ตอนที่ 199 สั่งซื้อชุดใหญ่
ปัง ปัง ปัง!
เสียงเคาะประตูดังลั่นทำให้ถังเทียนต้องชะงักการฝึกนี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่เขาถูกรบกวนในวันเดียว ก่อนหน้านี้ก็มีอู่โหวและผู้เฒ่าหลินก็เข้ามาขอพบเขาและครั้งนี้เมื่อถังเทียนเปิดประตูออกดู กลับเป็นหมิงโหว
หมิงโหวมีสีหน้ากระตือรือร้น ถังเทียนยกมือตั้งท่าห้ามทันทีและกล่าว “ข้ารู้ว่าท่านจะมาถามเรื่องอะไร, ก็ได้,ที่อยู่ข้าเขียนไว้ในนี้แล้ว ส่วนเส้นทางท่านต้องหาทางไปเอาเอง”
พูดจบเขายื่นกระดาษชิ้นเล็กให้หมิงโหว จากนั้นปิดประตูทันที
หมิงโหวกวาดสายตาดูข้อความที่เขียนอยู่บนกระดาษ “ร้านอาวุธจักรกลเซรีน ภูมิภาควิญญาณเมืองสามวิญญาณ” หมิงโหวสั่น อย่างนั้นคนขายก็อยู่ในภูมิภาควิญญาณ แม้ว่าเขาจะไม่รู้จักสถานที่อย่างเมืองสามวิญญาณ แต่ตราบใดที่เป็นภูมิภาควิญญาณและตราบใดที่เขานึกอะไรบางอย่างได้ เขาอาจเคยได้ยินมาบ้างเป็นแน่
เขาไม่พูดอะไรสักคำหมุนตัวเดินออกไป เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็พบกับผู้เฒ่าหวิน
สายตาของผู้เฒ่าหวินมองดูกระดาษชิ้นเล็กในมือของหมิงโหว หมิงโหวไม่กล้าขัดใจผู้เฒ่าหวินและถามโดยอัตโนมัติ “ท่านผู้อาวุโสต้องการหาอาจารย์ถังเพื่อถามตำแหน่งร้านขายอาวุธจักรกลใช่ไหม?”
ผู้เฒ่าหวินร้องโอว “อย่าบอกข้านะว่าเจ้าก็มาที่นี่เพราะเรื่องนั้น?”
หมิงโหวยื่นกระดาษชิ้นน้อยให้เขาด้วยความเคารพ “นี่...ข้าเพิ่งได้รับมาจากอาจารย์ถัง”
ผู้เฒ่าหวินรับมาดูและผงกศีรษะอย่างพึงพอใจ “ไม่เลว” กล่าวจบเขาเก็บกระดาษชิ้นนั้นแล้วหันกลับเดินจากไปหน้าตาเฉย หมิงโหวลอบฉลองในใจที่เขาจดจำสถานที่ได้แล้ว
เมืองสามวิญญาณ ร้านอาวุธจักรกลเซรีน
ไม่ว่ายังไงก็ตามพวกเขาจะต้องหาร้านนั้นให้เจอ
※※※
ในชั่วพริบตาถังเทียนก็ทิ้งเรื่องราวต่างๆไว้เบื้องหลังทั้งหมด เป้าหมายของเขาก็คือทุ่มเทฝึกฝนทันที ความสามารถปัจจุบันนี้เขาฝนทั่งได้วันละหกแท่ง
ยิ่งเขาฝนทั่งมากขึ้นเท่าใด ปราณแท้ที่ติดอยู่ที่นิ้วมือของเขาก็มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างตลอด เขาต้องคนหาดูว่ารูปแบบไหนส่งผลดีต่อการเพิ่มความสามารถให้เขา
ผู้อาวุโสกรงเล็บภูตพรายยังไม่ได้สอนกรงเล็บเพลิงภูตพรายให้เขา ทำแค่เพียงให้เขาฝนนิ้วกับทั่ง จึงทำให้ถังเทียนเพ่งสมาธิอยู่กับการฝนทั่ง เขาลืมแม้กระทั่งเป้าหมายสุดท้ายคือฝึกกรงเล็บเคียวเพลิงภูตพราย และเป้าหมายของเขาเปลี่ยนไปเป็นทั่งหนึ่งหมื่นแท่ง
เป้าหมายระยะไกลสำหรับถังเทียนผู้มีความคิดง่ายๆ เป็นเรื่องที่ยากมาก
แต่ทั่งหมื่นแท่งเป็นเรื่องธรรมดา....
ถังเทียนกัดฟันพูดคำว่า“ธรรมดา” และยังคงทุ่มเทพลังทั้งหมดฝึกฝนต่อไป ความเร็วที่นิ้วมือฝนทั่งเหล็กเร็วมากขึ้นทุกที แม้ด้วยพลังเสียดทานที่รุนแรง ความเร็วของนิ้วมือของเขาที่กำลังฝนทั่งก็เร็วมากจนมือของเขากลายเป็นเหมือนเงา
ขณะที่ถังเทียนกำลังฝนทั่งทั่งจะมีประกายไฟบาดตาห่อหุ้มตลอดเวลา ความเร็วของประกายไฟที่ดับลงจะช้ากว่าความเร็วที่เกิดประกายไฟ แน่นอนนี่คือภาพที่งดงาม
พยายามอย่างดีที่สุด
ถังเทียน!
ถังเทียนหมกมุ่นกับการฝนทั่งด้วยพลังของเขาทั้งหมด นิ้วของเขากลายเป็นมีขนาดเท่าหัวแคร็อท วันคืนผ่านไป เขาไม่ยอมพักเลยสักนิด ทุกครั้งที่ปราณแท้ของเขาหมด เขาจะใช้หินดวงดาวทันทีเพื่อพักฟื้นพลังและฝึกฝนต่อไป
กิจกรรมที่ฟุ่มเฟือยเช่นนั้นทำมานานแล้วกระทั่งกลายเป็นนิสัย
สิ่งที่ทำให้ถังเทียนรู้สึกประหลาดใจก็คือเขารู้สึกได้ชัดเจนว่าความเชื่อมโยงของเส้นเดินปราณในนิ้วของเขาหนาและแข็งแกร่งขึ้น เรื่องนี้ดึงดูดความสนใจของเขา เส้นชีพจรของเขาแข็งแรงขึ้น สำหรับนักสู้ทุกคนก็เท่ากับครอบครองพลังที่ร้ายกาจ
เส้นชีพจรแข็งแรงขึ้นก็หมายความว่าปราณแท้ที่โคจรผ่านจะมีพลังมากขึ้น และเส้นชีพจรของเขาแข็งแรงขึ้นก็จะทำให้เกิดความมั่นคง โอกาสได้รับบาดเจ็บน้อยลงรวมทั้งความเป็นไปได้ที่จะเข้าสู่สภาวะคลั่ง
การมีเส้นชีพจรที่แข็งแรงจะทำให้นักสู้ได้รับประโยชน์มากมาย และหลายคนรู้เรื่องนี้ดี แต่น้อยคนที่บรรลุผลสำเร็จ เส้นชีพจรอยู่ลึกในร่างกายคน ยากจะสงบได้
วิธีนี้สามารถทำให้เส้นชีพจรมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นจริงๆ
ถังเทียนนัยน์ตาเป็นประกาย ถ้าเขาสามารถพัฒนาเส้นชีพจรในร่างกายของเขาได้ทั้งหมด ผลจะเป็นเช่นไร?
ความคิดนั้นผุดขึ้นมาทำให้ถังเทียนดูเหมือนกำลังไตร่ตรอง
แต่ในทันใดถังเทียนก็ไม่มีเวลาคิดอีกต่อไป เขาจำเป็นต้องเคลื่อนไหว
สามวันผ่านไปอย่างรวดเร็วถึงเวลาจะต้องกล่าวคำอำลา
เด็กหญิงร้องไห้อย่างหนักแต่ถังเทียนไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใดเขาลูบศีรษะเด็กหญิงแล้วเตือนเธอ “อย่าคิดเอาแต่เล่นสนุกอย่างเดียวนะ, เจ้าต้องขยันฝึกฝนด้วย!เจ้าอย่าทำให้อาจารย์ชาวฟ้าของเจ้าเสียหน้าจะดีกว่า!”
เด็กหญิงร้องไห้ แม้ว่าเธอรู้จักอาจารย์น้อยในเวลาสั้นๆ แต่ถังเทียนกลายเป็นแบบอย่างที่เธอบูชาไปแล้ว
วันนี้จะต้องกล่าวคำอำลากันแล้วไม่ว่าพวกเขาจะได้พบกันในอนาคตหรือไม่ เป็นเรื่องยากจะบอกกล่าว
หลังจากกล่าวล่ำลาคนของอู่โหวสองสามคนแล้ว ถังเทียนกับหลิงซิ่วเข้าไปนั่งในยานเงิน และรีบออกเดินทางในยามราตรี
การเดินทางเริ่มขึ้นแล้ว
และตอนนั้นเองถังเทียนผู้หมกมุ่นฝึกฝนตนเองก็ลืมเรื่องเซรีนและปิงที่อยู่ในเมืองสามวิญญาณไปอย่างสิ้นเชิง
※※※
“จำไว้ จิตวิญญาณพลังยุทธ!” เสียงของเซรีนแหลมปรี๊ดจนแสบแก้วหู นางอยู่ในชุดแดงกระชับ รองเท้าส้นสูงรูปร่างเหมือนนางมารร้ายหุ่นรูปร่างชัดเจน
นางจงใจมองพยัคฆ์ฟ้าที่ยังคงล้มลงอยู่ในสนามฝึก ใบหน้านางแสดงความไม่พอใจ
“เฮ้! เจ้าเป็นนักสู้สายจักรกลที่แข็งแกร่งที่สุดของกองทัพไม่ใช่เหรอ? แล้วเจ้ามีมาตรฐานแค่นั้นได้ยังไง? เจ้าต้องไม่ใช้ร่างกายเพื่อบังคับควบคุมอาวุธจักรกล นั่นเป็นวิธีสู้แบบเก่า เจ้าต้องเรียนวิธีใช้จิตวิญญาณพลังยุทธเข้าสู้, วิญญาณพลังยุทธ!”
ปิงอยู่ในอาวุธจักรกลโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ใบหน้าที่เหมือนไพ่ของเขาโกรธจนเริ่มบิดเบี้ยวนี่เขาต้องถูกคนอื่นตัดสินประเมินตั้งแต่เมื่อไหร่?
ในฐานะเจ้ากรมศึกษาของกองทัพ เขามีแต่ต้องตัดสินประเมินคนอื่น
นี่ไม่ใช่ว่าเขาไม่เจียมตัว ถึงในกองทัพดาวกางเขนใต้ ปิงไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด แต่เขาก็ยังนับว่าเป็นคนที่โดดเด่นและมีความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่ง
เขามีความภูมิใจในผลสำเร็จทางทหารมากซึ่งเขาไม่ได้โม้ให้ถังเทียนฟัง ตลอดเวลาเขาเก็บบันทึกความสำเร็จของเขาไว้ทั้งหมด
ณจุดนั้นเขาได้รับเลือกให้ดูแลค่ายทหารใหม่ นั่นไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผล
จึงทำให้ปิงมีปกติเย่อหยิ่งอยู่ในใจเสมอ
แผนการต่อสู้ใหม่เหรอ? กลยุทธ์การต่อสู้ใหม่ แล้วมันยังไงเล่า?
เขาตัดสินใจไปแล้วว่าไม่ว่ายังไงก็ตาม เขาต้องเชี่ยวชาญกลยุทธต่อสู้แบบใหม่ทั้งหมดให้ได้
ทันใดนั้นฮัวสวงเมา(โจรแพนด้า) เข้ามากระซิบข้างหูเซรีน และนางแสดงสีหน้าประหลาดใจ และเดินออกจากพื้นที่ฝึกฝนทันทีกลับเข้าไปในร้าน
บุรุษวัยกลางคนกำลังยืนรออยู่ด้วยสีหน้าให้เกียรติ
“ท่านมาหาข้าหรือ?”เซรีนมองดูอีกฝ่ายด้วยความสงสัย
“ข้าเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลอู่โหวแห่งหมู่ดาวน้อยเทียนซิง ข้าได้รับบัญชาจากท่านอู่โหว ตั้งใจว่าจะสั่งซื้อทหารระห่ำจากร้านชั้นสูงแห่งนี้ อาจารย์ถังเทียนได้แนะนำให้เรามาที่ร้านแห่งนี้” เจ้าหน้าที่ระดับสูงอธิบาย
ธุรกิจมาถึงแล้ว
สีหน้าเซรีนเปลี่ยนไป ถังเทียนเป็นที่น่าเชื่อถือมากจริงๆ สามารถหาลูกค้ามาได้ในระยะเวลาสั้นๆ
นางยิ้มเต็มหน้าทันที “ไม่มีปัญหา! ท่านต้องการกี่ชุด? ทหารระห่ำขายกันที่ราคายี่สิบล้านเหรียญดาว เนื่องจากถังเทียนเป็นคนแนะนำท่านมา ข้าจะลดราคาให้สิบเปอร์เซ็นต์คิดเป็นชุดละสิบแปดล้านเหรียญดาว”
เจ้าหน้าที่ผู้นั้นตะลึงในใจ ราคานี้ต่ำกว่าที่เขาประเมินไว้มากเขายื่นข้อเสนอทันที “เราต้องการยี่สิบชุด”
เซรีนมีความสุข, นางตอบทันที “ไม่มีปัญหา!”
ยี่สิบชุด นั่นก็คือสามร้อยหกสิบเหรียญดาว นี่เป็นการทำธุรกิจใหญ่ครั้งแรกของนาง
เจ้าหน้าที่ระดับสูงผู้นั้นรีบจ่ายเงินอย่างรวดเร็วลงนามในสัญญาซื้อขายและกำหนดเวลาส่งมอบ เขาจากไปด้วยความพอใจ เซรีนอดโดดตัวลอยอย่างมีความสุขไม่ได้
ทหารระห่ำราคาต้นทุนประมาณสามล้านเหรียญดาว ต่อให้ขายลดราคาสิบเปอร์เซ็นต์จากราคาที่ตั้งไว้ ก็ยังทำกำไรได้ชุดละสิบห้าล้านเหรียญดาว ยี่สิบชุดก็หมายความว่าสามร้อยล้านเหรียญดาว
สายตาเซรีนสามารถมองเห็นเหรียญดาวนับไม่ถ้วนมาเต้นอยู่ตรงหน้า
หลังจากนั้นไม่นานนางก็ได้สติฟื้นคืนจากการมีความสุข แม้ว่าถังเทียนจะดูเหมือนโง่งม แต่เขาก็ช่วยได้เป็นอย่างดี เขาเป็นคนที่มีประโยชน์
เซรีนคาดไม่ถึงว่า นี่เป็นแค่เพียงการเริ่มต้น
หลังจากนั้นไม่นานก็มีรายการสั่งซื้อเข้ามามากกว่าสามแหล่ง
หมิงโหวสั่งยี่สิบชุด, ผู้เฒ่าหลินและผู้เฒ่าหวินสั่งคนละสิบชุด
ในวันเดียวนางได้รับใบสั่งซื้อถึงหกสิบชุด ชุดหนึ่งได้กำไรสิบห้าล้าน ในพริบตานางทำกำไรได้ถึงเก้าร้อยล้านเหรียญดาว
เซรีนตื่นเต้นกระตือรือร้นกรี๊ดกร๊าดไม่หยุด
สี่ชุดที่นางมอบให้ถังเทียนก่อนหน้านั้นประกอบขึ้นอย่างเร่งด่วน นางทำมาอย่างหยาบๆ ตอนนี้นางจะต้องประกอบเพื่อค้าขาย เป็นธรรมดาที่นางจะต้องทำได้ไม่เลว เพราะเหตุนั้นเอง นางจึงเริ่มลงมือสร้างวันละสองชุดทุกๆ วัน
สั่งซื้อหกสิบชุดนางต้องใช้เวลาทำหนึ่งเดือน
นับเป็นการเริ่มต้นที่ดี!
สิ่งที่เพิ่มขึ้นมากับเก้าร้อยล้านเหรียญดาวคือนางสามารถสร้างอาวุธจักรกลมาตรฐานระดับกลางได้อีกหนึ่งชุด ก่อนนั้นเมื่อนางอยู่ในฐานตามลำพังและเกิดความเบื่อหน่ายนางจึงออกแบบอาวุธจักรกลชนิดใหม่อยู่สองสามแบบ
แต่การออกแบบที่ดีมักบ่งบอกถึงต้นทุนผลิตที่สูงตามไปด้วย เก้าร้อยล้านเหรียญดาวสามารถสร้างออกมาได้เพียงหนึ่งแบบ
ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้ นางก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น
ความฝันของนางก็คือกลายเป็นวิศวกรเครื่องกลที่มีชื่อเสียงที่สุด
เซรีนรู้สึกว่าเลือดลมนางเดือดพล่าน เติมจิตวิญญาณในการต่อสู้ของนาง
※※※
ทันทีที่เขาปรับปรุงแก้ไขตนเอง ปิงก็มีความก้าวหน้ารวดเร็วยิ่งขึ้น การฝึกฝนตามปกติของเขายังไม่มีผลอะไร แต่การสื่อสารกับจิตวิญญาณพลังยุทธของเขา ทำให้เขาค่อยๆ คุ้นเคยกับมัน
กลยุทธ์รูปแบบสำหรับการต่อสู้ใหม่นี้ทำให้ปิงรู้สึกถึงความแปลกใหม่
แต่ถ้าจะโม้ให้ตนเองฟัง เขาผู้ที่มีปัญญาเฉียบแหลมในการรบก็สามารถเกาะกุมเข้าใจจุดสำคัญได้อย่างรวดเร็วขณะที่เรียนรู้
แต่ปิงผู้เชี่ยวชาญวิธีการฝึกแบบเก่าทั้งหมดก็ยังไม่พอใจ
ปิงมีประสบการณ์ในการต่อสู้จริงรู้ชัดว่าแค่เพียงฝึกฝนอย่างเดียวยังไม่เพียงพอต่อการสู้รบที่แท้จริง
สำหรับทหารคนหนึ่งที่ได้ผ่านการฝึกอบรมมาแล้ว นี่ยังนับว่าห่างไกลจากคำว่าคุณภาพอีกมากนัก
เขาจำเป็นต้องเข้าใจการฝึกฝนและต่อสู้มากขึ้น ขอเพียงทำได้ถึงระดับนั้นเขาจึงจะสามารถสร้างกลยุทธ์ต่อสู้ใหม่ได้ ตั้งแต่แรกเริ่มปิงยังไม่ค่อยพอใจข้อจำกัดตัวเขาในการควบคุมพยัคฆ์ฟ้าให้ราบรื่นขึ้น
ในฐานะหัวหน้าฝ่ายอบรม เขาหลงใหลคลั่งไคล้การศึกษากลยุทธ์ต่อสู้มาก
เพียงแค่นั้นปิงจึงตัดสินใจออกล่าในภูมิภาควิญญาณ เพื่อฝึกกลยุทธ์ต่อสู้ให้ช่ำชองยิ่งขึ้น
เพื่อเหตุผลความปลอดภัย เขากลับเข้าไปในประตูดวงดาวขอให้ขลุ่ยวิเศษมาช่วยคุ้มกันเซรีน ตอนนี้เซรีนมีความสำคัญมาก
หลังจากจัดการทุกอย่างเป็นอย่างดีแล้ว ปิงเอาแผนที่พื้นที่รอบๆ เมืองสามวิญญาณ หนึ่งคนหนึ่งเกราะ เขาเข้าไปในพื้นที่ล่าพลังวิญญาณ
เขาต้องรักษาความภาคภูมิใจในฐานะเจ้ากรมศึกษาไว้ให้ได้!”