ตอนที่ 8-36 ยอดฝีมือแท้จริง
กระบี่โจมตีของสเตลห์นี้ในเรื่องของระดับพลังยังเหนือกว่าระดับเคล็ด ‘กำหนด’ ถ้า ‘สัจจะลึกซึ้งแห่งธาตุดิน’ ของดาบหนักอดาแมนเทียมเป็นพลังโจมตีพิเศษแบบหนึ่ง อย่างนั้นพลังโจมตีที่สเตลห์ใช้ออกมานี้อาจสรุปได้ด้วยคำๆ เดียว นั่นคือ “เร็ว”
“ข้ากำลังจะตายงั้นหรือ?” ลินลี่ย์ไม่พอใจและไม่เต็มใจจะตาย เขาต้องการมีชีวิต เขายังไม่บรรลุเป้าหมายของเขาเอง
แต่โชคร้ายในโลกนี้มีหลายคนตายในเวลาและสถานที่ซึ่งพวกเขาเลือกไม่ได้ ที่สำคัญโลกไม่ได้หมุนรอบตัวคนใดคนหนึ่ง หลายๆ เหตุการณ์ไม่เป็นไปดั่งใจ
“พี่ใหญ่!”
บีบีเริ่มหลั่งน้ำตา
แต่ทันใดนั้นบีบีตกตะลึง
ไม่เพียงแต่บีบีเท่านั้น แฮรุ ซาสเลอร์ แม่ทัพอัศวินดำห้าพี่น้องบาร์เกอร์ หรือแม้แต่คนที่มองดูอยู่ห่างออกไปก็ตกตะลึงกันหมด
“เกิดอะไรขึ้น?” ทุกคนงง
เวลานี้ลินลี่ย์กำลังยืนอยู่บนพื้น ขณะที่สเตลห์กำลังแทงกระบี่ลงมาจากท้องฟ้ากระบี่ของเขาอยู่ใกล้หน้าผากลินลี่ย์มาก
แต่ทั้งสองคนไม่ขยับ พวกเขาถูกแช่แข็งอยู่กับที่
แม้แต่เลือดที่หยดจากมือขวาที่บาดเจ็บของลินลี่ย์ก็พลอยหยุดค้างอยู่กลางอากาศไปด้วย
ในช่วงเวลาอย่างนี้เหมือนกับว่าห้วงเวลารอบตัวลินลี่ย์และสเตลห์หยุดนิ่งกะทันหัน ร่างกายและทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นอัมพาต
ไม่ใช่เพียงแค่นั้นบีบี แฮรุ ซาสเลอร์และห้าพี่น้องบาร์เกอร์ก็แข็งนิ่งค้างกันหมด
เงียบ!
ความรู้สึกหดหู่ความรู้สึกหวาดกลัวโดดเดี่ยวและความเงียบ
ท่าทางที่ประหลาดใจปรากฏในดวงตาของสเตลห์
“อาจารย์ลินลี่ย์ ไม่ได้พบกันนานเลยนะ”
น้ำเสียงนุ่มนวลร่าเริงดังขึ้นบุรุษที่ดูเหมือนอายุราวสามสิบปีไว้ผมยาวสวมชุดหลวมสบายๆ กำลังเดินเข้ามา เขามองดูเหมือนที่เคยเป็นเสมอมาแม้ว่าเขาจะเพิ่งตื่นก็ตาม
“สเตลห์หรือ? พวกเจ้าเด็กน้อยรุ่นหลังยังบรรลุเป็นเซียนชั้นสูงได้ ถ้าข้าไม่มีความก้าวหน้า ข้าคงไม่มีหน้าพบใคร” บุรุษที่ท่าทางเฉื่อยชาสวมชุดหลวมยาวโบกมือ เหมือนกับว่าปะทะกับภูเขาสเตลห์กระเด็นถอยหลังออกไปเหมือนกับดาวตก
“บึ้ม! บึ้ม! บึ้ม! บึ้ม!” ....
ร่างของสเตลห์กระแทกทะลุผ่านผนังหินเกินกว่าสิบครั้งก่อนจะกระแทกใส่พื้นในที่สุด
“ลินลี่ย์, ข้าไม่ได้พบเจอเจ้าราวๆสามปีแล้วใช่ไหม?” บุรุษผู้เกียจคร้านยิ้มกว้างให้ลินลี่ย์ ทันทีนั้นเองลินลี่ย์รู้สึกว่าสามารถขยับตัวได้ บีบี แฮรุซาสเลอร์และห้าพี่น้องบาร์เกอร์ค่อยรู้สึกว่าสามารถขยับได้อีกครั้ง
รังสีที่น่าสะพรึงกลัวหายไป
“ท่านซีซาร์” ลินลี่ย์แสดงความเคารพขอบคุณทันที ลินลี่ย์รู้สึกขอบคุณซีซาร์มากกว่าในครั้งก่อน เมื่อครู่นี้เขารู้สึกสิ้นหวังจริงๆเมื่อมีคนช่วยชีวิตเขากลับคืนมา เขาจะไม่รู้สึกขอบคุณได้ยังไง?
ผู้มาก็คือซีซาร์ราชันย์มือสังหาร
ซาสเลอร์และคนอื่นจ้องมองอย่างประหลาดใจทุกคน ปากของพวกเขาอ้ากว้าง สิ่งที่พวกเขาเห็นน่าแปลกประหลาดจนเกินไปเมื่อเผชิญหน้ากับคนผู้นี้ สเตลห์ก็ยังไม่สามารถต้านทานได้แม้แต่น้อย
เสียงศิลาพังทลายจนได้ยินชัด สเตลห์ลุกขึ้นยืนได้ แม้ว่าหน้าของเขาจะเต็มไปด้วยฝุ่นและคราบสกปรก เขาก็ยังเดินเข้ามาหาและจ้องมองซีซาร์ด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ
“เจ้า... เจ้า... นี่... นี่มัน...” สเตลห์ตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก
“นี่อะไร? ฮ่าฮ่า บอกข้ามา ว่านี่อะไร?” ซีซาร์ยิ้มเหี้ยมเกรียมให้สเตลห์
สเตลห์สูญเสียความมุ่งมั่นและมาดของยอดฝีมือ ได้แต่ตะลึงจ้องมองซีซาร์ เขาตะโกน “เทพ..เทพ... แดนเทพ?”
“แดนเทพ?”
ลินลี่ย์และซาสเลอร์ประหลาดใจกันทั้งคู่
มิน่าเล่าสเตลห์ถึงประหลาดใจยิ่งนัก ตอนที่ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดนิ่งอยู่กับที่อย่างกะทันหัน นั่นก็คือพลัง ‘แดนเทพ’ในตำนาน มีแต่ระดับเทพเท่านั้นที่ใช้พลังระดับนี้ได้
ตอนนี้ทวีปยูลานมีสุดยอดฝีมืออยู่สี่คน เทพสงครามโอเบรียน,นักพรตสูงสุดและราชันย์แห่งป่าทมิฬและเทือกเขาอสูรวิเศษ
แต่ตอนนี้... ราชันย์มือสังหารซีซาร์มีพลังแดนเทพเป็นของตนเองด้วยหรือ?
“ฮ่าฮ่า...” ซีซาร์หัวเราะ
“ท่านซีซาร์” ลินลี่ย์และคนอื่นมองดูซีซาร์ด้วยความประหลาดใจ
ซีซาร์ยิ้มกว้างขณะลูบหนวด “อย่าแปลกใจไปเลย, สเตลห์ เจ้าและคนอื่นๆ ก็มีความหยิ่งลำพองเช่นกัน โธ่เอ๋ย, ซีซาร์ผู้นี้อาวุโสกว่าเจ้าเป็นเซียนชั้นสูงมาเกินกว่าห้าพันปีแล้วความเร็วในการฝึกฝนของข้าเร็วกว่าพวกเจ้ามาก ข้าเป็นอัจฉริยะ เจ้าก็รู้”
ซีซาร์ถ่มน้ำลายเล็กน้อยกระแอมในลำคอก่อนจะพูดต่อ “แต่เราผู้เฒ่าติดอยู่ในระดับเซียนชั้นสูงมาเกินกว่าห้าพันปีแล้ว ถ้าข้ายังไม่หาทางก้าวหน้า ข้ารู้สึกอับอาย ดังนั้นเมื่อสองปีที่แล้วข้าก็ผ่านอุปสรรคขัดขวางเล็กๆ นี้จนได้”
สเตลห์, ลินลี่ย์,ซาสเลอร์และคนอื่นได้แต่เงียบ
สวรรค์โปรด
เพียงแค่นั้นนักสู้ระดับเทพอีกคนหนึ่งจึงถือกำเนิดขึ้น
ลินลี่ย์พบว่าสามารถเข้าใจได้ ความจริงตามสิ่งที่ปู่เดลินได้บอกไว้ ซีซาร์คือบุคคลจากยุคเดียวกันกับเดลินโคเวิร์ท แม้แต่ตอนนั้นเขาก็เป็นยอดฝีมือระดับเซียนแล้วเมื่อผ่านไปถึงห้าพันปีก็ได้บรรลุระดับเทพในที่สุดไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นที่ใดก็ได้
“ท่านซีซาร์”
สเตลห์คำนับด้วยความเคารพ
นักสู้ระดับเทพทุกคนควรแก่การเคารพ เมื่อถึงระดับเทพนักสู้ก็ไม่ต้องสนใจความคงอยู่แม้ของจักรวรรดิ พวกเขามีพลังสูงสุดในแผ่นดินอย่างแท้จริง เป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินไปนักสำหรับนักสู้ระดับเทพสามารถล้มล้างสหภาพศักดิ์สิทธิ์ได้ซึ่งเสี่ยงที่สุดต่อการได้รับบาดแผลอย่างร้ายแรง
“จะเอายังไง?” ซีซาร์มองดูสเตลห์
สเตลห์พูดอย่างนอบน้อม “ท่านซีซาร์ ตลอดหลายปีมานี้ความสัมพันธ์ระหว่างศาสนจักรเจิดจรัสและท่านซีซาร์นับว่าเป็นไปได้ด้วยดี ข้าจะยินดีถ้าท่านซีซาร์ยินดีเข้าร่วมศาสนจักรเจิดจรัสของเรา ตราบใดที่ท่านซีซาร์ยินดี ข้าเชื่อว่าจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์จะยินดียอมรับคำขอใดๆ ของท่านก็ได้”
นี่คือนักสู้ระดับเทพคนหนึ่ง
มีแนวโน้มว่าไฮเดนส์คงยินดียอมลาออกและยกตำแหน่งจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ให้เขา ที่สำคัญได้นักสู้ระดับเทพมาช่วยดูแลศาสนจักร สถานะของศาสนจักรเจิดจรัสในทวีปยูลานจะแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
“ไม่สนใจ” ซีซาร์แค่นเสียง “หลายปีมานี้เราผู้เฒ่าไม่ยินดีจะดูแลกิจการองค์การดาบโค้งของตัวเองด้วยซ้ำและเจ้าต้องการจะให้ข้าไปทำงานแทนเจ้าอีกหรือ?”
สเตลห์หัวเราะแก้เก้อ
ตอนนี้มีแนวโน้มว่าซีซาร์สามารถยืนอยู่ต่อหน้าจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์กระดิกนิ้วจูงจมูกคนแล้วด่าว่าเขาได้โดยที่จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไม่กล้าส่งเสียงอะไร นี่คือศักดิ์ศรีของนักสู้ระดับเทพ
“ท่านซีซาร์ ถ้าท่านไม่ยินดี ข้าก็ไม่ฝืนใจแต่สำหรับลินลี่ย์ผู้นี้... เขาฆ่าคนของศาสนจักรเจิดจรัสไปมากมายท่านซีซาร์จะยินดี...”
“เหลวไหล”
ซีซาร์เตะท้องสเตลห์ แต่เห็นได้ชัดว่าซีซาร์ไม่ใช้พลังไปกับการเตะ “ลินลี่ย์คือยอดประติมากรระดับเดียวกับปรมาจารย์พรูกซ์และยอดประติมากรอื่น ข้าไม่ได้มีงานอดิเรกมากนัก หนึ่งเกี้ยวสาวงาม อีกหนึ่งก็คืองานประติมากรรม เจ้าต้องการฆ่าอาจารย์ลินลี่ย์ต่อหน้าข้าหรือ? ฝันไปเถอะ”
สเตลห์ไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไป
สเตลห์หงุดหงิดมาก เพราะภารกิจครั้งนี้เขาจะต้องคุ้มกันห้าพี่น้องกลับไปยังศาสนจักรเจิดจรัส พี่น้องทั้งห้าคนนี้มีร่างซึ่งมีพลังภายนอกเท่านักรบระดับแปด เมื่อเทวทูตลงประทับตัวพวกเขา พวกเขาจะกลายเป็นนักสู้ระดับเซียนชั้นสูงห้าคน
“ท่านซีซาร์, เอาอย่างนั้นก็ได้ ศาสนจักรจะยอมเห็นแก่หน้าท่านซีซาร์” สเตลห์ฉีกยิ้ม “อย่างไรก็ตามห้าพี่น้องเหล่านี้คือคนที่ศาสนจักรของเราต้องการตัว ไม่ว่าต้องทุ่มเทอย่างไรเราต้องพาพวกเขากลับไปกับเราให้ได้ ข้าหวังว่าท่านซีซาร์คงจะยินยอม”
“โอว, ห้าคนนั้นหรือ? พาไปได้เลย ข้าไม่รู้จักพวกเขาอยู่แล้ว” ซีซาร์พูดตามปกติ
ศาสนจักรเจิดจรัสปฏิบัติกับเขาด้วยดีมาหลายปีเช่นกัน ดังนั้น ซีซาร์ก็ยอมเห็นแก่หน้าของศาสนจักรเจิดจรัสด้วยเช่นกัน
ห้าพี่น้องบาร์เกอร์ประหลาดใจ
“ท่านซีซาร์!” ลินลี่ย์พูดอย่างกระวนกระวาย
“ลินลี่ย์ ทั้งห้าคนนี้มีสัมพันธ์อะไรที่สำคัญกับเจ้าหรือเปล่า?” ซีซาร์บุ้ยปาก “ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น งั้นก็อย่าไปยุ่งกับพวกเขาเลย เพลิดเพลินกับชีวิตของเจ้าเองดีกว่า ทำไมต้องไปยุ่งเรื่องของพวกเขาด้วย?”
นี่คือนิสัยของซีซาร์ เขาเที่ยวไปมาตามลำพัง และกระทำการตามอำเภอใจตัวเอง
“ขอบคุณ, ท่านซีซาร์” สเตลห์ดีใจ
ซีซาร์ยิ้มให้เขา จากนั้นหันไปมองห้าพี่น้องบาร์เกอร์ “ขอข้าดูหน่อยซิ ขอดูว่าพวกเจ้าเป็นใครกันศาสนจักรเจิดจรัสถึงได้ให้คุณค่าพวกเจ้าสูงนัก” ซีซาร์กวาดตามองดูห้าพี่น้องบาร์เกอร์
ห้าพี่น้องบาร์เกอร์มีลักษณะสะดุดตามาก พวกเขาสูง 2.2เมตรและมีกล้ามเนื้อใหญ่โตน่ากลัว ทุกคนดูเหมือนหมีใหญ่มากกว่า
“พวกเจ้าทั้งห้าอย่าขัดขืนเป็นดีที่สุด”สเตลห์เดินเข้ามา ซาสเลอร์และลินลี่ย์ต้องการจะขัดขวางเขา แต่ภายใต้สายตาเยือกเย็นของสเตลห์ ซาสเลอร์และลินลี่ย์ได้แต่ฝืนหัวเราะในใจ
พวกเขาจะหยุดนักสู้ชั้นเซียนระดับสูงได้ยังไง?
ลินลี่ย์เพิ่งใช้รังสีที่น่ากลัวของเทพกระบี่เลือดม่วงพร้อมกับพลังโจมตีของดาบหนักอดาแมนเทียมที่ทรงพลังอย่างเต็มที่ แม้กระนั้นเขาก็ยังทำร้ายอีกฝ่ายได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ลินลี่ย์, ไม่ว่ายังไงก็ตามเราห้าพี่น้องขอขอบคุณเจ้า” พี่ใหญ่บาร์เกอร์กล่าวเสียงดัง
“คนทั้งห้านี้ตัวใหญ่ไม่ใช่เล่นทีเดียว” ซีซาร์พูดเสียงดัง
สเตลห์ตอบรับทันที “ใช่แล้ว, พวกเขามีกล้ามเนื้อมาก”
ซีซาร์มองดูบุรุษทั้งห้า สีหน้าที่ร่าเริงของเขาแต่เดิม ค่อยๆสลดดูเศร้าสร้อย เขาเริ่มเดินช้าๆเข้าหาพี่น้องบาร์เกอร์ในก้าวเดียว
“ทำไมท่านต้องมาหาเราด้วย?” น้องคนที่สามเฮเซอร์พูด
“น้องสาม, อย่าเสียมารยาท!” บาร์เกอร์คนพี่ดุกลับ
“พี่ใหญ่” บุรุษร่างกำยำพูดอย่างไม่สบายใจ
ซีซาร์จ้องมองพี่น้องทั้งห้าอย่างเงียบงันสเตลห์ที่อยู่ข้างๆ เขาเริ่มประหลาดใจ เขาถามเสียงเบา “ท่านซีซาร์ ท่านจะทำอะไร?”
“สเตลห์, ตอนนี้เจ้าไปได้” ซีซาร์พูดอย่างใจเย็น
“ถ้าอย่างนั้น ท่านซีซาร์ ข้าขออำลา” สเตลห์พูดด้วยความเคารพ จากนั้นเขาตวาดใส่ห้าพี่น้องบาร์เกอร์ “พวกเจ้าทั้งห้า เดินไปข้างหน้า”
“ข้าบอกให้เจ้าไปเดี๋ยวนี้ ทั้งห้าคนจะต้องรั้งอยู่” ซีซาร์พูดเสียงเย็นชา
สเตลห์สะดุ้ง
ด้านหลังพวกเขาแม้แต่ลินลี่ย์และซาสเลอร์ก็พลอยตะลึงงันทั้งคู่ แม้แต่ห้าพี่น้องบาร์เกอร์ก็ยังตกใจกับคำพูดนี้
“ท่านซีซาร์, ท่าน...?” สเตลห์จ้องซีซาร์อย่างประหลาดใจ เมื่อครู่นี้ ซีซาร์ยังยินยอมให้เขาพาคนทั้งห้าจากไปได้ แต่ในพริบตาหลายอย่างกลับตาลปัตร
สีหน้าของซีซาร์เย็นชาขึ้นและน่ากลัวขึ้นมากกว่าแต่ก่อน เขาถลึงมองสเตลห์อย่างเย็นชา “สเตลห์, ฟังให้ดี กลับไปบอกไฮเดนส์อย่างนี้ ถ้าในอนาคตคนของศาสนจักรเจิดจรัสยังตามรังควานพี่น้องทั้งห้าคนนี้ ถ้าเป็นอย่างนั้นอย่ามาตำหนิข้าซีซาร์ว่าไม่เห็นแก่หน้าพวกเจ้า ข้าจะล้างเกาะศักดิ์สิทธิ์ของพวกเจ้าให้สิ้นซาก”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้สเตลห์ตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก
“ถ้าเจ้าจากไปตอนนี้ ข้าจะนึกเสียว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นในวันนี้ มิฉะนั้น....” ตาของซีซาร์เป็นประกายเยือกเย็นแฝงไปด้วยรังสีฆ่าฟัน
ซีซาร์คือราชันย์มือสังหารตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เขาเชี่ยวชาญในการลอบสังหาร
และตอนนี้,ซีซาร์เป็นนักสู้ระดับเทพแล้ว
เมื่อซีซาร์ตัดสินใจต่อต้านศาสนจักรเจิดจรัส แค่เพียงการลอบสังหาร เขาอาจสังหารนักสู้ระดับเซียนของศาสนจักรเจิดจรัสจนหมดสิ้นโดยที่ตัวเองไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย
ไม่ว่ายังไงศาสนจักรเจิดจรัสก็ไม่มีความสามารถรุกรานนักสู้ระดับเทพได้ ทั้งยังเป็นนักสู้ระดับเทพที่เชี่ยวชาญในการลอบฆ่าอีกด้วย
“ก็ได้” หัวใจของสเตลห์เต็มไปด้วยความขมขื่นใจ
แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความโกรธแค้นซีซาร์มากขนาดไหน แต่สเตลห์รู้ว่าคนที่อยู่ต่อหน้าเขาก็คือนักสู้ระดับเทพ เขาไม่กล้าแสดงความโกรธแค้นของตนเองได้
“อย่างนั้นท่านซีซาร์ ข้าขออำลา” สเตลห์คำนับเล็กน้อย จากนั้นกลายสภาพเป็นภาพเลือนรางหายไปจากที่นั้นทันที
ลินลี่ย์,ซาสเลอร์และห้าพี่น้องบาร์เกอร์จ้องมองซีซาร์อย่างงุนงง
“ในอดีตซีซาร์มักจะเฉื่อยชาขาดความกระตือรือร้นอยู่เสมอ ดังนั้นทำไมจู่ๆ ก็มีสีหน้าจริงจังเมื่อเห็นห้าพี่น้องบาร์เกอร์เล่า?” ลินลี่ย์ก็งงมากเช่นกัน
ซีซาร์ชำเลืองมองลินลี่ย์และกลุ่มของเขา “มากับข้า ออกไปจากที่นี้ มีคนดูอยู่ที่นี่สองสามคนและ..ข้าคาดว่านักสู้ระดับเซียนคงจะตรวจสอบระลอกพลังงานที่เกิดขึ้นจากการสู้รบครั้งนี้แล้ว”
ไม่มีนักสู้ระดับเซียนอยู่ในเมืองเดโกจริงๆ
นักสู้ระดับเซียนที่อยู่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างออกไปเกินพันกิโลเมตร แม้แต่นักสู้ระดับเซียนก็ต้องใช้เวลาเดินทางในระยะขนาดนั้นต่อให้บินมาก็ตาม
ลินลี่ย์และคนอื่นๆติดตามซีซาร์ออกไปจากสนามต่อสู้ทันที นั่นเป็นเวลาดึกมาก พวกเขาออกจากเมืองเดโกและเข้าไปในป่าเขา จากนั้นซีซาร์จึงให้ทุกคนหยุดพัก
“เราจะใช้เวลากลางคืนที่นี้ในตอนนี้ก่อน” ซีซาร์ถอนหายใจ
ตอนนี้ซีซาร์ไม่ทำตัวไม่ห่วงไม่ลำเอียงเหมือนตามปกติ ตรงกันข้าม เขาดูเหมือนจะไม่สบายใจ ลินลี่ย์รู้สึกได้ว่าซีซาร์จะต้องมีความเกี่ยวข้องกับพี่น้องทั้งห้าคน