ตอนที่แล้วตอนที่ 207 ข่าววิทยายุทธอมตะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 209 ฟลามิงโก โจมตี!

ตอนที่ 208 เสียงร้องกระบี่หัวใจองครักษ์


กัวหลินถูกขู่ขวัญจนโง่งม  จนถึงตอนนี้เขาไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ ทำไมชาวบ้านตระกูลเซี่ยถึงได้ไม่กลัวเขา

ทันใดนั้นเสียงกึกก้องสะเทือนดังมาจากที่ไกล

ทุกคนเงียบเสียงลง  แต่หัวใจของกัวหลินเต้นแรง  บรรพบุรุษของเขามาหรือ?

ถึงเวลานี้ชาวบ้านคนหนึ่งวิ่งโซเซเข้ามา ในหน้าแสดงแววหวาดกลัว “อสูรหินกรวด!  อสูรหินกรวดมาที่นี่แล้ว”

ยังไม่ทันจบคำเสียงสะเทือนก็ดังเข้ามาใกล้ทำพื้นสั่นสะเทือนเหมือนตะแกรงสั่น

ก่อนที่ทุกคนจะทันตั้งตัว  พวกเขาได้ยินเสียงบึ้มกำแพงที่ยังทำไม่ทันเสร็จพังทลายทันที อสูรหินกรวดบางส่วนขนาดพอๆ กับภูเขาย่อมๆ วิ่งตะลุยเข้ามาในหมู่บ้าน

อสูรหินกรวดโถมเข้ามาเหมือนคลื่นซัดสาดทำให้ผมของทุกคนลุกชัน

ตาของเซี่ยชิงกลายเป็นสีแดงและตะโกน  “ลูกผู้ชายแห่งหมู่บ้านตระกูลเซี่ยทุกคนเข้าประจำตำแหน่ง!  เซี่ยหว่าน พาคนที่เหลือถอนกำลังไปที่ภูเขา

ในที่สุดหมู่บ้านกระบี่ตระกูลเซี่ยซึ่งดำรงคงอยู่มาถึงเจ็ดร้อยปีจะสิ้นสุดลงอย่างนี้...

หัวใจของเซี่ยชิงเต็มไปด้วยความเสียใจ  แต่เขารู้ว่าไม่มีเวลารู้สึกเสียใจ  กระบี่ของเขาจ่อใส่กัวหลินและกล่าว  “เจ้าจะออกไปและสู้ร่วมกับเรา  ถ้าพวกเจ้าสามารถจากไปได้  ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”

หน้าของกัวหลินซีดขาวลามลงไปจนถึงขาของเขา แต่ปลายกระบี่เย็นของเซี่ยชิงที่จ่ออยู่ที่คอหอยของเขาทำให้เขาตื่นตัว  ขณะที่เขาทำหน้าหงุดหงิดกัดฟันตอบว่า “ก็ได้”

เขาตั้งใจไว้แล้ว  ถ้าเขาสามารถรอดชีวิตอยู่ได้  เขาจะไม่มีทางปล่อยตระกูลเซี่ยให้รอดแน่อน

บุรุษของหมู่บ้านกระบี่ตระกูลเซี่ยสามารถควงกระบี่ฟาดฟันได้ทุกคน  พวกเขาตาแดงขณะที่พวกเขาตวาดและควงกระบี่เข้าหาอสูรหินกรวด

※※※

เมื่อได้เห็นฝูงอสูรหินกรวดเต็มทั้งภูเขาและที่ราบเหมือนคลื่นน้ำไหลหลากเข้าท่วมหมู่บ้าน  หน้าของนางโจรชุดดำสวมหน้ากากปิดบังมีท่าทีประหลาดใจ  ข้างๆ นางเป็นชายชราตาบอดนั่งอยู่บนรถเข็นและบุรุษวัยกลางคนอีกคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหลังคอยทำหน้าที่เข็นรถเข็น

ชายชราร่างผอมอ่อนแอและตาบอดบนเข่าของเขามีเอ้อหู (ซอจีน) เก่าแก่วางพาดอยู่

“หมู่บ้านตระกูลเซี่ยพังทลายไปหรือยัง?”  ชายชราถามขึ้นทันที  เสียงของเขาแหบแห้งไม่น่าฟัง

นางสั่นแล้วตอบทันที  “กำแพงถูกทลายไปแล้วและอสูรหินกรวดกำลังบุกเข้าไป

“ข้าหวังว่าข้อมูลของเจ้าจะถูกต้อง”  ชายชราพูดอย่างเฉื่อยชา

หน้าของสตรีนางนั้นเปลี่ยน  แรงกดดันไร้สภาพทำให้นางต้องสูดหายใจเข้า  นางพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อเค้นรอยยิ้ม  “ผู้อาวุโสบอดวางใจได้  ข่าวจากม้าศึกขององค์การวิญญาณมืดไม่เคยผิดพลาด

ถ้าถังเทียนเห็นนางโจรชุดดำ  เขาคงจำนางได้ นางก็คือม้าขององค์การวิญญาณมืดที่จิ่งหาวกับเขาเคยพบมาก่อน

“ข้าได้ยินว่าเจ้าเคยพบสมบัติหมู่ดาวพิณมาก่อนใช่ไหม?”  ชายชราถามขึ้นทันที

นางโจรชุดดำตอบด้วยความรู้สึกเคียดแค้น  “น่าเสียดายที่ข้าไปพบกับคนจากสมาพันธ์ชาวยุทธจึงต้องวางมือ”

เมื่อคิดถึงเมื่อคราวเผชิญหน้า  อารมณ์ของนางถึงกับเสียมากขึ้น   นางใช้ทรัพยากรและคนไปนับไม่ถ้วนในที่สุดก็พบเบาะแสสมบัติดาวพิณ แต่ในท้ายที่สุดนางก็ถูกเจ้าบัดซบสองคนโกงไป

“สมาพันธ์ชาวยุทธ?” ชายชราพูดอย่างไม่อนาทร “เจ้าต้องการฮุบทุกอย่างไว้ตามลำพังก็อย่าได้ตำหนิว่าคนอื่น”

นางโจรชุดดำได้แต่เงียบ

“วางใจได้ ถ้าเราสามารถพบกระบี่นั้นได้จริงๆ อย่างนั้นหยดเลือดนั้นจะเป็นของเจ้า” ชายชราพูดเย็นชา  “น้องสาวของเจ้าได้เจ้าเป็นพี่สาวนับว่านางโชคดีจริงๆ”

นางโจรชุดดำสะท้านทั้งร่าง  นางตาเบิกโพลงในทันใด และพูดกระชากเสียง “ท่านตรวจสอบข้าด้วยหรือ?”

“ทำไมข้าจะตรวจไม่ได้เล่า?” ชายชราย้อน

สตรีชุดดำเงียบนางเม้มริมฝีปากแน่น กระทั่งกลายเป็นสีขาว

“ทำไมถึงต้องใช้อสูรหินกรวด?”  ชายชราลืมความโกรธของนาง และถามโดยตรง

สตรีชุดดำเงียบไปชั่วขณะและอธิบาย “อสูรหินกรวดเป็นอสูรดวงดาวธาตุดินและสามารถลุยหน้าได้โดยไม่มีอะไรขวางมันได้  แม้ว่าพวกมันจะช้ามาก  ตรงไหนก็ตามที่มันไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้นั่นคือที่อยู่ของกระบี่สมบัติ”

นางยังคงอธิบายต่อ  “หลังจากผ่านไปสองสามร้อยปี ดินรอบๆกระบี่สมบัติจะเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากพลังของกระบี่และอสูรหินกรวดจะไม่สามารถเข้าไปใกล้มันได้”

“นับว่าเป็นวิธีการที่แยบยล”  ชายชราชมเชยอย่างเฉยเมย

นางโจรชุดดำขบริมฝีปากและพูดทันที  “นี่คือดินแดนอิทธิพลของกัวตง”

“ข้ารู้จักเขา” ชายชราพยักหน้า เบ้าตาที่กลวงเหมือนกับหลุมเปล่าและน้ำเสียงของเขาไม่พอใจดังเหมือนกับพูดลอยๆ “หัวหน้าพวกกาเพลิง..หึหึ”

จู่ๆเมื่อเขาทำจมูกแปลกๆ นางโจรชุดดำสะดุ้งตกใจ

นางโจรชุดดำไม่กล้าพูดอะไรมากอีกต่อไปด้านหนึ่งบุคลิกของชายชราคนนี้ก็คือชายชราธรรมดา แต่เขาคือปีศาจนักฆ่าที่แท้จริงซึ่งฆ่าคนได้ไม่กระพริบตา  และเขาเองได้ตรวจสอบนางจริงๆทำให้นางกลัวมากขึ้น

จู่ๆชายชราก็มีสีหน้าประหลาดใจ

เบ้าตาที่กลวงกำลังมองไปทางตำแหน่งหมู่บ้านกระบี่ตระกูลเซี่ย นางโจรชุดดำสังเกตเห็นอาการประหลาดใจของเขาจึงหันไปทางตำแหน่งเดียวกันทันที  แม้ว่าชายชราไม่ได้พูดอะไร  แต่นางสามารถได้ยินความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดเป็นไปอย่างไม่ราบรื่น

ร่างแข็งแกร่งร่างหนึ่งเคลื่อนไหวในท่ามกลางอสูรหินกรวดกระบี่เคลื่อนไหวคราหนึ่งก็ทำให้อสูรหินกรวดล้มลง

เสียงร้องของกระบี่สามารถได้ยินชัดเจนแม้จะอยู่ไกล

ชายชราพยายามฟังต่อไปใบหน้าของเขายังคงเฉื่อยชาไร้อารมณ์ต่อเนื่อง จู่ๆ ก็มีสีหน้าชื่นชม “เสียงกระบี่ร้องที่ยอดเยี่ยม!  ถ้ามีเวลาพอ อนาคตของเขาจะต้องไร้ขีดจำกัดแน่!

“ท่านจะให้เวลาเขาหรือ?”  นางโจรชุดดำย้อนถาม

เขาส่ายศีรษะขณะกล่าวตามตรง  “ไม่”

เขาพึมพำกับตัวเอง “ครั้งล่าสุดเราได้เห็นบุรุษหนุ่มที่โดดเด่นสองคน  แต่พวกเขายังไม่ปรากฏตัว ช่างแปลกเสียจริง”

เหมือนกับว่าเขารู้สึกเศร้า  แต่ยังคงรู้สึกเหมือนกับว่าโล่งใจ

※※※

กระบี่ของเซี่ยชิงเหมือนกับสายลมเสียงร้องดังออกมาจากกระบี่เหมือนกับว่าจะไม่มีทางหยุด

ทันใดนั้น ติง,หมัดเหล็กหมัดหนึ่งป้องกันขวางกระบี่ของเขาไว้

ม่านตาของเซี่ยชิงหดแคบ  มันคือจ้าวอสูรหินกรวด!  จ้าวอสูรหินกรวดตัวเดียวกับที่ถังเทียนสู้ด้วยในวันนั้น!  เซี่ยชิงเพิ่งจะบรรลุระดับฝีมือใหม่จึงไม่กลัว  เขาสะบัดข้อมือ กระบี่ยาวปล่อยเสียงร้องและแทงออกไป

ตาสีน้ำตาลใสของจ้าวอสูรหินกรวดฉายประกายวูบหนึ่ง หมัดโลหะของมันผสานสัมพันธ์กับปราณดินพุ่งตรงใส่เซี่ยชิง

ช่วงที่กระบี่กับหมัดสัมผัสปะทะกันระลอกคลื่นที่ไร้ลักษณ์จะปะทุออกมาทันที

คลื่นเป็นเหมือนฝนหินกระเด็นไปสี่ทิศทาง

อสูรหินกรวดที่มีตัวขนาดภูเขาย่อมๆถูกคลื่นกวาดออกไปล้มลงกันทุกตัวเกลื่อนกลาด

จ้าวอสูรหินกรวดมีสติปัญญาไว เมื่อเห็นว่าเซี่ยชิงที่มันเคยเอาชนะได้เมื่อไม่กี่วันก่อนกลับสู้ได้เสมอกับมันในตอนนี้ทำให้มันโกรธเคืองยิ่งขึ้น มันระเบิดอารมณ์โมโหดุร้ายออกมาทันที

มันตวาดลั่นขณะวิ่งเข้าหาเซี่ยชิง

เซี่ยชิงเฝ้ารออย่างระมัดระวัง  กระบี่ในมือของเขายังสั่นต่อเนื่อง  และเสียงร้องของกระบี่ยังคงดังไม่หยุด

ทุกครั้งปราณดินแท้และกระบี่หัวใจองครักษ์ปะทะกัน  พลังปราณจะถูกปลดปล่อยออกมา

ปัง ปัง ปัง!

หลังจากนั้นวงคลื่นปราณเป็นระลอกก็กระจายออกมาต่อเนื่องโดยมีพวกเขาเป็นศูนย์กลาง

หลังจากนั้นปราณลูกแล้วลูกเล่าก็ระเบิดออกมากวาดไปทั่วบริเวณสนามรบ

เงาร่างทั้งสองปะทะกันอย่างต่อเนื่องสามารถดึงดูดความสนใจของทุกคนในพื้นที่ต่อสู้ได้  ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างคู่คี่แต่เมื่อว่ากันในเรื่องความสมดุลในการต่อสู้ ความได้เปรียบตกไปอยู่ที่อสูรหินกรวดอย่างรวดเร็ว ความแข็งแกร่งของหมู่บ้านกระบี่ตระกูลเซี่ยไม่สามารถป้องกันการโหมโจมตีอย่างต่อเนื่องของอสูรหินกรวดได้

※※※

ภายในยานอาชาฟ้า  ถังเทียนฉุดรั้งหลิงซิ่วที่วิ่งพรวดพราดออกมา

ทั้งสองคนเพิ่งจะเลิกฝึก

“ปล่อยข้า!”หลิงซิ่วตะคอกด้วยความโกรธขณะที่เขามองดูสนามรบ “เจ้ามันเลือดเย็น เจ้าทนดูพวกเขาถูกอสูรหินกรวดฆ่าตายได้ยังไง”

ถังเทียนเหลือกตา  เหมือนกับว่าเขากำลังมองคนโง่คนหนึ่ง  “เจ้าไม่เห็นเบื้องหลังคนหลังหลังอสูรหินกรวดจริงๆ หรือ?”

“แล้วไงเล่า,เราจะทนดูชาวบ้านตายอย่างนั้นหรือ?” หลิงซิ่วตะคอก

“แน่นอนว่าไม่” ถังเทียนปั้นหน้าราวกับวีรบุรุษขณะอธิบาย “ด้วยกำลังเจ้าคนเดียว เจ้าสามารถจัดการพวกมันทั้งสนามรบได้ไหม!ข้าจะอยู่เบื้องหลังเพื่อหาโอกาส และจะดึงเจ้าบัดซบที่อยู่หลังฉากจอมบงการเบื้องหลังอสูรหินกรวดนี้”

“อย่างนั้นทำไมเจ้าต้องฉุดรั้งข้าไว้ด้วย?”  หลิงซิ่วถลึงตา

“ข้าได้เคยได้ยินมาว่ามีวิชาหอกโบราณซึ่งถูกบัญญัติให้ใช้ร่วมกับพาหนะเจ้ารู้จักบ้างไหม?” ถังเทียนถาม

“อืม.. เจ้ารู้เรื่องนั้นได้ยังไง?”  หลิงซิ่วประหลาดใจ และกล่าว  “พาหนะขับขี่ใช่ว่าจะหาได้ง่ายอย่างที่คิดและจะทำอย่างนั้นได้ก็ค่าใช้จ่ายแพง ข้าไม่มีเงินมากพอจะทำเช่นนั้น”

“เฮ้, สำหรับหนุ่มน้อยชาวฟ้าเรื่องพาหนะขับขี่เป็นการแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุด” เมื่อหลิงซิ่วจ้องมองอย่างสงสัยอยู่ถังเทียนเอานกฟลาเมงโกออกมาและพูดอย่างใจกว้าง “ข้าจะให้เจ้านี่เป็นของขวัญเจ้า!”

หลิงซิ่วตะลึง  แต่สายตาจับนิ่งอยู่ที่นกฟลาเมงโกทันที

ถังเทียนไม่เข้าใจคุณค่าของมัน  แต่เขารู้

“วันนี้เจ้าไม่สบายหรือเปล่า?”  หลิงซิ่วมองดูถังเทียนด้วยความสงสัย “หรือว่าเจ้ามีความคิดเลวร้ายอะไรอยู่ในหัวกันแน่?”

ถังเทียนทำท่าทางสัตย์ซื่อบริสุทธิ์  “เห็นข้าเป็นคนแบบนั้นเหรอ?”

“ก็แน่ล่ะสิ” หลิงซิ่วตอบอย่างมั่นใจ

ถังเทียนทำท่าฉุนเฉียวใส่เขา  “อย่างนั้นข้าจะได้เอากลับคืน”

หลิงซิ่วหัวเราะลั่น เขาพลิกตัวขึ้นขี่และเปิดการทำงานของนกฟลามิงโกและขี่ออกไปจากยานขนส่งราวกับลมพัด

ปิงปรากฏตัวอยู่ข้างๆถังเทียนทันที  “ทำไมเจ้าถึงคิดใช้พาหนะ?”

ถังเทียนมีท่าทางภูมิใจ  “หนุ่มชาวฟ้ามีสายตาที่เฉลียวฉลาด  สายตาของลุงไม่สามารถเข้าใจได้แน่”

ปิง “.....”

เมื่อถังเทียนต่อสู้ครั้งสุดท้าย  เขาสังเกตเห็นรูปแบบการต่อสู้ของหลิงซิ่วสัญชาตญาณของถังเทียนเฉียบไวมาก เขารู้สึกว่าจังหวะการโจมตีของหลิงซิ่วค่อนข้างล่าช้า  เหตุผลที่เขาพูดเช่นนั้นก็เพราะว่าด้วยพลังของซิ่วซิ่วน้อย ความล่าช้าเช่นนั้นไม่ควรปรากฏมี หลังจากนั้นถังเทียนจึงตระหนักได้ว่าวิชาหอกที่หลิงซิ่วใช้วันนั้นแตกต่างจากวันอื่น

เมื่อมาคิดถึงอีกครั้งถังเทียนสังเกตได้ว่า ลักษณะการโจมตีของหลิงซิ่วยังไม่สอดคล้องกลมกลืนดีเพราะเขายังขาดพาหนะ จากนั้นถังเทียนฉุกคิดถึงนกกระจอกเทศบรอนซ์ที่ถูกแปรสภาพเป็นนกฟลามิงโกไปแล้วทันที

เทียบกับยานเงินอาชาสวรรค์ นกฟลามิงโกในตอนนี้ยังไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ในมือเขา  ดังนั้นเขาจึงถามข้อสงสัยในที่สุด

แต่ข้อสงสัยนี้ถูกเก็บเข้าไปในใจเขาอย่างรวดเร็วและเขาถามปิงด้วยความสงสัย  “ลุง,ลุงว่ามีคนชักนำอสูรหินกรวดมา นั่นเป็นคนแบบไหนกัน?”

“เป็นคนที่แข็งแกร่งทรงพลัง”  หน้าของปิงเคร่งเครียดทันที  “ข้าสามารถรู้สึกได้ทันที พวกเขาอยู่ไม่ไกล”

ถังเทียนกระตือรือร้นและโพล่งออกมาอย่างมั่นใจ  “ยิ่งเป็นงานระดับที่ยาก  ก็ต้องให้หนุ่มชาวฟ้าผู้นี้รับมือจากนั้นงานก็จะสำเร็จได้”

พูดจบเขากระโดดออกมาจากยานขนส่ง เขาแยกออกมาจากด้านหลังหมู่บ้าน

เพื่อหลีกเลี่ยงกลุ่มอสูรหินกรวด ถังเทียนแยกออกมาจากทางด้านหลังหมู่บ้านเดินอ้อมกลุ่มพวกมันเป็นวงใหญ่และค่อยๆหาทางไปอยู่ด้านหลังพวกอสูรหินกรวด

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เห็นร่างสองสามร่าง

จิตใจถังเทียนตื่นเต้น

คนพวกนี้คือต้นเหตุหลัก!

รังสีอำมหิตในใจเขาเพิ่มขึ้น  ขณะที่เขาหาทางเข้าไปอย่างเงียบๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด