ตอนที่แล้วตอนที่ 9 ใช้เวทมนตร์โดยตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 11 เสียงที่เป็นประโยชน์ (อ่านฟรี)

ตอนที่ 10 ทำทุกอย่างเพื่อเพื่อน


เมื่อคุณอยู่กับเพื่อนที่คุณชอบใช้เวลาด้วยกัน เวลามักจะผ่านไปเร็ว ละแล้ว 5 วันก็ผ่านไปไวเหมือนโกหก แม็กนัสไม่สามารถออกจากบ้านได้เพราะนักข่าวยังอยู่ข้างนอก พ่อกับแม่ของเขาบอกเขาว่าเขาไม่สามารถออกไปไหนได้หากไม่ได้รับอนุญาตแล้วต้องอยู่ภายใต้การดูแลของพวกท่าน

ในที่สุดก็ถึงวันอาทิตย์ แม็กนัสเลยขอให้พ่อพาเขากับบ็อบบี้ไปที่สวนสาธารณะ เขาแสดงท่าทางเหมือนอยากจะไปเล่นที่นั่น แต่ความจริงแล้ว เขาต้องการตามหาเด็กประหลาดที่แม่ของหมอนั่นเคยเรียกเขาว่ามักเกิ้ลโสโครก เพราะนี่ก็เป็นสิ่งที่ภาพวาดในพระราชวังบักกิ้งแฮมก็พูดเหมือนกัน ดังนั้นจึงต้องมีความเกี่ยวข้องกัน

เพราะอย่างนั้นแม็กนัสจึงเอาจักรยานของเขาไปด้วยกัน อีกอย่างมันมีเบาะหลังด้วย จะได้ไม่เป็นปัญหาสำหรับทั้งคู่ในการเดินทาง ความจำของแม็กนัสดีขึ้นมาก ดังนั้นเขาจึงจำเส้นทางทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย

*ผั่ว*

ทันใดนั้นเอง ไม่ต่างจากครั้งที่แล้ว แผ่นจานร่อนโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ชนเข้ากับหัวของเขา แม็กนัสมองไปด้านข้างพลางพูดกับเด็กอ้วนคนเดิม

“อ๊ะ นายไม่ใช่คนที่เจอกันครั้งก่อนเหรอ ชื่อไรนะ? โรนันชิมิ?” แม็กนัสถาม เขามีความทรงจำที่ดี แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะจำเรื่องไม่สำคัญได้เช่นกัน

เด็กอ้วนหนังตากระตุก "เวอร์นอนเฟ้ย จริงๆ เล้ย อะ อุ๊บ..."

“เขามีปัญหาอะไรอ่ะ?” บ๊อบบี้ถาม

“น่าจะเป็นเบาหวานมั้ง ฉันได้ยินเรื่องนี้ในทีวี เป็นโรคที่น่ากลัวมาก นายต้องโดนฉีดยาทุกวัน ฉันคงบ้าตายถ้าฉันเป็นเขาอะนะ” แม็กนัสตอบและพวกเขาเดินทางต่อไป อดัมมักจะนั่งบนม้านั่งและอ่านหนังสือพิมพ์

“โอเค บ๊อบบี้ นั่งเบาะหลัง ฉันจะรีบไป” แม็กนัสบอก

บ๊อบบี้นั่งลงและยกเท้าขึ้นด้านพื้นไม่กี่เซนฯ ไม่นาน แม็กนัสก็เริ่มปฏิบัติการปั่นแหลกอย่างกับจะไม่พรุ่งนี้อีกแล้วอย่างงั้นแหละ และในไม่ช้าพวกเขาก็แล่นฉิวราวกับอากาศ คราวนี้แม็กนัสรู้ทางที่ถูกต้อง เขาไปถึงที่นั่นอย่างรวดเร็ว

“มันควรจะอยู่ที่นี่สิ” แม็กนัสพึมพำ เขามองไปที่อาคารและหวังว่าจะเห็นเด็กชายอยู่ข้างนอก พวกเขารออยู่ที่นั่นอีกสองสามนาที แต่ก็ไม่มีใครออกมา

“นายรู้จักชื่อเขาไหม บางทีเราตะโกนเรียกก็ได้” บ๊อบบี้ถาม

แม็กนัสส่ายหัว "ไม่ เพื่อน แม่ของเขาน่ากลัวเกินไป ฉันยังไม่ทันได้ถามเพราะฉันต้องเผ่นไปให้ไวที่สุด"

ไม่นานพวกเขาก็หมดความอดทนและเดินไปกดกริ่งหน้าประตู แต่พวกเขาก็ยังไม่พบเด็กชายคนนั้น

*เฮ้อ*

“ฉันว่าเราควรจะกลับกันดีกว่า บางทีครอบครัวของเขาอาจไม่อยู่บ้าน” แม็กนัสตัดสินใจ เขานั่งบนจักรยานและถีบกลับไปที่สวนสาธารณะ แต่ขณะที่กำลังจะไปนั้น ก็มีเด็กผู้ชายอีกคนผมดำแต่ส่วนสูงน้อยกว่ากำลังเดินตรงมาทางตึก แต่พวกเขาก็กลับไปแล้ว

เด็กน้อยเข้ามาในบ้านและพบพี่ชายคนโตของเขา “พี่ฮะ มีคนรอพี่อยู่ข้างนอก เด็กผู้ชาย 2 คน ขี่จักรยาน”

“เรกูลัส ทำไมนายไม่เรียกพี่ เด็กผมบลอนด์เป็นคนที่สามารถพ่นไฟออกจากปากของเขาได้ พี่จะให้นายดู เขาคงอยากคุยกับพี่แหละ พี่แน่ใจว่าเขาจะมาอีก พี่ว่าจะมองหาเครื่องรางที่สามารถเตือนพี่ถึงการมาเยือนของเขา” ซิเรียสตัดสินใจ

“อ๋าา แน่ใจนะฮะพี่” เรกูลัสยักไหล่โดยไม่สนใจคำพูดของเขาเลย

ระหว่างทางกลับ แม็กนัสมีอีกสิ่งหนึ่งอยู่ในใจ “บ๊อบบี้ บอกฉันหน่อยสิ ค่าบ้านพ่อแม่นายเหลืออีกเท่าไหร่”

"อืมม... ไม่รู้สิ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยคืออะไร" บ๊อบบี้ตอบ

“อืม มันคือเงินที่มักจะยืมมาจากธนาคารเพื่อซื้อบ้านของนาย นายต้องให้เงินพวกเขาทุกเดือนเป็นเวลาสองสามปี ถ้านายไม่ทำเช่นนั้น บ้านนายก็จะกลายเป็นของพวกเขา ทีนี้นายก็จะสูญเสียเงินทั้งหมดที่นายเคยให้ไปแล้ว” แม็กนัสอธิบาย

“อ๋อ ฉันเข้าใจแล้ว แต่ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าต้องใช้เท่าไหร่ บางทีฉันอาจจะถามพวกเขาก็ได้” บ๊อบบี้ว่า

“นี่ฟังนะ บ็อบบี้ ถ้าฉันให้ยืมเงินล่ะ ฉันหมายถึงเงินของฉันจริงๆ ไม่ใช่ของพ่อแม่ฉัน ทีนี้นายก็โน้มน้าวให้พ่อแม่ของนายจ่ายค่าบ้านทั้งหมดด้วยเงินนั่นและบอกว่านายจะคืนเงินเมื่อนายโตขึ้น” ม็กนัสเสนอ

"นายมีตังค์หรอ?" บ๊อบบี้ถามด้วยความสงสัย

“ยังไม่มีตอนนี้ แต่ถ้านายสัญญาว่าจะโน้มน้าวพวกเขา ฉันจะมีเงิน” แม็กนัสถามอย่างจริงจัง

“ฉัน... ฉันไม่รู้สิ แม็ก เราอายุแค่ 9 ขวบ พ่อแม่ของฉันคิดว่าฉันยังเด็กเกินไปและไม่แม้แต่จะคุยเรื่องต่างๆ กับฉัน ฉันจะโน้มน้าวพวกเขาได้ยังไงล่ะ” บ๊อบบี้ถาม

เขาถูกล่อลวงให้รับข้อเสนอเพราะเขาไม่ต้องการทิ้งเพื่อนและบ้านที่เขาเติบโตมา แต่เขาก็ค่อนข้างมีเหตุผลในเรื่องนี้เช่นกัน

“แค่บอกพวกเขาว่าแม็กนัสมีตังค์ บอกพวกเขาว่าฉันได้รับมันและให้นายยืมก่อน แล้วนายสัญญาว่าจะคืนให้ เพื่อน ฉันก็ไม่อยากเสียเพื่อนคนเดียวของฉันไปเหมือนกัน ถึงจะโง่แค่ไหน เพื่อนก็ยังเป็นเพื่อนอยู่ดี” แม็กนัสพูดหยอกล้อ

"ช่ายย… ฮะ เดี๋ยวก่อน ไรนะ?... ใครโง่ฟร่ะ"

...

เย็นวันนั้น บ๊อบบี้กลับไปที่บ้านเพราะพรุ่งนี้โรงเรียนใกล้จะเปิดแล้ว แต่วันนี้แม็กนัสต้องคุยกับพ่อแม่ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ของบ็อบบี้

“แม่ พ่อ ผมอยากช่วยเขาฮะ” แม็กนัสพูด

“ได้เลย แม็ก พ่อคิดว่าเราสามารถช่วยพวกเขาได้ เราทั้งคู่มีรายได้เพียงพอสำหรับสิ่งนั้น” พ่อแม่ของเขาเห็นด้วย

อดัมพ่อของแมกนัสเป็นผู้พันและเงินเดือนของเขาอยู่ที่ประมาณ 6,100 ปอนด์ (87,000 ปอนด์ในปัจจุบัน) ในขณะที่เกรซเป็นพันโทและเงินเดือนประจำปีของเธอคือ 5,100 ปอนด์ (83,798 ปอนด์ในปัจจุบัน) ราคาเฉลี่ยของบ้านอยู่ที่ 2,530 ปอนด์ (ประมาณ 55,784 ปอนด์) ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะช่วย

แต่แม็กนัสปฏิเสธ “ไม่ ผมไม่อยากใช้ตังค์ของพ่อแม่ฮะ ถ้าให้เงินแล้วคุณลุงกับคุณป้าจะเสียความรู้สึก ผมเลยอยากทำเอง พ่อฮะ ไม่ใช่ว่ามีคนอยากให้ออกข่าวเยอะแยะหรอฮะ? พวกเขาจะจ่ายเงินให้ผมไหมถ้าผมให้สัมภาษณ์? จะเป็นไงถ้าผมให้สัมภาษณ์กับ BBC หรือสถานีวิทยุบางแห่ง”

อดัมมองไปที่ภรรยาของเขาด้วยใบหน้าที่พอใจในทันที พวกเขาเพิ่งตระหนักว่าลูกชายของพวกเขาดูจะโตเร็วเกินไปแล้วสำหรับอายุของเขา อย่างน้อยก็ในด้านจิตใจ

อดัมคิดแบบติดตลกว่า ~ลูกชายของฉันจะกลายเป็นนักธุรกิจใหญ่แน่ๆ~

“แม็กจ๊ะ ลูกแน่ใจนะว่าต้องการทำสิ่งนี้จริงๆ” เกรซถาม

“ฮะแม่ ไม่ค่อยมีใครจำข่าวแบบนี้อยู่แล้ว อีกไม่กี่วันก็คงจะลืมกันหมด” เขามั่นใจ

“ดี งั้นพ่อจะดูว่าสามารถจัดการอะไรได้บ้าง” อดัมลุกขึ้นและเดินไปที่โทรศัพท์เพื่อโทรหาใครบางคน

ฮอกวอตส์,

“ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ ยูจีเนีย เจนกินส์อยู่ที่นี่แล้วค่ะ เธอมีธุระด่วนกับคุณ” มักกอนนากัลบอกชายชรา

"อ่า มิเนอร์วา ลีช เกษียณแล้ว ผมยังไม่ได้พบรัฐมนตรีคนใหม่เลย เป็นโอกาสที่ดี ให้เธอเข้ามาเถอะ" ดัมเบิลดอร์พูดจากที่นั่งของเขา

มักกอนนากัลออกจากห้องไป ไม่นานนักแม่มดผู้เคร่งขรึมก็เข้ามา แน่นอนว่าเธอไม่ได้เป็นคนขี้ขลาดเหมือนนูบี้ ลีช

ดัมเบิลดอร์รับเธอเข้าไปในห้องของเขาอย่างสุภาพพลางยกน้ำชาให้เธอ “ท่านรัฐมนตรี วันนี้มีอะไรให้ผมช่วยครับ”

“คุณยกยอฉันเกินไปค่ะศาสตราจารย์ ฉันแค่มาเยี่ยมอาจารย์ใหญ่ฮอกวอตส์ที่เราเคารพไม่ได้เหรอ” ตอบแบบนักการเมืองจริงๆ

"ฮ่าฮ่า ตอนนี้ผมแก่แล้ว ไม่ค่อยมีใครอยากพบผมนักหรอกนะ" ดัมเบิลดอร์ยังถูกหยั่งเชิงเมื่อพูดถึงเรื่องการเมือง

“งั้นฉันจะเข้าตรงประเด็นเลยค่ะ ศาสตราจารย์คะ น็อบบี้ได้พูดอะไรเกี่ยวกับพวกราชวงศ์บ้างไหมคะ? ราชินีทรงเอ่ยถึงชื่อคุณโดยเฉพาะและต้องการพบคุณ” เธอเปิดเผย

ดัมเบิลดอร์ไม่แสดงปฏิกิริยาใด ๆ ยกเว้นแสงที่ส่องไปที่รูม่านตาของเขา ~ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่เคยพบเขา แล้วนี่หมายความว่าไง...?~

“ท่านรัฐมนตรี คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ นี่เป็นเรื่องของมักเกิ้ล บางอย่างเกี่ยวกับลำดับการสืบสันตติวงศ์ ดูเหมือนว่าเมอร์ลินผู้เฒ่าจะร่ายมนตร์แผ่นศิลาด้วยอาญาสิทธิ์แห่งกษัตริย์อาเธอร์ ตอนนี้มันส่องแสงและเตือนพวกราชวงศ์ถึงคำสาป พวกเขาน่าจะต้องการให้ผมอะไรกับพวกนั้น” เขาอธิบายโดยทิ้งข้อมูลไว้ตามลำพัง

"แล้วคุณจะไปไหม?" รัฐมนตรีถามต่อ

“การไปที่นั่นสำหรับผมมันค่อนข้างจะเสียมารยาท” ดัมเบิลดอร์พึมพำ อันที่จริงเขากำลังเล่นเกมอยู่ เขารู้ว่ามีอะไรอีกมากที่จะได้รับจากสิ่งนี้

“ฉันแนะนำให้คุณไปที่นั่นนะคะ อาจารย์ใหญ่ มันจะสร้างความสัมพันธ์อันดีกับราชวงศ์ นอกจากนี้ ราชินียังใจกว้างพอที่จะจ่ายเงิน 50,000 ปอนด์ให้กับกระทรวงเวทมนตร์ แน่นอน ครึ่งหนึ่งจะมอบให้กับกองทุนของฮอกวอตส์ เพื่อให้คุณใช้โดยตรง” เธอเสนอ

ดัมเบิลดอร์ถูกล่อลวงโดยสิ่งนี้ เงินเป็นที่ต้อนรับเสมอสำหรับการดูแลฮอกวอตส์ อีกอย่างเขาสนใจเวทมนตร์ของเมอร์ลินด้วย เพราะงั้นเขาจึงตอบตกลง

"ผมจะไปเยี่ยมราชวงศ์ แต่แจ้งพวกเขาด้วยว่าอย่าตั้งความหวังไว้สูงเกินไป" เขาประกาศ

_____________________________

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด