889 -ชะตากรรมอันเลวร้ายของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์
889 -ชะตากรรมอันเลวร้ายของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์
ชายชราส่ายหน้าและกล่าวว่า “จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่โบราณล้วนมีความทระนงตนอย่างยิ่งและพวกเขาจะไม่ทำร้ายผู้อื่นอย่างไร้สาเหตุ การที่จักรพรรดิชิงทำลายตระกูลไช่มันมีเหตุผลที่เหมาะสมอยู่”
เย่ฟ่านรู้สึกงงงวยและกล่าวว่า “สาเหตุคืออะไร”
“ทุกอย่างเกิดจากบรรพชนของตระกูลไช่…”
ตระกูลไช่มีทักษะลับสูงสุดซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากตงหวง อันที่จริงมีบางคนทำการสืบสวนแล้วพบว่าบรรพชนของพวกเขาก็มาจากตงหวงเช่นกัน
“ตระกูลนี้ต้องคำสาปร้าย บางสิ่งที่แปลกประหลาดจะเกิดขึ้นทุกๆหนึ่งหมื่นถึงสองหมื่นปี ซึ่งเป็นอันตรายต่อใต้หล้า ดังนั้นจักรพรรดิชิงจึงลงมือทำลายพวกเขาไปจากแผ่นดิน”
“ตระกูลไช่ต้องคำสาป?”
เย่ฟ่านรู้สึกประหลาดใจมากยิ่งขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว เขาคิดว่าต้องมีอะไรที่เป็นความลับมากมายที่ยังไม่มีใครรู้
“เจ็ดหมื่นปีที่แล้ว เมื่อบรรพชนของพวกเขาแก่ชรา พวกเขามาที่จงโจวและตรงไปยังภูเขาฉินหลิงเพื่อฝังตัวเองในสถานที่พิเศษแห่งนี้” ชายชรากล่าวช้าๆ
เทือกเขาฉินหลิงที่มีรัศมีหนึ่งล้านลี้นั้นกว้างใหญ่และไร้ขอบเขต แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเมืองเล็กๆ ของจงโจวแล้ว นี่เป็นเพียงมุมหนึ่งของภูมิภาคตะวันตกเท่านั้น
ตั้งแต่สมัยโบราณ มีตำนานไม่รู้จบในภูเขาฉินหลิง มีสุสานโบราณจำนวนมากอยู่ใต้ดิน และศพเน่าๆ มักจะปีนออกมาจากสุสานโบราณในตอนกลางคืนเพื่อดุดซับแสงจันทร์ นี่คือข่าวลือที่แพร่กระจายไปทั่วโลก
อันที่จริงเรื่องนี้เป็นความจริงอย่างแน่นอนตั้งแต่สมัยโบราณ ไม่ทราบว่ามีจักรพรรดิกี่คนที่ถูกฝังไว้ที่นี่ และผู้คนก็คุ้นเคยกับมันมานานแล้ว
ตามตำนาน ถ้าถูกฝังที่นี่อาจจะกลายเป็นผู้อมตะในอนาคต ไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นเพราะเหตุผลใดแต่เป็นที่รับรู้โดยบุคคลสูงสุดบางคนและจากนั้นก็จะมีคนรุ่นต่อไปในอนาคตที่นำมาสืบทอดต่อ
บรรพชนของตระกูลไช่มาจากตงหวงสู่เทือกเขาฉินหลิง ในช่วงหลายปีต่อมา ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดีแต่สุดท้ายก็มีบางสิ่งเกิดขึ้น
ในสมัยนั้น มีเสียงคำรามก้องไปทั่วภูเขาทั้งกลางวันและกลางคืนใ ทั้งยังมีวิญญาณมังกรลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ฉากนั้นน่ากลัวมาก
