ตอนที่แล้วตอนที่ 218 กระบี่ผนึกปีศาจแห่งหมู่ดาวถ้วย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 220 ความลำบากของเซรีน

ตอนที่ 219 ความเข้าใจของหนุ่มชาวฟ้า


ถังเทียนมองดูเห็นอสูรหินกรวดเต็มไปทั้งพื้นที่ภูเขาและพื้นที่ราบ  เขาอดประหลาดใจไม่ได้ “เจ้านี่บ้าไปแล้ว!”

มีแต่ถังเทียนที่มีท่าทางปกติ  แต่คนที่เหลือสีหน้าดูไม่ได้เลย  ไม่ว่าจะเป็นหลิงซิ่วหรืออาเฮ่อพอเห็นอสูรหินกรวดจำนวนมหาศาล ล้วนแต่ทำหน้าแปลกประหลาด

ภาพของอสูรหินกรวดที่บุกจู่โจมหมู่บ้านครั้งล่าสุด เทียบกับฉากที่ปรากฏอยู่ข้างหน้าเขาในปัจจุบันกลายเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญ

อสูรหินกรวดที่อยู่ต่อหน้าพวกเขา  มองไม่เห็นท้ายแถวพวกมันเลย  ความหนาแน่นของพวกมันแต่ละตัวดูเหมือนกับทะเลหิน  ความเร็วของอสูรหินกรวดนั้นนับว่าไม่เร็ว  แต่จำนวนของพวกมันช่างน่าทึ่ง  ขณะที่พวกมันเข้ามากันช้าๆ  ดูน่ากลัว

หน้าของเซี่ยชิงยิ่งกว่าตื่นตกใจ เสียงของเขาสั่น“เจ้าพวกนี้ต้องมีอย่างน้อยแสนตัวเป็นแน่”

แสนตัว....

หน้าของทุกคนขาวซีดยิ่งขึ้น

พลังความแข็งแกร่งของอสูรหินกรวดตัวเดียวยังถือว่าไม่มากตัวเดียวยังไม่นับว่าน่ากลัว แม้ว่าจ้าวอสูรหินกรวดอยู่ที่นี่ด้วย  ทุกคนก็ยังไม่กลัว

แต่ หนึ่งแสนตัว

จำนวนที่น่ากลัวขนาดนี้ทำให้ทุกคนสะดุ้งด้วยความสิ้นหวังทันที อสูรหินกรวดแสนตัว เพียงพอจะกวาดล้างดาวทั้งดวงได้ เป็นไปไม่ได้ที่หมู่บ้านกระบี่จะหยุดกระแสนี้เอาไว้ได้

แต่ว่าปิงผู้เคยผ่านยุคกองทัพที่ยิ่งใหญ่มาแล้ว  ยังเงียบ ไม่มีใครเห็นได้ชัดเหมือนเขาจำนวนมหาศาลอย่างนี้พอจะบดขยี้ทุกอย่างที่ขวางมันได้

เทียบกับโกเล็มแล้วพลังของพวกมันยังอ่อนกว่ามาก

เรื่องเดียวที่น่ายินดีก็คือเซี่ยชิงและพวกที่เหลือพบสถานการณ์ได้เร็ว  ด้วยความเร็วของอสูรหินกรวดที่เคลื่อนไหวช้าน่าจะใช้เวลาสิบวันกว่าจะมาถึงหมู่บ้านกระบี่ตระกูลเซี่ย

“คิดหาทางถอยเถอะ”  ทันใดนั้นปิงกล่าว“เรายังมีเวลาปรับตัวและออกไปจากที่นี่”

เซี่ยชิงขบริมฝีปากแน่น  ความเศร้าปรากฏอยู่ในดวงตาเขา  “เราคือมือกระบี่องครักษ์  เราไม่อาจจากไปได้”

“ถ้าเจ้าไม่จากไป  พวกเจ้าจะตายกันหมด”  ปิงพูดตามตรง

“ขลุ่ยวิเศษกำลังมา!”  ถังเทียนดีใจและสีหน้าทุกคนมีประกายความหวัง เป็นเพราะเสียงเพลงของขลุ่ยวิเศษที่ทำให้เฒ่าบอดซอกำศรวลยอมถอย

และถ้าเฒ่าบอดซอกำศรวลสามารถควบคุมฝูงอสูรหินกรวด อย่างนั้นขลุ่ยวิเศษก็น่าจะควบคุมพวกมันได้เช่นกัน

ขลุ่ยวิเศษพอกลับมาถึงเมื่อเห็นฝูงอสูรเห็นกรวด สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป

※※※

สตรีชุดดำมองดูเฒ่าบอดด้วยความเคารพ  นางทั้งกลัวทั้งนับถือชายชราตาบอดผู้นี้

เมื่อนางประสบความพ่ายแพ้ครั้งสุดท้าย  นางสูญเสียความมั่นใจในการต่อสู้ทั้งหมด  เมื่ออยู่ต่อหน้ายอดฝีมือ  อสูรหินกรวดเหล่านั้นเป็นเหมือนกระดาษ  พวกมันไม่มีผลต่อนาง

แต่นางไม่เคยคิดว่าเฒ่าบอดผู้นี้จะใช้กลยุทธเดียวกัน แต่ในครั้งนี้เขาพบอสูรหินกรวดมากยิ่งกว่าเดิม  โชคอยู่ข้างเขา  มีอสูรหินกรวดมากมายในพื้นที่นี้ภายใต้การนำของจ้าวอสูรหินกรวด พวกมันรวบรวมอสูรหินกรวดทั้งหมดภายในรัศมีหนึ่งพันกิโลเมตร

แต่....

สตรีชุดดำคิดถึงเสียงเพลงที่ไพเราะก่อนนั้นทำให้นางอดพูดไม่ได้“อาจารย์, ถ้านักสู้สายสำเนียงเพลงมาอีกครั้ง....”

เหตุผลที่เฒ่าบอดซอกำศรวลสามารถควบคุมอสูรหินกรวดได้เพราะเคล็ดสำเนียงเพลงของเขา ฝ่ายตรงข้ามของเขาเป็นนักสู้สายสำเนียงเพลงที่โดดเด่นเช่นกัน  จากการปะทะกันครั้งล่าสุด ผู้เฒ่าบอดไม่ได้เป็นฝ่ายมีเปรียบ

การกระทำที่วู่วามและดูเหมือนบ้าส่งผลให้นางเคารพผู้เฒ่าบอด  แต่นางยังไม่เข้าใจ

ผู้เฒ่าบอดนั่งอยู่บนรถเข็นดึงหนวดโค้งของเขาเป็นครั้งคราว  การควบคุมอสูรหินกรวด  เขาจะอ้าปากช้าๆ และปล่อยเสียงแหบแห้งก้องผ่านอากาศ

“ข้ารู้ว่าเจ้าหมายความว่ายังไง  แต่เจ้าไม่ต้องกังวล”  ผู้เฒ่าบอดจู่ๆ ก็ยิ้มอย่างน่าขนลุก  “ยอดฝีมือสายสำเนียงเพลงของฝ่ายตรงข้ามอาจจะทรงพลังมากกว่าข้าในแง่ของพลัง  ข้ากลัวเขาแน่นอน  แต่เจ้ายังจำสิ่งที่ข้าได้พูดไปในวันนี้หรือไม่?

สตรีชุดดำตอบอย่างระมัดระวัง “ท่านบอกว่าสำเนียงนั้นทำให้ท่านขยับอาวุธอะไรไม่ได้เลยในวันนี้”

“ฮ่าฮ่า, นั่นก็ถูกแล้ว!  เจ้าจำได้แม่นยำดี”  ชายชราตาบอดหัวเราะ  “อาวุธก็คือการรบ  ในการรบตามปกติเจ้าต้องมองหาจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ของเจ้า  พลังในการใช้วิชาสำเนียงเพลงของข้าอาจจะไม่เทียบเท่ากับเขา  แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่มีข้องบกพร่อง  เมื่อข้าฟังสำเนียงเพลงของเขาอย่างระมัดระวัง  เคล็ดวิชาเพลงของฝ่ายตรงข้ามสมบูรณ์แบบ  แต่เขาไม่มีพลังปราณอย่างเพียงพอ  นั่นเห็นได้ชัดว่าปราณแท้ของเขาอ่อนแอมาก”

“ปราณแท้อ่อนแอมาก?”  สตรีชุดดำตกใจ นางไม่เคยได้ยินมาก่อน

“สำเนียงเพลงไพเราะสมบูรณ์แบบ แต่ไม่สามารถปิดบังความจริงว่าปราณของเขามีไม่เพียงพอ  ถ้าข้าเดาได้ไม่ผิด  ฝ่ายตรงข้ามคงได้รับบาดเจ็บหนักมาก่อนและเขายังไม่ฟื้นฟูหายดี” เฒ่าชราตาบอดมีความฉลาดอยู่เต็มเปี่ยมและเขายิ้ม  “ไม่มีปราณแท้ วิทยายุทธของพวกเจ้าทุกคนจะมีค่าอะไรเมื่อเอามาใช้กับสำเนียงเสียงต่อสู้ ข้าอาจสู้เขาไม่ได้ในเรื่องของเคล็ดวิชา แต่ถ้าเทียบปราณเที่ยงแท้ของข้ากับเขาแล้ว และด้วยอสูรหินกรวดมากมาย  เขาจะต่อสู้กับข้าได้ยังไง?”

พูดจบก็ปล่อยปราณรุนแรงออกมา

ตอนนั้นเองสตรีชุดดำก็เข้าใจได้ในที่สุด

นางรู้สึกเย็นถึงขั้วสันหลังแน่นอนว่าการมีชื่ออยู่ในทำเนียบสวรรค์วิถี นักสู้จะต้องไร้หัวใจ

แต่ถังเทียน....

ทันใดนั้น  สตรีชุดดำจำได้ถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นที่ขุมสมบัติหมู่ดาวพิณหลุดมือไปทำให้นางโกรธมาก

ครั้งนี้  ข้าจะต้องทำให้เจ้าตายในเงื้อมมือของข้า!

※※※

ขณะที่ทุกคนมองดูอย่างคาดหวัง  ขลุ่ยวิเศษส่ายหัว “ฝ่ายตรงข้ามเห็นว่าข้าเพิ่งจะฟื้นฟูพลังและมีพลังปราณแท้ไม่เพียงพอ  เขากำลังมาหาข้า”

การคาดการณ์ของขลุ่ยวิเศษทำให้ทุกคนตกอยู่ในความเงียบ

“นอกจากย้ายออกไป  ข้าเกรงว่าคงไม่มีทางอื่น”  ปิงพูดอย่างสงบ  เขาไม่ได้กังวล  จากมุมมองของเขา  ไม่ว่าเซี่ยชิงและคนอื่นๆจะย้ายไปหรือไม่ก็เป็นเรื่องของตระกูลเซี่ย เขาแค่กังวลความปลอดภัยของถังเทียนเท่านั้น

พวกเขามียานอาชาฟ้า คงจะเป็นเรื่องง่ายถ้าพวกเขาต้องการจะจากไป แม้ว่าอสูรหินกรวดเหล่านี้จะดูน่ากลัวแต่พวกมันไวไม่พอ  ถ้าพวกเขาต้องการจะหลบหนี  อสูรหินกรวดพวกนี้จะไม่สามารถไล่ตามได้

เซี่ยชิงเงียบ

ถังเทียนกล่าวทันที  “ลุงขลุ่ย, พวกเขาควบคุมอสูรหินกรวดมากมายขนาดนี้ได้ยังไง?”

ขลุ่ยวิเศษผงะเล็กน้อย  แต่เนื่องจากถังเทียนถาม   เขาจึงอธิบายอย่างดี“ตามปกติถ้าควบคุมพวกมันที่มีจำนวนน้อย พวกเขาสามารถใช้วิชาเสียงสำเนียงเพื่อควบคุมก็ได้  แต่ถ้าพวกมันมีมากมาย  อย่างนั้นก็ต้องเลือกผู้นำของพวกมันสองสามตัวแล้วให้พวกมันนำเจ้าพวกที่เหลืออีกที ยิ่งมีอสูรดวงดาวที่เราต้องควบคุมมากเท่าใด  ก็ยิ่งจำเป็นต้องใช้ปราณแท้มากขึ้นเท่านั้น

ถังเทียนตั้งข้อสังเกต“ข้าเข้าใจแล้ว เป็นจ้าวอสูรหินกรวดนั่นเอง”

“อืม....” ขลุ่ยวิเศษพยักหน้า “สังเกตดูอสูรหินกรวดพวกนี้อย่างระมัดระวังแล้วเจ้าจะรู้ว่าพวกมันแฝงอยู่ในฝูง  แต่ละฝูงจะมีจ้าวอสูรหินกรวดเป็นผู้นำ”

ถังเทียนเริ่มนับ  “หนึ่ง.. สอง...สาม...”

แต่ในไม่ช้าถังเทียนก็เริ่มมึน  “เอ่..ข้านับถึงไหนแล้ว?”

อาเฮ่ออดไม่ได้จึงอ้อมแอ้มพูด “มีทั้งหมดยี่สิบหกตัว”

“ดีมาก หนุ่มน้อยอาเฮ่อ!”  ถังเทียนตื่นเต้น  “นั่นก็หมายความว่า  มีเจ้าอสูรหินกรวดทั้งหมดยี่สิบหกตัว!  ลุงขลุ่ย,ถ้าเรากำจัดจ้าวอสูรหินกรวดทั้งยี่สิบหกตัว เขาจะสามารถควบคุมอสูรหินกรวดได้เท่าไหร่?”

ทุกคนตะลึง  ทุกคนถูกความคิดของถังเทียนตรึงไว้หมด

ขลุ่ยวิเศษตะลึงเช่นกันจากนั้นเขาตระหนักรู้ว่า “แทบจะเป็นไปไม่ได้สำหรับเขา”

“นั่นก็หมายความว่าแค่ต้องกำจัดจ้าวอสูรหินกรวดยี่สิบหกตัว!”  ถังเทียนร่าเริง

ไม่มีใครขัดคอเขา

หลิงซิ่วตะโกนใส่เขา  “เจ้าบ้าเอ๊ย!ทำไมเจ้าไม่หยุดหาวิธีการเสียที?  เจ้าโง่! อสูรหินกรวดมีเป็นแสน เจ้าจะฆ่าจ้าวอสูรหินกรวดยี่สิบหกตัวน่ะหรือ,  เจ้าเบื่อหน่ายชีวิตแล้วใช่ไหม?”

ไม่มีใครพูดสักคน  แต่เห็นได้ชัดว่าทุกคนคิดว่าความคิดนี้เหลวไหล

“แต่, เจ้าไม่คิดบ้างหรือว่ายี่สิบหกตัวเทียบกับอสูรหินกรวดเกินแสนนั้นนับว่าน้อยมาก?” ถังเทียนมองดูคนอื่นอย่างมึนงง

ยี่สิบหกเทียบกับจำนวนที่เกินแสน

ทุกคนพูดไม่ออกกับเหตุผลของถังเทียน

ขณะที่หลิงซิ่วเตรียมจะเยาะเย้ยล้อเลียนถังเทียนทันใดนั้นปิงสนับสนุนความคิดของเขา “เขาพูดถูก”

ถังเทียนเชิดหน้าใส่หลิงซิ่วทันที

ด้วยประสบการณ์ที่มากมาย  ปิงเป็นคนแรกที่เห็นศักยภาพในแผนการของถังเทียน

ถูกแล้วว่าไม่ใช่เรื่องง่ายกับงานฆ่าจ้าวอสูรยี่สิบหกตัวในบรรดาอสูรหินกรวดเป็นแสน  แต่ความยากลำบากจะหายไปทันที จากภารกิจที่เป็นไปไม่ได้เลยกลายเป็นภารกิจที่ยากมาก  อาจดูเหมือนไม่แตกต่างกันมาก  แต่ปิงรู้ว่ามีความแตกต่างกันของคำทั้งสองนี้อย่างเห็นได้ชัด

ปิงค่อนข้างเห็นด้วย  ความเข้าใจของเจ้าเด็กนี่ยอดเยี่ยมมาก!

เมื่อมองดูหน้ากระหยิ่มของถังเทียนไม่มีมาดของยอดฝีมือเลยสักนิด แต่ปิงยังไม่รู้สึกถึงจุดอ่อนของเจ้าเด็กนี่แม้แต่น้อยนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น

ถ้าเขาพูดถึงมันอีกก็อาจเป็นแค่ความโชคดี แต่สำหรับความเข้าใจของเขาที่ปรากฏออกมาไม่กี่ครั้งนี้ที่ตอนแรกนึกว่าเป็นเรื่องของโชคปิงคงไม่มีทางทำเรื่องโง่ๆ ผิดพลาดเช่นนั้น

เจ้าเด็กนี่....

“เราไม่มีกำลังคนมากนัก  แต่นั่นก็ยังเป็นข้อได้เปรียบของเรา” ปิงสนับสนุนซึ่งเสริมถังเทียนมากยิ่งกว่าเดิม  เขากระตือรือร้นพลางนับนิ้ว  “เราคล่องแคล่วกว่า ลงมือได้มากกว่า  ลุงปิง, หลิงซิ่ว, อาเฮ่อ,เซี่ยชิงและยังมีข้าอีกด้วย ทั้งหมดห้าคนโดยเฉลี่ยเราต้องฆ่าจ้าวอสูรหินกรวดคนละห้าตัว..”

“ไม่, เราไม่จำเป็นต้องใช้มากมายขนาดนั้น”  ขลุ่ยวิเศษตัดบทคำพูดของถังเทียน “เจ้าเพียงแต่ต้องฆ่าจ้าวอสูรหินกรวดตัวหนึ่ง  ถ้าคู่ต่อสู้ต้องการควบคุมฝูงหนึ่ง  อย่างนั้นก็หมายความว่าเขาต้องควบคุมพวกมันราวๆสี่พันตัว แรงกดดันขนาดนี้ จะกินปราณแท้ของเขาอย่างรวดเร็ว ตราบใดที่พวกเจ้ากำจัดได้สักห้า  ก็จะยิ่งเพิ่มจำนวนที่ต้องควบคุมนั่นจะทำให้เกิดความยุ่งเหยิงอย่างมาก ถ้าเจ้ากำจัดได้สักสิบตัว อย่างนั้นกองทัพจะสลายตัว และเริ่มฆ่ากันเอง”

ยิ้มของขลุ่ยวิเศษเย็นชาเล็กน้อย  “เขาจะได้รู้ในเวลาไม่ช้าว่าเขากำลังเล่นกับไฟ”

ถังเทียนรำพึงกับตนเองลุงขลุ่ยโกรธแล้ว

เมื่อได้ยินแนวคิดคิดของขลุ่ยวิเศษทุกคนตกตะลึง

กำจัดจ้าวอสูรหินกรวดห้าตัวศัตรูจะตกอยู่ในความสับสนซึ่งก็หมายความว่าพวกเขาแต่ละคนต้องฆ่าจ้าวอสูรหินกรวดให้ได้คนละหนึ่งตัว  ถ้าฆ่าได้สิบตัว กองทัพจะล่มสลายนั่นหมายความว่าทุกคนจะต้องฆ่าจ้าวอสูรหินกรวดคนละสองตัว

วัตถุประสงค์ของพวกเขาจากที่เป็นไปไม่ได้ กลายเป็นสามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว

อาเฮ่อจ้องมองถังเทียนด้วยความรู้สึกทึ่ง  ขณะที่ทุกคนเตรียมตัวยอมแพ้  ในช่วงเวลาที่ทุกคนหาทางออกไม่พบ  แต่บุรุษผู้นี้ที่ดูท่าทางไม่ค่อยฉลาด สามารถหาโอกาสนั้นพบได้

บังเอิญเกินไปหรือเปล่า?

“ต้องชนะ!”

ความคิดคำนึงของอาเฮ่อถูกขัดจังหวะ  เมื่อเขาเงยหน้า เขาเห็นถึงเทียนชูมือทั้งคู่ขึ้นอย่างร่าเริง

ทุกคนที่กำลังกดดันเมื่อเห็นใบหน้าท่าทางผู้ชนะของถังเทียน ประกอบกับความกระตือรือร้นร่าเริงของเขา ทำให้ทุกคนชูมือขึ้นส่งเสียงโห่ร้องพร้อมกัน

“ต้องชนะ!”

แสงอาทิตย์สาดส่องต้องแขนพวกเขาที่ดูเหมือนป่า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด