ตอนที่แล้วตอนที่ 197 งานที่ผลาญเงิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 199 สั่งซื้อชุดใหญ่

ตอนที่ 198 หวีชิง


อู่โหวมองดูทหารระห่ำที่อยู่ข้างหน้าของเขาด้วยสีหน้าท่าทางสนใจ

เด็กหญิงตาเบิกกว้างเดินวนรอบๆทหารระห่ำอยู่สองสามรอบ “อาจารย์นึกยังไง ถึงได้ส่งอาวุธจักรกลที่น่าเกลียดนั้นมา”

ในสายตาของเด็กหญิงมันดูน่าเกลียดมากเหมือนกับกระป๋องโลหะดำ ถ้าไม่ใช่ลายเส้นที่บ่งบอกถึงตา จมูกและปาก มันค่อยดูงี่เง่าแต่น่ารักอยู่บ้าง  ดูแล้วไม่มีดีสักอย่าง

แต่อู่โหวรู้สึกว่ามันดูดีภาพลักษณ์ดูห้าวหาญ ลักษณะอย่างหนึ่งที่บอกได้คือมันสร้างจากหนังชั้นดี ข้างๆเขาก็คือเหล่งฟงที่เพิ่งจะเสร็จสิ้นภารกิจเร่งด่วนของเขา

“ใครเป็นนักสู้สายเครื่องจักรกลบ้าง?”  อู่โหวถาม

เหล่งฟงคิดอยู่ชั่วขณะ  “ข้าคิดว่ามีอยู่คนหนึ่ง ชื่อว่าหวีชิงแต่พลังของเขายังแข็งแกร่งไม่เท่าไหร่ อยู่ราวๆ นักสู้ระดับสี่”

มาตรฐานนักสู้สายเครื่องจักรกลจะไม่สูงนัก  เนื่องจากตั้งแต่เริ่มแรกมาตรฐานอาวุธจักรกลยังไม่ก้าวหน้า สำหรับหลายๆ คน เส้นทางของนักสู้สายจักรกลดูไม่มีอนาคต คนที่ยินดีเสียเวลาเป็นนักสู้สายจักรกลยอมทำเพราะใจรักมากกว่า

“เรียกเขามาทดลองดู”  อู่โหวหาที่นั่งเองแล้วจิบน้ำชากล่าว“เรามาดูกันว่าอาวุธจักรกลที่อาจารย์น้อยถังให้พวกเรามาจะเป็นเช่นไร  เขาเองก็มียอดฝีมือนักสู้สายจักรกลอยู่ข้างตัวเขาเหมือนกันและเขายังใช้อาวุธจักรกลจากกองทัพดาวกางเขนใต้เสียด้วย”

“อาวุธจักรกลจากกองทัพดาวกางเขนใต้น่ะหรือ?”  เหล่งฟงประหลาดใจ “นั่นหามาไม่ได้ง่ายๆเลยนะขอรับ”

“เขาบอกว่าเขาต้องการจะไปหมู่ดาวกางเขนใต้ไม่ใช่หรือ?  อย่าบอกข้านะว่าเขาตั้งใจไปหาวิทยายุทธของอาวุธจักรกลจากกองทัพดาวกางเขนใต้?”  อู่โหวพึมพำกับตนเอง  “คนผู้นั้นมีใจทะเยอทะยานดีจริง”

เด็กหญิงเถียงอย่างไม่พอใจ  “ท่านพ่อ, นั่นไม่ใช่ความทะเยอทะยาน  เป็นความใฝ่ฝันต่างหาก”

อู่โหวค่อยรู้สึกตัวมองดูหน้าบึ้งของธิดาน้อยของเขา เขาหัวเราะดังๆ “ลูกสาวของพ่อฉลาดมาก ถูกแล้ว ความใฝ่ฝัน  นั่นคือความใฝ่ฝัน”

เหล่งฟงไม่พูดอะไร  ได้แต่ส่งคำแนะนำลงไป

หลังจากนั้นไม่นานชายหนุ่มหุ่นผอมสะโอดสะองเดินเข้ามาในพื้นที่ เขามองดูอู่โหว  ใบหน้าแข็งและสงวนท่าที

“ท่านโหว!”  หวีชิงคำนับ

อู่โหวโบกมือ“ไม่ต้องมากมารยาท ข้าเรียกเจ้ามาเพราะต้องการให้เจ้าทดสอบอาวุธจักรกลตัวนี้

เมื่อหวีชิงเข้ามา  เขาเห็นอาวุธจักรกลที่อยู่ต่อหน้าทุกคนและเขารู้ว่าเป็นเรื่องอะไร ดังนั้นเมื่อท่านโหวพูดเช่นนั้น เขาสูดลมหายใจลึกกล่าวรับคำ “ขอรับ!”

หวีชิงกำเนิดจากครอบครัวฐานะร่ำรวยปานกลางเขามีครอบครัวเป็นฐานการเงินที่สำคัญ แต่ก็ยังไม่เพียงพอสนองให้กับความหลงใหลในอาวุธจักรกลของเขา  เขาคุ้นเคยกับอาวุธจักรกลมาก อาวุธจักรกลทั้งหมดในตลาดเขาเคยเล่นมาทั้งหมดแล้วอย่างน้อยก็ครั้งหนึ่ง

แต่หัวใจของเขาเต้นแรงเมื่อเห็นอาวุธจักรกลที่อยู่ต่อหน้าเขา  อาวุธจักรกลที่หน้าตาอัปลักษณ์ขนาดนั้นเขาเพิ่งได้เห็นเป็นครั้งแรก

ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะคำสั่งท่านโหว,เขาคงไม่เหลียวมองอาวุธจักรกลนี้แม้แต่น้อยอย่างแน่นอน  พระเจ้า  เมื่อได้เห็นหนามโลหะบนข้อต่ออาวุธจักรกลที่มีจำนวนมหาศาล  งานชุ่ยห่วยแตกเสียขนาดนั้น  ใครจะรู้กันว่ามาตรฐานอาวุธขยะแบบนั้นเป็นเช่นไร  ด้านข้างของหัวเกราะก็คดเคี้ยวไม่สม่ำเสมอ  แต่สิ่งที่เขาไม่สามารถยอมรับได้มากที่สุดก็คือเขาเห็นรอยปะรอยใหญ่

รอยปะ!

บ้าหรือเปล่านี่มันอาวุธจักรกลหรือนี่?

นี่มันรุ่นพัฒนาของขอทานหรือนี่?

จะใช้รอยปะ  อย่างน้อยก็ควรใช้สีที่ดูคล้ายโลหะสิ  ใช้สีนี้ทุกคนจะคิดว่าเป็นจุดสำคัญ  ต้องเป็นความจงใจ

จงใจแน่นอน!

หวีชิงข่มความรังเกียจและความโกรธในใจของเขาและเริ่มตรวจสอบทหารระห่ำ เขาเริ่มวาดภาพในใจว่า คนสร้างมันไม่ได้ทิ้งร่องรอยของการโจมตีใดๆไว้บนอาวุธจักรกลห่วยแตกนี้

มันคือความอัปยศสำหรับโลกของอาวุธจักรกล!

ไม่มีความสวยงามแม้แต่น้อยบนเจ้าของสิ่งนี้

หวีชิงยังคงแอบด่าและดูถูกอาวุธจักรกลนี่ต่อไป  แต่ท่าทางมือของเขามิได้หยุดตรวจสอบมัน ตอนนี้เขาอยู่ใต้การตรวจสอบของท่านโหวเช่นกัน  เขารู้สึกว่าถ้าเขาแสดงท่าทีไม่เป็นมืออาชีพออกไป  เขาจะถูกท่านโหวเปลี่ยนเขาให้เป็นไอ้เศษสวะหรือไม่?

เมื่อได้เห็นความเคลื่อนไหวที่ชำนาญของหวีชิง  อู่โหวผงกศีรษะเบาๆ เขาเห็นว่าหวีชิงคุ้นเคยกับสิ่งที่เขากำลังทำ เขาเป็นคนแปลกประหลาดสำหรับนักสู้สายจักรกล  แต่เขาก็ไม่ถูกตำหนิต่อว่า  ในรัฐบาลอู่โหว แม้แต่ในบรรดายอดฝีมือของหมู่ดาวน้อยเทียนซิง  ไม่มีนักสู้สายจักรกลเลยสักคน

ไม่ทราบว่าตั้งแต่เมื่อใด แต่นักสู้สายจักรกลกลายเป็นสิ่งมีชีวิตระดับต่ำไปได้

ในสายตาของคนธรรมดา แม้ว่านักสู้สายจักรกลและช่างเครื่องกลพูดว่าพวกเขาต้องการฟื้นฟูยุคจักรกลแต่ในสายตาคนอื่นคิดว่า นั่นเป็นการเพ้อเจ้อเหลวไหล

ไม่มีใครสนใจเรื่องของพวกเขานั่นเป็นแค่เพียงกลุ่มคนรวย หนอนช่างฝันที่น่าสงสาร

ในยุคปัจจุบันซึ่งให้ความสำคัญกับพลังความเข้มแข็งวลีที่แพร่หลายโด่งดังและชัดก็คือ หมัดใครแข็งกว่ากัน  ตราบใดที่ท่านยังมีพลัง  ท่านก็ทำให้คนอื่นอิจฉาได้ ไม่มีพลังใดๆและความทรงจำเกี่ยวกับความรุ่งเรืองในอดีต นั่นเป็นแค่เพียงคำปลอบใจตนเองและหลักฐานความล้มเหลว

นักสู้สายจักรกลกลายเป็นกลุ่มสังคมขนาดเล็ก

พลังฝีมือของหวีชิงไม่สูง  แต่ในเขตปกครองของรัฐบาลอู่โหว เขาเป็นคนมีชื่อเสียงคนหนึ่ง ชื่อของเขาไม่เกี่ยวกับพลังความแข็งแกร่งของเขา แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับบทบาทอีกครึ่งหนึ่งของเขา  ในฐานะนักสู้สายจักรกล  เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญครึ่งหนึ่ง และเป็นช่างจักรกลอีกครึ่งหนึ่ง  คนที่รู้ดีเชี่ยวชาญทั้งสองอย่างเป็นเรื่องที่เห็นได้ในวงการยากเหลือกเกิน

มาตรฐานของเขาไม่สูงแต่เขามีความรู้และประสบการณ์แน่นอน

แม้ว่าจะมีความรังเกียจมากอยู่ในใจ  แต่เขาก็ไม่กล้าหลอกอู่โหว

น่าเกลียดมาก,  น่าเกลียดมาก, อัปลักษณ์สุดๆ....

ทุกพื้นที่งานคุณภาพไม่น่าสนใจเลย  ทำให้เขากลืนน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า  แต่ในทันใดนั้น  เขาหยุดตะลึง

“เอ๋...!”

เสียงของเขาได้ยินอย่างชัดเจนในลานฝึกที่เงียบสงบ  อู่โหวที่หลับตาตลอด ลืมตาขึ้นทันที  อู่โหวเองก็มีประสบการณ์  หวีชิงเชื่อว่าเขาเก็บอาการของเขาได้ดีแล้ว  แต่อู่โหวเหมือนอ่านความคิดของเขาได้ทั้งหมด

แม้ว่าอู่โหวจะผิดหวังเล็กน้อย  แต่เขาไม่สนใจมันมากนักและหลับตาพักอย่างไม่อนาทร ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าอาวุธจักรกลนั้นถังเทียนเป็นคนให้มา  เขาคงโยนลงถังขยะไปนานแล้ว  ไม่ว่ามันจะทรงพลังมากขนาดไหน  ก็ไม่มีความหมายต่อเขา  สิ่งที่สำคัญก็คือท่าทางที่ถังเทียนพยายามมอบมันให้กับเขา

เมื่อได้ยินเสียงแหลมของหวีชิง  เขาประหลาดใจ และถามตามปกติ  “มีปัญหาอะไรไหม?”

“ไม่, ไม่มีปัญหา!”  หวีชิงอย่างหวาดหวั่นและตื่นเต้น

“เหรอ!  อย่างนั้นเชิญตรวจต่อไป” อู่โหวสามารถเห็นได้ว่าหน้าของหวีชิงไม่ปกติ  แต่เขาไม่พูดอะไร และยังคงหลับตาพักผ่อน

เมื่อเห็นอู่โหวหลับตา  หวีชิงผ่อนลมหายใจ  สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่แบบสายเดินพลังแท้ที่อยู่ภายในอาวุธจักรกล  สีหน้าอารมณ์ของเขาซับซ้อน  ด้านนอกสร้างขึ้นมาอย่างน่าเกลียดไม่ใส่ใจถึงคุณภาพ แต่การออกแบบวงจรภายในของสายเดินพลังแท้เป็นผลงานศิลปะที่งดงามโดยแท้ เป็นครั้งแรกของเขาที่ได้เห็นวงจรพลังแท้ที่เปี่ยมไปด้วยพลังและสวยงามขนาดนี้  เส้นสายวงจรสีน้ำเงินช่างงดงามที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา

แต่สิ่งที่เขาพบยิ่งเหลือเชื่อมากกว่าทำให้เขาไม่เข้าใจมันเลย!

นั่นทำให้เขากลัว

จำนวนอาวุธจักรกลที่เขามีอยู่ในมือนั้นมีมากกว่าร้อย ในแต่ละวันพออาวุธจักรกลของใครก็ตามมีการทำงานผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ  พวกเขาก็จะวิ่งแจ้นมาหาเขาเพื่อให้ช่วยซ่อม และมีแม้กระทั่งนักสู้สายจักรกลจากดาวอื่นก็มาเยี่ยมเขาเป็นพิเศษเพื่อขอความช่วยเหลือในวงการอาวุธจักรกล ตัวเขาเองนับได้ว่าเป็นผู้ที่มีประสบการณ์และความรู้ดีคนหนึ่ง

แต่,เขากล้าสาบานได้เลยว่าเขาไม่เคยเห็นวงจรพลังแท้ที่ซับซ้อนอย่างนี้มาก่อน

เมื่อเขาเห็นสายไฟเดินพลังครั้งแรกเขาจึงได้ตะลึง ความแตกต่างสุดขั้วทั้งสองอย่างทำให้เขาอุทานเสียงแหลมออกมา  เมื่อเขารู้ตัวในที่สุด  หน้าของเขาเปลี่ยนไปมาก

แต่ท่านโหวยังจับพิรุธเขาไม่ได้  ดังนั้นเขาจึงซ่อนความกระวนกระวายใจไว้และเริ่มศึกษาชุดอาวุธจักรกลต่อไป หวีชิงเริ่มหลั่งเหงื่อกาฬ ท่านโหวปกติจะอารมณ์ผันผวนรุนแรง ถ้าเขาไม่สามารถอธิบายการทำงานของเจ้าสิ่งอัปลักษณ์นี้  เขาคงไม่มีชีวิตดีๆ อย่างแน่นอน

เนื่องจากเขาไม่สามารถเข้าใจวงจรของพลังแท้ได้  เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่น  นอกจากทดสอบมันดู

หวีชิงปาดเหงื่อออกไปขณะที่เขาเริ่มรู้สึกกดดัน การสบตาท่านโหวตรงๆ และพูดโกหก เขายังไม่มีความกล้าขนาดนั้น

หลังจากนั้นเขาเห็นภาพช่องใส่การ์ด นี่ไม่เคยปรากฏในอาวุธจักรกลมาก่อนและนี่ยิ่งทำให้เขารู้สึกกดดันมากยิ่งขึ้น

เม็ดเหงื่อไหลย้อยถึงหลังของเขา  หวีชิงกดดันทวีคูณ  อาวุธจักรกลมีช่องใส่การ์ดตั้งแต่เมื่อใด?

ช่องใส่การ์ดนี้คงสร้างมาเป็นเครื่องประดับ...

ทันใดนั้นหวีชิงมือสั่น จู่ๆ เขาก็นึกถึงข่าวเล็กน้อยที่เขาเคยได้ยินมาก่อน  วิศวกรจักรกลผู้ยิ่งใหญ่ในองค์การวิญญาณมืดเริ่มศึกษาวิจัยการร่วมกันทำงานของอาวุธจักรกลกับการ์ดวิญญาณ

อย่าบอกข้านะว่า...

นี่มันไม่จริง.....

หวี่ชิงกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัวเนื่องจากเคล็ดลับเครื่องกลดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างค้นคว้าและวิจัย  อย่างนั้นก็ต้องหมายความว่าพวกมันเป็นผลผลิตรุ่นแรกของการวิจัย เป็นไปได้ยังไงที่จะมาปรากฏในตัวอาวุธจักรกลกระป๋องตัวนี้?

ช่างเป็นคนที่น่ากลัว  น่ากลัวเหลือเกิน!

เมื่อคิดเรื่องนี้แล้วเขาตัดสินใจทดสอบด้วยตนเอง เขาใส่การ์ดวิญญาณระดับสี่เข้าไปในช่องเสียบการ์ด  การ์ดวิญญาณระดับสี่คุณภาพก็ธรรมดาๆวิชาหมัดค้อนเหล็ก

วี้......

การ์ดวิญญาณเปล่งแสงทันทีหลังจากนั้นการ์ดวิญญาณและช่องเสียบการ์ดก็หายไปทันที

แครก!

อาวุธจักรกลที่เหมือนหม้อดำน่าเกลียดตั้งท่าทันทีมือเหล็กขนาดใหญ่ที่ดูน่าเกลียดกำหมัดแน่นทันที ภายใต้สีหน้าตกตะลึงของหวีชิง หมัดทั้งสองกลายเป็นเหมือนค้อนคู่และหวดลงกับพื้นอย่างหนักหน่วง

บึ้ม!

พื้นที่รอบๆหมัดค้อนคู่เป็นรอยร้าวขยายออกไปเหมือนใยแมงมุม

“หมัดค้อนเหล็กระดับสี่เปิดการใช้งานแล้ว  จำนวนวิทยายุทธที่ยังเหลือให้ใช้งาน : 2”

เมื่อได้ยินเสียงที่อู้อี้แข็งๆ  สมองของหวีชิงเหมือนกับถูกเคาะจนตื่นตัว

เปิดการใช้งานหมัดค้อนเหล็ก..จำนวนวิทยายุทธที่ยังเหลือให้ใช้งาน : 2

ช่องการ์ดนั่นเป็นของจริง...

หวีชิงยืนงงตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก  ทันใดนั้น เขาสั่นสะท้าน หน้าซีดราวกับคนตาย

เดี๋ยวก่อน!

เสียงนั่น....ทำไมถึงมีเสียงได้

เว้นแต่...เว้นแต่...มันคือจิตวิญญาณพลังยุทธ?

จู่ๆหวีชิงก็นึกถึงข่าวลืออีกเรื่องขึ้นมาได้ เท่านั้นเองเลือดถึงกับขึ้นหน้าเขาทันที

ตาของอู่โหวแทบถลนออกจากเบ้า  หมัดค้อนเหล็กระดับสี่!หมัดเจ้าหุ่นกระป๋องดำดูเหมือนจะเปลี่ยนเป็นค้อนได้  นั่นคือหมัดค้อนเหล็ก!อู่โหวจ้องมองค้อนเหล็กและรอยแตกแยกสลับกัน เขานิ่งงันจนพูดไม่ออกหมัดนั้นถูกมองว่าอยู่ในระดับกลางๆ แต่เขาเห็นหวีชิงเพิ่งให้ความสนใจการ์ดวิญญาณ เมื่อเห็นว่ายังมีช่องเสียบการ์ดเหลืออยู่อีกสองช่อง ก็หมายความว่ามันยังสามารถเรียนรู้ทักษะต่อสู้ได้อีกสองวิชา

นักสู้ไม่ว่าคนใดก็ตาม  ถ้าพวกเขามีวิทยายุทธระดับกลางสามวิชา รูปแบบการต่อสู้ของพวกเขาจะก้าวหน้าดูดีเป็นอย่างมาก

อู่โหวเห็นคุณค่าของมันได้ทันที

ทันใดนั้นเขาลุกขึ้นยืนทันที  จิตวิญญาณพลังยุทธผันแปร!

อาวุธจักรกลชุดนี้ความจริงมีความผันแปรเทียบเท่ากับจิตวิญญาณพลังยุทธของสมบัติดวงดาว

อู่โหวมีสีหน้าประหลาดใจขณะที่หวีชิงที่ดูแล้วเกินกว่าประหลาดใจ  นัยน์ตาเขาเหลือกกลับทันทีเหมือนกับคนเสียสติเป็นลมร่วงลงกับพื้นทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด