ตอนที่ 8-38 ยุทธศาสตร์ศาสนจักร
หลังจากซีซาร์จากไปแล้ว กลุ่มของลินลี่ย์มุ่งหน้าไปยังเมืองเบซิลในเช้านั้นทันที ครั้งนี้พวกเขาใช้เวลาไม่รีบเร่งจนเกินไป แต่เพราะห้าพี่น้องบาร์เกอร์เป็นนักรบระดับแปดความเร็วในการเดินทางนั้นจึงค่อนข้างรวดเร็ว
ตกกลางคืนในวันต่อมากลุ่มของลินลี่ย์ก็มาถึงเมืองที่อยู่ใกล้เคียงเมืองเบซิล
“เมืองนี้มีหมู่บ้านชื่อหมู่บ้านเทียมเมฆ” ซาสเลอร์หัวเราะขณะแนะนำชื่อเมือง “ในอดีตข้าใช้เวลาเกินสิบปีในเมืองน้อยๆ แห่งนี้ ผู้คนที่นี่สัตย์ซื่อถือมั่น และพวกเขาไม่ค่อยโต้ตอบกับโลกภายนอก กล่าวโดยทั่วไปก็คือ น้อยคนนักที่จะมาที่นี่ มันสงบสุขมาก”
ลินลี่ย์พยักหน้า
สิ่งที่พวกเขาต้องการก็คือสถานที่สงบ ตอนที่พวกเขาสู้กับสเตลห์นี้ เขาเกือบจะเสียชีวิตไปแล้ว ลินลี่ย์ตั้งใจแล้วว่าจะต้องฝึกจนกว่าอย่างน้อยก็เป็นนักรบระดับเก้าในร่างมนุษย์ ด้วยวิธีการเช่นนั้นหลังจากแปลงร่างมังกรพลังของเขาน่าจะเป็นพลังระดับเซียน
“ถ้าข้าสามารถบรรลุถึงระดับเซียนได้ และอีกสองสามปีจากนั้นเมื่อข้าผสานความรู้ความเข้าใจหลักการใช้ดาบกับความเร็วสูงสุดของข้า ต่อให้ข้าเผชิญหน้ากับสเตลห์อีก ข้าก็ยังหนีเอาตัวรอดได้ต่อให้ข้าชนะไม่ได้ก็ตาม”
ลินลี่ย์เข้าใจพลังของร่างมังกรแปลงที่เขามีเป็นอย่างดี
หลังจากดื่มเลือดมังกรและแก่นพลังมังกรของมังกรเกราะหนาม ร่างแปลงมังกรของลินลี่ย์ก็ได้รับสืบทอดพลังของมังกรเกราะหนามทั้งความเร็วและพลังป้องกันมาด้วย
ส่วนห้าพี่น้องบาร์เกอร์จ้องมองดูเมืองที่สงบนัยน์ตาของพวกเขามั่นคงและแน่วแน่
“คงจะมีสักวันแน่ที่ข้าจะต้องล้างแค้นให้ภรรยาและลูกของข้า” บาร์เกอร์และน้องของเขายังคงรับรู้สถานการณ์ระหว่างลินลี่ย์ซาสเลอร์และศาสนจักรเจิดจรัสด้วย
ไม่ต้องสงสัยกันเลยในเวลานี้ คนกลุ่มนี้มีลินลี่ย์เป็นผู้นำ
คนกลุ่มนี้ประกอบไปด้วยศัตรูของศาสนจักรเจิดจรัสล้วนๆ
ทางด้านตะวันตกของหมู่บ้านยอดเมฆ ลินลี่ย์และคนของเขาร่วมทำธุรกรรมกับผู้นำชุมชนท้องถิ่นบางส่วนใช้เงินหมื่นเหรียญทองจ้างแรงงานหลายคนมาช่วยสร้างที่พักใหม่
หมื่นเหรียญทองในเมืองชนบท ด้วยจำนวนเงินขนาดนี้เพียงพอจะสร้างที่พักอยู่ได้อย่างเหลือเฟือ
ในวันถัดมา ลินลี่ย์พารีเบ็คกาและลีนามายังที่นี้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปลินลี่ย์นำกลุ่มของเขาทุกคนมาที่นี่เงียบๆคร่ำเคร่งอยู่กับการฝึกฝนของพวกเขา
“ครืนนน”
คลื่นทะเลซัดสาดกระทบฝั่งก่อเกิดเป็นฟองแตกกระจายนับไม่ถ้วนเหนือพื้นผิวมหาสมุทรสีฟ้าเขียวร่างมนุษย์คนหนึ่งที่เห็นได้ชัดบินผ่านมาด้วยความเร็วสูง ในช่วงเวลาสั้นๆ ร่างมนุษย์ผู้นั้นก็มาถึงชายฝั่ง
“ตอนนี้หลายอย่างกลับกลายเป็นซับซ้อนแล้ว” สเตลห์ผิดหวังมาก
ทางศาสนจักรให้ความสำคัญกับร่างทั้งห้าไว้เป็นอย่างสูง มีแนวโน้มว่ายินดียอมสละนักสู้ระดับเซียนคนหนึ่งหรือยอมล่วงเกินจักรวรรดิโอเบรียนได้เพื่อให้เกิดความแน่ใจว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาดอย่างแน่นอน ไฮเดนส์จึงขอให้เขา..สเตลห์ช่วยจัดการให้
แต่ผลที่ออกมาก็คือ....
สเตลห์จ้องมองมหาวิหารเจิดจรัสที่อยู่ห่างออกไป
“วูบบบ” สเตลห์เหาะขึ้นอากาศอีกครั้ง อัศวินรอบๆ วิหารเจิดจรัสเมื่อเห็นสเตลห์บินตรงเข้ามา พวกเขาอดเครียดไม่ได้ แต่หลังจากที่เห็นว่าเป็นสเตลห์พวกเขาจึงสงบลงได้
ภายในวิหารเจิดจรัสชั้นที่เก้า
“โอว, สเตลห์กลับมาแล้ว” ไฮเดนส์มองเห็นสเตลห์บินกลับมาจากทางหน้าต่างอยู่แล้ว “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมสเตลห์กลับมาคนเดียว?”
ไฮเดนส์รู้สึกถึงลางร้าย
“แอ๊ด” โดยไม่แจ้งบอกล่วงหน้า ประตูห้องเขาถูกเปิดออก สเตลห์ที่เยือกเย็นเหมือนน้ำแข็งพันปีเดินเข้ามา
“สเตลห์, เกิดอะไรขึ้น? พวกเขาอยู่ที่ไหน? ร่างระดับแปดทั้งห้าร่างอยู่ที่ไหน?” ไฮเดนส์ขมวดคิ้วและรีบถาม
สเตลห์ส่ายศีรษะ “ฝ่าบาท ร่างทั้งห้านี้จะไม่ใช่ทางเลือกของเราอีกต่อไปแล้ว”
“เกิดอะไรขึ้น?” ไฮเดนส์หน้าสลด
ร่างทั้งห้าคือตัวแทนของนักสู้ระดับเซียนชั้นสูงห้าคน พวกเขามีความสำคัญต่อศาสนจักรเจิดจรัสอย่างที่มิอาจเข้าใจได้
สเตลห์พูดด้วยเสียงเบาและประหม่า “ฝ่าบาทเดิมทีข้ากำลังคุ้มกันห้าพี่น้องมาในระหว่างทาง แต่เมื่อเราเข้าเมืองเดโกเราเจอกับคนสองคน”
“สองคนไหน?” ไฮเดนส์ไม่เชื่อว่าจะมีคนที่หยุดสเตลห์ไว้ได้
“ลินลี่ย์ ซาสเลอร์”เสียงของสเตลห์เย็นชา
“ลินลี่ย์? ซาสเลอร์?” ไฮเดสน์สะดุ้ง
ลินลี่ย์ผู้นี้หายสาบสูญไปสามปี ตอนนี้กลับโผล่ออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยอย่างนั้นหรือ?
ไฮเดนส์อดนึกย้อนไปเมื่อสามปีก่อนไม่ได้ ไฮเดนส์ไม่ต้องการจะฆ่าสุดยอดอัจฉริยะอย่างลินลี่ย์อย่างแท้จริง แต่เขาไม่มีทางเลือก อย่างไรก็ตามเมื่อสามปีที่แล้วหลังจากลินลี่ย์หายไปจากเมืองเฮสก็ไม่มีผู้ใดพบร่องรอยของเขาอีกเลย
แต่ตอนนี้ลินลี่ย์สุมหัวกันกับซาสเลอร์หรือ?
“เจ้ากำลังบอกข้าว่าเป็นลินลี่ย์ที่มาช่วยซาสเลอร์ไว้ใช่ไหม?” ไฮเดนส์ตาเป็นประกาย
สเตลห์พยักหน้า “ถูกแล้วลินลี่ย์แข็งแกร่งมากๆ พวกนักสู้ที่ต่ำกว่าระดับเซียนลงมาไม่มีใครสู้เขาได้ มีแต่เพียงนักสู้ชั้นเซียนเท่านั้นหรือนักสู้ที่มีพลังมากเท่านั้นจึงจะเอาชนะเขาได้”
“นักสู้ระดับเก้าหกคน เขาสามารถฆ่าได้มากขนาดนั้นเชียวหรือ?” ไฮเดนส์พบว่ายากจะเชื่อถือ
สเตลห์พยักหน้าอย่างขมขื่น “ฝ่าบาทข้าต้องแจ้งให้ท่านทราบว่าลินลี่ย์ยังมีอสูรเวทที่ทรงพลังมากอีกสองตัว ทั้งสองน่าจะเป็นอสูรเวทระดับเก้าชั้นสูงและนอกจากนี้ในเรื่องความรู้ความเข้าใจหลักการของนักรบ ลินลี่ย์เข้าใกล้ระดับเซียนชั้นสูงแล้ว”
“เข้าใกล้ระดับเซียนชั้นสูง?” ไฮเดนส์ตกตะลึงหนัก
ที่สำคัญระดับความเข้าใจของนักสู้ชั้นสูงเมื่อมีแล้วก็ยากจะก้าวหน้าไปที่ระดับต่อไปง่ายๆ มีคนที่ต้องใช้เวลาฝึกเป็นร้อยปีแต่ก็ยังล้มเหลวในการพัฒนาก้าวหน้า
“ใช่แล้ว ลินลี่ย์ก้าวหน้าไปถึงระดับใช้พลังฟ้าได้แล้วแบบแผนการโจมตีปัจจุบันของเขาแปลกประหลาดและเฉพาะตนมาก นอกจากนี้ข้ายังรู้สึกได้ในตอนนี้ เขาแค่เพียงเชี่ยวชาญบางส่วนในระดับนั้นถึงอย่างนั้นเขายังสามารถทำให้ข้าบาดเจ็บเล็กน้อยได้” สเตลห์รู้สึกจนใจเมื่อนึกถึงพลังโจมตีที่แปลกประหลาดของลินลี่ย์สัจจะลึกซึ้งแห่งธาตุดิน
“ข้าไม่เคยเผชิญกับการโจมตีเช่นนั้น นั่นเป็นรูปแบบการโจมตีที่ไม่ใช่ปราณยุทธไม่เกี่ยวกับพลังภายนอกมัน...” สเตลห์ชะงักไม่สามารถใช้คำที่เหมาะสมมาอธิบายได้
เมื่อได้ยินสเตลห์พูดหลายเรื่องเช่นนั้น ไฮเดนส์รู้สึกประหลาดใจมาก
พลังโจมตีซึ่งทำให้นักสู้ระดับเซียนชั้นสูงอย่างสเตลห์ต้องบาดเจ็บเล็กน้อยในตัวมันเองน่าประหลาดใจมาก
“มีอะไรที่พิเศษกับพลังโจมตีของเขา? แล้วจะป้องกันพลังโจมตีนั้นได้ยังไง?” ไฮเดนส์ถามทันที
สเตลห์พยักหน้า “พลังโจมตีของเขาผ่านเข้าไปตามกล้ามเนื้อและแปลงเป็นพลังเข้าใส่อวัยวะภายในโดยตรง กล่าวอีกอย่างหนึ่ง พลังป้องกันชั้นนอกไม่ว่าจะทรงพลังแค่ไหนก็ล้วนเปล่าประโยชน์”
“โอว?” ไฮเดนส์ขมวดคิ้ว
“วิชานี้คืออาวุธที่มุ่งโจมตีอวัยวะภายใน เพื่อป้องกันวิชานี้วิธีที่ดีที่สุดก็คือใช้ปราณยุทธเพื่อปกป้องอวัยวะภายในร่างกายทั้งหมดโดยคลุมพลังปราณยุทธไปบนอวัยวะภายใน”
ความจริงพลังสั่นสะเทือนนี้ซึ่งเป็นพลังโจมตีที่ลินลี่ย์สร้างขึ้นเมื่อผ่านชั้นพลังป้องกันไปได้ก็จะสูญเสียพลังไปเล็กน้อย
แต่เพราะนี่คือคลื่นสั่นสะเทือน ไม่ว่าพลังป้องกันภายนอกของท่านจะมากเพียงไหนก็ยังส่งพลังของมันผ่านแนวป้องกันของท่านไปได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าอวัยวะภายในของคู่ต่อสู้มีความหนาแน่นสูง มีชั้นปราณยุทธป้องกันไว้ คลื่นสั่นสะเทือนจะถูกปราณยุทธทำให้อ่อนลงเมื่อผ่านไปถึงอวัยวะภายในจะทำให้ระดับการคุกคามนั้นต่ำลง
“ไม่มีทางป้องกันต่อต้านพลังโจมตีชนิดนี้ได้อย่างสิ้นเชิง ทางเลือกเดียวก็คือใช้ปราณยุทธในปริมาณที่มากเพื่อให้เกิดผลที่ดีขึ้น” สเตลห์ถอนหายใจชื่นชม “แล้วอีกอย่างข้ารู้สึกได้ว่าลินลี่ย์เพิ่งจะเข้าใจเคล็ดนี้เมื่อไม่นานนี้เอง ในอนาคตพลังโจมตีของเขามีแนวโน้มจะทรงพลังมากกว่านี้ นี่เป็นพลังโจมตีที่แปลกประหลาดที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นมา”
สเตลห์แสดงความเห็นไว้สูงส่งกับเคล็ดวิชานี้
นี่ยิ่งทำให้ไฮเดนส์กังวลมากขึ้น
“เจ้าลินลี่ย์นี้ต้องถูกฆ่า” ตอนนี้ไฮเดนส์เริ่มจะกังวลมากขึ้น ถ้ายังปล่อยให้ลินลี่ย์พัฒนาฝีมือต่อไปอย่างนี้ เขาคงเป็นภัยคุกคามต่อศาสนจักรเจิดจรัสจริงๆ
“ว่าต่อไป ข้าแน่ใจว่าสองคนนี้ไม่มีพลังพอจะหยุดยั้งเจ้าได้” ไฮเดนส์พูดเสียงทุ้ม
สเตลห์พยักหน้า “แน่นอนทั้งลินลี่ย์และซาสเลอร์อยู่แค่เพียงระดับเก้า แต่ขณะที่ข้าเตรียมจะสังหารลินลี่ย์ มีคนผู้หนึ่งไม่ทราบโผล่มาจากไหน เขาคือซีซาร์ ราชันย์มือสังหาร ซีซาร์!”
“ซีซาร์?” ไฮเดนส์อุทานอย่างตกตะลึง “เขาไม่น่าจะกล้าเผชิญหน้ากับศาสนจักรเจิดจรัสโดยตรง”
“ผิดแล้ว เขากล้า” สเตลห์ถอนหายใจ “ซีซาร์บรรลุระดับเทพแล้ว”
“บรรลุระดับเทพ!”
คำพูดเหล่านี้เหมือนสายฟ้าฟาดเข้าไปในใจของไฮเดนส์ทำให้เขารู้สึกอึ้งมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง ยังมีนักสู้ระดับเทพปรากฏขึ้นในทวีปยูลาน
“ระดับเทพ?” ไฮเดนส์จ้องสเตลห์
“ถูกแล้ว ระดับเทพ” สเตลห์พยักหน้าอีกครั้ง
ไฮเดนส์เงียบอยู่นาน
“ซีซาร์ว่าอะไรบ้าง?” ไฮเดนส์พูดอย่างใจเย็น
“ซีซาร์บอกว่า ในอนาคต ศาสนจักรเจิดจรัสต้องไม่จับกุมห้าพี่น้องเหล่านั้นอีก มิฉะนั้นเขาจะละเลงโลหิตฆ่าตามวิธีของเขาล้างเกาะศักดิ์สิทธิ์” คำพูดของสเตลห์เหมือนค้อนหวดเข้าในใจของไฮเดนส์
ร่างประทับระดับแปดเหล่านี้หมายถึงเทวทูตระดับเซียนชั้นสูง
ความผิดหวังที่หนักเกินไปนี้ ไฮเดนส์ไม่ต้องการยอมรับ
เขาไม่ต้องการยอมรับ!!!
“ทำไมซีซาร์ถึงพูดเช่นนั้น?” ตาของไฮเดนส์หรี่แคบ “ซีซาร์ในความเข้าใจของข้าเขาเป็นบุรุษที่ไม่สนใจอำนาจหรือดินแดน เขามีความสุขกับชีวิตที่อิสระเสรีเขาไม่มีทางใช้ความพยายามแม้แต่น้อยนิดเพื่อคนแปลกหน้า”
นี่ต้องมีเหตุ ซีซาร์ความจริงแล้วไม่สนใจว่าคนอื่นจะเป็นหรือตาย
“คนเกียจคร้านอย่างซีซาร์ยินดีจะทำขนาดนี้เชียวหรือ...”
ไฮเดนส์ขมวดคิ้วทันที และนัยน์ของเขาทอประกายวูบ
“ข้าเข้าใจแล้ว” ไฮเดนส์ถอนหายใจ
“เหตุผลอะไร ฝ่าบาท?” สเตลห์ถาม
ไฮเดนส์ถอนหายใจอีกครั้ง “ในบันทึกที่ศาสนจักรบันทึกเรื่องซีซาร์ไว้มีข้อมูลว่าในช่วงกลียุคเมื่อห้าพันปีที่แล้ว ซีซาร์มีสหายรักที่ต่อสู้เคียงข้างกันคนหนึ่งชื่อว่าอาร์มันด์คนที่ซีซาร์ให้คุณค่าความสำคัญนั้นก็คือลูกหลานของอาร์มันด์”
“นักรบอมตะ?” สเตลห์เริ่มเข้าใจเช่นกัน
“ถูกแล้ว ข้ามักประหลาดใจอยู่เสมอว่าร่างระดับแปดทั้งห้าจู่ๆ มาปรากฏอยู่ในทวีปยูลานได้ยังไง แต่ก็สมเหตุสมผลแล้ว นักรบอมตะคือนักรบที่มีพลังภายนอกมากที่สุดในบรรดาสี่สุดยอดนักรบ”
ไฮเดนส์นิ่งอยู่นาน ความคิดของเขากลับคืนเป็นปกติ
“เราไม่อาจแตะต้องพี่น้องทั้งห้าคนได้ นั่นไม่ต้องสงสัย” ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็ไม่สามารถรุกรานยอดฝีมือระดับเทพได้แน่
“ระดับพรสวรรค์ของลินลี่ย์น่ากลัวจริงๆ เราจะปล่อยให้เขามีชีวิตต่อไปไม่ได้” ไฮเดนส์มองดูสเตลห์ “สเตลห์,ซีซาร์ไม่ได้พูดว่าเขาจะรบกับศาสนจักรเจิดจรัสเพื่อลินลี่ย์ใช่ไหม?”
สเตลห์พยักหน้า
ไฮเดนส์ยิ้มอย่างมั่นใจ
“นั่นค่อยเป็นเหมือนเขา แม้ว่าเขาจะชอบประติมากรรมหิน แต่เขาจะไม่เข้าต่อสู้กับศาสนจักรเจิดจรัสเพียงเพื่อยอดประติกรคนหนึ่งแน่นอน”
ซีซาร์เป็นคนโดดเดี่ยวที่หยิ่ง
มีคนอยู่น้อยคนที่เขายินดีจะทุ่มเทชีวิตให้ และลินลี่ย์ไม่ใช่หนึ่งในนั้น
“สเตลห์ ไปพักเสียเถิด, เมื่อเจ้าออกไป ช่วยบอกให้คนตามลินดอนมาพบข้า”ไฮเดนส์สั่ง
“รับบัญชา ฝ่าบาท”
สิบนาทีต่อมามีเสียงเคาะอยู่หน้าประตู
“เข้ามาได้” ไฮเดนส์กล่าวอย่างใจเย็น
สตรีงามสูงโปร่งมีผมสีเงินเดินเข้ามาหา ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางคือสตรีที่งดงามมากจนทำให้บุรุษคลั่งไคล้ได้ แต่ลักษณะความเย็นชาของนางทำให้คนอื่นๆไม่กล้าเข้าใกล้นาง
“ฝ่าบาท” ลินดอนคำนับ
ไฮเดนส์ออกคำสั่งทันที “พรุ่งนี้จงพาห้าเทวทูตไปกับเจ้ามุ่งหน้าสู่จักรวรรดิโอเบรียนเป้าหมายคือทำภารกิจฆ่าลินลี่ย์ อีกสักครู่ข้าจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับลินลี่ย์ส่งไปให้เจ้า”
“เพคะ ฝ่าบาท”
ลินดอนคือเทวทูตเจิดจรัสซึ่งประทับอยู่ในร่างระดับหก แม้ว่าเป็นเรื่องยากจะหาร่างระดับเจ็ดและแปดได้ แต่ร่างระดับหกก็ค่อนข้างปกติ ดังนั้นศาสนจักรเจิดจรัสจึงมีเทวทูตระดับเก้าไม่กี่คน
“จำไว้, เจ้าต้องฆ่าลินลี่ย์ ไม่ว่าต้องทุ่มเทแค่ไหนก็ตาม”ไฮเดนส์สั่งย้ำอีกครั้ง
ลินดอนจ้องจากนั้นมีสีหน้ายอมรับ
เทวทูตมีพลังที่ประหลาด แม้แต่เทวทูตสองปีกที่อ่อนแอที่สุดก็มีพลังชั้นเซียนระดับต้น พลังที่แท้จริงของลินดอนนั้นแกร่งมาก อย่างไรก็ตามข้อจำกัดของร่างประทับทำให้พวกเขาไม่อาจสำแดงพลังได้เต็มที่
แต่ถ้าพวกเขาทุ่มเทพลังทั้งหมด..
พวกเขาสามารถปลดปล่อยพลังระดับเซียนของพวกเขาเพื่อแลกชีวิตก็ได้
ที่สำคัญที่สุด...เทวทูตทั้งหกสามารถก่อตั้งพยุหะเทวทูตรบในตำนานได้เมื่อทั้งหกคนรวมพลังกัน แม้แต่ยอดฝีมือระดับเซียนชั้นต้น ก็อาจถูกฆ่าได้ ไม่ต้องพูดถึงลินลี่ย์เลย
“ไปได้”
ไฮเดนส์พูดอย่างสงบ
ที่สำคัญพวกเขาคือเทวทูตระดับเก้าหกคน เพื่อจะฆ่าลินลี่ย์ให้ได้ เขายินยอมเสียสละคนมากกว่าหก ถ้าจำเป็น ที่สำคัญลินลี่ย์มีพรสวรรค์ธรรมชาติที่ทำให้ไฮเดนส์กลัว
“เขาจะเติบโตต่อไปไม่ได้!”