ตอนที่ 8-41 พลังคลื่นร้อยชั้น
ท่ามกลางหมอกลงรอบตัวลินลี่ย์ พ่อมดจอมเวทซาสเลอร์ รีเบ็คกา ลีนา น้องของบาร์เกอร์ทั้งสี่คนบีบีและแฮรุจ้องมองนักรบอมตะระดับเซียนข้างหน้าพวกเขา ด้วยความทึ่งและดีใจระคนกัน
กล้ามเนื้อแขนและขาที่ทรงพลังขนาดนั้น..
แค่เพียงดูนักรบอมตะระดับเซียนแล้ว ใครๆ ก็สามารถมองเห็นพลังและอำนาจของนักรบได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกราะที่เหมือนหินอ่อนสีขาวทำให้บาร์เกอร์มองดูเหมือนกับเป็นหุ่นรบจริงๆ
แม้ว่าพี่น้องคนอื่นจะสูง2.2 เมตร แต่เมื่อเทียบกับบาร์เกอร์พี่คนโต พวกเขาดูเหมือนกลายเป็นเด็กไปเลย พวกเขาสูงแค่อกของบาร์เกอร์เท่านั้น
“ระดับเซียน พี่ใหญ่ ท่านรู้สึกยังไงบ้าง?” ดวงตาของเฮเซอร์น้องคนที่สามเป็นประกาย
นักรบอมตะระดับเซียนยืนอยู่ในกลางอากาศปล่อยเสียงกึกก้องลึกและจากนั้นดังก้องไปในอากาศ “ความรู้สึก...ถึงพลัง พลังที่เหลือเชื่อ นอกจากนี้ ข้ายังสามารถบินได้ง่ายๆ เหมือนกับว่าเป็นความสามารถตามธรรมชาติ”
นักสู้ระดับเซียนทั้งหมดจำเป็นต้องถึงระดับรู้แจ้งและเข้าใจในวิธีการบิน
แต่สี่สุดยอดนักรบจะมีความแตกต่างกัน ตราบใดที่พวกเขามีพลังเพียงพอ สายเลือดที่ลึกลับสูงส่งเพียงพอของสี่สุดยอดนักรบจะทำให้พวกเขาบินได้เหมือนกับเป็นความสามารถตามธรรมชาติอย่างที่สองของพวกเขาเอง
ก็คล้ายกับที่อสูรเวทระดับเซียนเป็นพวกมันจะรู้วิธีบินได้ทันทีที่พวกมันโตเต็มวัย
นี่คือพรสวรรค์ตามธรรมชาติ!
“ฮ่าฮ่า, น้องรอง, น้องสาม, น้องสี่, น้องห้า พวกเจ้าไม่ต้องเครียดจนเกินไปพวกเจ้าทุกคนเป็นนักสู้ระดับแปดชั้นสูงแล้วไม่ใช่หรือ? แค่อีกก้าวพิเศษก้าวเดียวเท่านั้น พวกเจ้าก็จะเป็นระดับเก้าแล้วและเมื่อถึงเวลานั้นเมื่อเจ้าแปลงร่าง พวกเจ้าก็จะเหมือนกับข้า” บาร์เกอร์พยายามจะพูดให้เบาลง แต่เขาอดตื่นเต้นไม่ได้
เมื่อเห็นเช่นนี้ลินลี่ย์รู้สึกตื่นเต้นและดีใจแทนพี่น้องทั้งห้าซึ่งเป็นสุดยอดนักรบเหมือนกับเขา
พี่น้องบาร์เกอร์ฝึกฝนมานานมากกว่าลินลี่ย์ เมื่อพวกเขาถูกจับและสเตลห์คุ้มกันมา พวกเขาอายุเกินสามสิบปีแล้ว เวลานั้นพวกเขาเป็นนักรบระดับแปดมาได้ระยะหนึ่งแล้ว
พวกเขาเป็นนักรบระดับแปดที่ไม่เคยฝึกฝนการใช้คัมภีร์ลับอมตะเลย
ทันทีที่พวกเขาฝึกจึงเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะพัฒนาก้าวหน้าได้อย่างน่าประหลาดใจ ที่สำคัญคือพลังร่างกายของแต่ละคนเป็นสิ่งที่กำหนดได้ว่าจะทำให้พลังปราณภายในรวมกันได้มากเพียงไหนและพลังกายของพวกเขาทั้งห้าคน ก็ถึงระดับแปดชั้นสูงกันทั้งนั้น และในวันนี้บาร์เกอร์ก้าวผ่านด่านสุดท้ายเป็นนักรบระดับเก้าได้
