ตอนที่แล้วEp.481 - หายนะกำลังใกล้เข้ามา?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.483 - ศึกทะเลทราย

Ep.482 - สามัคคียิ่งกว่าครั้งไหนๆ


1/2

Ep.482 - สามัคคียิ่งกว่าครั้งไหนๆ

“ปฏิเสธไม่ได้ว่าศัตรูที่น่าสะพรึงกำลังมาเยือน”

“เมืองธารทะเลทรายกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งร้ายแรงที่สุด!”

ฮังอวี่กล่าวต่อ “กระนั้น พวกเราไม่จำเป็นต้องกลัว เพราะศัตรูกลุ่มนี้ แม้ภายนอกดูยิ่งใหญ่ แต่ภายในกลับเป็นการตอกย้ำถึงความอ่อนแอของพวกมัน”

“พวกมันกังวล พวกมันกลัว เพราะพวกมันรู้ ว่าไม่ช้าก็เร็วเมืองธารทะเลทรายจะกลืนกินทั้งแคว้นเดียวดาย และขยายอำนาจไปทั่วทั้งอาณาจักรมังกรโลกา!”

“พวกเรามีศักยภาพ มีความทะเยอทะยานและความสามารถมากพอที่จะทำเช่นนั้น!”

“ผมหวังว่าในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดนี้ สมาชิกทุกคนของเมืองธารทะเลทรายจะยืนหยัดอย่างกล้าหาญ ยอมรับความท้าทายและต่อสู้เคียงข้างกัน”

“แล้วชัยชนะจะต้องตกเป็นของพวกเราอย่างแน่นอน!”

ขนาดกองทัพของเมืองธารทะเลทรายยังไม่เพียงพอ กองทหารทั้งหมดในแดนเหนือและขุนนางเล็กทุกตนจึงถูกเรียกตัวมาเพื่อสร้างแนวป้องกัน

เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว หากยังแสร้งทำเป็นเก่ง ปกปิดความจริงต่อไป มันก็ไร้ความหมาย

ฉะนั้นจะดีกว่าไหมหากประกาศออกไปตามตรง แล้วให้ผู้ที่พร้อมร่วมสู้กับเมืองธารทะเลทรายก้าวออกมายืนหยัดด้วยตัวเอง

ลุคแห่งเมืองทรายดำตะโกน “ถูกต้อง! คนที่ควรกลัวในครั้งนี้ไม่ใช่พวกเรา! พวกเราต้องไม่แพ้! เมืองทรายดำยินดีส่งกองทัพเข้าสู้ศึกเต็มกำลัง!”

“เมืองขุนเขาเหล็กก็ยินดีส่งทหารเข้าร่วมศึกเช่นกัน!”

“เมืองรังอินทรีย์ยินดีส่งกองทหาร!”

เมืองของมนุษย์ทุกแห่งไม่ลังเลที่จะแสดงจุดยืนของพวกเขา

ลุคและพรรคพวก แม้พวกเขาจะไม่ได้เข้าร่วมกับมังกรคราม แต่ก็เป็นเมืองที่ได้รับผลกระทบ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ล้วนเกี่ยวข้องกับพวกเขา ดังนั้นไม่มีทางเลือกอื่น

สำหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์ เพื่อประโยชน์ของตัวเอง พวกเขาไม่มีเหตุผลที่ต้องถอย

ในความเป็นจริงแล้ว พลังรบของเผ่ามนุษย์ในแคว้นเดียวดายแข็งแกร่งมาก!

แม้เลเวลรายบุคคลจะยังไม่สูงนัก แต่เมื่อเทียบกับทหารทั่วไป มนุษย์มีสติปัญญา และสามารถหยิบยืมพลังจากภายนอกได้อย่างไม่จำกัด หากชดเชยด้วยจุดนี้ พวกเขาคนหนึ่งจะเทียบได้เลยกับสมุนทหารของเมืองใหญ่หนึ่งนาย

อย่างไรก็ตาม เหล่าขุนนางเล็กยังคงลังเล เพราะสำหรับพวกเขา นี่เป็นทางเลือกที่ยากมาก

ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ขุนนางเล็กมีการพึ่งพาค้าขายกับมนุษย์ พวกเขาแลกเปลี่ยนกับเมืองธารทะเลทรายและเมืองทรายดำ ได้รับทรัพยากร หินคริสตัล ความมั่งคั่ง และเครื่องมือมากมาย

แถมภาษีที่เมืองธารทะเลทรายเรียกเก็บยังต่ำมาก เมืองเล็กจึงเริ่มพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทุกเมืองร่ำรวยขึ้นอย่างรวดเร็ว บางเมืองยังเริ่มรับสมัครกลุ่มเร่ร่อน พยายามที่จะอาณาเขตไปยังดินแดนใกล้เมืองที่ยังไม่มีเจ้าของ

มีขุนนางหลายตนหลงใหลในเกม ภาพยนตร์ และนวนิยายของมนุษย์มาก

ตอนนี้มีบางตนเริ่มเรียนภาษจีนและภาษาอังกฤษแล้ว

พวกเขาวาดฝันว่าวันหนึ่งจะได้เข้าสู่สังคมมนุษย์

ดังนั้นลึกๆในใจ พวกเขาไม่ต้องการให้ระบบการปกครองของเผ่ามนุษย์ล่มสลายลง

เพราะเมื่อไหร่ที่มนุษย์ถูกขับไล่จากอาณาจักรมังกรโลกา พวกเขาคงไม่มีวันได้พบขุนนางใหญ่ที่ใจดีเช่นนี้อีกต่อไป วิถีชีวิตคงต้องถูกตีกลับคืนสู่สภาพเดิมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ยังไงก็ตาม

ความเป็นจริงบอกกับพวกเขา

ว่าการนำทัพโดยผู้ครองแคว้นนาเซอร์ในครั้งนี้  ไม่เพียงมีสามขุนนางใหญ่เข้าร่วม แต่เกรงว่าคงมียอดฝีมือทั้งหมดในแคว้นเดียวดายเข้าร่วมด้วยเช่นกัน

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เมืองธารทะเลทรายจะต้านทานได้อย่างไร?

นี่มันยากเกินไป!

หากเลือกยืนผิดข้าง

เมื่อเผ่าพันธุ์มนุษย์พ่ายแพ้

หลังจากนั้นกองทัพของผู้ครองแคว้นก็จะเริ่มกำจัดเมืองของผู้ที่ยืนผิดฝั่ง ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคือการถูกเนรเทศ กลายเป็นกลุ่มเร่ร่อน และนั่นไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับได้สำหรับเหล่าขุนนางในที่นี้

ฮังอวี่ประกาศสัญญา “ทุกเมืองที่เข้าร่วมสงคราม จะได้รับการยกเว้นภาษีสองปี และการสูญเสียทั้งหมดที่เกิดขึ้น เมืองธารทะเลทรายจะเป็นผู้ชดใช้ให้!”

ซู๊ดดดด!

เหล่าขุนนางเล็ก ทั้งหมดสูดหายใจเย็นเยียบ

หากคำนี้เอ่ยจากปากขุนนางใหญ่ผู้อื่น ต่อให้โดนทรมานจนตายเหล่าขุนนางเล็กก็คงไม่ยอมเชื่อ

ทว่าหากเป็นขุนนางใหญ่เผ่ามนุษย์ที่ร่ำรวยเป็นผู้เอ่ยปากด้วยตัวเอง พวกเขาอาจทำได้ตามสัญญาจริงๆ

และเมื่อลองคิดดูดีๆ

ศักยภาพของมนุษย์นั้นยอดเยี่ยมมาก!

แค่ในเมืองธารทะเลทรายตอนนี้ก็มีสายพันธุ์อัจฉริยะมากกว่า 10,000 คนแล้ว!

ประชากรของพวกเขามากยิ่งกว่าจำนวนมังกรสายพันธุ์อัจฉริยะในอาณาจักรมังกรโลกาซะอีก ไหนจะเรื่องการพัฒนาอันรวดเร็วของพวกเขา

เหล่าขุนนางเล็กต่างรู้ดี ถ้าให้เวลาเผ่ามนุษย์มากพอ พวกเขาจะสามารถเติบโตและแข็งแกร่งได้อย่างแน่นอน

ฉะนั้นการเดิมพันกับเผ่ามนุษย์เป็นเรื่องคุ้มค่า!

อยู่ที่ว่าจะกล้าพอหรือไม่!

เป้าหมายในครั้งนี้คือรอดชีวิตไปให้ได้!

“พวกเราเมืองธารกระจ่างยินดีเข้าร่วมสงคราม!”

เสียงหนึ่งทำลายความเงียบ

จิ้งจอกสามยืนขึ้นและพูดว่า “ทุกท่านคิดดูเถิด! เมื่อโจรนอกถิ่นบุกเข้ามา พวกเขามีหรือจะละเว้นขุนนางเล็กอย่างพวกเรา?”

เหล่าขุนนางนิ่งงัน

จริงด้วย

เมืองธารทะเลทรายตั้งอยู่ใจกลางแดนเหนือ หากกองทัพพันธมิตรบุกเข้ามา พวกมันต้องแบ่งกำลังทหารออกหลายทางเพื่อกำจัดอุปสรรคก่อนแน่ๆ

อย่างแรกคือยึดทั้ง 32 เมืองเล็ก จากนั้นเริ่มปิดล้อมเมืองธารทะเลทราย

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่ร้ายกาจเหล่านี้ ต่อให้ขุนนางเล็กเลือกยอมจำนน พวกเขาก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องยอมมอบทรัพย์สินทั้งหมดและถวายกองทัพของตัวเอง

ราคาที่ต้องจ่ายเพื่อแลกกับการรักษาตำแหน่งขุนนาง เกรงว่าหากเสียไปคงไม่มีวันได้กลับคืนมา

หากเป็นช่วงก่อนยุคคาลิมัวก็ไม่เป็นไร แต่เวลานี้มีทั้งการลดภาษี ยกเว้นภาษี และซื้อขายผ่านเมือง ทำให้พวกเขาร่ำรวยขึ้นมาก

เมื่อเกิดสงคราม หากต้องมอบทั้งหมดที่ทุ่มเทหามาให้พวกโจรไป แค่คิดก็หายใจไม่ออกแล้ว

ใครมันจะไปทนได้ ฮ๊าาา!

“เมืองลมแกร่งยินดีเข้าร่วมสงคราม!”

“เมืองแสงอัสดงยินดีเข้าร่วมสงคราม!”

“...”

“ฆ่าพวกโจรให้หมด!”

“ขับไล่พวกมันให้พ้นจากเมืองธารทะเลทราย!”

เหล่าขุนนางเมื่อทบทวนความคิดครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายตัดสินใจเข้าร่วมสงคราม

แม้ศัตรูจะแก่กล้าเพียงใด แต่พวกเขายังคงเลือกสู้จนถึงที่สุด

ปกป้องเมืองธารทะเลทราย!

ปกป้องขุนนางใหญ่!

แม้ในใจเหล่าขุนนางเล็กจะมีเจตนาแตกต่างกันไป แต่ภายใต้สถานการณ์นี้  พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเข้าร่วมสงคราม

ฉากแห่งความสามัคคีเช่นนี้ ยากนักที่จะเกิดขึ้นในอาณาจักรมังกรโลกา!

เดิมฮังอวี่คิดว่าต้องใช้ความพยายามในการเกลี้ยกล่อมมากกว่านี้

แต่ใครจะคิด ว่าเหล่าขุนนางเล็กพูดง่ายกว่าที่คาด

เมืองธารทะเลทรายเป็นผู้นำ 32 เมืองเล็กเข้าร่วมสงคราม ทุกคนมีศัตรูคนเดียวกัน!

ตราบใดที่รวมใจเป็นหนึ่ง แม้ต้องเผชิญกับกองทัพพันธมิตรจากทั้ง 4 เมืองใหญ่ก็ไม่หวั่น!

แล้วอีกอย่าง ด้านกองทัพพันธมิตร แม้รวมตัวกันมา แต่แท้จริงแล้วพวกมันไม่ได้สามัคคีกัน นอกจากนี้ยังมีสมุนทหารจากขุนนางเล็กอีกจำนวนมาก เหล่าขุนนางเล็กถูกบีบให้ทำสงคราม ฉะนั้นลึกๆย่อมไม่มีความคิดร่วมมือ

แม้ภายนอกดูเหมือนกองทัพพันธมิตรจะแกร่งกว่ามาก แต่เมืองธารทะเลทรายคือฝ่ายตั้งรับ เมื่อการต่อสู้เริ่มยืดเยื้อไปในวันที่สองและสาม เมืองธารทะเลทรายจะได้ประโยชน์อย่างมาก

ในทางกลับกัน พันธมิตรจากสี่เมือง พวกมันเดินทางมาไกล กองทัพใหญ่ต้องบริโภคอาหารและพลังงานเป็นจำนวนมาก

ระหว่างทางอาจไม่เป็นไร แต่เมื่อสงครามไม่เกิดความคืบหน้าเสียที ยิ่งนานก็จะยิ่งเกิดความโกลาหลจากภายใน

นี่ยังไม่พูดถึงเรื่องที่ว่าฮังอวี่ล่วงรู้ความลับบางอย่าง

สงครามครั้งนี้ เมืองธารทะเลทรายมั่นใจว่าจะชนะ

เพราะในบรรดากองทัพพันธมิตรทั้งสี่เมือง เมืองฟ้าเดียวดายซึ่งทรงพลังที่สุด--

--แท้จริงแล้วเป็นพันธมิตรกับเมืองธารทะเลทราย!