ตอนที่ 204 อสูรหินกรวด
ถังเทียนลืมตาขึ้นมีความรู้สึกว่าร่างของเขาเต็มไปด้วยพลังงาน เขาหลับได้ลึกสนิทหลังจากที่ฝึกฝนรวดเดียวเจ็ดวัน ทำให้เขาหลับสนิทฝันดี
พลังกายสามารถฟื้นคืนได้โดยนั่งโคจรปราณ แต่ความเหนื่อยล้าในหัวและจิตใจไม่สามารถฟื้นคืนได้ นี่คือสิ่งที่การหลับดูจะเด่นกว่าในการกำจัดสิ่งเหล่านี้ แม้ว่าหลังจากการฝึกฝนเคี่ยวกรำอย่างหนักเป็นเวลานานจะทำให้เส้นชีพจรแข็งแกร่งขึ้น แต่ก็ทิ้งอาการบาดเจ็บบอบช้ำไว้ด้วย ดังนั้นการหลับจึงทำให้ปราณแท้ได้เยียวยารักษาอาการบาดเจ็บซ่อนเร้นได้
แม้แต่ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดหลังจากคร่ำเคร่งเป็นเวลานาน ก็ยังต้องการเวลานอน
เมื่อแหงนมองเพดาน ความคิดของถังเทียนเริ่มล่องลอย
ถึงวันใหม่อีกคราวแล้ว
เขายักไหล่ทั้งสองข้างทั้งที่ยังนอนอยู่บนเตียง ถังเทียนตะโกนว่า “ถังเทียน,เจ้าสามารถทำได้แน่!”
หลังจากตะโกนแล้วเขาลุกจากเตียงอย่างรวดเร็ว หลังจากอาบน้ำแล้ว เขาไปที่หัวยาน ขณะที่เดินเข้าไปเขาสามารถเห็นยานอาชาสวรรค์ที่สง่างาม นี่คืออาชาสวรรค์ ไม่ใช่ม้าของจริงแต่ก็สร้างขึ้นโดยใช้พลังเที่ยงแท้จากหินดวงดาว
อาชาสวรรค์ฉุดลากยานเงินได้บินผ่านหมู่เมฆด้วยความเร็วสูง
ถังเทียนมองดูฉากเบื้องล่างเขากำลังบินผ่านไปอย่างรวดเร็วยานโดยสารมีชั้นปราณเที่ยงแท้ป้องกันลมโกรกพัดเข้ามาจากภายนอก ปุยเมฆยังคงลอยผ่านไป ดูน่าสนใจอย่างยิ่ง ถังเทียนงงงวยหลังจากนั่งโดยสารมาหลายวันเขาพบว่ามันน่าสนใจความรู้สึกที่ได้ขับขี่ยาน
ยานโดยสารอาชาสวรรค์เมื่อเทียบกับยานโดยสารอื่นๆ ที่เขาเคยนั่งมาก่อนมีระดับชั้นที่สูงส่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเร็วหรือความโดดเด่นที่มากกว่า
“นายท่าน!” สารถีสังเกตเห็นถังเทียน และคำนับทันที
ถังเทียนกระหยิ่มใจ “ยานลำนี้ดีจริงๆ”
“เยี่ยมมากขอรับ!” สารถีไม่คัดค้านคำสรรเสริญ “อาชาสวรรค์ดีเยี่ยมดังที่คาดไว้เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ขับขี่ยานโดยสารระดับสูงขนาดนี้ ทำให้รู้สึกตื่นเต้นขอรับ!”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” ถังเทียนหัวเราะอย่างสบายใจ และงอเอวขณะหัวเราะ
“ว่าแต่นายท่าน!” สารถีกล่าว “เราจำเป็นต้องหาสถานที่หยุดพักเพื่อเติมน้ำและเสบียงอาหาร ของที่เราเตรียมมากับยานเริ่มร่อยหรอและทำท่าจะไม่พอเพียงแล้ว”
“มีเมืองอยู่ใกล้ๆ บ้างไหม?” ถังเทียนถาม
“ไม่มีเลย” สารถีมีประสบการณ์และให้คำแนะนำเพิ่มทันที “แต่ถ้าจะเติมอาหารและน้ำ เราก็ต้องมองหาหมู่บ้านกระบี่”
“หมู่บ้านกระบี่?” เป็นครั้งแรกที่ถังเทียนได้ยินชื่อนั้น
“อืม” สารถีกล่าว “หมู่ดาวการกร้างและกันดารมากสถานที่นี้ความจริงไม่ใช่สถานที่สร้างผลผลิตใดๆ นอกจากนี้น้ำอาหารยังมีน้อยมาก ดังนั้นจึงมีเมืองอยู่น้อยนิด ส่วนใหญ่จะเป็นหมู่บ้านหมู่บ้านในดาวกาทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้านกระบี่ ใครๆ ก็รู้ว่าหมู่ดาวกาไม่เหมาะจะเพาะปลูกสร้างผลผลิตได้”
“อย่างนั้นพวกเขาได้อาหารมาจากไหน?” ถังเทียนไม่แน่ใจ
“เกือบทั้งหมดนำมาจากขบวนสินค้าจากนอกดาว” สารถีอธิบาย “พวกเขาต้องการทองอีกามาแลกเปลี่ยนอาหาร”
“ทองอีกา? นั่นคืออะไร?” ถังเทียนสงสัยมากกว่าเดิม
“หมู่ดาวอีกาจะมีอสูรดวงดาวที่แปลกประหลาดมากมาย คนในท้องถิ่นทั้งหมดจะเรียกมันว่าอสูรหินกรวด อสูรหินกรวดชอบกินทรายและหินทุกอย่างและภายในตัวของมันจะมีก้อนโลหะอยู่เป็นจำนวนมาก มีแต่เฉพาะหมู่ดาวกาถึงจะมีก้อนโลหะเหล่านี้ ดังนั้นทุกคนจึงเรียกว่าทองอีกา พ่อค้าจากภายนอกทุกคนชอบรวบรวมทองอีกา ดังนั้นทุกคนจึงเอามาใช้แลกเปลี่ยนอาหาร”
“เป็นสถานที่แปลกจริงๆ” ถังเทียนประหลาดใจ ทันใดนั้นเขาสังเกตว่ามีความเคลื่อนไหวอยู่ด้านล่าง “เฮ้, นั่นอะไร?”
ข้างล่างเป็นหมู่บ้านแห่งหนึ่งและตอนนี้กำลังเผชิญการต่อสู้อย่างดุเดือด
“ไม่ดีแน่!” หน้าของสารถีเปลี่ยน “พวกนั้นคืออสูรหินกรวด! พวกมันกำลังล้อมหมู่บ้านไว้! พระเจ้า พวกมันมีมากเท่าใดกันแน่? เว้นแต่ต้องมีตัวหนึ่งที่เป็นจ้าวอสูรหินกรวด?”
“พวกเหล่านั้นคืออสูรหินกรวดหรือ?” ตาถังเทียนเบิกกว้างขณะที่เขาสงสัยว่ามันมีขนาดเท่าใดกันแน่
อสูรหินกรวดมีขนาดร่างกายที่ใหญ่มหึมามีหัวแขนขาทั้งสี่ สูงราวๆ สี่ถึงห้าเมตรร่างของพวกมันดูสมบูรณ์แบบเป็นส่วนผสมของหินกรวด ลักษณะของมันน่าเกลียด แม้ว่าพวกมันจะไม่ว่องไวแต่ความเคลื่อนไหวของพวกมันก็ไม่ช้าแต่อย่างใด และพวกมันสามารถปลดปล่อยพลังที่แข็งแกร่งได้หมัดของพวกมันประกอบจากก้อนหินมหึมา ต่อยหมัดหนึ่งก็สามารถเขย่าภูผาและทำให้พื้นดินสะเทือนแตกกระจาย
ชาวบ้านที่อยู่ข้างล่างทุกคนกำลังถอยออกไปทีละก้าวๆ
“อสูรหินกรวดจะโง่กันทั้งหมดและไม่ตั้งทีมโจมตีกันอย่างนี้ คงต้องมีจ้าวอสูรหินกรวดอยู่ด้วยเป็นแน่!” หน้าของสารถีแสดงอาการตื่นกลัว
ถังเทียนรู้สึกว่าสารถีพูดถูก อสูรหินกรวดกรูกันลงมาเหมือนน้ำตกจำนวนของพวกมันเกือบพัน แนวป้องกันของหมู่บ้านได้รับความเสียหายอย่างหนักและพวกเขาใกล้ถึงจุดวิกฤติ
การโจมตีขนาดดังกล่าว อาจมีจ้าวอสูรเป็นผู้นำในการโจมตี
แต่สายตาของถังเทียนยังคงจับจ้องอยู่ที่ตัวอสูรหินกรวด ไม่ได้มองหาร่องรอยของจ้าวอสูรแต่อย่างใด และชาวบ้านข้างล่างมีแนวโน้มว่าจะต้านไม่ได้อีกต่อไป มีสัญญาณบ่งบอกว่ากำลังจะล่มสลาย
“ซิ่วซิ่วน้อย! ออกมา!”
ถังเทียนตะโกนลั่นพลางก้าวขึ้นไปบนรั้วกั้น ปีกนกยูงของเขากางออก เขาตื่นเต้นมาก หลังจากฝนทั่งมาหลายวัน รสชาติที่แสนจะน่าเบื่อหน่ายทำให้เขาอยากจะอาเจียน
เมื่อเห็นสนามรบข้างล่างน่าตื่นเต้นถังเทียนรู้สึกได้ว่าเลือดลมพลุกพล่าน ความตั้งใจจะสู้ของเขาทะยานสูงขึ้น
พอก้าวขึ้นบนราวป้องกันถังเทียนกางแขนทั้งสองข้างแล้วพุ่งทะยานลงไป
※※※
เซี่ยชิงแทงกระบี่ใส่อสูรหินกรวดข้างหน้าเขาปราณเที่ยงแท้กระจายออก บนตัวของอสูรหินกรวดมีรูลึกใหญ่อีกรู
ร่างของอสูรหินกรวดเริ่มเชื่องช้าลงแสงในดวงตาของมันหรี่ลงและกลายเป็นกองทรายและหิน
เซี่ยชิงไม่มีเวลาปาดเหงื่อของเขาเขาสังเกตว่าน้องสาวของเขาอยู่ในอันตราย จึงก้าวเข้าไปและระเบิดปราณออกมา ร่างของเขาเหมือนกับประกายไฟและมาปรากฏอยู่หน้าอสูรหินกรวดกระบี่ยาวในมือของเขาแทงใส่ร่างของมัน
ปลายกระบี่สัมผัสพื้นผิวที่แข็งเข้มลักษณะเคร่งขรึมปรากฏอยู่ในดวงตาของเซี่ยชิง ปราณเที่ยงแท้ของเขาระเบิดออกมาอีกครั้ง
ปัง!
รูที่ลึกหยาบปรากฏอยู่บนตัวของอสูรหินกรวดและมันกลายสภาพเป็นกองทรายกองหินทันที
“พี่!” เซี่ยหว่านระบายลมหายใจ เหงื่อหยดลงพื้นมือที่ถือกระบี่กำลังสั่น หน้าของนางซีดขาวมาก
“กลับไปอยู่แนวหลังซะ!” เซี่ยชิงแนะนำนาง น้องสาวของเขาเป็นเพียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ร่างของนางอ่อนแอ และในการต่อสู้แบบนี้การอดทนมาจนถึงบัดนี้ทำให้ชีวิตของนางเสี่ยง
เมื่อเห็นควันลอยขึ้นจากหมู่บ้าน ตาของเซี่ยชิงมีแววเจ็บปวด เขาลืมไปว่ามีอสูรหินกรวดที่เขาฆ่าไปเป็นจำนวนเท่าใดกันแน่ มันเหมือนกับกระแสน้ำที่ไม่มีสิ้นสุด
หมู่บ้านกระบี่ของเราจะจบสิ้นวันนี้หรือ?
ทันใดนั้นเซี่ยชิงสั่นสะท้าน อสูรตัวหนึ่งเข้ามาในสายตาของเขาแขนของมันหนาพอๆ กับถังน้ำหวดฟาดใส่เซี่ยหว่านทันที
แย่แล้ว!
ตาของเซี่ยชิงแทบจะมีเลือดหยาดหยด โดยไม่ต้องคิดอะไร เขาและกระบี่ของเขาเหินลอยพุ่งตรงราวกับแสงรังสีแดง
อสูรหินกรวดยืนนิ่งอยู่กับที่รูขนาดใหญ่ปรากฏอยู่บนหน้าอกของมัน
เซี่ยชิงระบายลมหายใจ ปราณแท้ของเขาใกล้จะหมดอยู่แล้วและหมู่บ้านดูเหมือนไม่อาจยึดครองได้อีกต่อไป เขากัดฟันกรอดและหันไปบอกเซี่ยหว่าน “ไปบอกลุงรอง บอกทั้งหมู่บ้านให้ถอยไปตั้งหลักที่ภูเขาก่อน...”
เซี่ยชิงหยุดพูด นัยน์เขาเบิกกว้าง
นั่นคือ...
※※※
ถังเทียนบินลงมาเหมือนกับดาวตก ลมแรงปะทะใส่หน้าของเขาเหมือนกับคมมีดและฉากเบื้องล่างปรากฏอย่างรวดเร็วเพราะความเร็วของเขา ความต้องการต่อสู้ของเขาเพิ่มสูงขึ้น
เมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงพื้นเขาตวาดลั่น “นกยูง”
ปีกนกยูงข้างหลังเขากางออก ความเร็วของถังเทียนชะลอลงทันที เขาสามารถรู้สึกได้แต่เพียงพลังตึงฉุดรั้งหลังของเขา ร่างของเขาหยุดอยู่กลางอากาศ
เมื่อยืมพลังจากปีก ขาของถังเทียนกระแทกใส่พื้นอย่างหนักหน่วง
ปัง!
ปราณที่แปลกประหลาดสะท้อนออก พื้นที่รอบๆขาของเขาแตกร้าวเป็นรูปเหมือนใยแมงมุม
เขากระโจนเข้าไปในฝูงอสูรหินกรวดที่ชุลมุนและถูกล้อมกรอบไว้ทันที อสูรหินกรวดที่กำลังล้อมกรอบทุกตัวคำรามลั่นด้วยความโกรธหัวใหญ่มหึมาของพวกมันส่ายโยก และวิ่งเข้าหาถังเทียน
ถังเทียนไม่ต้องการพ่ายแพ้เขาคำรามลั่นเช่นกัน และเริ่มโจมตี
ซู่....
เกิดประกายแพรวพราวในอากาศ นิ้วทั้งห้าของถังเทียนเหมือนกับตาขอในพริบตาก็ทะลวงร่างของอสูรหินกรวด!
ปง!
เสียงระเบิดเหมือนกับฟ้าผ่าเบาๆดังออกมาจากท้องของอสูรหินกรวด ร่างของอสูรหินกรวดระเบิดทันที และเศษหินเศษทรายกระเด็นร่วงลงมา
เซี่ยชิงและเซี่ยหว่านจ้องดูเหตุการณ์ด้วยนัยน์ตาว่างเปล่า พวกเขาลืมไปว่าพวกเขายังอยู่ในสนามรบ
ฆ่าอสูรหินกรวดในท่าเดียวยังไม่น่าประทับใจ เซี่ยชิงก็ทำได้เช่นกัน
แต่ทำอย่างนั้นแล้วเป็นเหตุให้อสูรหินกรวดระเบิดเซี่ยชิงคาดว่าเขาไม่สามารถทำอย่างนั้นได้แน่นอน
พวกเขาต่อสู้กับอสูรหินกรวดทุกวัน ดังนั้นพวกเขาจึงรู้จักลักษณะของอสูรเหล่านี้ตั้งแต่หัวจนจรดเท้า จะฆ่าพวกมันได้ไม่ใช่เรื่องยากตราบใดที่แก่นพลังวิญญาณในตัวของมันถูกทำลาย พวกมันจะตายกลายเป็นเศษหินเศษทราย แต่ร่างของมันแข็งกว่าที่คนคิด พวกมันก่อตัวขึ้นจากหินและทราย ยึดติดตัวด้วยวัสดุคล้ายกาวเหลวประหลาดจะระเบิดร่างพวกมันได้ทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก
กรงเล็บเพลิงภูตพรายของถังเทียน แม้ว่ายังจะไม่ถึงระดับปรมาจารย์วิชา แต่ก็ค่อนข้างแก่กล้าแล้ว
อสูรหินกรวดอีกตัวหนึ่งยกไหล่ขวาของมัน หมัดหินกระแทกใส่ถังเทียน
ถังเทียนไม่ได้ตั้งใจหลบแต่กลับไม่ถอยและพุ่งเข้าที่อกของอสูรร้าย
บึ้ม!
หมัดหินบดกระแทกใส่ทรายเบื้องหลังถังเทียน นิ้วทั้งห้าของถังเทียนสร้างประกายไฟอีกและทะลวงอกของอสูรหินกรวดอย่างดุร้าย
ปัง!
อสูรหินกรวดที่อยู่ต่อหน้าเขาระเบิดทันที!
กรงเล็บเพลิงภูตพรายเดิมทีเป็นวิชากรงเล็บที่หนักหน่วงดุดัน และกรงเล็บเพลิงภูตพรายของถังเทียนในปัจจุบันนี้ยังไปไม่ถึงระดับนั้นทุกๆกรงเล็บเขาจะใช้พลังของเขาทั้งหมดอย่างไม่ธรรมดา นี่หมายความว่าการควบคุมพลังใช้มัน ยังห่างไกลจากความสำเร็จ
แต่วิธีที่ผิดนี้เอามาใช้ที่นี่ได้อย่างสมบูรณ์
ถังเทียนเป็นเหมือนพยัคฆ์ดุร้ายที่กำลังเข่นฆ่าอยู่ในฝูงกาะ ร่างของเขาจางหายไปในประกายไฟแพรวพราว ทุกๆ กรงเล็บน่ากลัวและหนักหน่วงเหมือนค้อน
ไม่มีอสูรหินกรวดแม้แต่ตัวเดียวที่สามารถป้องกันการโจมตีของเขา
มีแต่เสียงต่ำดังสนั่นที่สามารถได้ยินได้ หินกรวดและประกายไฟผสมผสานกันในสายฝน จู่ๆถังเทียนก็เดินหน้ากวาดล้างทุกสิ่งทุกอย่างต่อหน้าเขา พลังของเขาเป็นเหมือนการทำลายล้างที่กวาดผ่านใบไม้แห้ง
ปัง!
กรงเล็บเพลิงภูตพรายถูกอสูรหินกรวดตัวหนึ่งป้องกันไว้ได้
ประกายไฟกระจายไปทุกที่ทั้งถังเทียนและทั้งอสูรดวงดาวตนนั้นถอยหลังพร้อมกัน
อสูรหินกรวดที่อยู่ต่อหน้าถังเทียนนี้แตกต่างจากอสูรหินกรวดทุกตัวที่เหลือร่างของมันมีขนาดเท่ามนุษย์ปกติ ตาของมันเป็นสีน้ำตาลและเป็นหินโปร่งใส ร่างของมันประกอบด้วยส่วนผสมของชิ้นโลหะและร่างของมันไม่ได้อ้วนเลย แต่กลับมีความงดงามบางอย่างที่มิอาจจินตนาการได้
เมื่อเซี่ยชิงเห็นอสูรหินกรวดตัวนั้นแล้วเขาตะโกนอย่างประหลาดใจ “จ้าวอสูรหินกรวด!