ตอนที่แล้วEp.480 - ปิดล้อม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.482 - สามัคคียิ่งกว่าครั้งไหนๆ

Ep.481 - หายนะกำลังใกล้เข้ามา?


3/3

Ep.481 - หายนะกำลังใกล้เข้ามา?

ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา

พายุลูกใหญ่ได้ก่อตัวขึ้นในอาณาจักรมังกรโลกา

ทั้งเก้าแคว้นอยู่ในภาวะฉุกเฉิน!

ผู้ครองแคว้นป่าแดง แคว้นผาตระหง่าน แคว้นทุ่งขจี แคว้นทะเลตะวันตก แคว้นพันเกาะ ฯลฯ ต่างได้รับคำสั่งจากราชามังกรคลั่ง

ตนแล้วตนเล่าเริ่มทำตามประสงค์ของราชามังกร

การดำเนินชีวิตของมนุษย์ในอาณาจักรมังกรโลกากับชาวพื้นเมืองในที่สุดก็มาถึงทางตัน

เริ่มจากการบุกโจมตีที่สันเขามังกร จนกระจายไปทั้งเก้าแคว้น การปิดล้อมครั้งใหญ่เพื่อต่อต้านเผ่ามนุษย์ได้เริ่มต้นขึ้น

ในเวลาเดียวกัน

แม่ทัพมังกรสังหาร และแม่ทัพมังกรพายุแห่งเมืองมังกรได้ออกปฏิบัติการ นำกองทัพอันคงกระพันของสันเขามังกร ตราทัพไปในแต่ละแคว้น ตรวจสอบร่วมกับกองกำลังในพื้นที่ เพื่อให้แน่ใจว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์จะถูกกำจัดอย่างสิ้นซาก

พายุลูกนี้มาเร็วมาก!

มนุษย์ในอาณาจักรมังกรโลกายังไม่พร้อม! กองทัพที่แข็งแกร่งมีแค่มังกรครามเท่านั้น!

เพราะยังไงซะ ฮังอวี่และพรรคพวกเข้าสู่อาณาจักรมังกรโลกาได้ครึ่งปีแล้ว แต่คนที่เหลือเพิ่งเริ่มเข้าสู่อาณาจักรมังกรโลกาเมื่อหนึ่งหรือสองเดือนก่อนเท่านั้นเอง

ด้วยพลังรบของมนุษย์ในปัจจุบัน มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะท้าทายราชามังกร!

กองทัพจากสันเขามังกรและกองทัพพันธมิตรที่จัดตั้งโดยผู้ครองแคว้น ไม่ว่าจะในด้านปริมาณหรือความสามารถ ทั้งหมดล้วนอยู่เหนือระดับของมนุษย์

ข่าวแพร่สะพัดไปในโลกจริง กลายเป็นประเด็นดังอีกครั้ง

อันที่จริง ก่อนที่เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในอาณาจักรมังกรโลกา ชาวโลกวิญญาณในอาณาจักรอื่นหลายแห่งได้เริ่มออกปฏิบัติการปิดล้อมและปราบปรามมนุษย์ในพื้นที่แล้ว

และแทบไม่ต้องเดา

ทุกสงครามที่เกิดขึ้น มนุษย์ไม่เคยชนะเลยสักกระดานเดียว

ดินแดนและทรัพยากรที่มนุษย์ได้รับในโลกวิญญาณ ทั้งหมดที่สั่งสมมา ถูกทุบทำลายเป็นชิ้นๆในชั่วข้ามคืน

มีแม้กระทั่งมนุษย์นับหมื่น ไม่สามารถกลับมาในโลกแห่งวิญญาณได้อีกต่อไป

เผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ยังอยู่ได้ในโลกวิญญาณ หากไม่ทำตัวให้ต่ำเตี้ยเข้าไว้ ก็ต้องสร้างสัมพันธ์อันดีกับกองกำลังพื้นเมือง นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นสักพักแล้ว

แต่ไม่นึกเลย

ว่าในที่สุดก็ถึงคราวสงครามระหว่างมนุษย์กับชาวพื้นเมืองในอาณาจักรมังกรโลกา!

เรื่องนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะทั่วโลกต่างยกให้พวกฮังอวี่เป็น ‘ดวงประทีปของมนุษย์ในโลกวิญญาณ’

แม้ถูกปฏิเสธจากชาวพื้นเมือง แต่มนุษย์ก็ยังเอาตัวรอดมาได้เสมอ แล้วครั้งนี้พวกเขาจะฟันฝ่าวิกฤติไปได้หรือไม่?

ฮังอวี่เป็นคนแรกที่ได้ข่าว เดิมเขาตั้งใจจะพาทาเซียไปเจอนาเซอร์ที่เมืองฟ้าเดียวดาย

แต่พอเห็นพายุที่ก่อตัวขึ้นในตอนนี้ เป็นการดีกว่าหากไม่ไป

ฉูเทียนหัว จ้าวหมิงรีบมาหาฮังอวี่ รายงานสถานการณ์ล่าสุด

“จากข้อมูลที่เราได้รับ มีกองทัพใหญ่จากทิศตะวันออก ตะวันตก และใต้กำลังมารวมตัวกัน พวกมันจะเดินทัพในอีกสองวันข้างหน้า และถึงเมืองฟ้าเดียวดายในอีก 5 วัน จากนั้นเดินทางต่อมายังเมืองธารทะเลทรายในอีก 7 วัน”

“เร็วเกินไป!”

“พวกมันมาถึงเร็วเกิน!”

“เรายังไม่พร้อมสำหรับสงครามเต็มรูปแบบ!”

หากเป็นในสงครามโบราณของโลกจริง การเดินทัพจะใช้เวลานาน และหลังจากเผชิญหน้ากัน การต่อสู้อาจกินเวลาร่วมเดือนหรือปี

ทว่าโลกนี้แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

ความเร็วในการเตรียมตัวและการสิ้นสุดสงครามนั้นขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นของผู้ริเริ่ม!

เนื่องจากพลังรบของสิ่งมีชีวิตในโลกนี้มหาศาลมาก หลักๆจึงเป็นการสู้ด้วยพลังมิใช่กลยุทธ์ทางทหาร

แข็งแกร่งคือแข็งแกร่ง

อ่อนแอก็คืออ่อนแอ

หากฝ่ายใดประมาทพลาดพลั้ง ก็นับเป็นจุดสิ้นสุดการต่อสู้

กระบวนการเผชิญหน้าอาจกินเวลาหนึ่งหรือสองวัน มากสุดก็ไม่เกินห้าวัน แต่จะไม่มีเวลาหลายเดือนหรือถึงปีแน่ๆ

นอกจากนี้ สิ่งมีชีวิตในโลกวิญญาณ จากสายตาของคนทั่วไป ทุกตนล้วนเป็นตัวตนเหนือมนุษย์ การเดินทางเป็นพันไมล์ไม่ต่างอะไรจากการเดินเล่น

ตราบใดที่ยังมีเมืองให้แวะเติมพลังและอาหารระหว่างทาง การเข้าถึงเป้าหมายที่อยู่ไกลก็ไม่ใช่ปัญหา

เหล่าขุนนางใหญ่เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว หลังรวมทัพจะเคลื่อนพลต่อทันที เมืองธารทะเลทรายไม่มีเวลามากนักให้เตรียมตัว

ฮังอวี่กล่าวว่า “ไม่ต้องกังวล นาเซอร์ได้แอบส่งข้อมูลให้ผมแล้ว ตราบใดที่นาเซอร์ยังอยู่เคียงข้างเรา ขุนนางใหญ่ทั้งสามไม่มีทางสั่นคลอนเมืองธารทะเลทราย”

ฉูเทียนหัวเอ่ยถาม “สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือ ผู้ครองแคว้นนาเซอร์ไว้ใจได้จริงๆหรือ?”

จ้าวหมิงยังกล่าวอีกว่า “ถ้าในช่วงเวลาสำคัญ เขาเกิดทรยศและแว้งกัดเรา เมืองธารทะเลทรายคงจบสิ้น!”

ไม่แปลกที่ทั้งคู่จะกังวล เพราะยังไงซะ นาเซอร์ยังคงเป็นชาวพื้นเมืองของโลกวิญญาณ เขาไม่สามารถทำให้มนุษย์เชื่อใจได้เต็มที่

กุญแจของสงครามครั้งนี้อยู่ที่ทัศนคติของนาเซอร์  หากเมืองธารทะเลทรายต้องต้านทานทัพของสามขุนนางใหญ่พร้อมกัน ส่วนนาเซอร์ยืนดูอยู่ข้างสนาม ผลลัพธ์สุดท้ายคือ ทั้งเมืองธารทะเลทรายและสามขุนนางใหญ่พ่ายแพ้ตกตายพร้อมกัน

หากนาเซอร์ไม่ช่วย แล้วถือโอกาสนี้ปล้นชิงผลประโยชน์ เมืองธารทะเลทรายคงไม่รอด!

ในทางกลับกัน หากนาเซอร์ยื่นมือเข้าช่วยในช่วงเวลาสำคัญ ร่วมมือกับเมืองธารทะเลทรายเอาชนะกองทัพพันธมิตร เขาจะสามารถใช้โอกาสนี้ทำลายสามเมืองใหญ่ให้แหลกเป็นเสี่ยงๆได้

ถ้าเมืองธารทะเลทรายและเมืองฟ้าเดียวดายร่วมมือกัน สุดท้ายทั้งคู่จะได้ครองแคว้นเดียวดาย!

ฮังอวี่ยังคงยืนยัน “ไม่ต้องกังวล นาเซอร์คือสมาชิกของมังกรคราม ในเวลาเดียวกันผมได้ลงนามสัญญาตจิตวิญญาณหลายฉบับ ดังนั้นเขาไม่มีทางโจมตีผม และในฐานะสมาชิกของพันธมิตรหนามทมิฬ มันไร้เหตุผลสิ้นดีถ้าเขาไม่ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้รวมแคว้นเดียวดายให้เป็นหนึ่งเดียว!”

นาเซอร์คือผู้ต่อต้านราชามังกรคลั่ง แต่ด้วยพลังของเขา ไม่อาจทำอะไรราชามังกรได้

เผ่ามนุษย์คือความหวังเดียวที่จะโค่นล้มราชามังกรคลั่ง

ตราบใดที่นาเซอร์ไม่โง่ เขาจะไม่พลาดโอกาสนี้

ดังนั้นฮังอวี่มีเหตุผลที่จะเชื่อมั่น ว่านาเซอร์จะไม่นั่งข้างสนาม แต่จะแอบร่วมมือกับเมืองธารทะเลทรายอย่างลับๆ เพื่อทำการตอบโต้กลับ

“เรียกตัวขุนนางเล็กทุกตนในดินแดน!”

“พวกเราจะจัดประชุมขุนนาง!”

ฮังอวี่เลือกที่จะเชื่อในตัวนาเซอร์ก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาต้องพึ่งพานาเซอร์อย่างสมบูรณ์ เขาต้องการให้ทุกคนได้เห็น ว่าเมืองธารทะเลทรายไม่ใช่เสือกระดาษ!

โครงข่ายเทเลพอร์ตภายในแดนเหนือเสร็จสมบูรณ์แล้ว

เมื่อคำสั่งของฮังอวี่เผยแพร่ออกไป ขุนนางเล็กจากทั่วแดนเหนือก็เทเลพอร์ตมายังเมืองธารทะเลทรายทันที

ในเวลาเดียวกัน มนุษย์ทั้งหมดในแคว้นเดียวดาย ต่างมารวมตัวกันที่เมืองธารทะเลทราย

พริบตาเดียว จัตุรัสกลางเมืองกลายเป็นทะเลมนุษย์!

คนนับหมื่นที่ไม่ใช่สายพันธ์รองได้มารวมตัวกัน ฉากนี้เล่นเอาขุนนางเล็กทุกตนต้องอึ้ง

สามารถกล่าวได้เลยว่า แม้คนเหล่านี้ยังไม่แข็งแกร่งมากนักในปัจจุบัน แต่ก็พอจะเดาได้ ว่าในอนาคตอันใกล้ พวกเขาจะกลายเป็นขุมพลังที่สามารถพลิกโฉมอาณาจักรมังกรโลกา!

“เกี่ยวกับเรื่องใหญ่ในแคว้นเดียวดายช่วงหลายวันมานี้”

“ผมคิดว่าขุนนางทุกท่านน่าจะได้รับข่าวสารแล้ว”

“เมืองฟ้าเดียวดาย เมืองเพลิงทมิฬ เมืองพายุระห่ำ และเมืองพันหนองน้ำ ทั้งสี่เมืองตัดสินใจส่งกองกำลังมาปิดล้อมเมืองธารทะเลทรายในเวลาเดียวกัน!”

ทันทีที่แถลงการณ์ออกมา

ใบหน้าของเหล่าขุนนางเล็กซีดเซียว

แม้พวกเขาจะได้ข่าวมาบ้าง กระนั้นก็ยังคลุมเครือไม่กล้าฟันธง

แต่เมื่อขุนนางแห่งเมืองธารทะเลทรายยอมรับและประกาศมันด้วยตัวเอง ก็พูดได้ว่าความหวังสุดท้ายที่อาจไม่จริงของทุกตนได้พังทลายลง

จบสิ้นแล้ว!

ผู้ครองแคว้นกับขุนนางใหญ่กำลังรวมทัพทั้งสี่บุกตีเมืองธารทะเลทราย!

ภายใต้สถานการณ์นี้ ด้วยพลังรบของเมืองธารทะเลทราย เป็นไปได้หรือที่จะต้านทาน? เกรงว่าแดนเหนือคงถึงวาระเสียแล้ว!

ฮังอวี่กวาดสายตามองไปยังเหล่าขุนนางเล็ก เพื่อผลประโยชน์ในการรักษาความลับ เขาไม่สามารถเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนาเซอร์ได้

จนถึงขณะนี้ คนที่รู้เรื่อง แม้แต่ในมังกรครามก็มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้น

ทันทีที่ได้ยินข่าวร้าย ขุนนางเล็กทุกตนต่างรู้สึกสิ้นหวัง!

ในใจพวกเขาต่างคิดว่าจบสิ้นแล้ว

กระทั่งมนุษย์ด้วยกันเองยังแสดงออกถึงความหวาดกลัว ไม่มีใครคิดว่าเมืองธารทะเลทรายจะรอดจากหายนะครั้งนี้

ไม่ใช่ว่าเมืองธารทะเลทรายไม่แกร่ง แต่ศัตรูมีจำนวนเยอะเกินจริงๆ!