บทที่ 9 : ทั้งเมืองสั่นสะเทือน!
ในห้องฝึกซ้อมที่เงียบสงบ หลัวเฉินค่อยๆหายใจออกด้วยลมหายใจอุ่นๆ และดูเหมือนจะมีดวงดาวเปร่งประกายในดวงตาของเขา
เมื่อรู้สึกถึงพลังปรานแท้จริงในร่างกายของเขา หลัวเฉิน ก็ อดพึมพำไม่ได้ “ถึงแม้ว่าการฝึกฝรวิชาความเชียวชาญระดับต่ำให้ไปจนถึงระดับของ ควมาสมบูรณ์แบบนั้น จะทำให้นักรบได้รับการเปลี่ยนแปลงเหมือนเกิดใหม่”
ความแข็งแกร่งของข้าในตอนนี้เกือบจะเท่ากับ นักรบระดับสูงขั้นที่ห้า!!
เพียงแค่ฝึกฝน วิชารวบรวมปรานของตระกูลหลัว ซึ่งตอนนี้อยู่ในระดับ ความสมบูรณ์แบบ ยังสามารถเพิ่มปริมาณของพลังปรานของข้าได้เกือบ 40% ถ้าข้าฝึกวิชารวมปรานที่แข็งแกร่งกว่านี้ได้ล่ะ?
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ดวงตาของหลัวเฉินก็สว่างขึ้น เขาจำได้ว่าเขายังมีโอกาสในการจับลอตเตอรี่หนึ่งครั้ง เขาถามระบบในใจอย่างรวดเร็ว “ระบบ ข้าต้องการที่จะหมุนลอตเตอรี่”
“โฮสต์ ต้องการที่จะหมุนลอตเตอรี่ตอนนี้ ใช่ หรือ ไม่” เสียงแจ้งเตือนของระบบดังขึ้นในหัวของเขา
“ใช่ หมุนลอตเตอรี่เลย” หลัวเฉินสั่งในใจโดยไม่ลังเล
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาได้ถูกระบบดึงจิตสำนึกของเขาเข้าไปที่มิติของระบบ ตรงหน้าเขามีแท่นหมุนกาชาที่มีช่องของรางวัลมากมายปรากฏขึ้น
หลังจากนั้นไม่นานกงล้อก็หยุดที่ช่องราวัลวิชาบ่มเพาะ หลัวเฉินดีใจเป็นอย่างมาก
ฉากตรงหน้าได้หายไปอย่างรวดเร็ว และเขากับมาสู่เป็นจริง นั้นคือในห้องฝึกซ้อมที่ที่เงียบสงบ
“ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ได้รับ วิชารวบรวมปรานระดับเทพเจ้าขั้นสุดยอด (ฉงซู่จูหยวนจื่อ)”
เมื่อเสียงของระบบดังขึ้น หลัวเฉินรู้สึกว่ามีข้อมูลที่ไม่คุ้นเคยมากมายเข้ามาในหัวของเขา ซึ่งเป็นเนื้อหาเกี่ยวข้องกับวิชา (ฉงซู่จูหยวนจื่อ) ระดับเทพเจ้าขั้นสุดยอด
การแสดงออกของ หลัวเฉิน ตกตะลึงและมีความสุขบนใบหน้าของเขา
“เทคนิครวบรวมปรานของตระกูลหลัว”ที่เขาฝึกฝนอยู่ในตอนนี้เป็นเพียงเทคนิคระดับต่ำสุด ซึงต่ำกว่า ระดับเทพเจ้า อย่างเทียบไม่ติด เทคนิคดังกล่าวสามารถฝึกฝน ระดับนักรบ ไปจนถึงระดับปรมาจารย์การต่อสู้ระดับสูง หากต้องการไปถึง ระดับอาณาจักรสวรรค์ บุคคลนั้จะต้องมีพรสวรรค์ในการฝึกระดับที่สูงมาก
และเทคนิคระดับสูง ระดับสวรรค์ ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนสามารถฝึกฝนไปถึง อาณาจักรสวรรค์ ได้ ถ้าเป็นอัจฉริยะอย่าง หลัวชิงเสวี่ย เธอสามารไปถึงระดับ อาณาจักรสวรรค์ โดยใช้เทคนิครวมปรานระดับสวรรค์
อย่างไรก็ตาม หลัวเฉินไม่พอใจกับสิ่งนี้ สำหรับเขาที่มีระบบในร่างกาย ถึงแม้ว่าเขาจะฝึกฝนเทคนิคระดับต่ำที่ต่ำกว่าระดับเทพ เขาก็จะไม่มีขอขวดในการฝึก
เขาดีใจมาที่ได้เทคนิครวมปรานระดับเทพระดับสุดยอด มันน่าจะเพิ่มการเติบโตของพลังปรานของเขาเป็นอย่างมาก!!!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลัวเฉิน ก็พยายามฝึกฝนเทคนิค (ฉงซู่จูหยวนจื่อ) ทันที
และในไม่ช้าเขาก็เข้าสู่สภาวะการบ่มเพาะพลังอย่างรวดเร็ว
เมื่อหลัวเฉินเข้าสู่สภาวะการบ่มเพาะ นักรบในเมืองหลิงหยุนก็ฟื้นจากอาการตกใจที่เกิดขึ้นจากการเห็นนิมิตของสวรรค์และโลก และทั้งเมืองหลิงหยุนก็สั่นสะเทือนราวกับภูเขาไฟระเบิด
“ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะมีอัจฉริยะที่ไม่มีใครเปรียบเกิดขึ้นที่เมืองหลิงหยุนแห่งนี้ ซึ่งสามารถฝึกฝนเทคนิคไปสู่ระดับความสมบูรณ์แบบได้ ข้าคิดว่าคงจะใช้เวลาอีกไม่นานที่อาจารย์ของ สถาบันหลิงหยุน จะมาถึง หอการค้าแห่งนี้ แต่ข้าก็ไม่รู้จริงๆว่าใครคือผู้โชคดีคนนั้น”
“คงจะเป็นรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดารุ่นเยาว์ของเมืองหลิงหยุนนอกเหนือจาก หลัวซิงเสวี่ย ที่ไปที่ สถาบันหลิงหยุน แล้วใครที่มีพรสวรรค์ที่สามรถฝึกเทคนิคไปถึงขั้น ความสมบูรณ์แบบ ได้”
“ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามแก่หรือเด็ก ถ้าสามารถฝึกฝนเทคนิคไปสู่ ความสมบูรณ์แบบ ได้ก็เพียงพอแล้วที่จะดึงดูดกองกำลังหลักและกองกำลังต่างๆในเมืองหลิงหยุน นี้ไม่ใช่การพูดเกินจริงเลยแม้แต่น้อย”
“กองกำลังต่างๆในเมืองหลิงหยุน? เนื่องจากบุคคลนั้น บุกทะลวงวิชาใน หอการค้าหลิงหยุน กองกำลังต่างๆในเมืองหลิงหยุนยังจะมีโอกาสอีกหรอ”
....
เมื่อเทียบกับกลุ่มคนภายนอก หอการค้าหลิงหยุน เจ้าของหอการค้าหลิงหยุน เฒ่าเซี่ย และนายน้อยซู ที่หล่อเหลา มีสีหน้าแปลกๆมองไปยังทิศทางที่ หลัวเฉิน จากไปก่อนหน้านี้ด้วยความตกใจบนใบหน้าของพวกเขา!!!