ตอนที่แล้วEp.482 - สามัคคียิ่งกว่าครั้งไหนๆ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.484 - จบสิ้นแล้ว!

Ep.483 - ศึกทะเลทราย


2/2

Ep.483 - ศึกทะเลทราย

ณ อเมริกา

ภายในห้องประชุมทำเนียบขาว

ประธานาธิบดีกล่าวว่า “เล่าสถานการณ์ของอาณาจักรมังกรโลกามา!”

เจ้าหน้าที่ถือเอกสารกล่าวว่า “มีสิบภูมิภาคในอาณาจักรมังกรโลกา แต่สันเขามังกรคือสถานที่ที่มีชาวพื้นเมืองอยู่เยอะที่สุด ตอนนี้มันกลายเป็นพื้นที่ที่มนุษย์อพยพออกไปหมดแล้ว”

“และสถานการณ์ในแคว้นอื่นๆก็ไม่สู้ดีเช่นกัน ในสามแคว้นเผ่ามนุษย์ได้พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง ฐานที่มั่นและดินแดนทั้งหมดถูกทำลาย ส่วนแคว้นที่เหลือกำลังเผชิญกับภัยคุกคามเช่นกัน”

“ที่พอคาดหวังได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นแคว้นเดียวดายที่มนุษย์แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรมังกรโลกา”

ระหว่างกล่าว เจ้าหน้าที่เอกสารแสดงข้อมูลขึ้นจอ เขากล่าวว่า “ฮังอวี่ขุนนางแห่งเมืองธารทะเลทราย ผู้นำสูงสุดของมังกรคราม ไม่นานมานี้เขาได้ทำการระดมกองทัพทั้งหมดจาก 32 เมืองในแดนเหนือ แต่ถึงอย่างนั้น มากสุดก็ได้ประมาณ 40,000 นายเท่านั้น”

“เมื่อรวมกับประชากรมนุษย์ทั้งหมดในแคว้นเดียวดาย เท่ากับว่ามีกำลังพลเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 นาย ถึงนี่จะฟังดูมาก แต่สิ่งสำคัญที่ต้องทราบก็คือ เท่าที่ผมรู้ ศัตรูมีกองทัพเกือบ 80,000 นาย และกำลังรวมตัวกันไปที่เมืองธารทะเลทราย!”

“เมืองธารทะเลทรายไม่ได้เสียเปรียบแค่เรื่องจำนวน แต่พลังรบโดยรวมของกองทัพยังห่างชั้นกับกองทัพศัตรู นี่ทำให้สรุปได้ว่าต่อให้ฮังอวี่แข็งแกร่งสักเพียงใด ก็ไม่มีทางแกร่งมากไปกว่าผู้ครองแคว้นนาเซอร์!”

“นอกจากนาเซอร์ ยังมีขุนนางใหญ่สามตนเข้าร่วมสงคราม และยังมียอดฝีมืออีกราวๆ 100 - 200 ตนจากทั่วแคว้นเดียวดายเข้าร่วม ฝ่ายมนุษย์เสียเปรียบมาก จากการวิเคราะห์ของทีมงาน โอกาสที่จะคว้าชัยชนะของมนุษย์มากสุดอยู่แค่ 10%!”

“คำแนะนำของทางเราคือ เลือกทางที่รอบคอบ พิจารณาเรียกตัวสำนักกระบี่วิญญาณกลับมาโลกจริง หลีกเลี่ยงการสูญเสียร้ายแรง”

หลังจากฟังรายงาน ประธานาธิบดีจมหายเข้าไปในความคิด ข้อเสนอแนะจากทีมวิเคราะห์มีเหตุผลอย่างแน่นอน หลายเรื่องที่เขากล่าวมาล้วนมีมูลความจริง

ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลสกิลของฮังอวี่ ฉูเทียนหัว จ้าวหมิง หรือจำนวนกองกำลังของทั้งแดนเหนือ ทุกอย่างถูกรวบรวมมาอย่างละเอียด โอกาสเบี่ยงเบนจากผลการวิเคราะห์จึงมีน้อยมาก

ตัดสินจากสถานการณ์ปัจจุบัน แคว้นเดียวดายอันตรายมากจริงๆ

“นี่ไม่ใช่ครั้งแรก!”

“มีทีมหัวกะทิมากมายในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ถูกทำลายระหว่างการพัฒนาในโลกวิญญาณ ยอดฝีมือระดับชาติกี่รายแล้วที่ไม่เคยได้กลับมา!”

ประธานาธิบดีทุบโต๊ะด้วยความโกรธ “ก็นั่นแหละเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเราถึงไม่ควรยอมแพ้! ถ่ายทอดคำสั่งออกไป ว่าเราจะสนับสนุนสำนักกระบี่วิญญาณ ช่วยพวกเขาให้คว้าชัยชนะ!”

...

ในเวลาเดียวกัน

ทางประเทศจีนได้จัดประชุมหารือ

“แคว้นเดียวดายคือตำแหน่งแนวหน้าในโลกวิญญาณที่ได้รับความสนใจมากที่สุด หากสถานที่นี้พังทลายลง ย่อมส่งผลใหญ่หลวงต่อมนุษยชาติ กระทบต่อจิตใจของประเทศและกองกำลังต่างๆ”

รัฐมนตรีจากสกายเน็ตรายงานต่อผู้นำเบอร์หนึ่งของประเทศ

“นี่ไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างมังกรครามและแคว้นเดียวดาย แต่มันคือการต่อสู้ของทั้งประเทศ ทุกอย่างล้วนเชื่อมโยงกัน พวกเราต้องสนับสนุนมังกรครามอย่างเต็มที่ ให้ความช่วยเหลือเขาให้มากที่สุดเพื่อเอาชนะศึกนี้!” ผู้นำกล่าว “ไปบอกฮังอวี่ ให้เขาสู้อย่างเต็มที่ แต่จงรักษาตัวให้ปลอดภัย!”

รัฐมนตรีสกายเน็ต “รับทราบ!”

......

ที่จริงแล้ว

ในเมืองธารทะเลทราย การประชุมก็ยังไม่จบลงเช่นกัน

“บอสฮัง แผนการรบที่คุณเสนอมา ฉันคิดว่ามันเสี่ยงเกินไป” คริสแห่งสำนักกระบี่วิญญาณคัดค้าน “ตอนนี้เรายังไม่มีข้อมูลพลังรบอย่างละเอียดของศัตรู!”

ไดอาน่ากล่าวว่า “นี่คือการต่อสู้ชี้ขาด ไม่มีทางให้ถอย ตัดสินแพ้ชนะในครั้งเดียว การเทชิปหมดหน้าตักแบบนี้ ถ้าล้มเหลวขึ้นมา พวกเราไม่ ...”

บนบัลลังก์ของขุนนางเมือง ฮังอวี่ยังคงสงบแม้เผชิญกับความเคลือบแคลงสงสัยของทุกคน

“เหล่าฉู บอกพวกเขาไป ว่าทำไมพวกเราต้องสู้แบบนี้!”

ฉูเทียนหัวพยักหน้า

เขาเริ่มแนะนำ

“ถ้ากองทัพทั้งหมดของเราล่าถอยเข้าเมืองธารทะเลทราย เราอาจพึ่งพาเขตแดนของเมือง กับดัก ตลอดจนกำแพงสูงได้ก็จริง”

“แต่อย่าลืมสิว่า ในบรรดาทหารกว่าครึ่งของศัตรู พวกมันมาจากเมืองใหญ่ เมื่อพบว่าเมืองหลักของแดนเหนือมีการป้องกันอย่างแน่นหนา พวกมันต้องแยกตัวออกไปกวาดล้างทั้ง 32 เมืองเล็กก่อนแน่นอน จากนั้นใช้กลยุทธ์ปิดล้อมเมืองธารทะเลทราย”

“เรื่องนี้ไม่เพียงสร้างความเสียหายใหญ่หลวงต่อดินแดนเท่านั้น แต่ยังทำให้ต้นทุนการฟื้นฟูหลังสงครามเพิ่มสูงขึ้นอย่างมหาศาล ทั้งยังเป็นการบั่นทอนขวัญกำลังใจของทหาร อาจนำไปสู่การพังทลายจากภายในได้”

สรุปง่ายๆ

การต่อสู้ครั้งนี้

ไม่ใช่แค่ต้องชนะเท่านั้น แต่ยังต้องได้รับชัยชนะมาอย่างสมศักดิ์ศรีด้วย

หากศัตรูแตกพ่าย แต่ทั้ง 32 เมืองถูกทำลาย ชัยชนะแบบนี้มันไร้ความหมาย!

จ้าวหมิงกางแผนที่และชี้ลงบนจุดทะเลทรายมรณะ

“ทะเลทรายมรณะตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองธารทะเลทราย มันป็นตำแหน่งเดียวที่กองทัพข้าศึกต้องผ่านเพื่อเข้าสู่อาณาเขตของเมืองธารทะเลทราย สถานที่นี้มีทิวทัศน์กว้างไกลเป็นพันไมล์ พวกเราแค่ต้องอุดทางเข้าออกทะเลทรายมรณะเท่านั้น ทำแบบนี้จะมั่นใจได้ว่าสามารถหยุดพวกมันไม่ให้ไปทำลายเมืองอื่น!”

“พวกเราต้องรวมพลังจบการต่อสู้ในคราเดียว มิฉะนั้นจะเป็นผลเสียแก่ทางเรา!”

คำอธิบายนี้

พูดถึงขนาดนี้ ทุกคนก็ได้แต่ต้องทำตาม เหล่าขุนนางเล็กก็แสดงท่าทียอมรับเช่นกัน

ขุนนางใหญ่ทำเช่นนี้เพื่อผลประโยชน์ของเมืองเล็ก แม้จะเสี่ยงไปหน่อย แต่ก็มีโอกาสขับไล่ศัตรูได้

ตอนนี้แผนการถูกกำหนดแล้ว ทุกคนเริ่มเตรียมการอย่างรวดเร็ว อุปกรณ์เหนี่ยวนำมนตราและอาวุธเหนี่ยวนำมนตราทุกชนิด ทั้งหมดเริ่มทยอยขนย้าย

เจียงหนานวิ่งหอบหายใจเข้ามา “มหาเทพ มีข่าวดี! ผู้ใหญ่ทางกองทัพในหยานจิงได้ออกปากด้วยตัวเอง ว่ายินดีบริจาคคัมภีร์สกิลให้พวกเรา 1,000 ม้วน! แถมยังส่งเสบียงมาให้อีกมากมาย!”

หวังเอ๋อเอ่ยขึ้นเช่นกัน “ฮ่ง เปิ่นหวังก็ได้ข่าวมาเหมือนกัน ว่าสำนักกระบี่วิญญาณเตรียมบริจาคปืนเหนี่ยวนำมนตรา 500 กระบอก และระเบิดสายฟ้าอีก 1,000 ลูก”

และยังไม่หมดเพียงเท่านี้!

แฟนคลับบอสฮัง และแฟนคลับมังกรครามจากทั่วทุกมุมโลกยังจัดกิจกรรมระดมทุน ทุกคนซื้อโพชั่นและอาวุธ  รวมไปถึงอุปกรณ์บริจาคให้แก่มังกรคราม หวังว่าจะมีส่วนร่วมในการต่อสู้กับศัตรูที่ทรงพลัง

ทุกภาคส่วนต่างให้การสนับสนุนกันอย่างเต็มที่

ฮังอวี่ไม่นึกเลยว่าจะเป็นเช่นนี้ เดิมเขาไม่ต้องการรับบริจาคใดๆ

เกรงว่าทุกคนคงเข้าใจผิด อันที่จริงแล้วศึกนี้ไม่มีอันตรายใดๆ อาจกล่าวได้ว่าเป็นชัยชนะอย่างแน่นอน

แต่ก่อนสงคราม บางอย่างไม่สะดวกที่จะเปิดเผย

แน่นอน

หากต้องการบริจาค ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ยอมรับ

จ้าวหมิงเดินมาข้างๆฮังอวี่ เอ่ยเสียงต่ำ “เราได้ติดต่อกับนาเซอร์ ดาบพิษนำกองกำลัง 5,000 นาย ไปเข้าร่วมกับเพลิงสีชาดแล้ว”

นี่คือกองทัพปฏิบัติการลับ

ทันทีที่สงครามเริ่มต้นขึ้น

เพลิงสีชาดและดาบพิษจะโจมตีเมืองเพลิงทมิฬและเมืองพายุระห่ำ!