ตอนที่แล้วตอนที่ 192 ซาลาเปานึ่ง กรงเล็บและฟัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 194  คำตอบของกรงเล็บภูตพราย

ตอนที่ 193 ข้ายังมีชีวิตอยู่


เสียงของเหล็กกระบี่ถูกกัดแตกหักฟังชัดเหมือนกัดขนมกรุบกรอบ และทุกคนสามารถได้ยินตัวใบกระบี่ครึ่งหนึ่งร่วงลงพื้นและแตกหักเป็นหลายชิ้นเหมือนกับกำลังฉายภาพสโลว์โมชัน ทุกอย่าง

ติง!

เสียงกระบี่หักชัดเจนในท่ามกลางความเงียบดังเสียดหูแต่ไม่มีใครพูดอะไรเนื่องจากตะลึงจากการโจมตีและผลที่ออกมา  แม้แต่อู่โหวและหมิงโหวก็ยังอึ้งไปชั่วขณะ

ขุนพลวิญญาณทั้งสามที่อยู่หลังประตูดวงดาวตะลึงนิ่งงันไปตามๆกัน

“นี่เราต้องมาพิจารณาเพิ่มมาตรฐานอาหารของเขาอีกหรือนี่?”ปิงปากอ้าค้าง เขาฝึกทหารใหม่มามากมาย แต่ไม่เคยเห็นใครใช้ฟันกัดกระบี่ของคู่ต่อสู้จนหัก

และทุกอย่างเป็นเพราะซาลาเปาลูกหนึ่ง...

สีหน้าของขลุ่ยวิเศษผู้ฝึกฝนอบรมมาตามปกติถึงกับซึมเซา

จู่ๆกรงเล็บภูตพรายก็พูด “อย่าได้ดูถูกความตะกละเรื่องอาหาร”

ควั่บ,ปิงและขลุ่ยวิเศษทั้งสองคนกวาดสายตามาพร้อมกันพวกเขาจ้องมองกรงเล็บภูตพรายอย่างประหลาดใจ

กรงเล็บภูตพรายรับสถานการณ์เบาๆอย่างสงบ

※※※

เป็นความสงัดอย่างน่าประหลาด  ถังเทียนทำให้สองผู้อาวุโสตกใจอย่างเห็นได้ชัด

ถึงตอนนี้ชิงหลวนวิ่งแบกถุงใหญ่กระหืดกระหอบเข้ามา นางรีบวิ่งเข้าไปในครัวกวาดของทุกอย่างที่กินได้ลงถุงและคว้าถุงแบกวิ่งกลับมาสุดกำลังนางยังสงสัยสิ่งที่เกิดขึ้น

ถุงที่แบกมายังสูงใหญ่กว่านางมากเหมือนกับนางแบกภูเขาเล็กๆ เมื่อตอนนางวิ่งเข้ามา

ปัง!

ถุงผ้าถูกโยนลงพื้น  ชิงหลวนอ้าปากหอบหายใจ  “ดูซิว่าพอไหม?”

ในท่ามกลางความเงียบสงัด  เสียงนางดังมาก

ถุงผ้าถูกเปิดออกและกองอาหารย่อมๆ ปรากฏอยู่ต่อหน้าทุกคน เนื้อทุกชนิด ผักและผลไม้ทุกอย่างกองเหมือนกับภูเขาสูงกว่าตัวนางเสียอีก

ถังเทียนที่ตอนนี้กำลังเคี้ยวซาลาเปาตาลุกวาวทันที นัยน์ตาที่เป็นสีเขียวจางๆ เดิมจู่ๆ ก็มีแสงเข้มกว่าเดิม เขาตะโกนและวิ่งตรงเข้าหากองภูเขาอาหารเหมือนกับสัตว์ป่า

เขากินอย่างตะกละตะกลามเหมือนกับพายุที่กวาดใบไม้แห้งทำให้คนที่เห็นถึงกับผมลุกชัน เสียงกินเสียงเคี้ยวบดอาหารได้ยินชัดเจนทั่วทั้งพื้นที่  ปากใหญ่ของถังเทียนเป็นเหมือนหลุมดำ ทันทีที่อาหารถูกยัดเข้าปากไปแล้ว  ก็ไม่มีอะไรหลุดออกมาอีก  ถังเทียนไม่ได้คายแม้แต่กระดูกออกมา

แครก  แครก!

ทุกคนยังไม่สามารถผ่อนคลายจากฉากภาพที่กระบี่ถูกทำลายทำให้ศีรษะของพวกเขาพองโตมึนชา

ชิงหลวนเพิ่งจะสังเกตว่าสภาพรอบด้านเงียบสงบกว่าปกติมากเกินไป  และถังเทียนก็ก้มหน้าก้มตาอยู่เหมือนกับว่าไม่มีใครอื่นปรากฏตัวและเคี้ยวกินอย่างมีความสุข  นางถึงกับตะลึงทันที

ชิงหลวนจะเคยพบสถานการณ์ที่ประหลาดอย่างนั้นได้ยังไง?

ฉากภาพที่ปรากฏอยู่ต่อหน้านางแปลกประหลาดจนนางแทบจะร้องไห้

สายตาของทุกคนจ้องมองนาง  แต่ไม่มีเสียงหลุดออกมาจากพวกเขาแม้แต่คนเดียว

ชิงหลวนมองไปทางเด็กหญิงน้อยด้วยสายตาวิงวอน  แต่เธอก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน  สายตาเธอเบิกกว้าง  ขณะที่เธอยืนตะลึงอยู่ตรงนั้นมองดูถังเทียนกินเหมือนหมาป่า

เธอตะลึงกับฉากภาพที่ถังเทียนกัดกระบี่เหล็กของเซี่ยอัน

หลังจากครึ่งค่อนวันเธอจึงรู้สึกตัว นัยน์ตาของเธอเป็นประกาย อารมณ์ของเธอปั่นป่วน อาจารย์น้อยของเธอ..ก้าวร้าวเกินไป

ต้องเป็นการก้าวร้าวแน่นอน

หัวหน้ารัฐบาลที่แข็งแกร่งสองคนจากสิบสามรัฐบาล และผู้อาวุโสสองคนจากคณะผู้อาวุโสยังมองดูถังเทียนที่เพลินกับอาหารอย่างเงียบๆ  ฉากภาพเช่นนี้ถือว่าอุกอาจมาก

อาการตกใจของทุกคนค่อยๆลดลง และทุกที่ต่างก็จ้องมองอย่างมึนงง

ทุกคนตระหนักได้ทันทีกองอาหารที่อยู่ต่อหน้าถังเทียนหายไป ถังเทียนนอนลงกับพื้น มองเห็นท้องที่โป่งนูนและเขากางแขนกางขาออก

เด็กหญิงเพิ่งรู้ตัวหลังจากผ่านไปชั่วขณะ  สีหน้าเธอเปลี่ยน ไม่ดีแน่ เขาหลับแล้ว

ครั้งสุดท้ายที่เธอเห็นเธอเห็นเขาหลับได้ต่อหน้าเธอ

เด็กหญิงจ้องมองอย่างตื่นเต้น  นี่ไม่ใช่เวลามาหลับนะ

เธอเตรียมจะวิ่งออกไปข้างหน้า

ทันใดนั้นมีแสงสามสายฉายออกมาอยู่ข้างตัวถังเทียนและขุนพลวิญญาณสามคนปรากฏตัวออกมาจากแสงทันที

ขลุ่ยวิเศษพูดกับเด็กหญิงอย่างสุภาพ  “ปล่อยให้เขาหลับสักครู่เถอะ  เขาเหนื่อยมากเกินไป”

กรงเล็บภูตพรายมีใบหน้าเย็นชาสายตาทอดต่ำ  ปิงกำลังควบคุมเสือเขี้ยวดาบจ้องมองไปรอบๆเหมือนกับเสือจ้องเหยื่อ

ขณะที่ขุนพลวิญญาณทั้งสามปรากฏรัศมีของเขากวาดไปทั่วพื้นที่ พวกที่รู้สึกกระวนกระวายถอยออกทันที  ขณะที่ใบหน้าของอู่โหวและหมิงโหวเปลี่ยนไปมากกว่า  และผู้อาวุโสทั้งสองก็ประหลาดใจมาก

พวกเขาเป็นคนที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร  พวกเขารู้ตามธรรมดาว่าสิ่งใดทรงพลัง

กลิ่นอายที่แข็งแกร่งนัก!

คนที่ห้ามองค์หญิงหมิงจูอย่างนุ่มนวลก็คือขลุ่ยวิเศษลักษณะของเขาต่างจากธรรมดา อาวุธจักรกลที่นักสู้จักรกลกำลังใช้ เห็นได้ชัดว่าเป็นอาวุธจักรกลที่กองทัพดาวกางเขนใต้สร้างมา!

อีกคนที่ไม่ธรรมดาก็คือกรงเล็บภูตพรายเขาเป็นคนแก่ที่อ่อนแอและผอมแห้ง ในสามขุนพลวิญญาณนั้น เขาดูธรรมดาที่สุด แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เมื่อมองดูชายชราธรรมดาผู้นี้ สายตาที่เย็นชาของเขาทำให้ทุกคนรู้สึกว่า เขามีความมั่นใจในพลังของตนเอง

เดี๋ยวก่อน....

เจ้าผู้นี้ความจริงมีขุนพลวิญญาณถึงสามตน!

ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปทันที

หน้าของเซี่ยอันยังคงอับอายและคับแค้น  ตั้งแต่อายุยังน้อย  เขาไม่เคยได้รับความอับอายใหญ่หลวงขนาดนี้และต่อหน้าทุกคน

เขาสามารถนึกภาพออกว่าเมื่อพรุ่งนี้มาถึง  ข้อมูลจะกระจายไปทั่วเหมือนติดปีก  กระบี่ของซี่ยอันแตกทำลายเพราะคนบ้าใช้ปากงับกระบี่จนพัง!  และเจ้าบ้านั่นยังกินกองภูเขาอาหารต่อหน้าทุกคนและนอนหลับได้เฉย

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว  ความโกรธและความอับอายยิ่งชอนไชอยู่ในใจของเขา

บัดซบเอ๊ย!

เซี่ยอันตวาดก้องได้ยินกันทั้งหมด  เขาโกรธจัด ปราณแท้ในร่างเขาถูกเร่งขึ้นถึงขีดสุดรวดเร็วเหมือนสายฟ้า แม้ว่ากระบี่ที่เขาถือจะหักแล้ว  แต่พลังที่ปลดปล่อยออกมายังทรงพลังดุจสายฟ้า!

สีหน้าของอู่โหวรู้สึกไม่ดี!

แต่ระยะห่างระหว่างเขากับถังเทียนในตอนนี้ห่างกันมากและหมิงโหวคั่นอยู่กลาง เขาไม่สามารถเข้าไปขัดขวางได้

“ให้ข้าเอง”

กรงเล็บภูตพรายที่หลับตาอยู่พูดขึ้นทันที  ขณะที่ขุนพลวิญญาณอีกสองคนไม่แปลกใจนัก  กรงเล็บภูตพรายแตกต่างจากปิงและขลุ่ยวิเศษ  สภาพของเขาได้รับความเสียหายมากที่สุด ทำให้เขาต้องใช้แก่นพลังวิญญาณทุกครั้งถึงจะออกมาได้ ตอนแรกปิงไม่ตั้งใจจะปล่อยกรงเล็บภูตพรายออกไป  แต่กรงเล็บภูตพรายพูดออกมาเอง  เมื่อนั้นปิงจึงตระหนักได้ว่า  กรงเล็บภูตพรายตั้งใจจะออกไปสู้

ดังนั้นปิงจึงไม่ลังเลที่จะใช้แก่นพลังวิญญาณเรียกกรงเล็บภูตพรายออกมา

ขลุ่ยวิเศษยิ้มแย้มและถอยออกมาก้าวหนึ่งโดยอัตโนมัติ  แสดงว่าเขาเปิดทางให้  ปิงทำตามและถอยออกมาครึ่งก้าวใบหน้ามีความคาดหวังจะได้เห็นการแสดงที่ดี

กรงเล็บภูตพรายที่หลับตาอยู่ตลอดเวลาพลันลืมตาทันที

แสงในดวงตาหม่นเทาสว่างขึ้นทันที  ความตั้งใจสู้ของเขามากขึ้นกว่าแต่ก่อน เขาต้องยอมรับว่าความบากบั่นหมั่นเพียรของถังเทียนกล้าแข็งกว่าเขาตอนเยาว์วัยเสียอีก

แม้ว่าเขาจะไม่พูดออกมาตามปกติ  แต่ก็เห็นประจักษ์ทั้งหมดด้วยตาตนเอง

ผลงานรังสรรค์ของเขาเองมีผู้รับสืบทอดและสำหรับขุนพลวิญญาณอย่างเขาที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักถือว่าได้มาเกินเป้าหมายของชีวิตแล้ว นั่นคือผลงานสร้างสรรค์ของเขาเอง อีกอย่าง...

เขามีความเห็นแก่ตัวน้อยมาก

เดิมทีก็เป็นแค่ความคิดที่ลืมเลือนไปจากใจของเขานานแล้ว  จนกระทั่งวันที่กู้เสวี่ยใช้ท่าราชันย์ถวิลรัก ความทรงจำของเขาจึงได้ทะลักออกมาราวกับน้ำไหลบ่า

วิชาระดับปรมาจารย์!

นั่นคือฝันของเขา  ความฝันที่ยังไม่สมบูรณ์ที่เขาละทิ้งไว้

หลังจากเห็นประจักษ์ท่าราชันย์ถวิลรักด้วยตนเองแล้ว  ความคิดนี้ติดอยู่ในใจเขาเสมอ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นว่าถังเทียนฝึกฝนหนักและเสี่ยงชีวิตอยู่เสมอ  ทันใดนั้นเขาค่อยมีสายใยความหวังอยู่เล็กน้อย

เหมือนกับว่าโลกของเขากลับมามีชีวิตอีกครั้ง  หัวใจที่ตายด้านมานานยังคงมีความอุ่นก็เริ่มเต้นอีกครั้ง

เขาพบเหตุผลเพื่อการมีชีวิต

วิชากรงเล็บเพลิงภูตพรายระดับปรมาจารย์!

เป้าหมายนี้ยังคงไกล  แต่ยังไม่มีอะไรเทียบสิ่งนี้ก็คือแรงผลักดันความปรารถนาจะมีชีวิตของเขา

และผลักดันให้เขาต่อสู้!

ภาพเซี่ยอันในดวงตาเขาขยายใหญ่ขึ้นทุกทีกลิ่นอายประหลาดและพลังกดดันเพิ่มขึ้นทุกที เหมือนกับว่ากรงเล็บภูตพรายสามารถระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ  แต่กรงเล็บภูตพรายไม่ขยับแม้แต่นิ้วเดียวและนัยน์ตาเทาของเขาดูเหมือนมีไฟลุกโชน

เข้ามา! เข้ามาเลย!

เสียงที่หายไปนานและเงียบเหงาในใจเขาดูเหมือนกับจะเป็นเสียงตะโกน เขารู้สึกว่าหัวใจที่เย็นเฉียบดุจน้ำแข็งของเขากำลังร้อนเหมือนโลหะถูกหลอม

มีความฝันบางอย่างที่มักเรียบง่าย

มีเหตุผลบางอย่างที่มักเรียบง่าย

และมีการต่อสู้บางศึกที่ไม่ยินยอมให้ท่านเป็นตัวของตัวเอง

ทันใดนั้นกรงเล็บภูตพรายยืดหลังที่งอ  รูปร่างที่ดูอมโรคอ่อนแอกลับดูแข็งแรงห้าวหาญอีกครั้ง ในช่วงเวลานั้น เขาเป็นเหมือนตนเองในช่วงวัยหนุ่ม กระหายการต่อสู้! ในทันใดนั้นเขาสามารถรู้สึกได้ว่าตนเองกลับมามีชีวิต

แคล้ง!

กรงเล็บทั้งห้ากางออกพร้อมกับเสียงเสียดอากาศดังออกมาเสียงที่เหมือนมีดหลุดจากฝักดังก้องไปทั้งพื้นที่

กรงเล็บภูตพรายตั้งท่ากรงเล็บงองุ้ม

ซี่......

เปลวประกายไฟสองสายสว่างวาบ หนึ่งซ้ายหนึ่งขวาเหมือนแนวไฟฉายที่ส่องกวาดผ่าน แสงสว่างเจิดจ้าจนคนที่อยู่รอบๆ ตาพร่าทันที

ติง!

เซี่ยอันชะงักค้างอยู่กลางอากาศใบหน้าชั่วร้ายของเขาแข็งค้างกับที่ขณะที่เขาจ้องมองกรงเล็บภูตพรายผู้เข้ามาจนเกือบถึงอย่างว่างเปล่า กระบี่หักในมือของเขาถูกกรงเล็บภูตพรายคว้าเอาไว้ไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิ้วเดียว

ไม่!

เขากดกรงเล็บลง!

เล็บทั้งสิบของกรงเล็บภูตพรายเจาะผ่านกระบี่หักของเขา นิ้วทั้งสิบแทงเข้าไปในตัวกระบี่ทะลุออกอีกข้างหนึ่ง

เซี่ยอันไม่ได้เตรียมพร้อมและทุ่มพลังโจมตีสุดตัวจะได้รับบาดเจ็บ แต่ในช่วงเวลานั้น เขาไม่ทันได้สังเกตได้แต่จ้องมองกรงเล็บภูตพรายที่อยู่ข้างหน้าเขาอย่างว่างเปล่า

นั่นเป็นไปได้ยังไง....

เห็นได้ชัดว่าเขาทุ่มพลังทั้งหมดลงไปในท่านั้น

แคร็ก!

กรงเล็บภูตพรายสะกิดนิ้วลงกระบี่หักที่ยังเหลือครึ่งหนึ่งถูกบดกระจายเป็นชิ้นๆทันที

ตาของเซี่ยอันแดงเหมือนเลือดมือทั้งสองเปลี่ยนเป็นสีทอง เขากราดฝ่ามือในท่วงท่ากระบี่และแทงใส่กรงเล็บภูตพราย

การโจมตีโหดเหี้ยมนี้มุ่งที่ดวงตาทั้งฉับพลันและรวดเร็ว

ติง!

กรงเล็บทั้งห้าซึ่งเป็นเหมือนตะขอหดกลับมาอยู่ด้านหน้าเมื่อใดไม่ทราบและสะกัดฝ่ามือกระบี่ของเซี่ยอันไว้ได้ทำให้ประกายไฟกระจายไปทั่ว

กรงเล็บอีกข้างหนึ่งกราดขวางและคว้าฝ่ามือกระบี่อีกข้างของเซี่ยอันไว้ได้

หน้าของเซี่ยอันเปลี่ยนสีทันที

ถึงตอนนี้เขาจึงได้ตระหนักว่าความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้ามเป็นสิ่งที่เขาไม่มีทางต้านรับได้ เขาตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ยอมถอนถอยออกมา ในที่สุดเขาก็ได้ข้อสรุปว่า ยอมเสียหน้าดีกว่าเอาชีวิตไปทิ้ง!

ในพริบตา เขาถอยอยู่ห่างเกินกว่าสิบเมตร

แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมคู่ต่อสู้ถึงไม่ยอมไล่ตาม  แต่ในที่สุดเขาก็สามารถพักสูดหายใจได้  ระยะไกลขนาดนั้น  โดยพื้นฐานศัตรูคงทำอะไรเขาไม่ได้และในที่สุดเขาจึงได้รู้ตัวว่าเขาได้ทำสิ่งที่ถูก

ทันใดนั้น ร่างของเขาจู่ๆก็ไม่สามารถขยับได้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นหวาดกลัวทันที

แสงแพรวพราวปรากฏในสายตาเขาทันที

“ไม่....”

เสียงสิ้นหวังและหวาดกลัวของเขาดังเบานักภายใต้ลำแสงแพรวพราวที่ทะลวงผ่าน

เมื่อแสงแพรวพราวหายไปในที่สุด  ร่างอ่อนแอที่ยืนอยู่ตรงนั้นดูสูงส่งและทรงพลัง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด