ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 12 ตราประทับเมล็ดวิญญาณ
ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 12 ตราประทับเมล็ดวิญญาณ
“โฮสต์ได้สังหารสาวกมารที่พยายามทำลายวิถีชีวิตเก็บตัวของโฮสต์ โฮสต์ได้รับรางวัลคือตราประทับเมล็ดวิญญาณ!”
เสียงของระบบดังขึ้นแล้วฉู่เซวียนก็นำตราประทับเมล็ดวิญญาณออกมา
เมื่อปลูกฝังตราประทับเมล็ดวิญญาณในเจตจำนงวิญญาณของศัตรู เมื่อนั้นความเป็นตายของศัตรูจะอยู่ในกำมือของเขา และฉู่เซวียนยังสามารถบังคับให้อีกฝ่ายทำตามเจตจำนงวิญญาณของเขา ไม่ว่าพวกเขาจะต่อต้านรึไม่ก็ตาม
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือแม้ว่าคนที่ถูกควบคุมจะมีความคิดที่ชัดเจน แต่พวกเขาก็ไม่สามารถขัดขืนเจตจำนงวิญญาณของฉู่เซวียนที่ปลูกฝังไว้ได้
หากคนที่ถูกควบคุมถูกสั่งให้สังหารคนที่รักมากที่สุด เขาก็ไม่มีทางขัดขืนคำสั่งทั้งทีความคิดยังชัดเจนอยู่ นี่ถือเป็นการทรมานที่น่ากลัวที่สุดอย่างแน่นอน
ตราประทับเมล็ดวิญญาณคือพลังลี้ลับที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง ตราประทับจิ๊วในตราประทับเมล็ดวิญญาณคือรากฐานของตราประทับเมล็ดวิญญาณ มันไม่ใช่ทั้งสมบัติหรืออาวุธ
มันคือต้นกำเนิดของพลังลี้ลับ
ระบบให้รางวัลแก่เขาโดยตรง ฉู่เสวียนจึงไม่จำเป็นต้องฝึกหนักเพื่อสร้างตราประทับและพัฒนาวิชา
ฉู่เซวียนเต็มไปด้วยความสุข ด้วยตราประทับเมล็ดวิญญาณ เขาก็สามารถควบคุมพวกสาวกมารที่หมายจะทำร้ายเขาให้ต่อสู้กันเองได้
เมื่อถูกปลูกฝังตราประทับเมล็ดวิญญาณแล้ว ถึงแม้จะคนที่ถูกควบคุมจะยังมีสติครบถ้วน แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหักหลังหรือทำสิ่งใดที่ขัดต่อความต้องการของผู้ควบคุม
หากฉู่เซวียนบังคับควบคุมเจตจำนงวิญญาณให้เข่นฆ่าสาวกมารคนอื่น สำหรับลัทธิมาร นี่อยู่ไม่ไกลจากการล่มสลายโดยไม่ต้องสงสัย
สาวกมารมาเคาะประตูบ้านของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ฉู่เซวียนก็รู้สึกบีบคั้นหัวใจเช่นกัน
ครั้งนี้ความแข็งแกร่งของลูู่เฉียงไม่คุ้มค่าให้กล่าวมากนัก แต่หากครั้งหน้าลัทธิมารส่งยอดฝีมือขอบเขตว่างเปล่ามาล่ะ?
ฉู่เซวียนคงสังหารอีกฝ่ายโดยไร้ซุ่มเสียงไม่ได้อีกต่อไป การสู้รบอาจจะส่งเสียงแจ้งเตือนยอดฝีมือของตระกูลฉู่แล้วความแข็งแกร่งของเขาจะถูกเปิดเผย เขาจะสะสมความแข็งแกร่งอย่างเงียบๆ ได้อย่างไร?
ในกรณีเลวร้ายสุด หากจักรวรรดิต้าเซี่ยส่งยอดฝีมือมาละ?
ฉู่เซวียนต้องเพิ่มความแข็งแกร่งให้เร็วที่สุด
หากไม่บรรลุขอบเขตจักรพรรดิ เขาก็รู้สึกไม่ปลอดภัย
แม้ว่าขอบเขตจักรพรรดิจะไม่รับประกันว่าอยู่รอดปลอดภัยในโลกอันกว้างใหญ่ที่มียอดฝีมือนับไม่ถ้วน
แต่หากฉู่เซวียนบรรลุขอบเขตจักรพรรดิ อย่างน้อยในแผ่นดินหนานโจวเขาก็ปกป้องตนเองได้
ตามข่าวลือบอกว่าไม่มียอดฝีมือขอบเขตจักรพรรดิในแผ่นดินหนานโจว!
ในเวลานี้ แผนการก่อกวนและทำลายอาณาเขตตระกูลฉู่ของลัทธิมารพังทลายลงอย่างเงียบๆ
ตระกูลฉู่ไม่ได้รู้เรื่อง
หลังจากทำลายแผนการของลัทธิมารแล้ว ฉู่เซวียนก็กลับมาทำตัวค้อมต่ำ จุดสนใจหลักของตระกูลฉู่ยังคงเป็นการกวาดล้างลัทธิมาร
สายเลือดหลักของตระกูลฉู่เหมือนกับว่าลืมตัวตนของเขาไปแล้ว
การสู้รบระหว่างตระกูลฉู่กับลัทธิมารหนักหน่วงมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ข้ารับใช้ที่มาส่งอาหารให้แก่เขาก็ยังได้ยินข่าวเกี่ยวกับการสู้รบมากมาย
ฉู่เซวียนได้แต่หวังว่าจักรวรรดิต้าเซี่ยจะไม่ส่งยอดฝีมือออกมาโจมตี
พลังของลัทธิมารอย่างเดียวไม่มากพอสั่นคลอนตระกูลฉู่
ทั่วทั้งแผ่นดินหนานโจว ตระกูลฉู่นั้นไม่ได้เป็นอะไรเลย แต่ในแคว้นฉิน ตระกูลฉู่คือหนึ่งในตระกูลสามขุนนางใหญ่ แถมความแข็งแกร่งของตระกูลฉู่ก็ไม่ได้อ่อนแอเช่นกัน
ฉู่เซวียนเก็บตัวอยู่บ้านมาสี่เดือนแล้ว
“โฮสต์ได้เก็บตัวอยู่บ้านสี่เดือน โฮสต์ได้รับรางวัลคือวิชาคุมดาบ”
รางวัลสำหรับการเก็บตัวอยู่บ้านสี่เดือนคือวิชาคุมดาบ เคล็ดวิชาจักรพรรดิ
ฐานพลังยุทธ์ของฉู่เซวียนเพิ่มเป็นขอบเขตวิญญาณขั้นที่เจ็ด ความเร็วในการฝึกฝนพลังยุทธ์เร็วมากจนทำให้บุตรแห่งสวรรค์ต้องร่ำไห้ ทำให้ธิดาแห่งสวรรค์ต้องโอ๊ดครวญ!
ความแข็งแกร่งของแมววิญญาณสวรรค์ก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อย มันอยู่ในขอบเขตวิญญาณขั้นที่ห้าแล้ว
สำหรับบุปผากลืนวิญญาณ หลังจากกินลู่เฉียงเข้าไปบวกกับกินโอสถวิญญาณทุกวัน การเติบโตของมันก็ไม่ช้าเช่นกัน
แม้ว่ายังดูเหมือนต้นไม้ต้นเล็กๆ แต่ร่างหลักของมันสูงถึงสองหรือสามร้อยเมตรแล้ว
ภายในถ้ำแห่งหนึ่งในเมืองฉู่ คนหลายคนที่ปล่อยไอมารได้มารวมตัวกัน ผู้นำสวมหน้ากากสีดำ มีร่างกายผอมแห้งและผมหงอก ซึ่งนั่งอยู่ที่หน้ากลุ่มคนโดยไม่พูดจา
“เกิดอะไรขึ้นกับลู่เฉียง? เหตุใดถึงไม่มีการเคลื่อนไหว”
ชายหน้าบากถามขึ้น
“ตระกูลฉู่พบตัวและสังหารเขาแล้วหรือ?”
สตรีที่มีรูปร่างน่าหลงใหลและแต่งหน้าอย่างฉูดฉาดงดงามก็ได้ขมวดคิ้วถามขึ้น
“เป็นไปไม่ได้ ไม่มีสัญญาณการสู้รบกันภายในอาณาเขตตระกูลฉู่”
บางคนปฏิเสธ
“แล้วเกิดอะไรขึ้น? หรือที่ลู่เฉียงไม่เคลื่อนไหว เขาทรยศเรา”
“เป็นไปไม่ได้ ใครจะยอมรับสาวกมารของเรา? การทรยศไม่มีทางนำไปสู่จุดจบที่ดี”
“บางทีลู่เฉียงกำลังรอโอกาสปล่อยหมอกพิษในใจกลางของอาณาเขตตระกูลฉู่ก็ได้”
ระดับสูงของลัทธิมารสาขาเมืองฉู่ต่างพากันหารือกัน
“ท่านจ้าว ผู้นำตระกูลฉู่ล้ำเส้นเกินไปแล้ว เราน่าจะรายงานเรื่องนี้ไปยังราชสำนักเพื่อขอยอดฝีมือเพิ่ม”
“เราจะก่อปัญหาให้แก่ราชสำนักด้วยแค่เรื่องของตระกูลฉู่หรือ? เราไร้ประโยชน์แล้วหรือ? ราชสำนักจะยังเห็นคุ้นค่าของเราอยู่ไหม?”
ชายสวมหน้ากากที่นั่งอยู่ในตำแหน่งผู้นำประสานมือก่อนกล่าวว่า “ตระกูลฉู่ล้ำเส้นเกินไป บอกลูู่เฉียงให้หยุดรอโอกาสได้แล้ว ให้เขาลงมือทันที”
“ฉู่ชิงเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่สุดของตระกูลฉู่ในรุ่นนี้ เขาได้รับหน้าที่รับผิดชอบในการกวาดล้างลัทธิมารของเรา ปีศาจเฒ่าฉู่เทียนหมิงต้องการใช้ลัทธิมารของเราเพื่อฝึกฝนรุ่นเยาว์ของตนเอง แต่ข้าชักอยากรู้แล้วว่าหากฉู่ชิงตาย ปีศาจเฒ่านั่นจะทำยังไง”
“กระจายข่าวออกไป ค้นหาตำแหน่งของฉู่ชิง ข้าจะปลิดชีวิตสุนัขของมันเอง!”
“ขอรับท่านจ้าวลัทธิ!”
เหล่ายอดฝีมือลัทธิมารออกจากถ้ำทีละคน
หนึ่งในนั้นเริ่มคิดหาวิธีติดต่อลู่เฉียง
เขาหยิบลูกปัดออกมาแล้วบดขยี้มัน
นี่คือการส่งสัญญาณ เมื่อลูกปัดถูกบดขยี้ ลูกปัดบนร่างของลู่เฉียงก็จะถูกบดขยี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าเขาจะต้องลงมือทันที
ลูกปัดเป็นอุปกรณ์สื่อสารทางเดียว หากลูกปัดลูกในมือของลู่เฉียงถูกบดขยี้ ลูกปัดแม่จะไม่ถูกบดขยี้ไปด้วย
เขาไม่รู้ว่าลู่เฉียงได้กลายเป็นศพเย็นชื่อไปแล้ว
สามวันต่อมา ยอดฝีมือลัทธิมารได้มารวมตัวกันอีกครั้งในถ้ำเดิม
ช่วงแรกมีแต่ความเงียบ
“ลู่เฉียงอาจตายไปแล้ว”
ตระกูลฉู่เงียบสงบ ไร้ซึ่งการเคลื่อนไหวใดๆ
ในช่วงสามวันที่ผ่านมานี้ ตระกูลฉู่ได้รับข้อมูลและโจมตีฐานลับของลัทธิมาร
ผู้อาวุโสขอบเขตว่างเปล่าตายไปหนึ่งคน
ลัทธิมารได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
ยอดฝีมือขอบเขตว่างเปล่าของลัทธิมารสาขาเมืองฉู่มีไม่ค่อยมากนัก แต่สองคนในนั้นตายไปแล้ว
สำหรับลัทธิมารสาขาเมืองฉู่ ราวกับถูกถอดกระดูกและถอนเส้นเอ็นของพวกเขาทั้งเป็น
นอกจากเมืองฉู่ ตระกูลราชวงค์ฉินยังบุกโจมตีอย่างหนักหน่วง ถึงกับตัดหัวผู้อาวุโสขอบเขตว่างเปล่าของลัทธิมาร
ตระกูลจ้าวกับตระกูลเหอก็ไม่ได้แสดงความอ่อนแอ ทั้งสองตระกูลยังคงสังหารผู้อาวุโสขอบเขตว่างเปล่าได้
แคว้นต้าโจวกับแคว้นจื่อเย่ว ซึ่งได้รับข้อมูลจากแคว้นฉินก็เปิดภารกิจกวาดล้างลัทธิมารและกำจัดสายลับลัทธิมารที่แฝงตัวอยู่ได้เป็นจำนวนมาก
พวกเขาสูญเสียผู้อาวุโสขอบเขตว่างเปล่าไปถึงสามคน
ล้วนเป็นเพราะตระกูลฉู่
วิชาปกปิดของลัทธิมารถูกตระกูลฉู่เปิดเผย ซึ่งทำลายแผนการตลอดนับหลายปีของพวกเขา
ช่างน่ารังเกียจ!
“เนื่องจากตระกูลฉู่ได้ค้นพบวิชาปกปิดของลัทธิมารเรา จึงไม่ง่ายที่ลูู่เฉียงจะแอบเข้าไปได้ ลืมเรื่องตระกูลฉู่ไปก่อน ตอนนี้บังคับให้ตระกูลเหอถอนยอดฝีมือของพวกมันกลับไปดีกว่า”
ในท้ายที่สุด ลัทธิมารก็ตัดสินใจมุ่งเป้าไปที่ตระกูลเหอเพื่อบังคับให้ตระกูลเหอถอนยอดฝีมือของพวกเขากลับไป เพื่อให้มั่นใจว่ายอดฝีมือของตระกูลเหอไม่สามารถมาช่วยสนับสนุนเมืองฉู่ได้
“เมื่อราชสำนักมาถึง เราต้องทำลายตระกูลฉู่ก่อน ทำลายตระกูลที่น่ารังเกียจนี่!”
ยอดฝีมือลัทธิมารกล่าวด้วยความเกลียดชัง
...
ฉู่เซวียนก็ได้ยินข่าวชิ้นหนึ่งที่ทำให้แคว้นฉินสั่นสะเทือน
หลังจากที่ข้ารับใช้ส่งอาหารในแต่ละวัน ฉู่เซวียนยังถามหาข่าวเกี่ยวกับลัทธิมารด้วยเช่นกัน
เขาเพิ่งรู้ว่าเมื่อวันก่อน อาณาเขตตระกูลเหอถูกยอดฝีมือของลัทธิมารแอบเข้าไปปล่อยหมอกพิษและเพลิงพิษ
หนึ่งในสามของอาณาเขตตระกูลเหอถูกทำลายจนพินาศ โดยเฉพาะสมุนไพรในสวนวิญญาณ สมุนไพรเกือบทั้งหมดถูกทำลายสิ้น อาจกล่าวได้ว่าตระกูลเหอประสบกับความสูญเสียอย่างหนัก
ข้ารับใช้หลายร้อยคนบาดเจ็บล้มตาย แม้แต่ผู้พิทักษ์ขอบเขตวิญญาณหลายคนยังสิ้นชีพ