อย่างไรก็ตามทุกสิ่งได้กลับคืนสู่ความผิดปกติอย่างรวดเร็วและผู้คนมากมายก็รู้ว่าบรรพชนของตระกูลไช่ต้องเป็นคนแปลกๆ ที่สามารถค้นหาเส้นเลือดของมังกรและค้นหาสถานที่เหมาะสมเพื่อเป็นหลุมศพของตัวเองได้
“คนกลุ่มนี้ต้องคำสาปจริงๆ …” ชายชรากล่าวต่อ
หลังจากนั้นไม่นาน คนของตระกูลไช่ก็ย้ายมาที่นี่ และบรรพชนของพวกเขาก็กำลังจะตาย แต่เขามีความแข็งแกร่งอย่างยิ่งซึ่งเป็นเหตุผลให้ไม่มีผู้ใดกล้าตอแยเขา
ในช่วงเวลานั้นเห็นได้ชัดว่าเขาสูญเสียพลังชีวิตและเสียงคำรามด้วยความเจ็บปวดของเขามักจะหลอกหลอนภูเขาฉินหลิงในตอนกลางคืน ในเวลานั้น คนในตระกูลก็ได้เห็นสิ่งแปลกประหลาดมากมาย
ในช่วงเวลาเดียวกันราชาเฉิงจากจงโจวก็มาเยี่ยมเขาถึงที่นี่ และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เขาถูกบรรพชนของตระกูลไช่สังหารอย่างเด็ดขาดด้วยการโจมตีไม่กี่กระบวนท่าเท่านั้น
“ราชาผู้ยิ่งใหญ่ที่มีชีวิตเกือบสี่พันปีและอยู่ยงคงกระพันในโลก แต่ถูกฆ่าตายโดยชายที่กำลังนอนป่วย!”
เย่ฟ่านก็ตะลึงเช่นกัน โหนกแก้มของเขารู้สึกเย็น เพราะเขารู้สึกคุ้นเคย มันเหมือนเป็นตำนานที่เกี่ยวข้องกับเขา
“ในวันสุดท้ายของชายชราคนนั้น สถานที่ที่เขาอาศัยอยู่ปกคลุมไปด้วยความมืดตลอดทั้งวัน และสายลมสีแดงก็พัดเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง มีเสียงคำรามที่อธิบายไม่ได้ ทั้งแปลกและน่ากลัว”
ก่อนที่ลมหายใจสุดท้ายบรรพชนตระกูลไช่จะหมดลงสิ่งแปลกๆเหล่านั้นยังคงดำเนินต่อไปถึงเครื่องตี แม้แต่สมาชิกในตระกูลของพวกเขาก็ยังหวาดกลัวแทบตาย
ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้สถานที่ที่เขาอาศัยอยู่ ในที่สุดเขาก็หายตัวไปโดยทิ้งจดหมายที่มีอักษรไม่กี่คำเท่านั้น
คนของตระกูลไช่เข้าไปในภูเขาฉินหลิงและค้นหาเป็นเวลาหลายสิบปี แต่พวกเขาไม่พบที่ฝังศพของเขา และไม่มีใครรู้เกี่ยวกับชะตากรรมของบรรพชนคนนั้น
“แปดพันปีต่อมา ในคืนที่ฝนตกฟ้าคะนองราวกับท้องฟ้าจะถล่มลงมา บรรพชนของตระกูลไช่ก็กลับมาที่ตระกูลอีกครั้ง...” ชายชรากล่าว
“อะไรนะ เขาจะมีชีวิตอยู่ได้นานขนาดนี้ได้อย่างไร!?” เย่ฟ่านรู้สึกประหลาดใจ
“เขาตายแล้ว ในเงาสีดำท่ามกลางพายุฝน ผู้คนมองเห็นเขา เขาเหมือนกับภาพวาดทุกประการ ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือเขามีผมสีแดง…”
เย่ฟ่านรู้สึกเย็บเยียบไปถึงสันหลัง นี่คือตำนานของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์อย่างแน่นอน
“เขาไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาหายตัวไปในส่วนลึกของเทือกเขาฉินหลิงในชั่วพริบตา อย่างไรก็ตามผู้คนมากกว่าครึ่งของตระกูลไช่ต่างเสียชีวิตลงในคืนนั้น และสิ่งแปลกประหลาดมักเกิดขึ้นกับผู้รอดชีวิต พวกเขาเริ่มเสียสติและก่อภัยพิบัติเทือกเขาฉินหลิง”
“อีกหนึ่งหมื่นปีต่อมา สิ่งที่คล้ายกันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง และมันน่ากลัวยิ่งกว่าเพราะตระกูลไช่มีอำนาจมากว่าครั้งอดีตหลายเท่า และภัยพิบัติก็จะต้องใหญ่ขึ้นโดยธรรมชาติ
หลังจากสงบลง พวกเขาเชิญคนแปลกหน้าจากจงโจว ซีม่อ หนานหลิง และตงหวงมาที่นี่เพื่อพิสูจน์ความจริง
ในเวลานั้น อรหันต์ร่างสีทองจากทะเลทรายตะวันตกมาถึงและยืนยันว่าบรรพชนของตระกูลไช่ได้พบเส้นเลือดมังกรที่ใหญ่ที่สุดในเทือกเขาฉินหลิงและภายในนั้นมีหลุมศพของเซียนอยู่ข้างใน
ปรมาจารย์ซุนหลงจากจงโจวรู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่ง เขาบอกว่ามีบางอย่างที่เป็นลางร้ายเกิดขึ้นกับบรรพชนของตระกูลไช่ นั่นเป็นเหตุผลให้ท่านผู้เฒ่าได้หลบหนีออกจากตระกูลโดยไม่แจ้งให้ใครทราบ
“ชะตาชีวิตของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ล้วนมีจุดจบที่เลวร้าย แม้ว่าเขาจะหนีมาที่จงโจวลูกหลานของเขาก็ยังได้รับความเดือดร้อนไปด้วย” เย่ฟ่านรู้สึกกระดูกสันหลังเริ่มหนาวเย็น
เขาได้เรียนรู้คัมภีร์ต้นกำเนิดสวรรค์เพียงเล็กน้อยแต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงอันตรายเหล่านั้นแล้ว ไม่รู้ว่าสิ่งเดียวกันนี้จะเกิดขึ้นกับเขาหรือไม่
“ถูกต้อง บรรพชนของตระกูลไช่คือปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่สามของตงหวง และคัมภีร์ต้นกำเนิดสวรรค์ของเขาได้ถูกขายให้ใครบางคนด้วยราคาต้นกำเนิดสวรรค์สองหมื่นจิน ซึ่งแน่นอนว่าคนที่ซื้อก็คือปรามาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่สี่นั่นเอง”
หัวใจของเย่ฟ่านรู้สึกสะเทือนใจ นี่เป็นชะตากรรมแบบหนึ่ง ทำไมปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ถึงทำตัวแบบนี้ และการดำรงอยู่แบบไหนที่กำลังรบกวนเขา แม้ว่าเขาจะหนีไปจงโจวก็ยังไม่สามารถรอดพ้นชะตากรรมอันเลวร้ายได้
ในตงหวงมีปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ห้าคนและสถานการณ์ของพวกเขาก็ไม่แตกต่างจากบรรพชนตระกูลไช่แม้แต่น้อย
ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่สี่รู้ตัวดีว่าเขากำลังจะตายดังนั้นเขาจึงหนีเข้าสู่เหมืองโบราณต้นกำเนิด แต่สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถรอดพ้นชะตากรรมแห่งความตายได้
ปรมาจารย์ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์คนที่ห้าซึ่งเป็นบรรพชนคนแรกของตระกูลจางหายตัวไปในคืนที่มีเสียงโหยหวนคำราม เขาทำให้เด็กหนุ่มคนหนึ่งตกใจกลัวจนกลายเป็นคนปัญญาอ่อน
สุดท้ายเมื่อหลบหนีเข้าสู่ภูเขาสีม่วงซึ่งเป็นหลุมฝังศพของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่อู๋เป่ยเขาก็ยังถูกลางมรณะนั้นตามไปเอาชีวิตอยู่ดี
“ต่อให้เจ้ากลายเป็นศพไปแล้ว ลางร้ายนี้ก็จะลบไม่ออก ทุกๆหนึ่งหมื่นถึงสองหมื่นปีจะมีเหตุการณ์ที่เป็นลางร้ายสำหรับคนในตระกูลไช่ไม่ว่าเจ้าจะหนีไปที่ไหนก็ตาม”
สถานการณ์ซับซ้อน เมื่อหมื่นปีก่อนมีคนเห็นสิ่งมีชีวิตร่างสีดำเดินออกมาจากภูเขาฉินหลิงในเวลานั้น เทือกเขาฉินหลิงซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายล้านลี้ไม่ทราบว่ามีสิ่งมีชีวิตจำนวนเท่าใดที่เสียชีวิต
“บรรพชนของตระกูลไช่เสียชีวิตไปหกหมื่นปีแล้ว เป็นได้ได้หรือไม่ว่าร่างกายของเขาจะยังไม่ถูกทำลาย ดังนั้นมันจึงปรากฏขึ้นอีกครั้ง?!”เย่ฟ่านรู้สึกประหลาดใจ
“ถูกต้อง ตระกูลโบราณนี้แข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนหลายเท่า แต่ก็ยังไม่สามารถต้านทานลางร้ายได้…”
“หมื่นปีที่แล้วตระกูลไช่ได้ถูกจักรพรรดิชิงทำลายอย่างเด็ดขาด ช่างมีเหตุผลที่ซับซ้อนจริงๆ”
จักรพรรดิชิงครั้งหนึ่งเคยเข้าไปในภูเขาฉินหลิงเพื่อค้นหาสิ่งมีชีวิตที่มีผมสีแดงรูปร่างคล้ายมนุษย์ แต่เขาไม่พบร่องรอยใดๆ มิฉะนั้นเขาคงจะกวาดล้างพวกมันไปหมดแล้ว
เย่ฟ่านรู้สึกหวาดกลัวปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ไม่สามารถอยู่อย่างสงบสุขได้ แม้กระทั่งหลังความตาย
ชายชรากล่าวว่า “ไม่มีผู้อมตะในโลกนี้ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะกลายเป็นอมตะ แต่จักรพรรดิชิงคือหนึ่งในคนที่เป็นผู้อมตะที่แท้จริงอย่างแน่นอน”
“ท่านรู้ได้อย่างไร?”
หนึ่งหมื่นปีที่แล้วจักรพรรดิชิงได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่หลายอย่างที่ทำให้อดีตและปัจจุบันตกตะลึง
ในท้ายที่สุด เขากวาดล้างตระกูลไช่ด้วยฝ่ามือเดียว เรื่องนี้เย่ฟ่านได้พิสูจน์ด้วยตาของตัวเองแล้ว
“จักรพรรดิชิงนั้นยากจะหยั่งถึง เขาเป็นคนเดียวที่พิสูจน์เต๋าและกลายเป็นจักรพรรดิโบราณหลังจากเวลาผ่านมาหลายแสนปี โดยธรรมชาติแล้วพลังของเขานั้นวัดไม่ได้” ชายชรากล่าว
จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่โบราณมีความกลมกลืนกับเต๋าและชีพจรของโลก มีพลังเกินกว่าที่คนธรรมดาจะเข้าใจ แม้ว่าเขาจะตาย ก็ยังต้องใช้เวลาหลายหมื่นปีกว่าที่เต๋าจะหายไป
ในขณะเดียวกัน เย่ฟ่านก็รู้สึกประหลาดใจว่าชายชราคนนี้มีที่มาอย่างไร และเหตุใดเขาจึงรู้ความลับมากมาย แม้แต่เทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ก็ไม่อาจเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้