ตอนที่ 8-21 ของขวัญ
หัวเมืองเซียร์มีอำนาจครอบคลุมเมืองอื่นอีกราวๆสิบเมือง รวมทั้งหมู่บ้านขนาดใหญ่และกสิกร ประชากรที่อยู่ในบังคับมีหลายล้านคนถ้าจะพูดให้ถูกหัวเมืองเซียร์เทียบเท่ากับแคว้นๆ หนึ่ง
และเจ้าเมืองเซียร์ถือว่ามีศักดิ์ฐานะเทียบเท่าแกรนด์ดยุคปกครองแคว้น
“เรื่องที่เจ้าเมืองคนใหม่เพิ่งอายุสิบสี่ปีเรื่องนี้ทำให้ทุกคนอิจฉามาก”ในโรงแรมในหลายแห่งในเมืองเซียร์มีผู้คนพูดคุยกันถึงเรื่องนี้
ท่านหญิงเว็ดและพี่ชายเสียชีวิตกะทันหันในไฟไหม้ครั้งใหญ่ เรื่องนี้ทำให้เส้นสายอำนาจที่ซับซ้อนในเมืองเซียร์ค่อยมีความชัดเจนมากขึ้นทุกที
ไม่มีข้อสงสัยอะไรอีกต่อไป
คีนมีสายเลือดของตระกูลชาร์คจะต้องได้รับตำแหน่งเจ้าเมืองปกครองหัวเมืองเซียร์แน่นอน
“ท่านหญิงเว็ดนั่นเข้าไปตรวจค้นบ้านของใครสักคนกลางราตรี แต่นางคาดไม่ถึงว่านางจะต้องมาจบชีวิตช่างตลกเสียจริง” ชายชราเคราแดงถือแก้วเหล้าใบใหญ่หัวเราะลั่น
“ได้ยินว่านางถูกไฟครอกตาย” คนที่อยู่ใกล้ๆกล่าว
“นางจะถูกไฟครอกตายได้ยังไง? มีพวกทหารรักษาเมืองรายล้อมนางตั้งมากมายถ้านางจะถูกไฟครอกตายจริงๆ ท่านเคาน์เตสจะต้องหลบหนีมาได้แน่นอน” บุรุษร่างผอมลดเสียงลงทันที “ข้าจะบอกความลับให้ ท่านเคาน์เตสและพี่ชายของนางถูกฆ่าก่อนแล้วและจากนั้นศพจึงค่อยถูกไฟไหม้”
ทุกคนที่อยู่ใกล้ๆหันควั่บมาจ้องดูเขาทันที
“นี่เป็นเรื่องจริง” บุรุษผอมพูดอย่างมั่นใจ
“พวกเจ้าพูดส่งเดชกันทั้งนั้น”บุรุษร่างใหญ่หัวเราะเย็นชา “ข้าคือทหารประจำเมืองเอง และข้าก็อยู่ที่นั่นในคืนนั้น เป็นเจ้ารู้มากกว่าหรือว่าข้ารู้มากกว่า?”
บุรุษร่างผอมหัวเราะอย่างขลาดเขลา “สหาย, ข้าแค่ล้อเล่น”
“ท่านเคาน์เตสและพี่ชายทั้งสองคนของนางไม่ได้ตายเพราะไฟครอก บางทีพวกเขาอาจตายเนื่องจากแรงระเบิด” บุรุษร่างกำยำพูดสิ่งที่เขาเชื่อว่าเป็นความจริง “ถูกไฟครอกตายน่ะหรือ?พวกเขาจะไม่ร้องขอความช่วยเหลือหรือ?แต่พี่น้องในหน่วยของเราไม่ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือสักแอะตลอดเวลานี้มีแนวโน้มว่าเรื่องที่เกิดขึ้นก็คือ แรงระเบิดฉีกร่างพวกเขากระจายดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีโอกาสร้องขอความช่วยเหลือ”
คนที่อยู่ใกล้ๆพยักหน้ารวมทั้งคนผอมด้วย
คำอธิบายสมเหตุสมผลมาก
“เรื่องของท่านหญิงเว็ดช่างก่อนเถอะ ตอนนี้เจ้าเมืองเซียร์ก็คือพี่น้องสองคนนั่น”
……
ความจริงในตอนนี้ศูนย์รวมความสนใจในหัวเมืองเซียร์ก็คือสองพี่น้องบ้านนอกก่อนหน้านี้เจนน์กับคีน
ภายในปราสาทของเมืองปกครอง
“ทำไมถึงมีมากมายนักเล่า”เมื่อพลิกดูรายการของขวัญที่อยู่ต่อหน้าเขา คีนมองดูห้องที่เต็มไปด้วยของขวัญ เขาอดตะลึงไม่ได้
หลังจากท่านหญิงเว็ดตายขุนนางในเมืองทุกคนต้องการจะเข้าใกล้ตีสนิทคีนทันที พวกเขาให้ของขวัญ, หญิงงาม,นักสู้ที่แข็งแกร่งกับคีน ขุนนางทั้งหมดนี้รู้ว่าคีนอายุยังเยาว์วัยตระกูลของพวกเขาอาจจะอยู่ภายใต้การปกครองของคีนต่อไปอย่างน้อยก็เป็นร้อยปี จึงเป็นธรรมดาที่พวกเขาต้องการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับเขา
“แค่นี้ไม่มากเท่าไหร่” แลมเบิร์ตส่ายศีรษะ
เจนน์กับคีนมองแลมเบิร์ตอย่างประหลาดใจ ขณะที่ลินลี่ย์นั่งจิบน้ำชาอยู่ที่โต๊ะใกล้ๆ
“ปู่แลมเบิร์ต แค่นี้ยังไม่มากอีกหรือ?” เจนน์พูดอย่างประหลาดใจ
แลมเบิร์ตส่ายศีรษะ “คุณหนู, คุณชายของขวัญทั้งหมดนี้รวมกันแล้วมีค่าไม่กี่แสนเหรียญ สองสามแสนเหรียญทองเองหรือ? ฮึ่ม,คุณหนู, คุณชาย, ท่านรู้ไหมว่าเครือข่ายของคุณนายใหญ่มีมากเพียงไหน?ข้าเชื่อว่าเกินกว่าสิบล้านเหรียญทอง”
“เกินสิบล้านเหรียญทองหรือ?” เจนน์กับคีนตะลึงทั้งคู่
พวกเขาอาศัยอยู่ในชนบทบ้านนอกมาเป็นเวลานานพวกเขาเคยเห็นของมีค่าแบบนั้นตั้งแต่เมื่อใดกัน? แลมเบิร์ตกลับตรงกันข้าม เขาติดตามมารดาของพวกเขามาเป็นเวลาหลายปี เมื่อเขาอยู่ในปราสาทเจ้าเมือง เขาเคยเห็นอะไรมาหลายอย่าง
“นี่เป็นเรื่องปกติมากหลังจากควบคุมดูแลคนเป็นล้านๆ มาหลายปี ทำให้คุณนายใหญ่มีนิสัยโลภ คงจะเป็นเรื่องแปลกถ้านางไม่มีทองสักล้าน น่าเสียดายเรายังคงหาที่ซ่อนการ์ดเครดิตเวทของนางอยู่ ต่อให้หาพบก็มีแนวโน้มว่า..การ์ดเครดิตเวทอาจเชื่อมโยงกับลายนิ้วมือของคุณนายใหญ่ได้ เราก็ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้” แลมเบิร์ตส่ายหัวอย่างจนใจ
กฎที่โกลเดนแบงค์สี่จักรวรรดิได้ตั้งไว้เป็นประโยชน์ต่อสี่จักรวรรดิ
ทันทีที่การ์ดเครดิตเวทประทับรอยนิ้วมือก็มีแต่เจ้าของรอยนิ้วมือเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าถึงข้อมูลภายในได้ แม้ว่าคนอื่นจะได้การ์ดเครดิตเวทไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรต่อพวกเขา
แน่นอน...
