ตอนที่แล้วตอนที่ 216 คำแนะนำของปิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 218 กระบี่ผนึกปีศาจแห่งหมู่ดาวถ้วย

ตอนที่ 217 ข้าจะไม่เศร้า


“ซิ่วซิ่วน้อย,  เจ้ารู้สึกยังไงบ้าง?”  ถังเทียนนัยน์ตาโตขณะที่เขาถามทันที

“ข้าไม่เป็นไร” หลิงซิ่วมองสีหน้ากังวลของถังเทียน ก็รู้สึกอบอุ่นใจเสียงของเขาแหบแห้งฟังดูเหมือนคนเหนื่อยหนัก

“ขอแสดงความยินดีด้วย” เสียงอ่อนโยนของขลุ่ยวิเศษดังขึ้นด้วยความประหลาดใจ  “ทุกครั้งที่ประสบความสำเร็จเอาชนะความทรงจำเลวร้ายได้ก็ถือได้ว่าเป็นสภาวะนิพพานในใจ สภาวะจิตของเจ้าจะบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นการฝึกฝนวิทยายุทธของเจ้าหรือจิตวิญญาณพลังยุทธของเจ้า ล้วนแต่เป็นประโยชน์กับเจ้าทั้งนั้น”

“ฟังดูเหมือนทรงพลังดี”  ถังเทียนมีนัยน์ตาเป็นประกายและกระตือรือร้นจะลองดูบ้าง “ข้าก็อยากเอาชนะความทรงจำเลวร้ายด้วยเหมือนกัน!  หวา หวา หวา กำจัดความทรงจำเลวร้ายได้  ข้าจะได้ทรงพลังมากยิ่งขึ้น”

ขลุ่ยวิเศษมองดูท่าทางเตรียมพร้อมของถังเทียนและคิดถึงภาพความทรงจำเลวร้ายที่ประหลาดของเขา สำหรับคนที่มีความรู้ประสบการณ์กว้างขวางอย่างขลุ่ยวิเศษก็ยังไม่สามารถหาคำพูดที่เหมาะสมได้

หลิงซิ่วดิ้นรนลุกขึ้นนั่งสายตาของเขามองดูฟลามิงโกที่ยืนเงียบอยู่ด้านหนึ่ง

ตามตัวของฟลามิงโกเต็มไปด้วยร่องรอยเสียหาย  แม้ว่าพลังขาของมันจะแข็งแรงอย่างน่าทึ่ง  แต่มันไม่มีพลังต่อสู้แต่อย่างใด  ตลอดเส้นทางที่มันพาหลิงซิ่วหลบหนีทำให้มันได้รับร่องรอยความเสียหายนับไม่ถ้วน

“ขอบคุณ” หลิงซิ่วพูดกับฟลามิงโก เห็นได้ชัดว่าอสูรจักรกลนี้ไม่มีชีวิต  แต่ในหัวใจเขามันกลายเป็นคู่หูของเขาไปแล้ว

“เฮ้, หนุ่มถัง, มีวิธีซ่อมอาหั่วบ้างไหม?”

“อาหั่ว?” ถังเทียนตะลึงไปชั่วขณะ  แต่รีบตอบทันที  “โอว เจ้าหมายถึงนกฟลามิงโกนั่นเองเจ้าคงต้องไปหาเซรีน เอ่.. เอามันมาให้ข้าก่อน สำหรับหนุ่มน้อยชาวฟ้าเรื่องแค่นี้เล็กน้อย”

“ขอบคุณ”

ถังเทียนคิดว่าเขาฟังผิด  หลิงซิ่วพูดขอบคุณเขาจริงๆนี่พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรือเปล่านี่? หรือว่าเจ้าเด็กนี่บาดเจ็บได้รับการกระเทือนทางสมอง

“บอกข้าด้วยล่ะ ถ้าเจ้าบังอาจทำให้ขนหน้าแข้งอาหั่วร่วงแม้แต่เส้นเดียว เจ้าตาย!”

หลิงซิ่วสำทับต่ออย่างดุดัน  จากนั้นถังเทียนค่อยถอนหายใจโล่งอก  ดูเหมือนสมองของซิ่วซิ่วน้อยกระทบกระเทือนเพียงเล็กน้อย

“สบายใจได้, เซรีนเก่งจริงๆ” ถังเทียนมั่นใจในวิชาวิศวะจักรกลของเซรีนเต็มเปี่ยม

หลิงซิ่วแค่นเสียง  สายตาของเขามองดูอาเฮ่อและอดตะลึงไม่ได้

“หมอนี่เป็นใคร?”

“โอว, เขาชื่อเฮ่อ” ถังเทียนแนะนำ  “ไม่ต้องห่วง เขาไม่ใช่พี่ชายเจ้า  ข้าสัมภาษณ์เขาเรียบร้อยแล้ว  เขาเพิ่งเข้าร่วมกับเรา  เก่งทีเดียวนะ ไม่ด้อยกว่าเจ้าเลย”

“ไม่ด้อยกว่าข้าเหรอ?  เจ้าหมายความว่ายังไง?  มาเลย! มาสู้กัน, เจ้าบ้า!”

“เจ้ายังยืนได้ไม่ล้มใช่ไหม...”

อาเฮ่อศึกษานิสัยคนในกลุ่มนี้เงียบๆ  ในใจเขามีบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้  แต่ทันใดนั้นเขารู้สึกว่าเส้นทางชีวิตในสามปีนี้คงจะไม่ธรรมดาเป็นแน่

เซี่ยชิงวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา  มองดูหลิงซิ่วแล้ว  เขาถึงกับมีสีหน้าดีใจ “จอมยุทธหลิงฟื้นแล้ว!นั่นเยี่ยมจริงๆ!”

ขณะที่สู้กับจ้าวอสูรหินกรวด  หลังจากชายชราตาบอดจากไปแล้ว  จ้าวอสูรหินกรวดยังคงวิ่งหนีไป  แน่นอนเซี่ยชิงยังไล่ตามเหมือนกัน  แต่จ้าวอสูรหินกรวดก็ยังคงหนีไปได้ในที่สุด

เขามองดูหลิงซิ่วด้วยความเคารพสุดซึ้ง  หลิงซิ่วบุกเดี่ยวทำลายฝูงอสูรหินกรวดภาพลักษณ์ของเขาจึงเป็นวีรบุรุษ แม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้ในมือของบุรุษชราตาบอด แต่สำหรับเขาแล้วก็ยังชนะอยู่ดี

“ท่านตรวจสอบได้ไหมกัวตงและพวกที่เหลือหลบหนีไปหรือยัง?”  ถังเทียนถามทันที  ตาของเขาเป็นประกายแฝงแววอำมหิต

เขาจะยอมให้เรื่องนี้จบแบบนี้ได้ยังไง?

“ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้”  เซี่ยชิงเห็นด้วยกับเขาอย่างตรงไปตรงมา  กัวตงและกัวอวี่บาดเจ็บหลบหนีไปสำหรับหมู่บ้านกระบี่ตระกูลเซี่ย แม้ว่าจะเสี่ยงแต่ทันทีที่สองคนหายบาดเจ็บพวกเขาจะต้องตามตอบโต้  และหมู่บ้านกระบี่ตระกูลเซี่ยทั้งหมดจะถูกกำจัด

แม้ว่าเซี่ยชิงจะสำเร็จเคล็ดวิชากระบี่หัวใจองครักษ์ร่ำร้อง  แต่เขาก็ยังไม่ค่อยมั่นใจว่าเขาจะสามารถรับมือกัวตงได้หรือไม่  ยิ่งกว่านั้นยังมีกัวอวี่ผู้ทรงพลังเช่นกัน

※※※

ผลกระทบของการต่อสู้กว้างไกลเกินกว่าที่ทุกคนจะสามารถนึกภาพออก

กัวตงไม่เคยหายไปจากทำเนียบรายชื่อนักสู้สวรรค์วิถีมาเกินกว่าสิบปี  ทุกคนที่มีความรู้เรื่องทำเนียบรายชื่อนักสู้สวรรค์วิถีจะคุ้นเคยกับชื่อของเพชฌฆาตกาเพลิง  ดังนั้นเมื่อชื่อของกัวตงถูกลบไปจากทำเนียบรายชื่อนักสู้สวรรค์วิถีและถูกแทนด้วยรายชื่อที่ไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อน  ทุกคนตกตะลึง

ถังเทียนคือใคร?

