ตอนที่ 3 หินเล็กก้อนเดียวและระลอกคลื่นนับพัน
[ทางผู้เขียนประกาศไว้ชัดเจนครับว่า ไม่ได้ตั้งใจจะหมิ่นเกียรติของพระราชินีอังกฤษ และสปอยนิดหน่อยว่า พระองค์จะมีส่วนสำคัญกับเนื้อเรื่องต่อจากนี้ไป]
___________________
ทีมพ่อมดมาถึงพระราชวังบัคกิ้งแฮม ทีมงานประกอบด้วยเสมียนหนุ่มที่เพิ่งได้รับคัดเลือกจากแผนกบังคับใช้กฎหมายเวทมนตร์
น็อบบี้ ลีช รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ก็มาด้วย ตอนนี้ที่เขาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์คนแรกที่เกิดจากมักเกิ้ล เขาย่อมรู้เรื่องโลกของพวกมักเกิ้ลและราชวงศ์ กับพวกเขาอีกสองสามคนที่มาจากสำนักงานระดับล่างของกระทรวงเวทมนตร์
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงประทับที่เก้าอี้ท้ายโต๊ะ "คุณลีช คุณช่วยบอกเราหน่อยได้ไหมว่านี่คือเวทมนตร์อะไร และทำไมผู้พิทักษ์พ่อมดผู้มีความสามารถของคุณถึงรู้เรื่องนี้เร็วกว่านี้ไม่ได้"
น็อบบี้พยักหน้า แต่เขายังแอบสาปแช่งราชินีที่อยู่ในใจด้วย ~ เธอหมายความว่าไง ทำไมงั้นหรอ? ของสิ่งนี้อยู่กับตระกูลของเธอมาหลายร้อยปีแล้ว แถมเป็นเธอเองที่เป็นคนห้ามไม่ให้พ่อมดแม่มดเข้าวัง~
“ฝ่าบาทฯ กระหม่อมได้ตรวจสอบแผ่นจารึกศิลาแล้ว มันเป็นคาถาที่ซับซ้อนที่สุดเท่าที่กระหม่อมเคยเห็นมาตลอดทั้งชีวิตของกระหม่อม อย่างที่ลูกน้องของกระหม่อมทูลไว้ว่าแผ่นศิลานี้เป็นของกษัตริย์อาเธอร์และถูกกำกับคาถามนต์ตราโบราณจอมเวทในตำนานอย่างท่านผู้วิเศษเมอร์ลิน
“เวทมนตร์นี้ถูกสร้างมาเพื่อซ่อนไว้โดยเวทมนตร์โบราณที่แทบจะสาปสูญและคงไม่มีใครในโลกสามารถค้นพบมันได้เพราะมันถูกร่ายโดยผู้วิเศษเมอร์ลิน พระองค์น่าทรงต้องเคยได้ยินเกี่ยวกับตำนานของเขา มันเป็นเรื่องจริงในประวัติศาสตร์สำหรับเราในโลกเวทมนตร์” เขาอธิบาย
ราชินีทรงถอนหายใจยาว หากนี่เป็นเรื่องจริง แผ่นจารึกนี้ก็น่าจะเป็นของจริงเช่นกัน "มีวิธีใดหรือไม่ที่จะค้นหาว่ากษัตริย์องค์ใหม่ที่ว่านี้คือใคร?"
~เธอคงต้องการสังหารเขาเพื่อที่เธอจะได้รักษาสายเลือดของตัวเองสินะ?~ น็อบบี้คิด
น็อบบี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น “ไม่ ไม่ใช่ตอนนี้ เวทมนตร์ชนิดนี้ทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง มันอาจจะเปลี่ยนตัวตนและชื่อของผู้สืบทอดได้อย่างน่าอัศจรรย์นี่เป็นสิ่งที่เราพอคาดเดาได้
แต่ตอนนี้ทางออกที่ดีที่สุดในคือตรวจสอบทะเบียนมักเกิ้ลทั้งหมดและค้นหานามสกุลเพนดรากอน
หากพระองค์พบเขา ให้พาเขาไปที่กริงกอตส์และให้เด็กคนนั้นทำการทดสอบมรดกสายเลือด
ใช่แล้ว ที่นั่นมีห้องนิรภัยใต้ดินที่อยู่ภายใต้ในนามของกษัตริย์อาเธอร์ หรือถ้าหากเด็กคนนั้นมีเวทมนตร์ ชื่อก็อาจถูกบันทึกโดยปากกาขนนกรับรองอยู่ในหนังสืออนุญาติที่ฮอกวอตส์แล้วก็เป็นได้”
“หนังสืออนุญาติหรอ?” ราชินีตรัสถามถึงคำที่ไม่คุ้นเคย
"มันจะบันทึกชื่อเด็กที่เกิดมาเป็นผู้วิเศษทุกคนที่เกิดในอังกฤษรวมไปถึงไอร์แลนด์ มันบันทึกชื่อในขณะที่เด็กคนนั้นเผลอใช้เวทมนตร์โดยไม่ตั้งใจ" รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์อธิบายให้เธอฟัง
"แล้ว...ตอนนี้พอจะเช็คชื่อที่นั่นได้ไหม?" พระองค์ถามด้วยสีหน้ามีความหวัง
*แค่กๆ*
“ขอโทษนะครับคุณผู้หญิง แต่นั่นคงเป็นไปไม่ได้ หนังสืออนุญาตนี้เป็นสมบัติโดยตรงของฮอกวอตส์และมีเพียงอาจารย์ใหญ่และรองอาจารย์ใหญ่เท่านั้นที่มีสิทธิ์อ่านได้ หนังสือเล่มนี้ใช้สำหรับส่งจดหมายตอบรับเข้าโรงเรียนถึงเด็กๆ เมื่ออายุครบ 11 ปีเท่านั้น” เขาบอกเธออย่างจริงจัง
"ชายคนนี้ ดัมเบิลดอร์… เอ่อ พอจะคุยได้ไหม...?"
ดวงตาของน็อบบี้เบิกกว้าง ~ เธอต้องการให้ฉันต่อต้านดัมเบิลดอร์หรือติดสินบนเขางั้นหรอ? นี่เธอบ้าไปแล้วหรือเปล่า?~
“ไม่มีทางฝ่าบาท พระองค์อาจไม่ทราบ แต่เขาเป็นที่รู้กันว่าเป็นวีรบุรุษในสงครามครั้งใหญ่ และเขายังเป็นคนที่มีอิทธิพลมากในชุมชนผู้วิเศษ เขาจะไม่ช่วยพระองค์ในเรื่องนี้แน่เพราะมันขัดกับกฎโดยตรง” เขารีบปฏิเสธเธอทันที
ราชินีเริ่มทรงพระกริ้ว “ถ้าอย่างนั้นบอกฉันสิ ถ้าพบเด็กคนนี้ เขาจะมีสิทธิ์สูงสุดในราชบัลลังก์อังกฤษจริงหรือ?”
น็อบบี้มองไปที่ข้อความที่แผ่นศิลาจารึกไว้ เขารู้สึกตัวสั่นเทาทันทีเมื่อลองนึกว่าจะเป็นไงหากโดนคำสาปจากพ่อมดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา แค่คิดก็ขนลุกแล้ว
“คุณผู้หญิง ถ้าเขากลายเป็นทายาทที่แท้จริงและผ่านการทดสอบมรดกสายเลือดของพวกก็อบลินได้จริงๆ แล้วล่ะก็ กระหม่อมเกรงว่าพระองค์จะต้องยอมสละราชสมบัติให้กับเขา ไม่เช่นนั้นคำสาปนี้อาจบังคับให้พระองค์พรากจากไปไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม” เขาเปิดเผยสิ่งที่เขาคิดอย่างตรงไปตรงมา
“มีวิธีกำจัดคำสาปหรือไม่?” เธอถามอย่างเร่งรีบ
“แค่เบื้องต้นเราก็มองไม่ออกแล้วว่าคำสาปนี้คืออะไร อีกอย่าง กระหม่อมก็ไม่ได้หวังสูง ท่านเมอร์ลินได้รับการสอนโดยตรงจากซัลลาซาร์ สลิธีริน พ่อมดผู้ยิ่งใหญ่อีกท่านหนึ่งในสมัยโบราณตั้งแต่ฮอกวอตส์ เขาเป็นหนึ่งในพ่อมดศาสตร์มืดที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของเรา เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคำสาปมืดต่างๆ ด้วย” ความหมายของคำพูดของเขาชัดเจนสำหรับราชินี
"ดังนั้น เราจำเป็นจะต้องโดนคำสาปก่อน คุณจึงจะถอนคำสาปได้... ขอบคุณที่สละเวลาอันมีค่าของคุณเพื่อฉันนะท่านรัฐมนตรีลีช โปรดเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มก่อนคุณจะจากไป"
พระองค์รีบออกจากห้องทันที โทรหาผู้ช่วยส่วนพระองค์ "ฉันต้องการให้ทุกหน่อยค้นหาใครก็ตามที่มีคำว่าเพนดรากอน อยู่ในชื่อของพวกเขา"
พระองค์ทรงหายใจไม่ทั่วท้องจากความคับข้องใจ งานทั้งหมดที่พระองค์ทำ การทำงานหนักของตระกูลของพระองค์มาหลายชั่วอายุคนกำลังถูกคุกคาม ทำเอาพระองค์หมดหวัง
"เขาจะต้องถูกเจอตัว ต่อให้เสียค่าใช้จ่ายทั้งหมดก็ตาม" เธอสั่งเสียงดัง
...
ณ บ้านเลขที่ 10 ซอยพรีเว็ต
ในขณะเดียวกัน แม็กนัสก็มาถึงบ้านของเขาและกำลังกินอาหารโปรดของเขาอยู่
“เป็นไงบ้างจ๊ะแม็ก อร่อยไหม?” เกรซถามลูกชายตัวน้อยของเธออย่างอบอุ่น
แม็กนัสยิ้มกว้างให้กับเธอโดยที่ปากยังเต็มไปด้วยอาหารอยู่ "ฮะ แม่จ๋าเก่งที่สุด ผมชอบวาฟเฟิลช็อกโกแลต"
“ฮ่าๆ ดีแล้ว งั้นกินข้าวเสร็จก็ไปล้างเนื้อล้างตัวนะ ลูกคงเหนื่อยน่าดู” อดัมบอกลูกชายของเขา
"ได้ฮะพ่อ" เขากินอาหารอย่างมีความสุข พ่อแม่ของเขาเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรทั้งคู่ แต่โชคดีที่พวกเขาไม่ได้อยู่ในกองทหารราบ
เกรซเป็นศัลยแพทย์หัวใจ ส่วนอดัมเป็นวิศวกรเครื่องกล แม้ว่าเงินเดือนในกองทัพจะไม่มากมายอะไร แต่ก็เพียงพอที่จะใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดี พ่อแม่ของแม็กนัสไม่ได้มาจากครอบครัวที่ร่ำรวย ทั้งคู่ตกหลุมรักกันในมหาลัย แล้วพวกเขาก็วางแผนอนาคตจากที่นั่น และทั้งคู่ก็เข้าร่วมกองทัพหลังจากจบมหาลัย
แม็กนัสรู้ว่าความฝันของแม่ของเขาคือการเป็นเจ้าของโรงพยาบาลของตัวเองในสักวันหนึ่ง ส่วนความฝันของพ่อของเขาคือการช่วยให้ภรรยาของเขาทำความฝันของเธอให้เป็นจริง แต่ทั้งคู่รู้ดีถึงจำนวนเงินมหาศาลที่ต้องใช้ในการสร้างโรงพยาบาล
*จุ๊บ*
เกรซอุ้มแม็กนัสลงบนเตียงแล้วจูบที่หน้าผาก “เมื่อวานลูก ทำให้แม่กลัวมากเลยนะจ๊ะ”
แม็กนัสหลบสายตาอย่างรู้สึกผิด “ผมขอโทษฮะ แม่จ๋า”
“ไม่เป็นไรที่รัก นอนได้แล้ว” เธอยืนขึ้นแล้วกำลังเดินออกจากห้องของเขา
"แม่จ๋า..."
เธอหันกลับมามอง
แม็กนัสยิ้มกว้าง “เมื่อผมโตขึ้น ผมจะสร้างโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดให้แม่จ๋าแน่นอนฮะ ผมสัญญา”
เกรซยิ้มอย่างไม่สามารถควบคุมได้ "แม่เชื่อในตัวลูกนะจ๊ะแม็ก นอนเถอะจะ ลูกคงเหนื่อยมากแล้ว"
เธอปิดประตูทิ้งแม็กนัสไว้คนเดียว เขามองเพดานด้วยดวงตาสีฟ้าสดใส ตื่นเต้นกับการได้เติบโตและทำให้พ่อแม่มีความสุข
หลังจากดูโปสเตอร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่เขาชื่นชอบบนผนังเป็นครั้งสุดท้าย เขาก็หลับตาลงและหลับไปภายใต้แสงที่ส่องเข้ามาจากหน้าต่าง
...
นายกรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ น็อบบี ลีช เป็นชายที่ถูกเกลียดชังโดยกลุ่มเลือดบริสุทธิ์จำนวนมาก วันที่เขาเข้ารับตำแหน่ง มีพวกเลือดบริสุทธิ์หลายคนถึงกับลาออกจากตำแหน่งในกระทรวง
แต่ตอนนี้เขาก็มาติดโรคที่ไม่รู้จัก เขาสงสัยว่าเป็นฝีมือของอะบราซัส มัลฟอย แต่เขาก็ไม่แน่ใจ และแม้ว่าเขาจะกล่าวหาคนๆ นั้นก็คงไม่เกิดอะไรขึ้น
ดังนั้น เขาจึงไปหาความหวังหนึ่งเดียวของเขา ดัมเบิลดอร์ เขาเตรียมตัวจะแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการรักษาที่เป็นไปได้ เขาตัดสินใจจะลาออกจากตำแหน่งด้วย เขาได้ออกแถลงการณ์ด้วยการเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ที่เกิดจากมักเกิ้ลคนแรก และมันก็ไม่มีความจำเป็นต้องเอาชีวิตของเขาไปเสี่ยงอันตราย
...
ณ ฮอกวอตส์,
ดัมเบิลดอร์ยังดูชราเช่นเคยด้วยหนวดเครายาวสีขาวที่หวีอย่างเรียบร้อย สวมหมวกทรงกรวยพ่อมดและเสื้อคลุมสีขาว เขาคงสภาพเดิมไว้เพราะมันทำให้เขาดูทรงภูมิในสายตาของผู้คน แถมเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ได้เพียง 4 ปี ดังนั้นเขาจึงยังคงพยายามขยายขอบเขตออกไปอย่างช้าๆ
ดังนั้นเขาจึงเริ่มทักทายรัฐมนตรีที่เกิดจากมักเกิ้ลด้วยตัวเอง
“ยินดีต้อนรับสู่ฮอกวอตส์ ท่านรัฐมนตรีลีช ผมไม่ได้รับแจ้งเลยว่าคุณจะมาเยี่ยม” ดัมเบิลดอร์ทักทายเขา
“อ่า ดัมเบิลดอร์ การมาครั้งนี้เป็นค่อนข้างเป็นส่วนตัวน่ะครับ ไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตองอะไรมาก เรียกผมว่าน็อบบี้ก็ได้” เขาพูด เขาไม่ชอบให้เรียกว่าลีทเท่าไหร่ เขาทนได้เมื่อราชินีเรียกเขาแบบนี้ แต่จะไม่มีอีกแล้ว
ดัมเบิลดอร์พยักหน้าด้วยความมั่นใจราวกับว่าเขารู้ทุกอย่างแล้ว "บางทีห้องทำงานของผมอาจจะเหมาะสำหรับการพูดคุยและดื่มชาสักถ้วย"
ทั้งสองคนไปที่ห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่ ดัมเบิลดอร์เทชาสองถ้วยแล้วถามว่า "งั้น มีอะไรให้ผมช่วยงั้นหรอ ท่านรัฐมนตรีน็อบบี้"
[A/N: นี่จะเป็นดัมเบิลดอร์คนเดิม เหมือนในหนังไม่มีทั้งดีและชั่ว แค่จะโดนดูถูกนิดหน่อย]
______________________________
ห้องของแม็กนัส
ดัมเบิลดอร์