Ep.481 - หายนะกำลังใกล้เข้ามา?
3/3
Ep.481 - หายนะกำลังใกล้เข้ามา?
ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา
พายุลูกใหญ่ได้ก่อตัวขึ้นในอาณาจักรมังกรโลกา
ทั้งเก้าแคว้นอยู่ในภาวะฉุกเฉิน!
ผู้ครองแคว้นป่าแดง แคว้นผาตระหง่าน แคว้นทุ่งขจี แคว้นทะเลตะวันตก แคว้นพันเกาะ ฯลฯ ต่างได้รับคำสั่งจากราชามังกรคลั่ง
ตนแล้วตนเล่าเริ่มทำตามประสงค์ของราชามังกร
การดำเนินชีวิตของมนุษย์ในอาณาจักรมังกรโลกากับชาวพื้นเมืองในที่สุดก็มาถึงทางตัน
เริ่มจากการบุกโจมตีที่สันเขามังกร จนกระจายไปทั้งเก้าแคว้น การปิดล้อมครั้งใหญ่เพื่อต่อต้านเผ่ามนุษย์ได้เริ่มต้นขึ้น
ในเวลาเดียวกัน
แม่ทัพมังกรสังหาร และแม่ทัพมังกรพายุแห่งเมืองมังกรได้ออกปฏิบัติการ นำกองทัพอันคงกระพันของสันเขามังกร ตราทัพไปในแต่ละแคว้น ตรวจสอบร่วมกับกองกำลังในพื้นที่ เพื่อให้แน่ใจว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์จะถูกกำจัดอย่างสิ้นซาก
พายุลูกนี้มาเร็วมาก!
มนุษย์ในอาณาจักรมังกรโลกายังไม่พร้อม! กองทัพที่แข็งแกร่งมีแค่มังกรครามเท่านั้น!
เพราะยังไงซะ ฮังอวี่และพรรคพวกเข้าสู่อาณาจักรมังกรโลกาได้ครึ่งปีแล้ว แต่คนที่เหลือเพิ่งเริ่มเข้าสู่อาณาจักรมังกรโลกาเมื่อหนึ่งหรือสองเดือนก่อนเท่านั้นเอง
ด้วยพลังรบของมนุษย์ในปัจจุบัน มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะท้าทายราชามังกร!
กองทัพจากสันเขามังกรและกองทัพพันธมิตรที่จัดตั้งโดยผู้ครองแคว้น ไม่ว่าจะในด้านปริมาณหรือความสามารถ ทั้งหมดล้วนอยู่เหนือระดับของมนุษย์
ข่าวแพร่สะพัดไปในโลกจริง กลายเป็นประเด็นดังอีกครั้ง
อันที่จริง ก่อนที่เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในอาณาจักรมังกรโลกา ชาวโลกวิญญาณในอาณาจักรอื่นหลายแห่งได้เริ่มออกปฏิบัติการปิดล้อมและปราบปรามมนุษย์ในพื้นที่แล้ว
และแทบไม่ต้องเดา
ทุกสงครามที่เกิดขึ้น มนุษย์ไม่เคยชนะเลยสักกระดานเดียว
ดินแดนและทรัพยากรที่มนุษย์ได้รับในโลกวิญญาณ ทั้งหมดที่สั่งสมมา ถูกทุบทำลายเป็นชิ้นๆในชั่วข้ามคืน
มีแม้กระทั่งมนุษย์นับหมื่น ไม่สามารถกลับมาในโลกแห่งวิญญาณได้อีกต่อไป
เผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ยังอยู่ได้ในโลกวิญญาณ หากไม่ทำตัวให้ต่ำเตี้ยเข้าไว้ ก็ต้องสร้างสัมพันธ์อันดีกับกองกำลังพื้นเมือง นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นสักพักแล้ว
แต่ไม่นึกเลย
ว่าในที่สุดก็ถึงคราวสงครามระหว่างมนุษย์กับชาวพื้นเมืองในอาณาจักรมังกรโลกา!
เรื่องนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะทั่วโลกต่างยกให้พวกฮังอวี่เป็น ‘ดวงประทีปของมนุษย์ในโลกวิญญาณ’
แม้ถูกปฏิเสธจากชาวพื้นเมือง แต่มนุษย์ก็ยังเอาตัวรอดมาได้เสมอ แล้วครั้งนี้พวกเขาจะฟันฝ่าวิกฤติไปได้หรือไม่?
ฮังอวี่เป็นคนแรกที่ได้ข่าว เดิมเขาตั้งใจจะพาทาเซียไปเจอนาเซอร์ที่เมืองฟ้าเดียวดาย
แต่พอเห็นพายุที่ก่อตัวขึ้นในตอนนี้ เป็นการดีกว่าหากไม่ไป
ฉูเทียนหัว จ้าวหมิงรีบมาหาฮังอวี่ รายงานสถานการณ์ล่าสุด
“จากข้อมูลที่เราได้รับ มีกองทัพใหญ่จากทิศตะวันออก ตะวันตก และใต้กำลังมารวมตัวกัน พวกมันจะเดินทัพในอีกสองวันข้างหน้า และถึงเมืองฟ้าเดียวดายในอีก 5 วัน จากนั้นเดินทางต่อมายังเมืองธารทะเลทรายในอีก 7 วัน”
“เร็วเกินไป!”
“พวกมันมาถึงเร็วเกิน!”
“เรายังไม่พร้อมสำหรับสงครามเต็มรูปแบบ!”
หากเป็นในสงครามโบราณของโลกจริง การเดินทัพจะใช้เวลานาน และหลังจากเผชิญหน้ากัน การต่อสู้อาจกินเวลาร่วมเดือนหรือปี
ทว่าโลกนี้แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ความเร็วในการเตรียมตัวและการสิ้นสุดสงครามนั้นขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นของผู้ริเริ่ม!
เนื่องจากพลังรบของสิ่งมีชีวิตในโลกนี้มหาศาลมาก หลักๆจึงเป็นการสู้ด้วยพลังมิใช่กลยุทธ์ทางทหาร
แข็งแกร่งคือแข็งแกร่ง
อ่อนแอก็คืออ่อนแอ
หากฝ่ายใดประมาทพลาดพลั้ง ก็นับเป็นจุดสิ้นสุดการต่อสู้
กระบวนการเผชิญหน้าอาจกินเวลาหนึ่งหรือสองวัน มากสุดก็ไม่เกินห้าวัน แต่จะไม่มีเวลาหลายเดือนหรือถึงปีแน่ๆ
นอกจากนี้ สิ่งมีชีวิตในโลกวิญญาณ จากสายตาของคนทั่วไป ทุกตนล้วนเป็นตัวตนเหนือมนุษย์ การเดินทางเป็นพันไมล์ไม่ต่างอะไรจากการเดินเล่น
ตราบใดที่ยังมีเมืองให้แวะเติมพลังและอาหารระหว่างทาง การเข้าถึงเป้าหมายที่อยู่ไกลก็ไม่ใช่ปัญหา
เหล่าขุนนางใหญ่เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว หลังรวมทัพจะเคลื่อนพลต่อทันที เมืองธารทะเลทรายไม่มีเวลามากนักให้เตรียมตัว
ฮังอวี่กล่าวว่า “ไม่ต้องกังวล นาเซอร์ได้แอบส่งข้อมูลให้ผมแล้ว ตราบใดที่นาเซอร์ยังอยู่เคียงข้างเรา ขุนนางใหญ่ทั้งสามไม่มีทางสั่นคลอนเมืองธารทะเลทราย”
ฉูเทียนหัวเอ่ยถาม “สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือ ผู้ครองแคว้นนาเซอร์ไว้ใจได้จริงๆหรือ?”
จ้าวหมิงยังกล่าวอีกว่า “ถ้าในช่วงเวลาสำคัญ เขาเกิดทรยศและแว้งกัดเรา เมืองธารทะเลทรายคงจบสิ้น!”
ไม่แปลกที่ทั้งคู่จะกังวล เพราะยังไงซะ นาเซอร์ยังคงเป็นชาวพื้นเมืองของโลกวิญญาณ เขาไม่สามารถทำให้มนุษย์เชื่อใจได้เต็มที่
กุญแจของสงครามครั้งนี้อยู่ที่ทัศนคติของนาเซอร์ หากเมืองธารทะเลทรายต้องต้านทานทัพของสามขุนนางใหญ่พร้อมกัน ส่วนนาเซอร์ยืนดูอยู่ข้างสนาม ผลลัพธ์สุดท้ายคือ ทั้งเมืองธารทะเลทรายและสามขุนนางใหญ่พ่ายแพ้ตกตายพร้อมกัน
หากนาเซอร์ไม่ช่วย แล้วถือโอกาสนี้ปล้นชิงผลประโยชน์ เมืองธารทะเลทรายคงไม่รอด!
ในทางกลับกัน หากนาเซอร์ยื่นมือเข้าช่วยในช่วงเวลาสำคัญ ร่วมมือกับเมืองธารทะเลทรายเอาชนะกองทัพพันธมิตร เขาจะสามารถใช้โอกาสนี้ทำลายสามเมืองใหญ่ให้แหลกเป็นเสี่ยงๆได้
ถ้าเมืองธารทะเลทรายและเมืองฟ้าเดียวดายร่วมมือกัน สุดท้ายทั้งคู่จะได้ครองแคว้นเดียวดาย!
ฮังอวี่ยังคงยืนยัน “ไม่ต้องกังวล นาเซอร์คือสมาชิกของมังกรคราม ในเวลาเดียวกันผมได้ลงนามสัญญาตจิตวิญญาณหลายฉบับ ดังนั้นเขาไม่มีทางโจมตีผม และในฐานะสมาชิกของพันธมิตรหนามทมิฬ มันไร้เหตุผลสิ้นดีถ้าเขาไม่ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้รวมแคว้นเดียวดายให้เป็นหนึ่งเดียว!”
นาเซอร์คือผู้ต่อต้านราชามังกรคลั่ง แต่ด้วยพลังของเขา ไม่อาจทำอะไรราชามังกรได้
เผ่ามนุษย์คือความหวังเดียวที่จะโค่นล้มราชามังกรคลั่ง
ตราบใดที่นาเซอร์ไม่โง่ เขาจะไม่พลาดโอกาสนี้
ดังนั้นฮังอวี่มีเหตุผลที่จะเชื่อมั่น ว่านาเซอร์จะไม่นั่งข้างสนาม แต่จะแอบร่วมมือกับเมืองธารทะเลทรายอย่างลับๆ เพื่อทำการตอบโต้กลับ
“เรียกตัวขุนนางเล็กทุกตนในดินแดน!”
“พวกเราจะจัดประชุมขุนนาง!”
ฮังอวี่เลือกที่จะเชื่อในตัวนาเซอร์ก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาต้องพึ่งพานาเซอร์อย่างสมบูรณ์ เขาต้องการให้ทุกคนได้เห็น ว่าเมืองธารทะเลทรายไม่ใช่เสือกระดาษ!
โครงข่ายเทเลพอร์ตภายในแดนเหนือเสร็จสมบูรณ์แล้ว
เมื่อคำสั่งของฮังอวี่เผยแพร่ออกไป ขุนนางเล็กจากทั่วแดนเหนือก็เทเลพอร์ตมายังเมืองธารทะเลทรายทันที
ในเวลาเดียวกัน มนุษย์ทั้งหมดในแคว้นเดียวดาย ต่างมารวมตัวกันที่เมืองธารทะเลทราย
พริบตาเดียว จัตุรัสกลางเมืองกลายเป็นทะเลมนุษย์!
คนนับหมื่นที่ไม่ใช่สายพันธ์รองได้มารวมตัวกัน ฉากนี้เล่นเอาขุนนางเล็กทุกตนต้องอึ้ง
สามารถกล่าวได้เลยว่า แม้คนเหล่านี้ยังไม่แข็งแกร่งมากนักในปัจจุบัน แต่ก็พอจะเดาได้ ว่าในอนาคตอันใกล้ พวกเขาจะกลายเป็นขุมพลังที่สามารถพลิกโฉมอาณาจักรมังกรโลกา!
“เกี่ยวกับเรื่องใหญ่ในแคว้นเดียวดายช่วงหลายวันมานี้”
“ผมคิดว่าขุนนางทุกท่านน่าจะได้รับข่าวสารแล้ว”
“เมืองฟ้าเดียวดาย เมืองเพลิงทมิฬ เมืองพายุระห่ำ และเมืองพันหนองน้ำ ทั้งสี่เมืองตัดสินใจส่งกองกำลังมาปิดล้อมเมืองธารทะเลทรายในเวลาเดียวกัน!”
ทันทีที่แถลงการณ์ออกมา
ใบหน้าของเหล่าขุนนางเล็กซีดเซียว
แม้พวกเขาจะได้ข่าวมาบ้าง กระนั้นก็ยังคลุมเครือไม่กล้าฟันธง
แต่เมื่อขุนนางแห่งเมืองธารทะเลทรายยอมรับและประกาศมันด้วยตัวเอง ก็พูดได้ว่าความหวังสุดท้ายที่อาจไม่จริงของทุกตนได้พังทลายลง
จบสิ้นแล้ว!
ผู้ครองแคว้นกับขุนนางใหญ่กำลังรวมทัพทั้งสี่บุกตีเมืองธารทะเลทราย!
ภายใต้สถานการณ์นี้ ด้วยพลังรบของเมืองธารทะเลทราย เป็นไปได้หรือที่จะต้านทาน? เกรงว่าแดนเหนือคงถึงวาระเสียแล้ว!
ฮังอวี่กวาดสายตามองไปยังเหล่าขุนนางเล็ก เพื่อผลประโยชน์ในการรักษาความลับ เขาไม่สามารถเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนาเซอร์ได้
จนถึงขณะนี้ คนที่รู้เรื่อง แม้แต่ในมังกรครามก็มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้น
ทันทีที่ได้ยินข่าวร้าย ขุนนางเล็กทุกตนต่างรู้สึกสิ้นหวัง!
ในใจพวกเขาต่างคิดว่าจบสิ้นแล้ว
กระทั่งมนุษย์ด้วยกันเองยังแสดงออกถึงความหวาดกลัว ไม่มีใครคิดว่าเมืองธารทะเลทรายจะรอดจากหายนะครั้งนี้
ไม่ใช่ว่าเมืองธารทะเลทรายไม่แกร่ง แต่ศัตรูมีจำนวนเยอะเกินจริงๆ!