2070 - เมล็ดพันธุ์แห่งสวรรค์
2070 - เมล็ดพันธุ์แห่งสวรรค์
สือฮ่าวมองเขาอย่างเย็นชาไม่ดำเนินการใดๆอีก เป็นเพราะเขารู้ว่าแม้ว่าเขาจะฆ่าเอ๋าหลิงได้มันก็ไม่มีความหมายอะไร
เพราะอยู่ข้างหลังของเขานั้นมีราชาอมตะที่ไม่มีใครเทียบได้ซึ่งมองข้ามดินแดนอมตะทั้งหมด การฆ่าผู้อมตะที่แท้จริงมีเพียงจะเร่งความขัดแย้งให้เร็วขึ้นเท่านั้นเอง
“ที่ข้าไม่สังหารเจ้าก็เพราะว่าข้าไม่ต้องการเป็นศัตรูกับตระกูลของเจ้าเท่านั้นเอง” สือฮ่าวกล่าวอย่างใจเย็น
เขาคว้าความได้เปรียบแต่เขาไม่ได้ดึงดันเอาแต่ใจ แค่มองอีกฝ่ายแบบนี้พวกเขาก็เงียบไปในทันที
เอ๋าหลิงอ้าปากมองที่แขนซ้ายของสือฮ่าว เขาอยากจะถามเรื่องนี้จริงๆแต่ในท้ายที่สุดเขาไม่ได้พูดอะไร เขารู้ว่าตัวเองไม่มีหน้าจะถามเรื่องนี้ได้
“ต้นสารพัดเต๋าเป็นของข้าพวกเจ้าไสหัวไปได้แล้ว” จากนั้นสือฮ่าวก็ตวาดออกไป
ใบหน้าแก่ชราของเอ๋าหลิงแดงก่ำแทบจะกระอักเลือดออกมา
ก่อนหน้านี้เขากล้าประกาศอย่างกล้าหาญว่าต้นไม้อันล้ำค่านั้นเป็นของตระกูลพวกเขา โดยให้สือฮ่าวมอบมันออกมา แต่สุดท้ายบทสรุปกลับลงเอยเช่นนี้
“พวกเราไป!”
ในท้ายที่สุด เขาไม่กล้าที่จะเป็นศัตรูกับสือฮ่าว มิฉะนั้นผลที่ตามมาจะเกินจินตนาการ
“เฮ้ พวกเจ้าเข้าใจแนวคิดเรื่องผู้ที่มีพรสวรรค์ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์หรือไม่เมื่อพวกเราก้าวเข้าสู่อาณาจักรเซียนแม้แต่ผู้อมตะที่แท้จริงก็ต้องก้มหัวให้กับเรา!”
ก้อนหินศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์แสดงท่าทางอวดดีราวกับว่ามันชนะการต่อสู้ครั้งใหญ่
คนของตระกูลเอ๋าทุกคนมีการแสดงออกที่น่าเกลียด พวกเขาไม่มีอะไรจะพูดออกไป แม้แต่บรรพบุรุษผู้อมตะที่แท้จริงของพวกเขาก็ยังพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ
นั่นทำให้พวกเขาไม่อาจปฏิเสธความองอาจกล้าหาญและพรสวรรค์ที่สูงส่งของฝ่ายตรงข้ามได้
อย่างไรก็ตาม ผู้สูงสุดวัยกลางคนหยุดลงโดยกล่าวว่า
“ในร้อยปี เราจะส่งคำเชิญมา หวังว่าถึงเวลานั้นหวังว่าท่านจะเข้าร่วมการชุมนุมที่โดดเด่นของอาณาจักรเซียน”
ผู้อมตะที่แท้จริงไม่ตอบสนองใดๆ เมื่อเขาได้ยินคำเหล่านี้ ใบหน้าของเขาไร้ความรู้สึก เขาขึ้นเรือรบสีม่วงทองลำนั้น ทะยานสู่ท้องฟ้า ออกจากที่นี่ไปอย่างรวดเร็ว
ศิลาศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์มึนงง รู้สึกเหมือนมันอาจทำให้พวกเขาเดือดร้อน ถ้ามีคนมาจากดินแดนอมตะส่งคำเชิญมาจริงๆในอีกร้อยปีและสือฮ่าวเดินทางไปที่นั่นเขาจะได้รับความเดือดร้อนหรือไม่
“ไปกันเถอะ ไปตามหาเมล็ดพันธุ์ที่ไม่มีใครเทียบกัน” สือฮ่าวจากไปพร้อมกับผู้คนของเขา
พวกเขาลงมายังทวีปห้าธาตุ ดินแดนที่ห้าธาตุมันผนึกปีศาจไว้ ว่ากันว่ามี 'เมล็ดพันธุ์แห่งสวรรค์' ที่นี่
ดินแดนนี้หมุนวนด้วยสีสันที่เจิดจ้า เปลวเพลิงที่ลุกโชติช่วงและรัศมีโลหะที่ส่องประกายเหนือท้องฟ้าและท้องทะเลสีฟ้า หมอกสีเหลืองฟุ้งกระจายไปทั่วอากาศ
ครั้งนี้สือฮ่าวไม่เสียเวลาเลยเขาเริ่มโจมตีผนึกในทันที
มือซ้ายของเขาผสานกับแขนสีทองนั้น ดังนั้นเขาสามารถจู่โจมทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ที่นี่ได้
ในอดีต ความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่เพียงพอ ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงถอยกลับ อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว
หงหลง!
ในที่สุดตราประทับต่างๆก็ถูกปลดออก ทั้งภูเขาก็ส่องประกาย สุดท้ายก็เหลือเพียงภูเขาหิน บัดนี้กลายเป็นประกายระยิบระยับ
มีข่าวลือว่ามีซากศพของราชาอมตะจากต่างมิติรวมถึงผู้คนของตระกูลเขาถูกฝังอยู่ที่นี่ กลายเป็นวัสดุที่ใช้หล่อเลี้ยง 'เมล็ดพันธุ์แห่งสวรรค์' นั้น
อาจกล่าวได้ว่าเมล็ดพันธุ์นี้เป็นหนึ่งในเมล็ดพันธุ์ที่แปลกประหลาดที่สุด ต้นกำเนิดของมันช่างน่าอัศจรรย์
มีแจกันอันล้ำค่าที่มีรอยประทับอยู่บนนั้น ร่างที่ว่างเปล่าจางๆ ถือดาบคมปกป้องสถานที่แห่งนี้อยู่
ฮอง!
สือฮ่าวโจมตีใส่แจกันเต๋าขนาดใหญ่โดยไม่มีความอ้อมค้อม
“ร่างกายเปรียบเสมือนเมล็ดพันธุ์ ใครบางคนประสบความสำเร็จจริงๆ…” หลังจากถอนหายใจเบาๆ ร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นจากแจกันหินนั้น ยืนอยู่ในความว่างเปล่า
“ไม่จำเป็นต้องโจมตี เมล็ดพันธุ์แห่งสวรรค์นี้จะมอบให้เจ้า!” เขาพูดจริงๆ
"ทำไม?" ซือห่าวตกใจมาก
“แต่เดิมนี้เตรียมไว้สำหรับผู้ที่ต่อสู้ดิ้นรนในโลกฆราวาสโดยหวังว่าจะมีใครบางคนบรรลุความเป็นอมตะในยุคไร้การฝึกฝน” เสียงที่คลุมเครือนั้นกล่าวด้วยความสะท้อนใจ
สือฮ่าวรู้สึกตัวสั่น เขานึกย้อนไปในอดีตฝ่ายตรงข้ามบอกว่าโลกฆราวาส จากการใช้คำศัพท์นี้บางทีเขาอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับราชาอมตะพุทธะโบราณ
อย่างไรก็ตาม เมล็ดพันธุ์สวรรค์นี้เกี่ยวข้องกับการกลายเป็นผู้อมตะได้จริงๆ?
ตอนนี้เขามาถึงจุดสูงสุดของเต๋ามนุษย์แล้วเขายังจะต้องการเมล็ดพันธุ์แห่งสวรรค์อีกหรือ? สือฮ่าวรู้สึกว่าเมล็ดพันธุ์สวรรค์นี้แปลกมาก มันไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
“ถึงเวลาที่ข้าจะโปรยปรายไปกับสายลม” ร่างที่คลุมเครือนั้นสลายไป กลายเป็นสายฝนแห่งแสง หายไปจากที่นี่
จากนั้นภูเขาหินนั้นก็แตกออก แจกันเต๋าใหญ่ก็แตกออก ด้วยเสียงหงหลง มันก็พังทลายลงอย่างสมบูรณ์
โถขนาดเท่ากำปั้นบินออกมา ข้างในนั้นมีเมล็ดพันธุ์สวรรค์!
นอกจากนี้ แจกันหินยังมีซากศพนับไม่ถ้วนอยู่ข้างใน คนเหล่านี้มาจากกองทัพที่ยิ่งใหญ่ นี่คือเผ่าพันธุ์ของตระกูลจักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญจากต่างมิติซึ่งถูกใช้เพื่อหล่อเลี้ยงเมล็ดพันธุ์นี้
การได้รับมาง่ายๆแบบนี้ทำให้สือฮ่าวตกตะลึง ตอนแรกเขาคิดว่าจะเกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่ขึ้นเสียอีก
หงหลง!
ในเวลาเดียวกัน ทวีปห้าธาตุก็กำลังจม มันกำลังแตกสลาย ไกล้จะพังทลาย
“ดินแดนแห่งธาตุทั้งห้านี้ผนึกปีศาจไว้ ตอนนี้ตราผนึกหายไปแล้ว แม้แต่ทวีปห้าธาตุก็จะไม่มีอยู่อีกต่อไป?” สือฮ่าวตกใจมาก
จิ!
ทันใดนั้นรุ้งสวรรค์อันรุ่งโรจน์ก็พุ่งออกมาจากใต้ทวีปห้าธาตุ มันช่างเจิดจ้าเกินไปอยากจะหลบหนี หลุดพ้นจากที่นี่
“นั่นเป็นเมล็ดพันธุ์ รีบไล่ตามมัน! ตำนานเป็นของจริง ทวีปห้าธาตุมีเมล็ดเต๋าพิเศษ เมล็ดพันธุ์ห้าธาตุ!” เฉาอวี่เซิ่งตระโกนเสียงดัง
มีข่าวลืออยู่เสมอว่าสถานที่แห่งนี้มีเมล็ดดาวห้าธาตุที่สมบูรณ์แบบ
ในทางตรงกันข้าม สิ่งที่เรียกว่าเมล็ดพันธุ์สวรรค์ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นโดยทวีปห้าธาตุ แต่ถูกปิดผนึกไว้ที่นี่
สือฮ่าวไม่ได้อยู่นิ่งเฉย เขาเอื้อมมือออกไปมือสีทองขนาดใหญ่ของเขาเคลื่อนไหวขึ้นไปบนท้องฟ้า ยึดเมล็ดห้าธาตุไว้โดยไม่ปล่อยให้มันหนีไปได้
เขาได้รับเมล็ดพันธุ์สองเมล็ดที่นี่จริงๆ!
"ออกจากที่นี่!" สือฮ่าวควบคุมเรือรบเป็นการส่วนตัวและออกจากดินแดนที่ถล่มลงมา
พวกเขาใช้เวลามากกว่าครึ่งปีในการค้นหาทั่วหลุมศพโลก โดยหวังว่าจะพบเมล็ดเต๋าสุดขั้วอีกสักหนึ่งหรือสองเมล็ด
น่าเสียดายที่มีเพียงเมล็ดเต๋าธรรมดาเท่านั้น การได้รับเมล็ดเต๋าที่สมบูรณ์แบบมากกว่านี้เป็นไปไม่ได้เลย!
ถ้ามีมากขนาดนั้นจริงๆก็ไม่เรียกว่าเมล็ดพันธุ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ จากอดีตจนถึงปัจจุบันมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับมัน และในตอนนี้พวกเขาได้มาถึงสามเมล็ดพันธุ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก ก็ถือว่าเกินจินตนาการไปมากแล้ว
ต้นสารพัดเต๋ารวมถึงเมล็ดพันธุ์สวรรค์ทั้งสองคือของที่ถูกเตรียมไว้เพื่อรับมือกับยุคที่ไร้การฝึกฝนเป็นการเฉพาะ ไม่เช่นนั้นมันควรถูกมอบให้คนอื่นไปนานแล้ว!
กลุ่มของสือฮ่าวกลับสู่โลกภายนอก หลังจากนั้นพวกเขาก็ฝึกฝนตัวเองอย่างหนักอยู่ตลอดเวลา
………………………………….
พริบตาเดียวก็ผ่านไปเกือบร้อยปี ตอนนี้ใกล้จะถึงเวลาการชุมนุมที่โดดเด่นของอาณาจักรเซียนแล้ว!
ร้อยปีนั้นผ่านไปเร็วมากสำหรับผู้ฝึกฝนแล้วเวลาร้อยปีนั้นดูเหมือนจะเป็นแค่เพียงพริบตาเท่านั้น
อย่างไรก็ตามผู้คนในโลกมนุษย์ล้วนไม่ได้สัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงแบบนี้
พวกเขายังคงใช้ชีวิตไปตามปกติของตัวเอง ความเป็นผู้ใหญ่ ความเสื่อมและความตายของพวกเขาผ่านไปหลายรุ่น
สำหรับพวกเขาการที่คนธรรมดาจะมีชีวิตได้ร้อยปีนั้นก็เป็นเรื่องที่โชคดีมากแล้วจริงๆ นี่ถือได้ว่าเป็นยุคทองแห่งสิ่งมีชีวิตในโลกมนุษย์เลยก็ได้