นักรบอมตะระดับเก้าในร่างมนุษย์ นักสู้ระดับเซียนชั้นต้นในร่างแปลงกาย
“บรรลุจากระดับแปดชั้นสูงเป็นระดับเก้าไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ง่ายเช่นกัน ข้าอาจต้องใช้เวลาอีกหลายปี”เกทส์น้องห้าเม้มปาก
เป็นเรื่องยากจะบอกได้เมื่อนักสู้บรรลุขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง
ตัวอย่างเช่นลินลี่ย์ในปัจจุบันก็เป็นนักสู้ระดับแปดชั้นสูงเช่นกัน เขาอาจบรรลุในวันพรุ่งนี้หรืออาจต้องใช้เวลาสามหรือสี่ปีก็เป็นได้
บาร์เกอร์หันมาทางลินลี่ย์ทันที เขาพูดกับลินลี่ย์อย่างตื่นเต้น “ท่านลินลี่ย์ ลองใช้วิชาสัจจะลึกซึ้งแห่งธาตุดินโจมตีใส่ข้าดูซิ”
“ท่านต้องการให้ข้าลองอย่างนั้นหรือ?” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างยอมจำนน
หนึ่งในเหตุผลที่ลินลี่ย์สามารถทำให้ห้าพี่น้องยกย่องให้เขาเป็นจ้าวและยอมรับสถานะผู้นำของพวกเขาเป็นเพราะลินลี่ย์โดดเด่นกว่าพวกเขาทั้งห้าในเรื่องพลังนักสู้ ในหลายปีที่ผ่านมานี้ห้าพี่น้องฝึกฝนตามคัมภีร์ลับอมตะและหลังจากแปลงร่างเป็นนักรบอมตะ พวกเขาจะซ้อมมือกับลินลี่ย์สองสามครั้ง
นักรบอมตะมีพลังป้องกันตัวสูงส่งอย่างน่าประหลาด
แต่พลังโจมตีที่สั่นสะเทือนอย่างแปลกประหลาดของ‘สัจจะลึกซึ้งแห่งธาตุดิน’สามารถทะลวงผ่านเกราะและกล้ามเนื้อของนักรบอมตะได้เพียงเล็กน้อยก่อนจะเข้าไปทำอันตรายอวัยวะภายใน
และเวลานั้นลินลี่ย์ใช้เพียงคลื่นสามชั้นซึ่งเป็นระดับพลังที่อ่อนที่สุดกับพวกเขา และลดระดับพลังลง แต่ถึงอย่างนั้นห้าพี่น้องก็ยังได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
“สัจจะลึกซึ้งแห่งธาตุดินเป็นเคล็ดวิชาที่อันตราย บาร์เกอร์ถ้าท่านต้องการลองจริงๆ อย่างนั้นก็ต้องทำเหมือนในอดีต ข้าจะเริ่มจากระดับพลังที่อ่อนที่สุด จากนั้นจะค่อยๆ เพิ่มระดับทีละขั้นในแต่ละครั้ง ข้าไม่กล้าโจมตีเต็มที่ตั้งแต่แรกเริ่ม”ลินลี่ย์พูดอย่างจริงใจ
สัจจะลึกซึ้งแห่งธาตุดิน– พลังคลื่นร้อยชั้น
พลังโจมตีเช่นนี้รุนแรงมากกว่าคลื่นสามชั้นหลายสิบเท่า ตามการคำนวณของลินลี่ย์มันไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไปสำหรับเขาในการใช้พลังโจมตีนี้สังหารนักสู้ระดับเซียนชั้นต้น
“อย่าห่วงเลย ท่านลินลี่ย์เราทำอย่างนี้ไปทีละขั้นในแต่ละครั้ง ข้าจะไม่ลองแสดงฝีมือมากเกินไป” เสียงของบาร์เกอร์ดังขึ้น
“เอาอย่างนั้นก็ได้” ลินลี่ย์พยักหน้า “ท่านเป็นนักสู้ระดับเซียนไปแล้ว ข้าจะแปลงร่างมังกรด้วยเช่นกัน” ลินลี่ย์เปลือยกายท่อนบน จากนั้นร่างจึงค่อยๆมีเกล็ดมังกรสีดำปกคลุมพร้อมกับหนามแหลมก็งอกออกมาด้วยเช่นกัน
ในพริบตาลินลี่ย์ก็แปลงร่างเป็นนักรบเลือดมังกร
“แต่ละครั้งที่ข้าเห็นแววตาท่านผู้นำของเขา ข้าหวั่นใจเสียเหลือเกิน” เกทส์น้องคนที่ห้ากล่าวเบาๆ พี่น้องอีกสามคนพยักหน้า
ลินลี่ย์นัยน์ตาสีทองเข้มที่ได้รับเป็นคุณสมบัติตกทอดมาจากมังกรเกราะหนามเย็นชาและไร้ความปราณี
“บาร์เกอร์ครั้งแรกข้าจะใช้สัจจะลึกซึ้งแห่งธาตุดินก่อน ถ้าท่านทนได้ อย่างนั้นข้าจะเปลี่ยนมาใช้ดาบหนักอดาแมนเทียม” ลินลี่ย์พูดเสียงต่ำ
แม้ว่าจะใช้หมัดแต่เขาก็ยังใส่พลังสัจจะลึกซึ้งแห่งธาตุดินไว้เต็มที่
เพียงแต่ในแง่พลังที่เกิดขึ้น มันมีพลังราวครึ่งหนึ่งที่พลังดาบหนักอดาแมนเทียมสร้างขึ้นมาได้
“เอาล่ะ มาเลย ไม่ต้องออมมือให้ข้ามากนักก็ได้” บาร์เกอร์ก็ตื่นเต้นเช่นกัน ตอนนี้ตาของเขามีสีฟ้าอมทอง
ลินลี่ย์ทะยานขึ้นจากพื้นพุ่งขึ้นไปจนเป็นรูปร่างเลือนรางพุ่งเข้าหาบาร์เกอร์ในอากาศ
“คลื่นสิบชั้น” ลินลี่ย์ปล่อยพลังมากขึ้น
ราวกับสายฟ้าฟาดหมัดขวาของเขาต่อยใส่อากาศกระทบใส่เกราะสีขาวที่คลุมอกของบาร์เกอร์ แต่บาร์เกอร์รู้สึกว่าไม่มีอะไรเลยขณะที่ดูเหมือนหมัดจะกระแทกใส่ร่างกายเขาอย่างรุนแรง
“บึ้ม บึ้ม บึ้ม!”
พลังโจมตีที่แปลกประหลาดทะลวงผ่านเกราะและกล้ามเนื้อที่ทรงพลังของเขา จากนั้นทะลวงผ่านปราณยุทธที่ล้อมรอบอวัยวะภายในของเขา ในที่สุดก็รู้เหมือนถูกค้อนหวดใส่หัวใจและอวัยวะภายในของเขา
อวัยวะภายในของเขาสั่นสะเทือนทั้งหมมด
แต่จากนั้นปราณยุทธอมตะในตัวบาร์เกอร์ก็คลุมอวัยวะภายในของเขามากยิ่งขึ้นทันที
“ฮ่าฮ่า, ข้ายังสบายดี เอาอีก” ตาของบาร์เกอร์เป็นประกาย หมัดของลินลี่ย์ใช้พลังคลื่นสิบชั้นก็ยังไม่สามารถทำร้ายเขาได้แม้แต่น้อย เพียงสิ่งเดียวที่เขารู้สึกก็คือแรงสั่นสะเทือนจากอวัยวะภายในร่างกายของเขา
ลินลี่ย์พยักหน้า
ความจริงถ้านักรบอมตะระดับเซียนมีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อไม่สามารถรับพลังหมัดคลื่นสิบชั้นได้ อย่างนั้นนักรบอมตะก็คงไม่คู่ควรแก่การยกย่องให้เป็นสุดยอดนักรบที่มีพลังป้องกันที่ยิ่งใหญ่ได้
“ดี ข้าจะค่อยๆ เพิ่มพลังโจมตีของข้า” ลินลี่ย์ไม่เสียเวลาพูดอีกต่อไปเขาเริ่มโจมตีทันที
บาร์เกอร์รู้ดีว่าจุดอ่อนของนักรบอมตะอยู่ที่ความเร็วต่ำของพวกเขา ความจริงแม้ว่าเขาจะมีพลังต่อสู้กับลินลี่ย์แต่เนื่องจากลินลี่ย์มีความเร็วเหนือกว่าลินลี่ย์จึงสามารถต่อยเขาได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ผลก็คงไม่แตกต่างจากสิ่งที่เขาทำในตอนนี้คือยืนเฉยๆปล่อยให้ลินลี่ย์โจมตีเขา
จำนวนแรงสั่นสะเทือนในการโจมตีแต่ละครั้งเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ
จากคลื่นสิบชั้นเป็นยี่สิบชั้น สามสิบชั้น...
“พลังป้องกันของเขาแข็งแกร่งมากจริงๆ เขายังสามารถทนต่อพลังคลื่นเก้าสิบชั้นได้” นัยน์ตาของลินลี่ย์เป็นประกาย เขาตวาดเสียงลั่นทันที “บาร์เกอร์ เตรียมตัวรับหมัดเปล่าที่ทรงพลังที่สุดของข้า!”
บาร์เกอร์รอเขาอยู่ในกลางอากาศ
บาร์เกอร์ต้องทนรับอยู่อย่างนั้น พลังคลื่นเก้าสิบชั้นก็ทำให้เขาบาดเจ็บบ้างแล้ว แต่เนื่องจากพลังรักษาตนเองที่น่าประหลาดของปราณยุทธอมตะของเขาเขาจึงฟื้นตัวได้เร็วจากอาการบาดเจ็บเล็กน้อย
“คลื่นร้อยชั้น!”
เหมือนกับพายุที่รุนแรงลินลี่ย์ยิงพลังใส่อากาศหมัดของเขาใกล้บาร์เกอร์เข้าไปทุกทีก่อนจะกระแทกใส่อกของเขาในที่สุด
“บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม!”
บาร์เกอร์รู้สึกเหมือนกับว่าเขาถูกดาวตกขนาดมหึมากระแทกใส่ขณะที่ทั้งร่างกายและอวัยวะภายในเริ่มสั่นสะท้านด้วยพลังที่เขาไม่เคยประสบมาก่อน คลื่นสั่นสะเทือนเป็นร้อยเกิดขึ้นในพริบตา
บาร์เกอร์รู้สึกว่าอวัยวะภายในของเขาสั่นสะท้านและเขารู้สึกว่ามีเลือดอยู่ในปาก
เขาต้องการกลืน แต่จากนั้นกระแสเลือดอีกสายหนึ่งถูกดันขึ้นมาที่ปากโดยอวัยวะภายในของเขา เขาไม่อาจอดกลั้นอีกต่อไป และกระอักเลือดออกมาเต็มคำ
“พี่ใหญ่!” พี่น้องบาร์เกอร์ทั้งสี่วิ่งเข้าไปหาด้วยความประหลาดใจ
“บาร์เกอร์” ลินลี่ย์ตกใจเช่นกัน
“ข้าปลอดภัย” หลังจากกระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง บาร์เกอร์ก็รู้สึกดีมากขึ้น “ข้าไม่ได้รับบาดเจ็บหนักอะไร ปราณยุทธอมตะของข้าจะสามารถรักษาเยียวยาอาการบาดเจ็บเล็กน้อยนี้ได้ภายในสามวัน”
บาร์เกอร์มองดูลินลี่ย์ด้วยความชื่นชม “ท่านลินลี่ย์ ว่ากันในเรื่องความรู้แจ้งและความเข้าใจ ท่านอยู่ในระดับสูงกว่าข้ามากมาย แม้ว่าร่างของข้าจะทรงพลังมากกว่าท่านก็ตาม ข้าก็ยังเอาชนะท่านไม่ได้”
ลินลี่ย์จากเมื่อสี่ปีที่แล้วก็ยังไม่ใช่คู่มือของบาร์เกอร์ในปัจจุบันนี้
แต่แน่นอนว่าในช่วงสี่ปีมานี้ลินลี่ย์เข้าใจสัจจะลึกซึ้งแห่งธาตุดินได้ลึกล้ำขึ้น โดยเพิ่มจากคลื่นสามชั้นแต่เดิมเป็นระดับคลื่นร้อยชั้นในปัจจุบัน เขามีพลังโจมตีเพิ่มขึ้นหลายสิบเท่า
“ถ้าข้าใช้ดาบหนักอดาแมนเทียมพลังคลื่นร้อยชั้นจะทวีคูณ” ลินลี่ย์รำพึงกับตนเอง พลังของสัจจะลึกซึ้งแห่งธาตุดินเมื่อใช้กับดาบหนักพลังจะเพิ่มขึ้นอีกมากมาย
“ถ้าข้าใช้พลังทั้งหมดด้วยดาบหนักอดาแมนเทียมและท่าสังหารคลื่นร้อยชั้น มีแนวโน้มว่าข้าอาจทำร้ายนักรบอมตะระดับเซียนชั้นต้นให้บาดเจ็บหนักหรือกระทั่งตายก็ได้” ตอนนี้ลินลี่ย์มั่นใจมาก
ความสามารถในพลังป้องกันของนักรบอมตะเป็นตำนานโดยแท้
ถ้าแม้แต่นักรบอมตะระดับเซียนชั้นต้นไม่สามารถทนรับการโจมตีนี้ได้ แล้วนักสู้ระดับเซียนชั้นต้นธรรมดาจะทนได้อย่างนั้นหรือ?
“นักสู้ระดับเซียนชั้นต้นที่เผชิญกับพลังโจมตีคลื่นร้อยชั้นก็คงมีแนวโน้มว่าจะต้องตาย” ลินลี่ย์รู้สึกมั่นใจมาก
พลังดิบและระดับความเข้าใจต้องสนับสนุนกัน
เทียบกับสี่ปีที่แล้ว พลังดิบของลินลี่ย์ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก แต่ในเรื่องระดับความเข้าใจ เขาก้าวหน้าไปหลายสิบเท่า และนักสู้ระดับเก้าชั้นสูงทั่วไปเมื่อเข้าถึงระดับเซียนโดยทั่วไปพลังจะเพิ่มขึ้นราวๆ สิบเท่า
“บาร์เกอร์” ซาสเลอร์พูดพร้อมกับยิ้ม “ว่ากันในเรื่องพลังล้วนๆ ร่างกายของพวกเจ้าห้าพี่น้องไม่มีใครอ่อนแอกว่าลินลี่ย์เลย ร่างของเจ้าบาร์เกอร์ความจริงแข็งแกร่งมากกว่าลินลี่ย์ แต่ในเรื่องความรู้แจ้งและความเข้าใจของเจ้ายังด้อยกว่ามาก ลินลี่ย์บอกพวกเจ้าไปแล้วว่าระดับความเข้าใจของเขาสามารถแบ่งได้เป็นสี่ระดับ พลังโจมตีธรรมดาถือเป็นระดับหนึ่ง กวัดแกว่งของหนักเสมือนของเบาถือเป็นระดับสอง ‘กำหนด’ ถือเป็นระดับสาม และสัจจะลึกซึ้งแห่งธาตุดิน ถือเป็นระดับสี่ แต่พวกเจ้าทั้งห้าคนยังใช้พลังดิบเถื่อนพื้นฐานกันทั้งนั้น ระดับความรู้แจ้งและความเข้าใจของพวกเจ้ายังต่ำเกินไป”
บาร์เกอร์คืนร่างกลับเป็นลักษณะปกติ
“ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา ท่านลินลี่ย์ก็สอนเราไว้มากมาย แต่พวกเราห้าพี่น้องความจริง...” บาร์เกอร์หัวเราะอย่างเก้อเขิน
“ท่านผู้เฒ่า ท่านคิดว่าเราเป็นอัจฉริยะหรือ? ท่านลินลี่ย์อายุยี่สิบห้าปีเองแต่ความรู้แจ้งและความเข้าใจกลับเท่าระดับเซียนชั้นสูง” น้องห้าเกทส์ไม่กล้าล่วงเกินหรือแสดงความไม่เคารพแต่อย่างใด
ซาสเลอร์ชำเลืองเกทส์อย่างไม่พอใจ
“พวกท่านมีพลังภายนอกและใช้อาวุธหนักกันทุกคน ท่านน่าจะเข้าใจระดับใช้ของหนักเสมือนเป็นของเบาได้ แต่ไม่ต้องใจร้อนมากเกินไป ตราบใดที่ท่านตั้งใจฝึกฝนให้ดี สักวันหนึ่งท่านอาจจะเข้าใจก็ได้” ลินลี่ย์พูดให้กำลังใจ
ความจริงลินลี่ย์มีข้อได้เปรียบที่ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว
พลังธาตุสัมพันธ์ของเขาอยู่ในระดับพิเศษ ในฐานะจอมเวทเขาสามารถปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติได้ง่าย เมื่อคู่กับสัมพันธ์ธาตุที่มีมาแต่แรกของเขาเข้ากับการใช้ดาบ จึงเป็นธรรมดาสำหรับเขาที่สามารถเข้าใจในระดับลึกได้เร็ว
“ขอรับ ท่านลินลี่ย์” ห้าพี่น้องพยักหน้า
ห้าพี่น้องรู้กันทุกคนว่าตอนนี้ลินลี่ย์ยังคงเป็นนักสู้ระดับแปดชั้นสูง ในไม่ช้าเมื่อเขาบรรลุระดับต่อไปลินลี่ย์จะกลายเป็นนักสู้ระดับเซียนชั้นต้นในร่างมังกรแปลง เพราะเขามีระดับความเข้าใจที่สูงอยู่แล้ว พอถึงเวลานั้นความแตกต่างระหว่างลินลี่ย์และพวกเขาก็จะมากยิ่งขึ้น
“เราจะไม่ยอมให้ตัวเราเองเป็นภาระสำหรับเขา” ห้าพี่น้องมีความภูมิใจทุกคนตัดสินใจฝึกให้หนักขึ้นนับแต่นั้น
ในพริบตาเดียวผ่านไปอีกหนึ่งปี
ลมฤดูใบไม้ร่วงส่งเสียงหวีดหวิวเหมือนดั่งเคย
เมื่อมองดูพี่น้องบาร์เกอร์ที่ง่วนกับการฝึกฝนของพวกเขาลินลี่ย์อดยิ้มไม่ได้ พี่น้องทั้งห้าคนมีร่างกายที่แข็งแกร่งมากกว่าลินลี่ย์และลินลี่ย์ใช้ค่าใช้จ่ายขอให้หอการค้าดอว์สันสร้างอาวุธให้พวกเขา
ขวานยักษ์ด้ามยาวห้าเล่ม
ขวานยักษ์ด้ามยาวเหล่านั้นยาวอย่างน้อยสองเมตรและหนาอย่างน่าประหลาด นอกจากนี้หัวขวานก็มีขนาดใหญ่เช่นกัน ตัวขวานยักษ์เองสร้างจากวัสดุที่ดีที่สุด ขวานยักษ์ด้ามยาวแต่ละเล่มมีน้ำหนักมากถึง 5300ปอนด์
“เกทส์น้องคนที่ห้ามีพรสวรรค์ความเข้าใจสูงจริงๆเขาเป็นคนแรกที่เข้าถึงระดับกวัดแกว่งของหนักเสมือนของเบาได้ อีกสี่คนยังต้องทำความเข้าใจ
แม้ว่าเวลาจะผ่านไปเกินกว่าปีนอกจากบาร์เกอร์แล้วน้องๆ คนที่เหลือยังเป็นนักสู้ระดับแปดชั้นสูงและยังไม่บรรลุระดับสูงขึ้นไปกว่านั้น ที่น่าแปลกใจคนเดียวก็คือเกทส์สามารถเข้าใจระดับกวัดแกว่งของหนักเสมือนของเบาได้”
ซาสเลอร์ก็ใช้ช่วงเวลาหนึ่งปีนี้ฝึกหนักเช่นกัน ชายชราอายุเกิน 800ปีรู้สึกอายเนื่องจากความก้าวหน้ารวดเร็วของพลังลินลี่ย์และพี่น้องบาร์เกอร์ทำให้เขาต้องพยายามอย่างหนักเช่นกัน
เมื่อเห็นใบไม้แห้งร่วงจากต้นไม้ ทันใดนั้นลินลี่ย์รู้สึกสงบมาก
“ห้าปี เป็นเวลาห้าปีแล้ว ข้าควรจะไปทำตามข้อตกลงห้าปีก่อนเช่นกัน” ลินลี่ย์มองไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือที่ตั้งเมืองเซียร์