ตอนที่แล้วตอนที่ 208 เสียงร้องกระบี่หัวใจองครักษ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 210 กาเพลิงเหมันต์

ตอนที่ 209 ฟลามิงโก โจมตี!


บนพื้นที่สูง

กัวตงสังเกตว่ามีการต่อสู้ที่ยุ่งเหยิงห่างไกลออกไป  อารมณ์ของเขาตึงเครียดทันทีคางแหลมของเขาเต็มไปด้วยตอหนวดที่ไม่ได้โกนทำให้คนคิดถึงเขากวางพร้อมจะพุ่งชนด้วยความแข็งกร้าว

เสื้อคลุมดำถูกลมพัดพลิ้ว  ขณะที่มันทำให้รูปกาเพลิงสีแดงเข้มเหมือนกับมีชีวิต

ข้างตัวเขามีบุรุษหนุ่มร่างสูงคนหนึ่ง บุรุษหนุ่มสวมชุดคล้ายๆ กับกัวตง เขาดูตัวซีดและดวงตาเรืองแสงเป็นประกาย และมีแขนที่ยาว

“ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้มาอย่างเป็นมิตร”  เสียงของกัวตงเย็นชาพอๆกับกาเพลิงบนชุดของเขา “ข้าไม่เคยคิดว่าความลับของยอดเขากระบี่จะถูกคนอื่นค้นพบด้วย”

ลมหายใจของเขาสะท้อนอยู่ในสายลม

ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย  “ท่านลุงบอกข้าว่าท่านรู้มานานแล้วไม่ใช่หรือ?”

“ข้าพบโดยบังเอิญ”  กัวตงมองดูชายหนุ่มด้วยความเมตตา  เขาคือหลานชายของเขาและเขาก็คือสาเหตุให้เขายอมลดตัวอยู่ในหมู่บ้านกระบี่

เขาเป็นคนโสดผู้คอยดูแลหลานชายเหมือนกับเป็นลูกชายของเขา  หลายปีมานี้เขายอมทนเบื่อหน่ายรั้งอยู่ในหมู่บ้านกระบี่ก็เพราะเสี่ยวอวี่

แต่เสี่ยวอวี่ไม่ทำให้เขาผิดหวัง  ภายใต้การดูแลของกัวตง  เสี่ยวอวี่มีฝีมือก้าวหน้าจนใกล้เคียงเขา

ขณะที่เสี่ยวอวี่มีอายุเพียงสิบเก้าปี  เทียบกับนักสู้อมตะผู้มีพรสวรรค์เหล่านั้นเสี่ยวอวี่ไม่ด้อยไปกว่าแน่นอน

“ข้ามาเยี่ยมเยือนยอดเขากระบี่หินนับครั้งไม่ถ้วนและข้าก็ยังไปเพื่อหากระบี่สมบัติด้วย” กัวตงจับตามองการต่อสู้ที่ดุเดือด  เขาถอนหายใจเบาๆ “ตระกูลเซี่ยดูเหมือนจะไม่รู้ตำแหน่งกระบี่สมบัติ  ดังนั้นข้าสงสัยว่าคนกลุ่มนี้จะใช้วิธีอะไรเพื่อหามันให้พบ”

“ท่านลุง, กระบี่สมบัติคืออะไรกันแน่?”  นัยน์ตาของกัวอวี่มีประกายสงสัย

“ข้าไม่รู้เรื่องอื่นเลย”  กังตงยิ้มก่อนที่เขาจะกลับคืนสู่ความสงบ  “แต่มันมีค่าจนตระกูลเซี่ยต้องอยู่คุ้มครองดังนั้นต้องเป็นของทรงคุณค่าเหลือเชื่อแน่นอน”

“โอว”กัวอวี่ผิดหวังเล็กน้อยแต่เขาคิดถึงอีกปัญหาหนึ่งในตอนนี้  “ท่านลุง! คนที่มาเป็นใครกัน?  เขาน่ากลัวมาก เพราะเขาสามารถบังคับอสูรหินกรวดได้! ถ้าเขาโจมตีหมู่บ้านเรา เราคงไม่อาจหยุดเขาได้”

รังสีอำมหิตในตัวกัวตงเพิ่มขึ้นขณะที่เคราของเขาพลิ้วไสว เสียงของเขาเคร่งเครียดและเย็นชา “เขาเรียกว่าซอบอดกำสรวล”

“ซอ...บอด..กำสรวล..” กัวอวี่ถลึงตาท่าทางของเขาดูประหลาดใจมาก “ตาเฒ่าซอบอดกำสรวลมาทำอะไรที่นี่?”

ซอบอดกำสรวลเป็นนักสู้สวรรค์วิถีอันดับที่ 9900

ไม่มีใครรู้จักชื่อของเขาทุกคนเรียกเขาว่าเฒ่าบอดคนสีซอ มีข้อมูลเกี่ยวกับเขาไม่มาก เขาเข้ามาอยู่ในรายชื่อสวรรค์วิถีเร็วกว่ากัวตงมาก

ทุกคนรู้ว่าเขาตาบอดตั้งแต่อายุยังน้อย  แต่พรสวรรค์ในการฝึกฝนของเขาโดดเด่นมาก  และเจ้าอารมณ์มาก จนวันหนึ่งบังเอิญเขาได้สะดุดกับการฟังเสียงซอหม่นหมองหดหู่  เขาถึงกับหลงใหลในเสียงของซอนั้นทันที

เสียงเพลงของเขาเศร้ามากทำให้ผู้คนไม่สามารถถอนตัวจากบทเพลงนั้นได้

โดยนิสัยแล้วเขาเป็นคนไร้เหตุผลและน่ากลัวและชอบฆ่าคนตามอำเภอใจ เรื่องที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขาก็คือ ราตรีเลือดแห่งความเศร้าโศกปีนั้นบนถนนเข้าเมือง ชาวท้องถิ่นจัดต่อสู้ประลองฝีมือกัน และมียอดฝีมือมาร่วมกันมาก

ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด  เขาดึงซอของเขาออกมา

บทเพลงบรรเลงที่เศร้าโศกครอบคลุมไปทั่วเมืองและในคืนนั้นมีคนฆ่าตัวตาย 109 คน รวมทั้งคนอายุยี่สิบปีคนหนึ่งซึ่งแข็งแกร่งกว่านักสู้ระดับหกที่มาร่วมในเหตุการณ์นั้น

เขายากที่จะปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนและยิ่งยากจะต่อสู้ต่อหน้าผู้คนแต่การจัดอันดับของเขาไม่เคยหลุดไปจากรายชื่อของนักสู้สวรรค์วิถี  พลังของเขาได้รับการพิสูจน์อย่างชัดเจน

“ข้าไม่รู้” กัวตงส่ายศีรษะ  “เขามีความตั้งใจแน่  แต่กลยุทธแบบนี้ มีแต่เพียงเขาที่ทำได้ตั้งแต่นี้ไปเจ้าต้องระวัง  เสียงเพลงของนักสู้จะแฝงไม้ตายไว้มากมายซึ่งล้วนแต่คาดไม่ถึง”

“อย่างนั้นเรา....” กัวอวี่ไม่มั่นใจ

“อย่าห่วง” กัวตงยิ้ม  “มีคนไม่มากที่รู้จุดอ่อนของเขา  แต่บังเอิญลุงของเจ้าเป็นคนหนึ่งที่รู้เรื่องนี้”

“เรื่องกัวหลินและคนอื่นๆ ล่ะ?” กัวอวี่เห็นการต่อสู้ดิ้นรนที่ยากลำบากและบาดแผลที่เต็มร่างกัวหลินแล้ว  เขาอดถามไม่ได้

“ทางหมู่บ้านจะดูแลครอบครัวของเขาเป็นอย่างดี”  กัวตงตอบ

ทันใดนั้น  ตาของเขาแข็งขึ้น

กัวอวี่สังเกตความเปลี่ยนแปลงในสายตาของกัวตงและมองดูตำแหน่งที่กัวตงมองและอุทาน “นั่นใครกัน?”

รังสีแดงเพลิงและเงินเหมือนคมหอกแทงทะลวงผ่านอสูรหินกรวด

※※※

หลิงซิ่วตื่นเต้นเมื่อเขาง่วนอยู่พลังของนกฟลามิงโก  ในการต่อสู้วิชาหอกโบราณจะใช้ในการสู้จริงๆ ไม่ใช่เพื่อการฝึกซ้อมฝีมือ

วิชาหอกทะเลจุดของเขาย้อนหลังไปเป็นเวลานานยังคงรักษาเอกลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่ของวิชาหอกโบราณ

มีเคล็ดดีๆอยู่หลายอย่างในหอกทะเลจุดและเคล็ดแต่ละอย่างต้องการใช้พาหนะขับขี่  ตั้งแต่ได้เรียนรู้มาหลิงซิ่วไม่เคยใช้เคล็ดเหล่านี้เลยสักครั้ง เขาร่อนเร่เพียงให้ได้อาหารวันละสามมื้อและพักในโรงเตี๊ยมเล็กๆ  จะไปหาเงินซื้อพาหนะมาจากไหน?

อสูรจักรกลที่เขาขี่อยู่สร้างขึ้นมาด้วยรายละเอียดและมีบางอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิตของเขา

มันไม่ได้มีขนาดใหญ่เกินไปแต่กลับออกแบบมาเหมือนชิ้นงานศิลปะแข็งแกร่งผิดธรรมดา  เมื่อมันเร่งความเร็วก็เหมือนมีเปลวเพลิงลุกเป็นสาย

ขณะที่ลมปะทะพัดผ่านใบหน้าและเสียงหวีดหวิวดังเข้ามาในหูทำให้เขารู้สึกฮึกเหิมมากขึ้น!

อัศวินโบราณกระชับหอกและเร่งความเร็วเข้าหาศัตรูโดยมิกลัวเกรง

ขณะที่ผมสีเงินของเขาสะบัดพลิ้วดวงตาสีแดงเพลิงราวกับมีไฟลุกท่วม

ทันใดนั้นคำพูดของอาจารย์ของเขาลอยขึ้นมาในใจเขา ในท่ามกลางสายลมเขาอดพึมพำไม่ได้

“.....ข้าสาบานว่าจะปฏิบัติต่อคนอ่อนแอเป็นอย่างดี  ข้าสาบานว่าจะต่อสู้ด้วยความฮึกเหิม  ข้าสาบานว่าจะต่อต้านพวกทำผิด  ข้าจะต่อสู้เพื่อคนที่ไม่เป็นอันตรายและป้องกันตัวเองไม่ได้...”

“...ข้าสาบานว่าจะยื่นมือให้ความช่วยเหลือคนที่ร้องขอ  ข้าสาบานว่าจะไม่ทำร้ายสตรี...”

“...ข้าสาบานว่าข้าจะช่วยเหลือพี่น้องของข้า ข้าสาบานว่าจะปฏิบัติต่อสหายของข้าอย่างซื่อสัตย์ ข้าสาบานว่าจะให้ความรักจนวาระสุดท้ายของชีวิตข้า...”

หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความอบอุ่น  เขาได้กลิ่นเหมือนอาจารย์เขา  กลิ่นที่หลิงซิ่วคิดว่าเป็นกลิ่นเฉพาะตัวของอาจารย์ของเขา  ในที่สุดเขาก็รู้ว่ากลิ่นนั้นคืออะไร

ความศรัทธา!

อาจารย์!เสี่ยวซิ่วไม่อาจเป็นเหมือนท่านได้ แต่เสี่ยวซิ่วจะเดินตามรอยเท้าท่าน และเคี่ยวกรำตนเองอย่างหนัก

เงาร่างที่อ่อนโยนและเป็นมิตรปรากฏขึ้นในใจหลิงซิ่ว  ดวงตาที่อ่อนและห่วงใยมองมาที่เขา

หลิงซิ่ว, สู้สู้

หลิงซิ่วหมอบตัวลงและเหมือนกับว่าฟลามิงโกจะรู้สึกได้ถึงความมุ่งมั่นของเขามันเร่งความเร็วขึ้นจะเกิดริ้วสีแดงสว่างจ้า

ภาพข้างหน้าสั่นไหวขณะที่หลิงซิ่วยังคงนิ่ง

ในชั่วสองสามวินาทีหลิงซิ่วใกล้จะปะทะกับกำแพง

นกฟลามิงโกงอขาบางของมันและกรงเล็บของมันจิกลงไปในพื้นดิน

ปังนกฟลามิงโกกระโจนขึ้นไปในอากาศ สายตาของหลิงซิ่วกวาดมองไปทั่วสนามต่อสู้เบื้องล่างสายตาเขาความฮึกเหิมที่อธิบายไม่ได้ซึ่งอยู่ในตัวเขาลุกโชนเหมือนเพลิงขณะที่เขากระชับหอกเงินในมือแน่น

ทุกคนตะลึงเมื่อหลิงซิ่วปรากฏออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

ในอากาศหลิงซิ่วมาถึง ผมเงินของเขาที่กระพือพัดเหมือนกับเปลวไฟตกลงประบ่าเมื่อแหงนมองบนท้องฟ้า เขาดูน่าเกรงขาม

ปัง!

ฟลามิงโกร่วงลงพื้นแม้ว่าร่างของมันจะดูบอบบาง แต่มันลงพื้นด้วยลักษณะที่ดูประหลาดเหมือนเสียงกลองที่ดังสะท้านหัวใจทุกคน  ทำให้ทุกคนรู้สึกตกใจ

เศษดินร่วนกระจายแต่หลิงซิ่วไม่ได้รับผลกระทบอะไร  เขายืดตัวขณะใช้หอกเงินชี้... “ฆ่า”

ทันใดนั้นนกฟลามิงโกกลายสภาพเป็นเหมือนเปลวเพลิงวิ่งตะลุยใส่ทันที

ข้อมือเขาสั่นเขายืมพลังนั้นและแทงหอกทะลุตัวอสูรหินกรวดได้อย่างง่ายดาย นกฟลามิงโกไม่มีความปราณีเป็นเหมือนกับพายุหมุนไฟขณะที่มันตะลุยเข้าใส่อสูรหินกรวด

เมื่อหลิงซิ่วแทงใส่อสูรหินกรวดตัวที่สาม  ตัวที่โดนแทงตัวแรกจึงค่อยล้มลงกับพื้น

ด้วยพลังของนกฟลามิงโกหลิงซิ่วตระหนักได้ว่าทุกอย่างง่ายขึ้นมาก เขาเพียงแต่ต้องแทงหอกออกไปให้ต่อเนื่องนั่นเป็นเรื่องที่เขาทำได้ง่ายๆ แล้ว เขาสามารถแทงและทะลวงได้ต่อเนื่อง สำหรับนักสู้ส่วนใหญ่แล้วนี่อาจเป็นงานที่ยาก  แต่สำหรับหลิงซิ่วมันง่ายมาก”

เพราะความเร็วที่สูงและการโจมตีฉับพลันทำให้พลังหอกของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

อสูรหินกรวดล้มลงกับพื้นเหมือนกับรวงข้าวที่ถูกเก็บเกี่ยว

ความต้องการสู้ของหลิงซิ่วกลายเป็นความตั้งใจหลักในหัวใจของเขาด้วยความคิดของเขา นกฟลามิงโกที่มีความเร็วสูงหมุนตัวและวิ่งขึ้นไปบนกำแพง

การผสมผสานระหว่างสีเงินกับสีแดงทำให้ผู้คนถึงกับอึ้ง  แต่เป็นความอันตรายที่ทำให้ผู้คนอึ้งได้เช่นกัน

แสงที่ฉายผ่านกำแพงเหมือนกับปากกาแสงที่ฉายผ่านกำแพงมีสีแดงและสีเงินสลับกัน

ความถี่ที่อสูรหินกรวดปรากฏขึ้นมาเพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาด และหลิงซิ่วก็จดจำไว้ขณะที่พวกมันรวมตัวกันทั้งหมด  หอกยังทะลวงพวกมันครั้งละหนึ่งตัว

ไม่ต้องเคลื่อนไหวให้รวดเร็วแต่อย่างใด  ไม่ต้องเคลื่อนไหวด้วยท่ายากอะไรเขาก็แทงหอกได้แล้ว

รูปแบบที่แตกต่างกันสองชนิดคือหยาบ และเถื่อนเข้ากันได้เป็นอย่างดีลงตัว จึงมีความอันตรายมาก

ชาวหมู่บ้านตระกูลเซี่ยสามารถรู้สึกถึงสายลมสีแดงกวาดผ่านเขาไปและอสูรหินกรวดทั้งหมดที่อยู่ต่อหน้าพวกเขาล้มลงกับพื้นทั้งหมด

หลังจากความเปลี่ยนแปลงไม่กี่รอบ  อสูรหินกรวดที่รายล้อมทั้งหมดก็ถูกกวาดล้างหมด

ขณะที่จ้าวอสูรหินกรวดยังสู้ติดพันกับเซี่ยชิงก็ลงมือท้ายที่สุดจนได้  การแสดงฝีมือพลังต่อสู้ประหลาดๆ ของหลิงซิ่ว  นับว่าประหลาดมากเมื่อเทียบกับทั้งสองฝ่าย

ด้วยความช่วยเหลือของหลิงซิ่ว  สถานการณ์โดยรวมเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น

หลิงซิ่วเลี้ยวกลับและบุกเข่นฆ่าอีกครั้งทำให้แรงกดดันทางด้านชาวบ้านลดลงไปมาก

และแล้วหลิงซิ่วมีความคิดที่ห้าวหาญ

เจ้าพวกบัดซบที่ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลัง พวกเขาต้องอยู่เบื้องหลังอสูรหินกรวดนี้แน่นอน  ถ้าเขาเจาะทะลุแนวป้องกันของคู่ต่อสู้ได้จากนั้นเขาจะสามารถบังคับให้คู่ต่อสู้ปรากฏตัวออกมาจากที่ซ่อน

ฆ่าคือความตั้งใจหลักของเขา น่าดีใจมากเพราะทำให้ความตั้งใจสู้ที่อยู่ในตัวของหลิงซิ่วทะยานสูง เขาสามารถรู้สึกได้แต่เพียงว่าตลอดทั้งร่างของเขาเหมือนกับมีเพลิงห่อหุ้มและเขาไม่มีความกลัว

เขาจับจ้องสายตาไปทางอสูรหินกรวด ดวงตาสีเปลวเพลิงของเขามีความมุ่งมั่นต่อสู้สูงขึ้นทันที

เขาเขาใช้มือซ้ายลูบหัวฟลามิงโก้เบาๆ

เจ้าชื่อว่าฟลามิงโกใช่ไหม?  นั่นเป็นชื่อที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว  เรามาสู้ร่วมกันเถอะ

มาตะลุยทำลายแนวป้องกันของพวกมันเถอะ

ฟลามิงโกเอย, บุก!

หลิงซิ่วหมอบลงพร้อมกับหอกเงินด้านหลังเขาริ้วเปลวเพลิงย้อยลงเหมือนลูกบอลเพลิงที่มีเปลวลุกท่วม

ฟลามิงโกย่อตัวลงเช่นกันขณะที่มันรวมพลังทั้งหมดลงที่ปลายเล็บที่จิกลงไปในดิน

แสงสีแดงสลับเงินพลันฉายแสงรัศมีเจิดจ้าอีกครั้ง!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด