ตอนที่ 193 ข้ายังมีชีวิตอยู่
เสียงของเหล็กกระบี่ถูกกัดแตกหักฟังชัดเหมือนกัดขนมกรุบกรอบ และทุกคนสามารถได้ยินตัวใบกระบี่ครึ่งหนึ่งร่วงลงพื้นและแตกหักเป็นหลายชิ้นเหมือนกับกำลังฉายภาพสโลว์โมชัน ทุกอย่าง
ติง!
เสียงกระบี่หักชัดเจนในท่ามกลางความเงียบดังเสียดหูแต่ไม่มีใครพูดอะไรเนื่องจากตะลึงจากการโจมตีและผลที่ออกมา แม้แต่อู่โหวและหมิงโหวก็ยังอึ้งไปชั่วขณะ
ขุนพลวิญญาณทั้งสามที่อยู่หลังประตูดวงดาวตะลึงนิ่งงันไปตามๆกัน
“นี่เราต้องมาพิจารณาเพิ่มมาตรฐานอาหารของเขาอีกหรือนี่?”ปิงปากอ้าค้าง เขาฝึกทหารใหม่มามากมาย แต่ไม่เคยเห็นใครใช้ฟันกัดกระบี่ของคู่ต่อสู้จนหัก
และทุกอย่างเป็นเพราะซาลาเปาลูกหนึ่ง...
สีหน้าของขลุ่ยวิเศษผู้ฝึกฝนอบรมมาตามปกติถึงกับซึมเซา
จู่ๆกรงเล็บภูตพรายก็พูด “อย่าได้ดูถูกความตะกละเรื่องอาหาร”
ควั่บ,ปิงและขลุ่ยวิเศษทั้งสองคนกวาดสายตามาพร้อมกันพวกเขาจ้องมองกรงเล็บภูตพรายอย่างประหลาดใจ
กรงเล็บภูตพรายรับสถานการณ์เบาๆอย่างสงบ
※※※
เป็นความสงัดอย่างน่าประหลาด ถังเทียนทำให้สองผู้อาวุโสตกใจอย่างเห็นได้ชัด
ถึงตอนนี้ชิงหลวนวิ่งแบกถุงใหญ่กระหืดกระหอบเข้ามา นางรีบวิ่งเข้าไปในครัวกวาดของทุกอย่างที่กินได้ลงถุงและคว้าถุงแบกวิ่งกลับมาสุดกำลังนางยังสงสัยสิ่งที่เกิดขึ้น
ถุงที่แบกมายังสูงใหญ่กว่านางมากเหมือนกับนางแบกภูเขาเล็กๆ เมื่อตอนนางวิ่งเข้ามา
ปัง!
ถุงผ้าถูกโยนลงพื้น ชิงหลวนอ้าปากหอบหายใจ “ดูซิว่าพอไหม?”
ในท่ามกลางความเงียบสงัด เสียงนางดังมาก
ถุงผ้าถูกเปิดออกและกองอาหารย่อมๆ ปรากฏอยู่ต่อหน้าทุกคน เนื้อทุกชนิด ผักและผลไม้ทุกอย่างกองเหมือนกับภูเขาสูงกว่าตัวนางเสียอีก
ถังเทียนที่ตอนนี้กำลังเคี้ยวซาลาเปาตาลุกวาวทันที นัยน์ตาที่เป็นสีเขียวจางๆ เดิมจู่ๆ ก็มีแสงเข้มกว่าเดิม เขาตะโกนและวิ่งตรงเข้าหากองภูเขาอาหารเหมือนกับสัตว์ป่า
เขากินอย่างตะกละตะกลามเหมือนกับพายุที่กวาดใบไม้แห้งทำให้คนที่เห็นถึงกับผมลุกชัน เสียงกินเสียงเคี้ยวบดอาหารได้ยินชัดเจนทั่วทั้งพื้นที่ ปากใหญ่ของถังเทียนเป็นเหมือนหลุมดำ ทันทีที่อาหารถูกยัดเข้าปากไปแล้ว ก็ไม่มีอะไรหลุดออกมาอีก ถังเทียนไม่ได้คายแม้แต่กระดูกออกมา
แครก แครก!
ทุกคนยังไม่สามารถผ่อนคลายจากฉากภาพที่กระบี่ถูกทำลายทำให้ศีรษะของพวกเขาพองโตมึนชา
ชิงหลวนเพิ่งจะสังเกตว่าสภาพรอบด้านเงียบสงบกว่าปกติมากเกินไป และถังเทียนก็ก้มหน้าก้มตาอยู่เหมือนกับว่าไม่มีใครอื่นปรากฏตัวและเคี้ยวกินอย่างมีความสุข นางถึงกับตะลึงทันที
ชิงหลวนจะเคยพบสถานการณ์ที่ประหลาดอย่างนั้นได้ยังไง?
ฉากภาพที่ปรากฏอยู่ต่อหน้านางแปลกประหลาดจนนางแทบจะร้องไห้
สายตาของทุกคนจ้องมองนาง แต่ไม่มีเสียงหลุดออกมาจากพวกเขาแม้แต่คนเดียว
ชิงหลวนมองไปทางเด็กหญิงน้อยด้วยสายตาวิงวอน แต่เธอก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน สายตาเธอเบิกกว้าง ขณะที่เธอยืนตะลึงอยู่ตรงนั้นมองดูถังเทียนกินเหมือนหมาป่า
เธอตะลึงกับฉากภาพที่ถังเทียนกัดกระบี่เหล็กของเซี่ยอัน
หลังจากครึ่งค่อนวันเธอจึงรู้สึกตัว นัยน์ตาของเธอเป็นประกาย อารมณ์ของเธอปั่นป่วน อาจารย์น้อยของเธอ..ก้าวร้าวเกินไป
ต้องเป็นการก้าวร้าวแน่นอน
หัวหน้ารัฐบาลที่แข็งแกร่งสองคนจากสิบสามรัฐบาล และผู้อาวุโสสองคนจากคณะผู้อาวุโสยังมองดูถังเทียนที่เพลินกับอาหารอย่างเงียบๆ ฉากภาพเช่นนี้ถือว่าอุกอาจมาก
อาการตกใจของทุกคนค่อยๆลดลง และทุกที่ต่างก็จ้องมองอย่างมึนงง
ทุกคนตระหนักได้ทันทีกองอาหารที่อยู่ต่อหน้าถังเทียนหายไป ถังเทียนนอนลงกับพื้น มองเห็นท้องที่โป่งนูนและเขากางแขนกางขาออก
เด็กหญิงเพิ่งรู้ตัวหลังจากผ่านไปชั่วขณะ สีหน้าเธอเปลี่ยน ไม่ดีแน่ เขาหลับแล้ว
ครั้งสุดท้ายที่เธอเห็นเธอเห็นเขาหลับได้ต่อหน้าเธอ
เด็กหญิงจ้องมองอย่างตื่นเต้น นี่ไม่ใช่เวลามาหลับนะ
เธอเตรียมจะวิ่งออกไปข้างหน้า
ทันใดนั้นมีแสงสามสายฉายออกมาอยู่ข้างตัวถังเทียนและขุนพลวิญญาณสามคนปรากฏตัวออกมาจากแสงทันที
ขลุ่ยวิเศษพูดกับเด็กหญิงอย่างสุภาพ “ปล่อยให้เขาหลับสักครู่เถอะ เขาเหนื่อยมากเกินไป”
กรงเล็บภูตพรายมีใบหน้าเย็นชาสายตาทอดต่ำ ปิงกำลังควบคุมเสือเขี้ยวดาบจ้องมองไปรอบๆเหมือนกับเสือจ้องเหยื่อ
ขณะที่ขุนพลวิญญาณทั้งสามปรากฏรัศมีของเขากวาดไปทั่วพื้นที่ พวกที่รู้สึกกระวนกระวายถอยออกทันที ขณะที่ใบหน้าของอู่โหวและหมิงโหวเปลี่ยนไปมากกว่า และผู้อาวุโสทั้งสองก็ประหลาดใจมาก
พวกเขาเป็นคนที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร พวกเขารู้ตามธรรมดาว่าสิ่งใดทรงพลัง
กลิ่นอายที่แข็งแกร่งนัก!
คนที่ห้ามองค์หญิงหมิงจูอย่างนุ่มนวลก็คือขลุ่ยวิเศษลักษณะของเขาต่างจากธรรมดา อาวุธจักรกลที่นักสู้จักรกลกำลังใช้ เห็นได้ชัดว่าเป็นอาวุธจักรกลที่กองทัพดาวกางเขนใต้สร้างมา!
อีกคนที่ไม่ธรรมดาก็คือกรงเล็บภูตพรายเขาเป็นคนแก่ที่อ่อนแอและผอมแห้ง ในสามขุนพลวิญญาณนั้น เขาดูธรรมดาที่สุด แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เมื่อมองดูชายชราธรรมดาผู้นี้ สายตาที่เย็นชาของเขาทำให้ทุกคนรู้สึกว่า เขามีความมั่นใจในพลังของตนเอง
เดี๋ยวก่อน....
เจ้าผู้นี้ความจริงมีขุนพลวิญญาณถึงสามตน!
ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปทันที
หน้าของเซี่ยอันยังคงอับอายและคับแค้น ตั้งแต่อายุยังน้อย เขาไม่เคยได้รับความอับอายใหญ่หลวงขนาดนี้และต่อหน้าทุกคน
เขาสามารถนึกภาพออกว่าเมื่อพรุ่งนี้มาถึง ข้อมูลจะกระจายไปทั่วเหมือนติดปีก กระบี่ของซี่ยอันแตกทำลายเพราะคนบ้าใช้ปากงับกระบี่จนพัง! และเจ้าบ้านั่นยังกินกองภูเขาอาหารต่อหน้าทุกคนและนอนหลับได้เฉย
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว ความโกรธและความอับอายยิ่งชอนไชอยู่ในใจของเขา
บัดซบเอ๊ย!
เซี่ยอันตวาดก้องได้ยินกันทั้งหมด เขาโกรธจัด ปราณแท้ในร่างเขาถูกเร่งขึ้นถึงขีดสุดรวดเร็วเหมือนสายฟ้า แม้ว่ากระบี่ที่เขาถือจะหักแล้ว แต่พลังที่ปลดปล่อยออกมายังทรงพลังดุจสายฟ้า!
สีหน้าของอู่โหวรู้สึกไม่ดี!
แต่ระยะห่างระหว่างเขากับถังเทียนในตอนนี้ห่างกันมากและหมิงโหวคั่นอยู่กลาง เขาไม่สามารถเข้าไปขัดขวางได้
“ให้ข้าเอง”
กรงเล็บภูตพรายที่หลับตาอยู่พูดขึ้นทันที ขณะที่ขุนพลวิญญาณอีกสองคนไม่แปลกใจนัก กรงเล็บภูตพรายแตกต่างจากปิงและขลุ่ยวิเศษ สภาพของเขาได้รับความเสียหายมากที่สุด ทำให้เขาต้องใช้แก่นพลังวิญญาณทุกครั้งถึงจะออกมาได้ ตอนแรกปิงไม่ตั้งใจจะปล่อยกรงเล็บภูตพรายออกไป แต่กรงเล็บภูตพรายพูดออกมาเอง เมื่อนั้นปิงจึงตระหนักได้ว่า กรงเล็บภูตพรายตั้งใจจะออกไปสู้
ดังนั้นปิงจึงไม่ลังเลที่จะใช้แก่นพลังวิญญาณเรียกกรงเล็บภูตพรายออกมา
ขลุ่ยวิเศษยิ้มแย้มและถอยออกมาก้าวหนึ่งโดยอัตโนมัติ แสดงว่าเขาเปิดทางให้ ปิงทำตามและถอยออกมาครึ่งก้าวใบหน้ามีความคาดหวังจะได้เห็นการแสดงที่ดี
กรงเล็บภูตพรายที่หลับตาอยู่ตลอดเวลาพลันลืมตาทันที
แสงในดวงตาหม่นเทาสว่างขึ้นทันที ความตั้งใจสู้ของเขามากขึ้นกว่าแต่ก่อน เขาต้องยอมรับว่าความบากบั่นหมั่นเพียรของถังเทียนกล้าแข็งกว่าเขาตอนเยาว์วัยเสียอีก
แม้ว่าเขาจะไม่พูดออกมาตามปกติ แต่ก็เห็นประจักษ์ทั้งหมดด้วยตาตนเอง
ผลงานรังสรรค์ของเขาเองมีผู้รับสืบทอดและสำหรับขุนพลวิญญาณอย่างเขาที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักถือว่าได้มาเกินเป้าหมายของชีวิตแล้ว นั่นคือผลงานสร้างสรรค์ของเขาเอง อีกอย่าง...
เขามีความเห็นแก่ตัวน้อยมาก
เดิมทีก็เป็นแค่ความคิดที่ลืมเลือนไปจากใจของเขานานแล้ว จนกระทั่งวันที่กู้เสวี่ยใช้ท่าราชันย์ถวิลรัก ความทรงจำของเขาจึงได้ทะลักออกมาราวกับน้ำไหลบ่า
วิชาระดับปรมาจารย์!
นั่นคือฝันของเขา ความฝันที่ยังไม่สมบูรณ์ที่เขาละทิ้งไว้
หลังจากเห็นประจักษ์ท่าราชันย์ถวิลรักด้วยตนเองแล้ว ความคิดนี้ติดอยู่ในใจเขาเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นว่าถังเทียนฝึกฝนหนักและเสี่ยงชีวิตอยู่เสมอ ทันใดนั้นเขาค่อยมีสายใยความหวังอยู่เล็กน้อย
เหมือนกับว่าโลกของเขากลับมามีชีวิตอีกครั้ง หัวใจที่ตายด้านมานานยังคงมีความอุ่นก็เริ่มเต้นอีกครั้ง
เขาพบเหตุผลเพื่อการมีชีวิต
วิชากรงเล็บเพลิงภูตพรายระดับปรมาจารย์!
เป้าหมายนี้ยังคงไกล แต่ยังไม่มีอะไรเทียบสิ่งนี้ก็คือแรงผลักดันความปรารถนาจะมีชีวิตของเขา
และผลักดันให้เขาต่อสู้!
ภาพเซี่ยอันในดวงตาเขาขยายใหญ่ขึ้นทุกทีกลิ่นอายประหลาดและพลังกดดันเพิ่มขึ้นทุกที เหมือนกับว่ากรงเล็บภูตพรายสามารถระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ แต่กรงเล็บภูตพรายไม่ขยับแม้แต่นิ้วเดียวและนัยน์ตาเทาของเขาดูเหมือนมีไฟลุกโชน
เข้ามา! เข้ามาเลย!
เสียงที่หายไปนานและเงียบเหงาในใจเขาดูเหมือนกับจะเป็นเสียงตะโกน เขารู้สึกว่าหัวใจที่เย็นเฉียบดุจน้ำแข็งของเขากำลังร้อนเหมือนโลหะถูกหลอม
มีความฝันบางอย่างที่มักเรียบง่าย
มีเหตุผลบางอย่างที่มักเรียบง่าย
และมีการต่อสู้บางศึกที่ไม่ยินยอมให้ท่านเป็นตัวของตัวเอง
ทันใดนั้นกรงเล็บภูตพรายยืดหลังที่งอ รูปร่างที่ดูอมโรคอ่อนแอกลับดูแข็งแรงห้าวหาญอีกครั้ง ในช่วงเวลานั้น เขาเป็นเหมือนตนเองในช่วงวัยหนุ่ม กระหายการต่อสู้! ในทันใดนั้นเขาสามารถรู้สึกได้ว่าตนเองกลับมามีชีวิต
แคล้ง!
กรงเล็บทั้งห้ากางออกพร้อมกับเสียงเสียดอากาศดังออกมาเสียงที่เหมือนมีดหลุดจากฝักดังก้องไปทั้งพื้นที่
กรงเล็บภูตพรายตั้งท่ากรงเล็บงองุ้ม
ซี่......
เปลวประกายไฟสองสายสว่างวาบ หนึ่งซ้ายหนึ่งขวาเหมือนแนวไฟฉายที่ส่องกวาดผ่าน แสงสว่างเจิดจ้าจนคนที่อยู่รอบๆ ตาพร่าทันที
ติง!
เซี่ยอันชะงักค้างอยู่กลางอากาศใบหน้าชั่วร้ายของเขาแข็งค้างกับที่ขณะที่เขาจ้องมองกรงเล็บภูตพรายผู้เข้ามาจนเกือบถึงอย่างว่างเปล่า กระบี่หักในมือของเขาถูกกรงเล็บภูตพรายคว้าเอาไว้ไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิ้วเดียว
ไม่!
เขากดกรงเล็บลง!
เล็บทั้งสิบของกรงเล็บภูตพรายเจาะผ่านกระบี่หักของเขา นิ้วทั้งสิบแทงเข้าไปในตัวกระบี่ทะลุออกอีกข้างหนึ่ง
เซี่ยอันไม่ได้เตรียมพร้อมและทุ่มพลังโจมตีสุดตัวจะได้รับบาดเจ็บ แต่ในช่วงเวลานั้น เขาไม่ทันได้สังเกตได้แต่จ้องมองกรงเล็บภูตพรายที่อยู่ข้างหน้าเขาอย่างว่างเปล่า
นั่นเป็นไปได้ยังไง....
เห็นได้ชัดว่าเขาทุ่มพลังทั้งหมดลงไปในท่านั้น
แคร็ก!
กรงเล็บภูตพรายสะกิดนิ้วลงกระบี่หักที่ยังเหลือครึ่งหนึ่งถูกบดกระจายเป็นชิ้นๆทันที
ตาของเซี่ยอันแดงเหมือนเลือดมือทั้งสองเปลี่ยนเป็นสีทอง เขากราดฝ่ามือในท่วงท่ากระบี่และแทงใส่กรงเล็บภูตพราย
การโจมตีโหดเหี้ยมนี้มุ่งที่ดวงตาทั้งฉับพลันและรวดเร็ว
ติง!
กรงเล็บทั้งห้าซึ่งเป็นเหมือนตะขอหดกลับมาอยู่ด้านหน้าเมื่อใดไม่ทราบและสะกัดฝ่ามือกระบี่ของเซี่ยอันไว้ได้ทำให้ประกายไฟกระจายไปทั่ว
กรงเล็บอีกข้างหนึ่งกราดขวางและคว้าฝ่ามือกระบี่อีกข้างของเซี่ยอันไว้ได้
หน้าของเซี่ยอันเปลี่ยนสีทันที
ถึงตอนนี้เขาจึงได้ตระหนักว่าความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้ามเป็นสิ่งที่เขาไม่มีทางต้านรับได้ เขาตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ยอมถอนถอยออกมา ในที่สุดเขาก็ได้ข้อสรุปว่า ยอมเสียหน้าดีกว่าเอาชีวิตไปทิ้ง!
ในพริบตา เขาถอยอยู่ห่างเกินกว่าสิบเมตร
แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมคู่ต่อสู้ถึงไม่ยอมไล่ตาม แต่ในที่สุดเขาก็สามารถพักสูดหายใจได้ ระยะไกลขนาดนั้น โดยพื้นฐานศัตรูคงทำอะไรเขาไม่ได้และในที่สุดเขาจึงได้รู้ตัวว่าเขาได้ทำสิ่งที่ถูก
ทันใดนั้น ร่างของเขาจู่ๆก็ไม่สามารถขยับได้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นหวาดกลัวทันที
แสงแพรวพราวปรากฏในสายตาเขาทันที
“ไม่....”
เสียงสิ้นหวังและหวาดกลัวของเขาดังเบานักภายใต้ลำแสงแพรวพราวที่ทะลวงผ่าน
เมื่อแสงแพรวพราวหายไปในที่สุด ร่างอ่อนแอที่ยืนอยู่ตรงนั้นดูสูงส่งและทรงพลัง