แต่เพียงว่าผู้สูงอายุเหล่านี้ความจริงเป็นสมาชิกครอบครัวของสาวๆ ร้านสุราหลังจากขอให้พวกเขาแสดงตนเอง พวกเขามีอายุแล้วและยังหวงแหนเวลาครั้งเก่าอยู่ ดังนั้นพวกเขาไม่ยินดีจะไปจากเมืองไป๋ฉือไปอยู่ฉางจิง ดังนั้นพวกเขาอาสารั้งอยู่ช่วยเย่ว์หยางดูแลที่พักน้อยแห่งนี้ ตอนแรกเย่ว์หยางอยากจะปลอบใจพวกเขา แต่คำพูดทั้งหมดของเขามาจุกอยู่ที่คอ เขาไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี
ในที่สุด เขากับสามสาว องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน, เย่ว์ปิงและเย่ว์หวี่ไปเดินดูตลาดในเมือง พวกนางซื้อของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันและมอบให้ผู้สูงอายุเหล่านั้นเป็นการตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ เท่าที่จะทำได้
แม้ว่าอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าจะมอบเงินให้พวกเขาพอที่จะใช้ได้อย่างสะดวกสบายในชีวิต ผู้สูงอายุนั้นก็ยังรับของใช้อย่างมีความสุข
สิ่งที่พวกเขาต้องการก็คือการแสดงความสนใจและห่วงใยพวกเขาโดยไม่สนเรื่องสิ่งของ
เย่ว์หยางเตรียมกลับไปที่ปราสาทตระกูลเย่ว์เพื่อดูว่า ตระกูลเซี่ยมีความเคลื่อนไหวอะไรไหม? เข้าต้องการแจ้งให้ผู้เฒ่าเย่ว์ไห่ทราบเรื่องนี้เช่นกัน
คงเป็นเรื่องแย่ ถ้าตระกูลเซี่ยได้บุกโจมตีจนมาถึงหน้าประตูและตระกูลเย่ว์ก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ก่อนจะจากมา เย่ว์หยางมองดูผู้สูงอายุ 2-3 คนที่ส่งพวกเขา และพูดว่า “ชีวิตของแม่สี่และน้องสาวของข้าสามารถช่วยไว้ได้เพราะพวกพี่สาวร้านสุราเสี่ยงชีวิตช่วยไว้ จากนี้ไปพวกนางทุกคนคือพี่สาวของพวกเรา และพวกท่านทุกคนก็คือญาติผู้ใหญ่ของพวกเรา อยู่ในที่นี้ได้ตามสบายเลย นึกเสียว่าเป็นบ้านของพวกท่าน”
พอได้ยินเช่นนี้ น้ำตาไหลนองแก้มผู้เฒ่าทันที
แม่เฒ่าที่เป็นผู้นำพยักหน้าอย่างเร็ว กล่าวเสียงสะอื้นว่า “อย่าห่วงเลย คุณชาย, เราคนแก่กระดูกผุ ดูแลกันเองได้ ขอให้คุณชายและคุณหนูรักษาตัวให้ดี!”
หลังจากออกจากเมืองไป๋ฉือมาแล้ว ทั้งสามนางนัยน์ตาแดงระเรื่อ เย่ว์หวี่เต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจและสะเทือนใจถึงกับเช็ดน้ำตาของนาง
ลูกสาวของผู้สูงอายุเหล่านี้ต้องเสียสละชีวิตกันทุกคนเพื่อตระกูลเย่ว์ พวกเขาก็ยังไม่ขออะไรตอบแทน
เมื่อจุนอู๋โหย่วฮ่องเต้เสนอให้พาพวกเขากลับมาที่ฉางจริงใช้ชีวิตบั้นปลายที่สงบสุขอีกหลายปี พวกเขาปฏิเสธและขออยู่ดูแลสถานที่นี้แทน…
เมื่อเย่ว์หยางและคนอื่นกลับมาที่ปราสาทตระกูลเย่ว์อีกครั้ง เย่ว์หยางไม่พบเห็นแม่สี่
นางและน้องสาวคนเล็กของเขาถูกส่งตัวไปอาศัยอยู่ในที่ลับแห่งหนึ่งโดยอาจารย์จิ้งจอกเฒ่า ไม่มีผู้ใดรู้ว่าพวกนางถูกส่งตัวไปที่ใด
รักษาการประมุขตระกูลเย่ว์ซานก็ไม่อยู่แถวๆ นั้น และลุงรองเย่ว์หลิ่งก็ไม่อยู่อีกด้วย ผู้เฒ่าเย่ว์ไห่ไปส่งแม่สี่ให้พักในที่สันโดษด้วยตัวท่านเองและยังไม่ได้กลับมา เย่ว์หยางลอบวิตก เพราะตระกูลเย่ว์ว่างเปล่า หากว่ายอดฝีมือจากตระกูลเซี่ยบุกใส่พวกเขา ใครจะป้องกันปราสาทไว้ได้?
แม้จะมี 12 ผู้อาวุโส และ 3 ผู้เฒ่าที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการดำเนินกิจการของครอบครัว และพวกท่านก็อายุมากกันแล้ว
สำหรับพวกที่เหลือ เย่ว์หยางจัดการได้และกำจัดพวกเขาสองคนได้
ถ้ายอดฝีมือระดับ 7 สองคนจากตระกูลเซี่ยลงมือและโจมตีพวกเขาจริงๆ เย่ว์หยางคาดการณ์ว่าปราสาทตระกูลเย่ว์คงจบสิ้นจริงๆ ขณะที่สนามรบคงมีซากศพกระจายเกลื่อนทุกที่ พื้นนองไปด้วยเลือดเหลือธงโบกสะบัดอยู่ในสายลม
เย่ว์เทียนและเย่ว์เยี่ยนกลับมาบ้าน แต่พวกเขารอให้หุ่นกลของตระกูลพร้อมใช้งาน เนื่องมาจากการสูญเสียครั้งใหญ่ของพวกเขาในการทดสอบความสามารถ ถ้าพวกเขาไม่ได้พึ่งพาอสูรหุ่นเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ของพวกเขาไว้ พวกเขาจะพ่ายแพ้การแข่งขันประลองสุดยอดร้อยโรงเรียนอย่างแน่นอน สำหรับพวกเขาแล้ว มักจะติดอยู่ในสิบอันดับแรกเสมอ นี่คือสิ่งที่พวกเขาไม่เคยยอมรับ เมื่อเย่ว์หยางกลับมา ปกติพวกเขาจะหลบเลี่ยงเขา ไม่ยอมไปกระตุ้นโทสะเจ้าตัวร้ายผู้นี้ เย่ว์หวี่กับเย่ว์ปิงยังคงให้ความเคาเรพผู้อาวุโสหญิงในตระกูล เมื่อพวกนางกลับมา พวกเขาก็นำข่าวร้ายมาบอก ดูเหมือนว่าอาการป่วยของอาสี่ย่ำแย่ยิ่งขึ้น ดังนั้นแม่นางเฟิงจึงพาอาสี่กลับมาที่ตระกูลเฟิง
เย่ว์หยางถึงกับสับสน ก็พวกเขาบอกว่าอาการของอาสี่ดีขึ้นแล้วไม่ใช่หรือ?
ทำไมตอนนี้ถึงได้ย่ำแย่อีกเล่า?
“จะเป็นยังไง ถ้าเราจะไปที่นั่นและดูว่าจริงๆ แล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” เย่ว์หยางมีความรู้สึกตะหงิดว่ามีบางอย่างผิดปกติ มีคนลักพาตัวแม่สี่ และขณะที่พวกเขาช่วยนางกลับมา อาการของอาสี่ก็ย่ำแย่ขึ้น มันเป็นเรื่องบังเอิญเกินไป
“เราไปดูกันเดี๋ยวนี้เลย บางทีเราอาจจะช่วยพวกเขาได้บ้าง” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรู้ว่าเย่ว์หยางมีสารานุกรมยาอยู่เล่มหนึ่ง แม้ว่ามันอาจจะยังช่วยไม่ได้ แต่ก็น่าจะลองเสี่ยงโชคดู ที่สำคัญที่สุด อาสี่ยอมเสียความพยายามจับจ่ายเงินเพื่อซื้อยาปลุกพลังวิญญาณสัตว์อสูรเพื่อเย่ว์หยาง เย่ว์หยางควรจะไปเยี่ยมท่าน นี่คือธรรมเนียมที่บุตรผู้น่ารักพึงประพฤติกัน สิ่งที่ทำให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกังวลก็คือเย่ว์หยางกับเย่ว์ปิงตกตะลึงอย่างหนักเมื่อได้ทราบข่าวร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งนางห่วงเย่ว์ปิงที่ไม่สามารถจะอดทนได้แน่นอน
ม้าของพวกเขาวิ่งไม่ได้หยุดพัก ขณะที่พวกเขาเดินทางไปที่พักของเหอหยางเฟิง
ที่พักของเหอหยางเฟิงไม่ใหญ่เท่ากับปราสาทตระกูลเย่ว์ แต่ที่พักของพวกเขาก็ยังถือว่าใหญ่มาก พวกเขาถือได้ว่าเป็นตระกูลที่ทรงเกียรติและโดดเด่นในพื้นที่
ประมุขตระกูลเฟิงเชื้อเชิญเย่ว์หยางและคนอื่นๆ เข้าไปที่ห้องโถงรับแขกทันทีเมื่อได้ทราบว่าพวกเขามาถึง หลังจากพูดคุยทักทายอย่างอารมณ์ดีแล้ว เขาดึงเย่ว์หยางมาคุยข้างๆ
เย่ว์หยางไม่เข้าใจว่าทำไมผู้เฒ่าท่านนี้จึงต้องทำแบบนี้ มีเรื่องอะไรที่เขาไม่สามารถพูดได้ต่อหน้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและคนอื่นหรือ? เมื่อเขาตามประมุขตระกูลเฟิงเข้าไปภายในห้องโถง ดูเหมือนว่าชายชราจะถอนหายใจทันที เหมือนกับว่าเขามีเรื่องลำบากใจ
“ท่านประมุขตระกูลเฟิง ถ้าท่านมีอะไรอยากบอก ไม่ต้องลังเลใจ โปรดบอกผู้เยาว์ได้เลย” เย่ว์หยางยังไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วชายชราผู้นี้ต้องการพูดอะไรกันแน่
“เจ้าเป็นผู้เยาว์รุ่นหลัง ดังนั้นในความเป็นจริง ข้าไม่ควรจะบอกเจ้าเรื่องนี้ มันก็แค่นั้น ไม่สิ.. เจ้าเป็นกุลบุตรจากครอบครัวที่สี่ ดังนั้น ข้ายังจะต้องบอกกับเจ้า!” ประมุขตระกูลเฟิงชี้บอกให้เย่ว์หยางนั่ง ขณะที่เขาพึมพำเบาๆ จากนั้นเขาจึงเริ่มพูด “เรื่องแบบนี้ ลากยาวกันนานเกินไปแล้ว กลับไปกลับมา ข้าคิดว่าเจ้าคงจะคาดเดาในใจได้บ้างเล็กน้อยแล้ว… ธิดาของข้าและอาสี่ของเจ้าต่างก็มาถึงขีดจำกัดของพวกเขากันแล้ว ดูเหมือนว่าพวกเขาจะอยู่ได้อีกไม่นานนัก…”
“ว่าไงนะ?” เย่ว์หยางตกใจมากถึงกับลุกขึ้นยืนทันที
“เฮ้อ.. เราประมาทเลินเล่อเกินไป เราตกเข้าไปอยู่ในแผนการของศัตรูและเมื่อเราเข้าใจแผนนั้นได้ในที่สุด ทุกอย่างก็สายเกินไปแล้ว” สีหน้าของประมุขตระกูลเฟิงเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ขณะที่เขาถอนหายใจยาว
“เมื่อก่อนนี้ท่านเคยบอกว่าอาสี่อาการดีขึ้นไม่ใช่หรือ?” เย่ว์หยางไม่อาจเชื่อหูตนเองได้เลยจริงๆ ก่อนหน้านี้ พวกเขาบอกว่าอาสี่อาการดีขึ้น แต่ทำไมพวกเขากลับบอกข่าวสะเทือนใจในตอนนี้?
“ใช่แล้ว พวกเราทุกคนคิดว่าอาสี่ของเจ้าจะดีขึ้น แต่เราไม่เคยคิดเลยว่าศัตรูจะใช้พิษถึงสองชนิดกับอาสี่ของเจ้า ไม่ใช่ชนิดเดียว พิษชนิดแรกคือพิษของผึ้งจักรพรรดิ พิษชนิดนี้มีผลต่อการข่มพิษชนิดที่สองเอาไว้ พิษร้อยหนอน เมื่อพิษผึ้งจักรพรรดิเริ่มหายไป พิษร้อยหนอนที่ถูกข่มไว้จึงเริ่มแสดงผล พิษชนิดนี้จะไม่แสดงอาการรุนแรงใดๆ ในตอนแรก แต่เมื่อใดที่ผู้เคราะห์ร้ายหลับ พิษก็จะส่งผลเป็นทวีคูณทันทีที่พวกเขาหลับ…. นอกจากนี้ เจ้าคงรู้แล้วว่าอาสี่ของเจ้าหลับมามากแล้วเพราะเขาจำเป็นต้องพัก พิษได้แพร่กระจายไปยังหัวใจของเขาแล้ว ไม่มียาที่จะรักษาเขาได้ แผนของศัตรูคิดไว้อย่างรอบคอบมาก ตอนนี้ แม้คิดว่าเรารู้จักพิษที่ทำอันตรายอาสี่ของเจ้า แต่เราก็ไม่สามารถรักษาเขาได้เลย” ประมุขตระกูลเฟิงถอนหายใจ ขณะที่เขานั่งอยู่ข้างเย่ว์หยาง สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
พิษร้อยหนอน เย่ว์หยางเคยเห็นมันในสารานุกรมยาของเขามาก่อน เขารู้ว่ามันเป็นพิษสังหารชนิดเงียบ
ตอนแรกเมื่อมันเข้าสู่ร่างกาย ผลกระทบของพิษยังเล็กน้อยมาก
อย่างไรก็ตาม มันสามารถทวีความรุนแรงและแทรกซึมเข้าในร่างกายของเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
ตราบใดที่ผู้เคราะห์ร้ายยังไม่รู้ตัว มันจะแพร่กระจายไปทั่วตัวผู้เคราะห์ร้ายอย่างรวดเร็ว เมื่อผู้เคราะห์ร้ายไม่ได้สติหรือนอนหลับ พิษจะกระจายตัวเร็วเป็นทวีคูณ ในที่สุดก็จะแข็งเหมือนหนอนแข็งและตายไป พิษชนิดนี้ไม่ได้มีอยู่ในทวีปมังกรทะยานแต่แรก แต่เมื่อไม่กี่พันปีมานี้ จักรพรรดิต้าเซี่ยพระองค์หนึ่งสวรรคตจากพิษชนิดนี้ ร่างของพระองค์แข็งไปทั้งตัว หลังจากนักสู้ปราณก่อกำเนิดร่วมกันสืบหาสาเหตุการสวรรคตของจักรพรรดิ ในที่สุดพวกเขาก็รู้ได้ว่าเป็นพิษชนิดนี้
กล่าวกันว่าพิษร้อยหนอนนี้จำเป็นต้องใช้สมองของคนร้อยคนเพื่อผลิตออกมา ปรสิตหลายร้อยตัวจะถูกฝังอยู่ในสมอง จากนั้นปรสิตก็จะกินกันเองจนเหลืออยู่เพียงตัวเดียว ปรสิตตัวนั้นจะเรียกกันว่าจ้าวปรสิต
จากนั้นจ้าวปรสิตจะต้องได้รับการบ่มเพาะในเลือดปีศาจ, น้ำลายมังกร, พิธีกรรมหมอผีและอื่นๆ นอกจากนี้ยังต้องกลั่นด้วยวิธีพิเศษที่เป็นความลับก่อนที่จะถูกบดเป็นผง
ทันทีที่ผงนี้ถูกนำไปใช้งาน ผู้เคราะห์ร้ายจะต้องทนทุกข์ทรมานจากพิษร้อยหนอน
พิษร้อยหนอนนี้ น่าจะเป็นหนึ่งในพิษจำนวนเป็นร้อยที่นิกายพันปีศาจมี มันอ่อนแอในช่วงระยะฟักตัวที่นานของมัน ระยะฟักตัวของมันอาจกินเวลานานสองปี ทอดเวลานานไป ปริมาณของพิษก็จะเพิ่มจำนวนขึ้น
เย่ว์หยางรู้จักมันก็เกือบปีมาแล้ว นับแต่อาสี่ต้องพิษ
“แม้ว่าพิษร้อยหนอนจะเป็นหนึ่งในร้อยพิษชั้นยอด แต่ก็ต้องมีทางแก้สักทางสิ…” เย่ว์หยางจำได้จากสารานุกรมยาว่ามียาชนิดหนึ่งที่สามารถต้านทานผลกระทบของพิษได้ ถ้าเขาสามารถเอายานั้นมาได้ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถรักษาอาสี่ได้เต็มที่ แต่เขาเชื่อว่าเขาจะสามารถช่วยชีวิตอาสี่ไว้ได้ ยังมีทางอื่นที่ช่วยอาสี่ได้ และนั่นก็คือสังหารคนที่บ่มเพาะปรสิตนี้มา มีนางพญาปรสิตพันพิษอยู่ในตัวของคนผู้นั้น ถ้าเขาสังหารคนผู้นี้ จากนั้นผลของพิษร้อยหนอนก็จะอ่อนลง… โดยปกติ คนที่บ่มเพาะปรสิตจะมียาเม็ดปรสิตในตำนาน แม้ว่าสารานุกรมยาจะไม่ได้ระบุว่ายาปรสิตในตำนานมีผลต่อพิษร้อยหนอน เย่ว์หยางตัดสินใจลองเสี่ยงโชคดูก่อน
“เจ้าพูดถึงเฟิร์นกระดูกผุน่ะหรือ?” ประมุขตระกูลเฟิงถอนหายใจอีกครั้ง “สถานที่ซึ่งเฟิร์นกระดูกผุงอกขึ้นในโลกนี้ ได้ถูกคนบางคนทำลายไปแล้ว สาวกของนิกายครอบจักรวาลหลายสิบคนผู้เก็บรวบรวมสมุนไพรถูกกำจัดหมดสิ้น ข้อมูลที่พวกเขาเก็บเอาไว้ถูกปล้นไปหมด รวมทั้งเฟิร์นกระดูกผุด้วย ขณะที่ครอบครัวชาวแม้วที่ข้าสนิทกับพวกเขา ก็มีผู้อาวุโสของพวกเขาถูกฆ่าตาย และยาปริสิตที่พวกเขาตกทอดกันมาหลายชั่วคนถูกชิงเอาไป แม้แต่ศพของพวกเขาก็ถูกศัตรูเผา ถ้าไม่ใช่เพราะข้าอับจนหนทางอย่างนี้ ทำไมข้าถึงจะต้องรู้สึกด้วยว่าทำอะไรไม่ได้? คนชราต้องเห็นผู้เยาว์เสียชีวิตจากไป นับเป็นชีวิตที่ขมขื่นจริงๆ!”
“ทำไมศัตรูถึงได้ทำอย่างนี้กับอาสี่?” เย่ว์หยางสับสนหนัก อาสี่เป็นคนธรรมดา ไม่มีอำนาจอะไรเลย ทำไมศัตรูต้องทำกับเขาด้วย
นอกจากนี้ยังมีแม่สี่ จริงๆ แล้วนางมีสถานะเช่นใดกันแน่?
เย่ว์หยางตระหนักว่า เรื่องนี้เป็นแผนการใหญ่ ศัตรูได้วางแผนไว้แล้ว รวมทั้งการถอนหมั้นของสหายผู้น่าสงสารจนต้องไปโดดน้ำตาย ซุ่มทำร้ายและวางยาพิษอาสี่ และลักพาตัวแม่สี่ ต้องมีแผนใหญ่ตรงนี้แน่ มีคลื่นใหญ่ภายใต้ทะเลที่สงบ มีแอ่งน้ำวนที่ลึกไม่เห็นก้นที่มองไม่เห็น
ประมุขตระกูลเฟิงหยุดขณะที่เขามองไปที่เย่ว์หยาง ทันใดนั้นเขาพูดบางอย่างที่ทำให้เย่ว์หยางประหลาดใจ “บางทีศัตรูสงสัยว่าบิดามารดาของเจ้าไม่ได้ตายจริงๆ และคอยปกป้องตระกูลเย่ว์มาตลอดเวลา ดังนั้น พวกมันจึงก่อเรื่องทั้งหมดนี้เพื่อกดดันให้บิดามารดาของเจ้าออกมา เจ้าต้องรู้ว่ามารดาเจ้าเป็นเพียงคนเดียวในทวีปมังกรทะยานที่สามารถเข้าไปถึงชั้นในของดินแดนล่มสลายแห่งทวยเทพได้ คนผู้ต้องการเข้าไปยังชั้นในของดินแดนล่มสลายแห่งทวยเทพจะต้องตามหามารดาของเจ้าก่อน…”
เย่ว์หยางถึงกับตะลึง
จากนั้น เขาถึงได้ตระหนักถึงความสำคัญของบันทึกที่บิดามารดาของสหายผู้น่าสงสารทิ้งไว้ให้เขา
ความลับของดินแดนล่มสลายแห่งทวยเทพต้องถูกบันทึกไว้ในบันทึกเล่มนั้น ต้องมีมีคำตอบไขความลึกลับที่คนในทวีปมังกรทะยานทั้งหมดไม่สามารถเจาะดูข้อมูลในบันทึกนั้นได้
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีสร้อยหยกดำที่ดูธรรมดา แต่เป็นที่นางพญาเฟ่ยเหวินหลีถูกผนึกไว้เป็นหมื่นปีแล้ว ตอนนี้ เย่ว์หยางเข้าใจทุกอย่างได้ในที่สุด เหตุผลที่สหายผู้น่าสงสารถูกยกเลิกการหมั้นจนไปโดดน้ำตาย กลับกลายเป็นว่าเป็นเพราะศัตรูผู้นี้
“พ่อแม่ข้า… พวกท่านเป็นคนยังไงหรือ?” ตอนนี้เย่ว์หยางสงสัยเกี่ยวกับบิดามารดาของสหายผู้น่าสงสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งมารดาของสหายผู้น่าสงสาร เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินจากคนอื่นๆ ว่านางมีพลังมากขนาดนี้ ความจริงนางเป็นเพียงคนเดียวในโลกที่เข้าดินแดนล่มสลายแห่งทวยเทพได้… มิน่าเล่า ผู้เฒ่าเย่ว์ไห่ถึงไม่ยอมพูดอะไรเกี่ยวกับมารดาให้เขาฟัง กลับกลายเป็นว่ามีความลับเป็นภูเขาเลากาอยู่รอบตัวของมารดาของสหายผู้น่าสงสาร
“มารดาของเจ้าเป็นผู้หญิงลึกลับ ข้าไม่ค่อยแน่ใจนักเรื่องสถานะของนาง แต่ข้าเคยเห็นบิดาของเจ้ามาก่อน, ข้ามองดูเขาเติบโตตั้งแต่เขายังอายุน้อยๆ เจ้ามองดูเหมือนเขามาก แต่เจ้าดูหล่อกว่าเขาเล็กน้อย ผิวของเจ้าน่าดูกว่า บางทีคงเป็นลักษณะเด่นที่เจ้าได้มาจากมารดาของเจ้า บิดาของเจ้าผู้เป็นบุรุษผู้กล้าหาญมาก เขาไม่กลัวอะไรเลย นิสัยของเขาค่อนข้างจะดื้อรั้นอยู่บ้าง ดังนั้นเขาจึงตายเร็ว มันเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่มาก! ปู่ของเจ้า ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าเขาเสียใจมากที่สูญเสียบุตรรักไป เขาคงไม่ผมหงอกเต็มศีรษะภายในคืนเดียวแน่ เขาอยู่ในความเศร้าโศกขมขื่น ข้าเป็นสหายกับปู่ของเจ้ามาเกือบร้อยปี ข้ายังไม่เคยเห็นเขาหดหู่ใจมาก่อน ถ้าบิดามารดาของเจ้ายังอยู่บนโลกนี้ จะไม่มีใครเหิมเกริมรังแกอีกฝ่ายได้ขนาดนี้แน่นอน!” เมื่อชายชราพูดจบ เขาโบกมือ “ข้าแก่แล้ว ปู่ของเจ้าก็แก่แล้วเช่นกัน พวกเจ้าเหล่าผู้เยาว์ต้องดูแลตัวเองให้ดี ถ้าเจ้าไม่สามารถเอาชนะศัตรูได้ จำไว้ว่าเจ้าจะต้องหักห้ามความโกรธไว้ อดทนและรอโอกาสของเจ้า ตราบใดที่ยังมีชีวิต ตราบนั้นก็ยังมีความหวัง.. ไปเยี่ยมอาสี่ของเจ้าเถอะ เขาคงจะมีบางคำที่ต้องการคุยกับเจ้า!”
เย่ว์หยางแยกตัวออกมา ใจของเขายังคงคิดถึงคำพูดที่ชายชราเพิ่งพูดถึงถึง
บิดามารของสหายผู้น่าสงสารกลายเป็นผู้มีพลังอำนาจมาก ดูเหมือนว่ามีความลับนับไม่ถ้วนบันทึกไว้ในบันทึกทั้งสองเล่ม ถ้าเขาเปิดความลับนี้ได้เขาก็จะพบความจริง ถ้ามารดาของสหายผู้น่าสงสารเป็นคนแบบนั้นจริงๆ อย่างนั้นแม่สี่ผู้เป็นน้องสาวของนางจะมีความลับเช่นใดซ่อนอยู่?
******************