มีหลายคนพยายามขุดคุ้ยข้อมูลสวรรค์วิถีย้อนหลังหลายวันหลายสัปดาห์เพื่อหาดูชื่อของถังเทียน แต่ชื่อของเขาไม่เคยปรากฏอยู่ในนั้น

นอกจากนี้เหล่านักสู้อมตะยังได้เผยถึงวิธีที่ถังเทียนเอาชนะกัวตง กิลโยตินกาเพลิงที่สร้างชื่อเสียงให้กับกัวตงพ่ายแพ้  ดังนั้นไม่มีใครสงสัยข้องใจชื่อที่เข้ามาแทนที่เขา

แต่ถังเทียนเป็นใคร?

ไม่มีใครรู้

ถังเทียนอวดข่าวจากหนังสือนักสู้อมตะให้หลิงซิ่วดู

“ซิ่วซิ่วน้อย, เจ้าต้องเร่งมือแล้ว! แต่แม้แต่ระดับฝีมือของเจ้าก็ยังไม่ง่ายที่จะเป็นส่วนหนึ่งของรายชื่อที่รออยู่”

หลิงซิ่วทำสายตาหงุดหงิด

“อย่าห่วง ข้าไม่รังเกียจเจ้าหรอกน่า”  ถังเทียนยกแขนทั้งสองข้างเบ่งกล้ามอวด  “เจ้าถูกกำหนดให้อยู่ในร่มเงาของหนุ่มชาวฟ้าแล้ว”

หลิงซิ่วยังคงหนังตากระตุกอย่างหงุดหงิดต่อ  เขาไม่อาจทนได้อีกต่อไป จึงตะโกนออกมา“ไสหัวไป”

ถังเทียนหัวเราะกิ๊กกั๊กเขาถามด้วยความสงสัย  “ซิ่วซิ่วน้อยทำไมตอนนี้เจ้าถึงกลายเป็นหนอนหนังสือไปซะเล่า? พูดตามตรงนะ  ด้วยระดับปัญญาของเจ้า  นี่อาจจะยากสำหรับเจ้าไปบ้างนะ”

ตั้งแต่หลิงซิ่วฟื้นขึ้นมา  เขามักจะกอดหนังสือหลังจากฝึกฝนเสมอ

นับเป็นความทรมานอย่างหนึ่งที่ต้องมาฟังเจ้าเด็กนี่พล่าม

หลิงซิ่วคราง  “เจ้ามันจะรู้อะไร?  ข้ากำลังค้นหาความสงบภายใน”

“อย่าบอกนะว่าเจ้าผิดหวัง?”  ถังเทียนไม่เข้าใจ

ขณะที่หลิงซิ่วต้องการจะพูด  สายตาของเขาชะงักค้าง  ถังเทียนเห็นเช่นนั้นก็รีบหันหน้าไปมองท่าทางเขาดูตะลึงเช่นกัน

อาเฮ่อสวมชุดดำและปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าพวกเขา

“อาเฮ่อ..เจ้า เจ้า เจ้า...”  ถังเทียนชี้ชุดดำของอาเฮ่อและพูดติดอ่าง

อาเฮ่ออธิบายอย่างสุภาพ “ข้าทำเช่นนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการแต่งชุดเหมือนกัน  ข้าก็เลยคิดว่าข้าใส่ชุดสีดำจะดีกว่า”

“ใส่ชุดสีเดียวกัน...”

หลิงซิ่วและถังเทียนตกใจทั้งคู่

“ข้าต้องขออภัย ตอนนี้ข้ากำลังฝึกอยู่ไม่อาจจะคลุกคลีกับพวกเจ้าทั้งสองได้  โปรดเข้าใจข้าด้วย”  เขาคำนับให้คนทั้งสองพร้อมกับถือกระบี่สูง  อาเฮ่อตัวสูงและตรงอยู่แล้ว การเดินก็คล่องแคล่วเขามักดูตัวตรงแบบผู้ดีอยู่เสมอ

“เขาช่างตุ้งติ้งดีแท้”  หลิงซิ่วพึมพำไม่พอใจ  เขาไม่ค่อยชอบพฤติกรรมของอาเฮ่อ

ไม่เคยมีเศษฝุ่นปรากฏอยู่บนตัวอาเฮ่อเลย  เขาเดินไม่เร็วเกินไป ไม่ช้าเกินไป  เมื่อเขานั่ง เขามักอยู่ในท่านั่งตัวตรงเชิดหน้า  และเขามักยิ้มอย่างสุภาพเสมอ  ก่อนที่เขาจะออกไป เขามักจะแสดงกิริยานอบน้อมเสมอ สิ่งที่สร้างความรำคาญให้หลิงซิ่วมากที่สุดก็คือ เมื่อเวลาเจ้าผู้นี้กิน ดูเป็นผู้ดีเรียบร้อยเกินไป

นับเป็นครั้งแรกที่หลิงซิ่วได้เห็นผู้ชายที่ใช้มีดเล็กหั่นเนื้อเลาะกระดูกขณะที่พวกเขากินเนื้อย่าง หลังจากหั่นเนื้อเป็นชิ้นบางแล้วเขายังต้องเรียงเนื้อเป็นสามแถวก่อนที่จะใช้ตะเกียบคีบมาจิ้มซ้อสแล้วกิน

อย่างไรก็ตามตราบใดที่เขาอยู่กับอาเฮ่อ หลิงซิ่วกับถังเทียนดูคล้ายกับเป็นพวกบ้านนอกเข้ากรุง

แต่ไม่ว่าหลิงซิ่วจะเสียดสียังไง  เขาต้องยอมรับว่าอาเฮ่อมีความพากเพียรมาก

เมื่อเขาเห็นอาเฮ่อกำลังฝึก  หลิงซิ่วค่อนข้างกดดัน  เขาจะแพ้เจ้าผู้ชายตุ้งติ้งนี่ได้ยังไง?โดยไม่ต้องพูดคำที่สองอีก เขาทิ้งหนังแล้วแยกตัวออกไป

เขาออกไปฝึกวิชาต่อ!

ถังเทียนแค่มาหาเรื่องคุยฆ่าเวลาจึงถูกปล่อยให้อยู่คนเดียวทันที

ถังเทียนต้องไปบางสถานที่

เขาเข้าไปในประตูแสงมันว่างเปล่า

ปิงกับขลุ่ยวิเศษเอานกฟลามิงโกและทองอีกาไปหาเซรีน ข่าวลือว่าเซรีนมีเกราะจักรกลชุดใหม่และการให้ปิงทดลองใช้

รอบๆบริเวณว่างเปล่าและเงียบ  ทันใดนั้นถังเทียนรู้สึกลำบากที่จะใช้มัน

หลังจากเงียบอยู่ชั่วครู่เขาก็เริ่มฝึก

นัยน์ตาจับจ้องประกายไฟแปลบปลาบและการเสียดสีระหว่างทั่งอีกครั้ง

เขาเข้าใจวิชาถุงมือกรงเล็บเพลิงแล้วปราณเที่ยงแท้ที่เผาไหม้แข็งแกร่งกว่าแรงเสียดทานของอากาศเป็นคือการฝึกฝนรูปแบบหนึ่งไม่มีผลอะไรมากต่อเขา

แต่ถังเทียนยืนยันฝนทั่งต่อไปเหมือนในอดีต เขาไม่ถามอาเฮ่อถึงวิธีใช้ลูกปัดแสงกระเรียนฟ้าไม่ถามถึงวิธีเลื่อนระดับวิชาถุงมือกรงเล็บเพลิง

เขายังคงฝึกฝนบทฝึกที่คั่งค้างให้สำเร็จนั่นคือบดฝนทั่งต่อไป

ถังเทียนง่วนอยู่การฝึกเต็มที่

ไม่ทราบว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใดในที่สุดถังเทียนก็พัก ดูสภาพเหมือนกับว่าเขาเพิ่งขึ้นมาจากสระน้ำ  หอบหายใจหนัก เขามองดูทั่งรอบๆ ที่ลดลงไป  เกินคาดไปมากถังเทียนสำลัก

กรงเล็บภูตพราย...

หัวใจถังเทียนหม่นหมองลง  เขาสูดหายใจลึก มองดูทั่งรอบๆ และทำเหมือนกับว่าอยู่ต่อหน้าผู้เฒ่ากรงเล็บภูตพราย  เขากำหมัดแน่นและฝืนยิ้มตะโกนลั่น

“ผู้เฒ่ากรงเล็บภูตพราย,ข้าจะฝนทั่งหมื่นแท่งให้หมด”

“นั่นจะทำให้ทรงพลังไม่ใช่เหรอ?”

“ฮ่าฮ่าฮ่า, หนุ่มชาวฟ้าผู้นี้....แข็งแกร่งมาก!”

“ขอให้ท่านพักอย่างสงบเถอะ!กรงเล็บภูตพรายในมือข้า วิชากรงเล็บเพลิงภูตพรายจะต้องมีชื่อเสียงอย่างแน่นอน”

“หนุ่มชาวฟ้าผู้นี้จะต้องกลายเป็นสุดยอดผู้แข็งแกร่งแน่นอน”

ถังเทียนจ้องมองทั่งที่เหลือชั่วขณะ  เขาปาดเหงื่อจากนั้นตั้งหน้าตั้งฝึกฝนตนเองต่อ

ข้าจะไม่เศร้า,  ข้าจะไม่เศร้าจริงๆใบหน้าของข้ามีแต่ความสดใส หัวใจข้ามีแต่เพียงความหวัง ข้ายังจะร้องเพลงได้ ต่อให้พายุโหมฝนฟ้ากระหน่ำอย่างหนักก็ตามข้าจะพูดด้วยหมัดและประกายของมันจะเบ่งบาน

ข้าจะไม่โศกเศร้าไม่เศร้าจริงๆท่านแค่ยืนอยู่ตรงนั้นและดูข้าด้วยสายตาที่อบอุ่นเหมือนฤดูใบไม้ผลิ เพลิงแห่งกรงเล็บเพลิงภูตพรายจากการเผาไหม้ในมือของท่านสู่มือของข้า  นี่คือความภูมิใจของท่านและพลังของท่าน

ข้าจะไม่เศร้า,ข้าจะไม่โศกเศร้าจริงๆ ข้าจะไม่เอาความเศร้ามาใส่ไว้ในใบหน้าของข้า

เมื่อทั่งแท่งสุดท้ายถูกบดหมดแล้ว  ถังเทียนนอนแผ่หรากับพื้นกางแขนออกขณะที่ตาของเขาจ้องมองเพดาน

“กรงเล็บภูตพราย  ข้าทำสำเร็จแล้ว”

ถังเทียนพึมพำกับตนเองเมื่อเขาพูดจบประโยค ถังเทียนที่แทบจะทนไม่ไหวรู้สึกหนังตาหนักและหลับไปทันที

เมื่อร่างของปิงปรากฎออกมาจากห้องจิตวิญญาณพลังยุทธแล้วเห็นสภาพถังเทียนที่กำลังหลับลึก เขามองดูพื้นเต็มไปด้วยเศษเหล็ก พื้นที่แต่เดิมเต็มไปด้วยทั่งเหล็ก แต่ตอนนี้ว่างเปล่า

ปิงพูดไม่ออก

“กรงเล็บภูตพราย  โชคของเราดีมากจริงๆ” ปิงพึมพำกับตัวเองทันที

เขาเริ่มทำความสะอาดค่ายทหาร  เห็นได้ชัดว่าทั่งหนึ่งหมื่นแท่งมากมายเพียงไหน

เมื่อสายตาของเขาเหลือบมองไปที่ประตูแสง  เขารู้สึกเหมือนกับว่าถูกฟ้าผ่า  เขายืนงงอยู่ตรงนั้น  ประตูแสงที่เคยเต็มไปด้วยการ์ดทั้งหมดหายไปและสิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงการ์ดใบเดียวที่ยังเรืองแสงต่อเนื่อง

กรงเล็บภูตพราย....

***********************************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด