ระบบปรมาจารย์ธาตุ บทที่ 29 : เปิดภารกิจท้าทายระดับเทพครั้งที่สาม

บทที่ 29 : เปิดภารกิจท้าทายระดับเทพครั้งที่สาม

หลังจากออกจากศาลาหยวนฉี สองพี่น้องก็อารมณ์ดีมาก

“พี่คะ พวกเราจะไปไหนกันต่อ” ชูชูมองท้องฟ้า ก็พบว่าเป็นเวลาเที่ยงวันแล้ว

พวกเขามาซื้อของกันนานมาก

“กินข้าวกลางวันกันก่อน แล้วเราจะไปที่อาคารนักรบ ไม่ใช่ว่าน้องต้องการจะทดสอบดัชนีพลังต่อสู้ของตัวเองหรือ?”

"ใช่!" สาวน้อยมองอย่างคาดหวังอีกครั้ง

เธอสงสัยมาตลอดว่าเธอมีพลังมากแค่ไหนแล้ว

เมื่อเห็นว่าสาวน้อยมีความสุข ฉินเฟิงก็โล่งใจเช่นกัน

ต่อมา สองพี่น้องไปกินข้าวกัน

อาหารกลางวันมื้อนี้หรูหราและอร่อยมาก

ตอนนี้ ฉินเฟิงยังมีเงินมากกว่า 70 ล้านเหรียญ สำหรับเขาตอนนี้ เขาถือว่าเป็นคนร่ำรวยเล็กน้อยและเขาก็ไม่ได้ขาดแคลนเงิน

หลังอาหารกลางวัน พี่น้องก็ไปที่อาคารนักรบ

นอกจากนี้ เขายังต้องการไปที่อาคารนักรบและหาห้องฝึกฝนเพื่อใช้

พรุ่งนี้เป็นวันที่หลินซูหยางจะเริ่มลงมือ

เหลือเวลาอีกเพียงครึ่งวันกับหนึ่งคืน

เขาต้องการที่จะผ่านภารกิจท้าทายระดับเทพครั้งที่สามก่อนหน้านี้ และเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาให้มากขึ้น

ระหว่างทาง ฉินเฟิงยังซื้อแกนสัตว์ร้ายระดับหนึ่ง อีกจำนวนหนึ่ง เขาคาดเดาบางอย่างในใจ และเขาก็ต้องการไปที่ห้องฝึกเพื่อยืนยัน

เมื่อมาถึงอาคารนักรบ ก็มีคนน้อยมาก

ยังคงเป็นช่วงเวลาอาหารกลางวันและหลายคนไปรับประทานอาหารกลางวันกันอยู่

ฉินเฟิงและชูชูมาที่ห้องโถงทดสอบบนชั้นสอง

ชูชูรอไม่ไหว เธอเป็นคนแรกที่รีบเข้ามา

"นี่ สาวน้อย ฉันเพิ่งถูพื้นที่นี่ อย่าทำให้สกปรกสิ!"

คำเตือนดังขึ้นจากป้าที่ถูพื้น

แต่เมื่อเธอเห็นฉินเฟิงที่อยู่ด้านหลังชูชู ใบหน้าของเธอก็ซีดขาวลง

“ท่าน…ปรมาจารย์ธาตุ…” ป้าที่ถูพื้นดูหวาดกลัว “ท่าน คราวที่แล้วฉัน…”

“ไม่ใช่เรื่องของคุณ คุณไปซะ” ฉินเฟิงมองป้าอย่างเรียบเฉย

ป้าคนนี้เป็นคนที่ฉินเฟิงพบครั้งก่อน

"ค่ะ! ค่ะ! นายท่าน ฉันจะไปแล้ว!" ป้าที่ถูพื้นคว้าไม้ถูพื้นและถังน้ำแล้วรีบวิ่งออกไป

เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งก่อน เธอนอนไม่หลับ เพราะกลัวว่าจะทำให้ฉินเฟิงขุ่นเคือง

โชคดีที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในห้องทดสอบ

ไม่อย่างนั้น จะต้องแปลกใจที่เห็นฉากนี้

หลังจากที่ป้าที่ถูพื้นจากไป ชูชูก็ถามด้วยความสงสัย “พี่ พี้รู้จักเธอหรือเปล่า?”

"ไม่รู้ สาวน้อย อย่าถามเยอะ รีบทดสอบเร็ว!"

"อืม!"

สาวน้อยมาที่ตัวชี้วัดพลังอย่างมีความสุขและชกด้วยแรงทั้งหมดของเธอ

เสียงขนาดใหญ่สั่นสะเทือนไปทั้งห้องโถง จนกลายเป็นเสียงสะท้อน

ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!

ค่าบนหน้าจอเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและในที่สุดก็หยุดลงที่ 199

“พี่ พลังต่อสู้ของฉันถึง 199 แล้ว!”

สาวน้อยหน้าแดงด้วยความตื่นเต้น

ฉินเฟิงเองก็ยิ้มด้วยความโล่งใจ

พลังต่อสู้ 199 สามารถจัดการกับปรมาจารย์กึ่งธาตุได้

สาวน้อยมีความสามารถในการป้องกันตัวเองแล้ว

แน่นอนว่านี่ยังเป็นสาวน้อยที่ยังไม่โต ถ้าเธอเติบโตเต็มที่ เธอควรจะมีพลังต่อสู้ถึง 200 แต้ม

“พี่ ภารกิจลาดตระเวนในวันพรุ่งนี้ พวกเราต้องทำให้หลายคนประหลาดใจอย่างแน่นอน”

“สาวน้อย อย่าลืมเก็บตัวในวันพรุ่งนี้ อย่าให้ใครรู้กำลังของเราในตอนนี้”

"ทำไม?" ชูชูรู้สึกงงเล็กน้อย

ฉินเฟิงบีบใบหน้าที่น่ารักของเธอ "สาวน้อย น้องไม่ต้องถามมากหรอก น้องจะรู้เองเมื่อถึงเวลา"

โดยธรรมชาติแล้ว เขาจะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับหลินซูหยาง

"ตกลง!" ชูชูเชื่อฟังคำพูดของฉินเฟิง "พี่ พี่หมายความว่าเราจะแสร้งทำเป็นคนธรรมดาหรือไม่"

"อืม ใช่"

"ฮิฮิ! มันน่าสนุกดี!"

"สาวน้อย ไปที่ห้องฝึกฝนบนชั้นสาม ซึ่งมีห้องต่อสู้จำลองสามมิติอยู่ ไปฝึกทักษะการต่อสู้ของตัวเอง ตอนนี้น้องมีพลังในการต่อสู้ แต่น้องไม่มีประสบการณ์การต่อสู้ เมื่อเผชิญหน้ากับสัตว์ร้าย น้องถึงจะรับมือกับมันได้อย่างแน่นอน"

“ค่ะพี่ แต่พี่จะไปกับหนูไหม?”

"ไม่! พี่จะไปฝึกสักพัก จากนั้นพี่จะไปหาน้อง!"

ระบบได้สอนทักษะการต่อสู้ระดับเทพให้กับฉินเฟิงแล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ประสบการณ์การต่อสู้ใดๆ

จากนั้นทั้งสองคนก็แยกกันไป

ชูชูไปที่ห้องโถงฝึกสามมิติบนชั้นสาม

ฉินเฟิงไปที่พื้นที่ห้องฝึก

แม้ว่าชูชูจะมีเวลาฝึกฝนเพียงครึ่งวัน แต่เมื่อเธอได้ฝึก เธอก็จะแข็งแกร่งขึ้นไม่มากก็น้อย

ฉินเฟิงหวังว่าสาวน้อยจะสามารถควบคุมทักษะการต่อสู้ได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องเลวร้าย

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ในห้องฝึกลับ

ฉินเฟิงหยิบมีดกระดูกเลือดออกมาและเริ่มทดสอบการเดาของเขา

ในตอนแรกเขาฟันแขนของเขาด้วยมีด ทิ้งไว้เพียงรอยสีขาวจางๆ มันไม่ได้ถูกตัด

ฉินเฟิงรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก

การป้องกันทางกายภาพนี้แข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรระดับหนึ่งดาวขั้นกลาง และแข็งแกร่งกว่าปรมาจารย์ธาตุระดับหนึ่งดาวเหล่านั้นมาก

ในระดับเดียวกัน การป้องกันทางกายภาพของปรมาจารย์ธาตุระดับหนึ่งดาวนั้นไม่ดีเท่าของสัตว์อสูรระดับหนึ่งดาว

เห็นได้ชัดว่านี่คือประโยชน์ของการฝึกฝนสามธาตุ

ฉินเฟิงเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาอีกจุดหนึ่ง และมีดกระดูกเลือดก็กรีดผิวหนังของเขาทันที และกระดูกก็มองเห็นได้ชัดเจน

ฉินเฟิงรีบกลืนกินแกนสัตว์ร้ายธาตุลมระดับหนึ่งที่เตรียมไว้

ทักษะการกลืนกินทำงานโดยอัตโนมัติ

แกนสัตว์ร้ายสลายไปอย่างรวดเร็ว และพลังงานที่คุ้นเคยก็พุ่งไปที่บาดแผล

แผลหายเร็วจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

ในพริบตา แผลก็ยุบตัวลงและหลุดออกไปเอง

จุดเดิมที่แผลอยู่ขาวใสไร้รอยแผลหรือความเจ็บปวด

ก่อนและหลัง ไม่ถึงนาที

ฮ่า... ความเร็วในการฟื้นตัวนั้นยอดเยี่ยมเกินไป!

ฉินเฟิงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

ปรากฎว่าทักษะกลืนกินระดับเทพของเขาไม่เพียงแต่เพิ่มการฝึกฝนของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ยังดูดซับพลังงานเพื่อมาช่วยรักษาเขาได้ด้วย

นี่เป็นการค้นพบที่น่าทึ่ง!

ด้วยความสามารถในการรักษาตัวเองที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ความแข็งแกร่งโดยรวมของเขาจึงดีขึ้นอย่างมาก

ในตอนนี้ ฉินเฟิงก็รีบออกจากห้องฝึก

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เขาก็กลับมา

เขาเพิ่งออกไปซื้อแกนสัตว์ร้ายระดับหนึ่งจำนวนมากเพื่อใช้ในอนาคตมา

แกนสัตว์ร้ายเหล่านี้มีประโยชน์เพียงเล็กน้อยสำหรับคนอื่นๆ แต่สำหรับฉินเฟิง พวกมันทั้งหมดเป็นยาครอบจักรวาลที่ช่วยชีวิต

นอกจากนี้ เขายังซื้ออาวุธร้อนจำนวนมากที่อาจใช้งานได้

ตัวอย่างเช่น ระเบิดเจาะเกราะ ทุ่นระเบิดแรงสูง สไนเปอร์พลังงานสูง และแม้แต่ระเบิดเพลิง เครื่องพ่นไฟก็มี

ก่อนและหลัง เขาใช้เงินนับสิบล้าน

แน่นอนว่าส่วนใหญ่ใช้ไปกับแกนสัตว์ร้ายระดับหนึ่ง

จากนั้น ฉินเฟิงก็สวมชุดเกราะของสัตว์อสูร รองเท้าบูทเงาลม และมีดกระดูกเลือด ทุกอย่างพร้อมแล้ว

“ระบบ ฉันต้องการทำภารกิจท้าทายระดับเทพครั้งที่สาม!”

[ติ๊ง! ภารกิจท้าทายระดับเทพครั้งที่สามเปิดใช้งานแล้ว]

[ติ๊ง! จะเข้าสู่แผนที่ท้าทายโลกคุกน้ำแข็งหลังจากผ่านไป 10 วินาที 10...9...8...7...]

จบบทที่ 29