ตอนที่ 214 กรงเล็บเพลิงจ้าวปีศาจ
เบื้องหลังประตูแสงกรงเล็บภูตพรายมีร่างที่เลือนรางมากและลอยอยู่ในอากาศ
เขาอยู่ในอาการมึนงงมองดูถังเทียนคำราม ดูถุงมือเพลิงภูตพรายของถังเทียน ดูแสงลุกโชนในมือของถังทียน มองดูถังเทียนใช้เคล็ดสังหารของเขาเผชิญหน้ากับแสงที่โจมตีลงมาจากเมฆ
แสงสีเงินแพรวพราวจากนิ้วทั้งสิบของถังเทียนบอลแสงสว่างจ้าสิบลูกเหมือนกับดวงดาวสิบดวงในท้องฟ้ายามราตรี
นั่น...กรงเล็บเพลิงภูตพราย
เฒ่ากรงเล็บภูตพรายมองดูอย่างมึนงง
เหมือนกับว่าเวลาชะงักค้าง ดวงดาวในตาของเขาขยายประกาย เมื่อเทียบกับประกายที่เกิดจากการเสียดสีอากาศ พลังนี้แข็งแกร่งกว่ามาก และยังห่างไกลกว่ามากเหมือนกับว่าเขาสามารถรู้สึกได้ถึงปราณที่น่าทึ่งออกมาจากประกายที่กระเด็นออกมาจากฝ่ามือของถังเทียน
แข็งแกร่ง....นั่นแข็งแกร่งจริงๆ....
อย่างนั้น....การแผดเผาปราณแท้ก็คือความหมายแท้จริงของกรงเล็บเพลิงภูตพรายสินะ!
นั่นคือกรงเล็บเพลิงภูตพรายของจริง!
ถังเทียน, เจ้าทำได้ดี!
กรงเล็บภูตพรายมีรอยยิ้มแห้งๆและค่อยๆ ขยายกลายเป็นยิ้มเต็มหน้า และหัวเราะออกมาอย่างร่าเริง
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
ทันใดนั้นเขาหยุดเสียงหัวเราะนิ้วที่ซูบอ่อนแอแต่เหมือนเหล็กกำหมัดทันที หน้าที่ตะลึงของเขาแสดงออกว่ามีความสุข เขาหันหน้ามาทางประตูดวงดาวและพูดหนักแน่นว่า “ถังเทียน, เจ้าทำได้ดี!”
เหมือนกับว่าเขากำลังขยายแสงกำเนิดใหม่ ความมืดและความงงที่ปรากฏบนใบหน้าเขาที่หายไปแล้ว รอยย่นของเขาหายไปและเขายืดหลังขึ้น
พ่อหนุ่ม,ข้าเห็นทุกอย่างที่เจ้าต้องการให้ข้าเห็น...
หนุ่มชาวฟ้า ขอบใจเจ้ามาก
หนุ่มน้อย ข้าต้องขอบใจเจ้าจริงๆ....
ใบหน้าที่แห้งและบางของกรงเล็บภูตพรายเผยให้เห็นรอยยิ้มที่อบอุ่น ทุกอย่างที่ห่อหุ้มหัวใจเขา ความปรารถนาทั้งปวง สลายหายไปทั้งหมด สิ่งที่เหลืออยู่เป็นความรู้สึกพอใจและโล่งใจอย่างไม่เคยมีมาก่อน
หนุ่มน้อย นับจากนี้ไปข้าคงไม่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเจ้าได้อีกแล้ว
แต่โปรดอย่าได้เศร้าเสียใจเพราะข้าเลย วิญญาณนี้เสียหายหนัก แค่นี้ก็น่าพอใจแล้ว
หนุ่มน้อย,ขอบคุณเจ้า ข้าต้องขอบคุณเจ้าจากก้นบึ้งหัวใจข้าจริงๆ
โปรดรับของขวัญชิ้นสุดท้ายของข้าไว้ด้วย
แม้ว่าจิตวิญญาณพลังยุทธของข้าจะมืดมนไปแล้ว แม้ว่าปณิธานข้าจะสลายไปแล้วแม้ว่าข้าจะต้องสลายไปกับสายลม และแม้ว่าข้าจะต้องตัดความเชื่อมโยงเพื่อเข้าสู่วัฏสงสารการเกิดใหม่อีกครั้ง
แต่หนุ่มน้อย, ก่อนที่ข้าจะหายไปโปรดรับพลังสุดท้ายของข้าไว้ด้วย
ในเสียงตะโกนของถังเทียนขณะที่ถุงมือกรงเล็บเพลิงเปล่งประกายรัศมีแพรวพราวในท่ามกลางกิลโยตินกาเพลิงที่น่ากลัว ผู้เฒ่ากรงเล็บภูตพรายเดินกลับมาที่ประตูแสง
ที่ประตูแสงการ์ดทองเรียงออกมาเป็นแถวทีละใบ
หมัดประกายไฟ,หมัดทลายน้อย, เท้าดาบถานถุ่ย, วังวน....
เคล็ดวิชาทั้งหมดที่ถังเทียนฝึกฝนทุกวันทุกวิชาได้ปลุกเคล็ดสังหารทั้งหมด เคล็ดทั้งหมดปรากฏอยู่หลังประตูแสง ทั้งหมดเปลี่ยนเป็นการ์ดทอง จนถึงวันนี้จำนวนการ์ดบนประตูแสงมีจำนวนไม่น้อย
แต่เรื่องน่าเสียดายเรื่องเดียวก็คือวิทยายุทธเหล่านั้น ไม่มีวิชาระดับสุดยอดเลยแม้แต่วิชาเดียว
สายตาของกรงเล็บภูตพรายหยุดนิ่งอยู่ที่การ์ดกรงเล็บเพลิงภูตพรายที่เพิ่งจะปรากฏ ปิงเคยพูดเกี่ยวกับเรื่องประตูแสงมาก่อน ข้างหลังมันจะเป็นผนังวิทยายุทธเก่าวิทยายุทธของกองทหารของปิงทั้งหมดมีอยู่บนนั้น แต่ตอนนี้ วิทยายุทธทั้งหมดหายไปแล้ว นี่คือสาเหตุที่เขาต้องการสอนวิทยายุทธถังเทียนแต่ไม่มีทางเลือก และสามารถทำได้เพียงพัฒนาการวิธีฝึกฝนเขาให้ก้าวหน้าเท่านั้น
ปิงยังคงพูดถึงเรื่องการใช้ประตูแสงในลักษณะอื่นเช่นอนุมานหรือสรุปจากวิทยายุทธอื่น
ผนังวิทยายุทธครอบคลุมไปด้วยวิทยายุทธมากมาย การหลอมรวมกันระหว่างการ์ดวิทยายุทธได้สร้างวิทยายุทธใหม่ๆขึ้น แต่การหลอมรวมนี้จำเป็นต้องได้การหนุนเสริมจากจิตวิญญาณพลังยุทธ
เมื่อมองเห็นวิทยายุทธที่อยู่เบื้องหลังผนังแสง ผู้เฒ่ากรงเล็บภูตพรายยกนิ้วลูบการ์ดกรงเล็บเพลิงภูตพราย
ร่างผอมแห้งของกรงเล็บภูตพรายมีแสงเรืองบางๆรอบตัวเขา ขณะที่แสงไหลไปตามนิ้วของเขาและถ่ายเข้าไปอยู่ในวิชากรงเล็บเพลิงภูตพราย
ในท่ามกลางแสง ร่างของผู้เฒ่ากรงเล็บภูตพรายจางลงทุกทีและดูผอมมากขึ้น
หน้าของกรงเล็บภูตพรายแสดงความไม่พอใจทันทีแล้วจู่ๆ เขาตะโกน “พ่อหนุ่มชาวฟ้า เจ้าต้องทำได้ดีที่สุดแน่นอน!”
ทั้งที่เห็นได้ด้วยตาเปล่ากรงเล็บภูตพรายจางหายไปอย่างรวดเร็ว
ด้านหลังประตูแสงไม่มีใครอยู่ในนั้นอีก
การ์ดวิชากรงเล็บเพลิงภูตพรายอยู่บนผนังเก็บวิทยายุทธฉาบด้วยแสงสีหมองคล้ำเป็นพิเศษ
“หนุ่มน้อยชาวฟ้า, เจ้าต้องพยายามต่อไป!”
เสียงอ้อยอิ่งดังก้องสะท้อนผ่านเข้ามา
※※※
ถังเทียนเบิกตากว้างขณะที่สายลมหวีดหวิวอยู่ข้างหูเขา ในสายตาของเขา กิลโยตินกาเพลิงกำลังบดกระแทกลงมาจากท้องฟ้า
พลังปราณเที่ยงแท้ที่เผาผลาญอยู่ที่ปลายนิ้วของเขา ปราณกระเรียนในร่างของเขาที่อยู่ในสภาพสูงสุดอัดเข้าไปในนิ้วทั้งห้า แต่ละนิ้วถูกคลุมไปด้วยบอลแสงสว่างสีแดง
บอลเพลิงแดงแต่ละลูกสว่างเหมือนดาวสีแดง เมื่อเขากางนิ้วทั้งสิบออกเป็นเหมือนว่านิ้วของเขาถือดาวไว้สิบดวง
พลังปราณเที่ยงแท้ไหลเข้าไปในบอลแสงอย่างต่อเนื่องและแผดเผาต่อเนื่อง
ไม่มีทาง!
มันยังไม่พอ!
ใบหน้าถังเทียนดุร้ายขณะที่เขาเบิกตากว้างซึ่งเต็มไปด้วยความโกรธ ใจของเขามีแค่เพียงความคิดเดียว
ข้าต้องทำให้ได้ ต้องให้ผู้อาวุโสกรงเล็บภูตพรายได้เห็นภาพนี้
เห็นภาพความเฉิดฉายของกรงเล็บเพลิงภูตพรายให้ได้
อย่างแน่นอน
ถังเทียนตะโกนลั่นเหมือนสัตว์ป่า ปราณเที่ยงแท้ทั้งหมดในตัวของเขาโคจรเข้าไปในนิ้วทั้งสิบ เขาไม่สนใจเลยแม้แต่น้อยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเขาด้วยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
จงมา..ปราณเที่ยงแท้,ปราณเที่ยงแท้, ปราณเที่ยงแท้ทั้งหมดของข้า
ไม่พอ, ไม่พอยังไม่พอ!
ทันใดนั้นตาของถังเทียนหรี่แคบ ช่วงเวลาที่วิกฤติอย่างนั้น เขาไม่ได้สำรองปราณเที่ยงแท้เก็บไว้ในร่างเลย
หลังจากนิ่งงันถังเทียนโกรธทันที
ไม่!
เขากระตุ้นปราณกระเรียนอย่างบ้าคลั่ง ปราณแท้ เขาต้องการปราณแท้เพิ่มขึ้นอีก
แต่เส้นชีพจรของเขาไม่มีปราณแท้สำรองเหลือไว้เลยแม้แต่น้อย
กิลโยตินกาเพลิงใกล้เข้ามาขณะที่ถังเทียนจ้องมองอย่างสิ้นหวัง เขารู้ว่าวิชานี้สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้แน่นอน แต่เขาจำต้องได้ปราณเที่ยงแท้อย่างเพียงพอ
ยิ่งเขาเผาผลาญปราณเที่ยงแท้มากพลังของวิชานี้ก็จะทรงพลังมาก
ถังเทียนกัดริมฝีปากขณะที่เขาจ้องมองกิลโยตินกาเพลิงที่กำลังใกล้เข้ามาอย่างเขม็ง เขาใช้พลังทั้งหมดกระตุ้นปราณกระเรียน
ในมุมหนึ่งของตู้เก็บอาวุธอควาเรียสยังเหลือของที่เขาลืมไปแล้ว กระเรียนบรอนซ์เริ่มเปล่งแสง นั่นคือนกกระเรียนบรอนซ์ที่ถังเทียนได้มาจากเมืองสามวิญญาณ
กระเรียนบรอนซ์เปลี่ยนเป็นรัศมีเขียวสว่างชอนไชอยู่ในร่างของถังเทียน
แม้แต่ถังเทียนรู้สึกเหมือนถูกธนูยิง เขาชะงัก ขณะที่ม่านตาขยายอย่างรวดเร็ว นี่...
พลังปราณเที่ยงแท้ที่สามารถบดทำลายโลกระเบิดออกมาจากตันเถียนของเขาไม่มีวี่แวว เหมือนสายน้ำบ่าโคจรไปตามเส้นชีพจรที่เหือดแห้งของเขา
เส้นชีพจรเป็นเหมือนร่องน้ำใหญ่ที่แห้งผาก
ขณะที่ปราณเที่ยงแท้โคจรไปตามเส้นชีพจรที่แห้งผากนี้มันไหลบ่าไปโดยไม่มีอะไรขวางกั้น ถังเทียนไม่สามารถตั้งตัวได้ทัน แต่ละครั้งที่ปราณเที่ยงแท้ผ่านจุดชีพจรและเส้นเดินปราณทำให้ร่างของเขาสั่น
ร่างของเขาสั่นเขย่าอย่างแรงเหมือนตะแกรง
แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นกับตันเถียนของเขาในฐานะที่เป็นจุดศูนย์กลางพลังขยายออกไปตามร่างกายแต่ละส่วนของเขา สมมติว่าหากถังเทียนไม่ได้สวมเสื้อผ้าอะไรๆระลอกคลื่นและรูปแบบที่ปราณแท้โคจรจะสามารถเห็นได้ ขณะที่มันขยายออกมาจากตันเถียนไปทั่วร่างกาย
ปราณแท้โคจรอย่างสะดวกผ่านคอของถังเทียนขึ้นไปถึงสมองของเขา ทันใดนั้นถังเทียนชะงักค้างขณะที่ความกระหายเลือดในดวงตาหายไป แต่ในตาเขามีเงาร่างกระเรียนขาวดังหิมะตัวหนึ่ง
เสียงร้องของนกกระเรียนดังชัดเจนอยู่ในหัวของถังเทียน
ปัง!
ปราณเที่ยงแท้ไหลโคจรเข้าไปในแขนของเขาผ่านข้อมือเข้าสู่นิ้วทั้งสิบ
รอบๆนิ้วมือของถังเทียนมีบอลแสง และแสงนั้นเปลี่ยนเป็นสีขาวเงินอย่างรวดเร็ว
แสงสว่างเจิดจ้ายิงออกจากนิ้วทั้งสิบของเขาสร้างความรู้สึกประหนึ่งนั่นคือแสงสว่างจากดวงดาวที่สว่างไสวที่สุดในจักรวาล
เมื่อสูญเสียการเพ่งจ้องถังเทียนคิดว่าเขาเห็นกระเรียนสีขาวงดงามกำลังเต้นไปรอบๆ
เขารู้สึกว่าความรู้สึกแสบร้อนจากนิ้วมือของเขาทำให้เขาสั่นระรัว
นี่คือปราณเที่ยงแท้
ใช่แล้วนี่คือปราณแท้!
ทันใดนั้นถังเทียนกลับมาสู่ความเป็นจริง กระเรียนขาวที่ร่ายระบำหายไปลำแสงรูปกามาปรากฏถึงตรงหน้าเขาแล้ว คมขอบของแสงเล็งตรงมาที่เขา
ถังเทียนจ้องมองทั้งที่ยังสับสน!
มาเลย!
โดยไม่มีอะไรต้องคิดมาก เขากางนิ้วทั้งสิบขณะคว้าจับลำแสงดำ
ดาวทั้งสิบลอยออกจากนิ้วของเขาขณะที่ดาวเหล่านั้นลอยอยู่ในอากาศ ก็เปลี่ยนสภาพเป็นลำแสงสว่างเจิดจ้าสิบสาย แสงสว่างสดใสที่เหมือนกับหิ่งห้อยบินเข้าหาลำแสงสีดำ
เมื่อมองดูแสงสว่างสิบสายถังเทียนสงบทันที
กรงเล็บภูตพราย ท่านเห็นหรือเปล่า?
กรงเล็บเพลิงภูตพรายนี่คือความสว่างรุ่งเรืองของกรงเล็บเพลิงภูตพราย!
งดงามไม่ใช่หรือ!
นี่เรียกว่าหิ่งห้อยจ้าวปีศาจ นั่นเป็นชื่อที่เหมาะสมในตอนนี้มาก
ถังเทียนสะอื้นและน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว เขาเม้มริมฝีปากแน่นขณะมองดูภาพประกายไฟข้างหน้าที่พุ่งออกไปราวกับดาวตก
แสงสว่างเจิดจ้าทั้งสิบและกาแสงเริ่มเข้าใกล้กัน
ความโกรธทำให้ถังเทียนร่ำร้องตะโกนอยู่ในใจของเขา
จงเปล่งประกาย,หิ่งห้อยจ้าวปีศาจ!
ปัง ปัง!
แสงรังสีนับไม่ถ้วนบินกระจายออกอยู่ต่อหน้าเขาอากาศระเบิดทันที ขณะที่ระลอกคลื่นปราณ กวาดกระจายออกไปโดยรอบกวาดทุกสิ่งทุกอย่างออกไป กัวตงที่กำลังลอยตัวอยู่ในอากาศเป็นเหมือนกับใบไม้ภาพการมองของเขาสั่นไหวทันที
ทันใดนั้นหิ่งห้อยแสงสามจุดโผล่ออกมาจากแรงระเบิดและพุ่งเข้าหากัวตง
กัวตงหน้าถอดสี ในขณะที่กำลังแตกตื่น เขาใช้กระบี่กาเพลิงยะเยือกเป็นโล่ป้องกันเขา จุดไฟสามจุดปะทะลงบนตัวกระบี่ ปัง ปัง ปังกระบี่กาเพลิงยะเยือกแตกหักเป็นสามท่อน
กัวตงบาดเจ็บจากพลังโจมตีครั้งเดียวขณะที่เขาปลิวกระเด็น เขากระอักโลหิตมองดูด้วยแววตาเหลือเชื่อ
เป็นไปไม่ได้....
ถังเทียนไม่ได้รู้ถึงชัยชนะหรือมีความสุขแต่อย่างใด
เขามองดูกัวตงกระเด็นลอยออกไป
เมื่อเห็นกัวตงฝืนตนเองกระตุ้นปราณเที่ยงแท้ ร่างของเขาเต็มไปด้วยเพลิงแดงเข้มมองดูเหมือนกาเพลิง เขาพุ่งไปอยู่ต่อหน้าปิงเพื่อขัดขวางการโจมตีที่หนักหน่วงขณะที่เขาฉวยโอกาสนี้ช่วยกัวอวี่ที่ได้รับบาดเจ็บ
ถังเทียนไม่ได้ไล่ตาม เขายืนงงอยู่ที่เดิม หัวใจเต็มไปด้วยความเสียใจ
ผู้เฒ่ากรงเล็บภูตพราย,ท่านเห็นภาพนั้นหรือเปล่า?
ผู้เฒ่ากรงเล็บภูตพราย,ทำไมข้าไม่รู้สึกถึงปราณของท่าน?
ผู้เฒ่ากรงเล็บภูตพราย...
ทันใดนั้นดูเหมือนเสียงเลือนรางดังมาตามสายลม
“หนุ่มน้อยชาวฟ้า, เจ้าจงพยายามต่อไป”
ถังเทียนไม่สามารถกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลได้อีกต่อไปเขาตะโกนเรียกทันที
※※※
อาเฮ่อ(หนุ่มน้อยจากดาวกระเรียนฟ้า) กำลังอยู่ในระหว่างเดินทางจู่ๆก็รู้สึกมีแรงสั่นสะเทือนรอบเอวของเขา
อาเฮ่อตกใจมองดูแต่แล้วสีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นดีใจ เมื่อหยิบกระบี่ขึ้นดู หน้าของเขารู้สึกเหลือเชื่อ ขณะบ่นพึมพำ“ลูกปัดกระเรียนฟ้า! ความจริงเขามีลูกปัดกระเรียนฟ้าอยู่ด้วย”
อาเฮ่อสีหน้าเคร่งขรึมขณะที่เขาชูกระบี่ขึ้น ขานคำขึ้นว่า
“แดนกำเนิดกระเรียนฟ้า ในนามของหมู่ดาวกระเรียนฟ้า, จงเปิด”
กระบี่ในมือของเขาเปล่งประกายแพรวพราวทันทีและยิงแสงรังสีทองฉายแสงสะท้อนร่างของอาเฮ่อจนเป็นสีเหลืองทอง
อาเฮ่อ ค่อยๆลดกระบี่ลงช้าๆ
มันทิ้งรังสีทองสว่างเจิดจ้าที่ไม่ได้จางหายไปในวินาทีต่อมาแสงนั้นเปลี่ยนสภาพเป็นประตูบานหนึ่ง
อาเฮ่อสอดกระบี่กลับมาไว้ที่เอวและจัดชุดยาวของเขาสีหน้าดูเคร่งเครียดจริงจัง เขาเดินเข้าไปในประตูแสง
ข้ากำลังมาแล้ว!
*******************************