เจ้าของการ์ดเครดิตเวทสามารถแบ่งโอนความมั่งคั่งให้คนอื่นได้
แต่ถ้าคนผู้นั้นตายกะทันหันไม่ทันได้โอนกองทรัพย์สมบัติ อย่างนั้นกรรมสิทธิ์ก็จะถูกอ้างสิทธิ์โดยโกลเดนแบงค์สี่จักรวรรดิ ความเป็นจริงก็คือโกลเดนแบงค์สี่จักรวรรดิไม่มีทางเลือกอื่น จำเป็นต้องทำเช่นนี้
เงินทองจำนวนมากเก็บไว้ในการ์ดเครดิตเวทในโลกนี้ความจริงมีมากกว่าเงินทองโดยรวมของโกลเดนแบงค์เป็นสิบเท่า
แต่บ่อยครั้งที่คนผู้มั่งคั่งร่ำรวยมากซึ่งครอบครองทรัพย์สินอย่างน้อยร้อยล้านเหรียญจะไปที่ธนาคารด้วยตนเองและถอนเงินมาเป็นร้อยล้านเชียวหรือ? ต่อให้พวกเขาไปถอนเองการเคลื่อนย้ายเงินก็จะมีปัญหา นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งให้โกลเดนแบงค์ของสี่จักรวรรดิกล้าออกบัตรเครดิตเวทมากมาย ขณะเดียวกันทางธนาคารก็ไม่กล้าออกการ์ดพร่ำเพรื่อ เนื่องจากธนาคารเชื่อมโยงทำงานกับสี่จักรวรรดิและเบื้องหลังจักรวรรดิก็คือเทพสงครามโอเบรียน ยอดฝีมือชาวมนุษย์ที่มีอายุยืนที่สุด, นักบวชระดับสูงจึงไม่มีใครกล้าทำอะไรบุ่มบ่าม
“สิบล้านเหรียญทองหายไปในลักษณะนี้”คีนพูดอย่างเสียดาย
เขารู้สึกท้อแท้จริงๆกับการสูญเสียเงินจำนวนดังกล่าว
“คุณชาย ได้เป็นเจ้ามืองไม่เพียงแต่ต้องรวบรวมเงินเท่านั้น ท่านจะต้องจ่ายเงินเดือนให้ทหารประจำเมือง ต้องจ่ายค่าฟื้นฟูเมืองและอื่นๆ มีค่าใช้จ่ายอีกตั้งหลายอย่าง” แลมเบิร์ตเสริม
คีนสะดุ้ง
“หวา? เป็นเจ้าเมืองต้องใช้เงินมากหรือนี่?” คีนไม่รู้เรื่องอย่างนี้เลย
“นั่นคือเหตุผลที่ข้าบอกว่าเงินสองสามแสนเหรียญทองนี้ไม่ถือว่ามาก โชคดีที่สมบัติของเมืองยังมีอยู่ซึ่งเพียงพอต่อการจัดการกิจการภายใน” แลมเบิร์ตกล่าว
คีนลูบศีรษะ “อา.. ดูเหมือนการเป็นเจ้าเมืองจะมีงานที่ซับซ้อนและเป็นภาระหนักมาก”
“พี่เจนน์” คีนมองเจนน์ด้วยความหวัง “พี่ต้องช่วยข้านะ”
เจนน์พยักหน้าตามตรง “คีน, พี่จะช่วยเจ้าอย่างดีที่สุด” แต่การพยักหน้านี้คือจุดเริ่มต้นของความเจ็บปวด เจ็บปวดในชีวิตสำหรับเจนน์
ตอนนี้ ไม่ว่าคีนเจนน์ ต่างก็ไม่รู้ขณะที่พวกเขากังวลเรื่องเงิน ลินลี่ย์ผู้ที่กำลังนั่งจิบชาได้ครอบครองโชคลาภก้อนโตอย่างน่าทึ่ง เป็นทรัพย์สินที่ราชตระกูลได้สะสมมาเกินพันปี มีแนวโน้มว่าแม้แต่ตระกูลของพวกเขา ตระกูลชาร์คที่ควบคุมดินแดนมณฑลพายัพมาเป็นพันปีก็ยังไม่อาจเทียบความมั่งคั่งของลินลี่ย์ได้
ที่สำคัญคือไม่ว่าพวกเขาจะเก็บเงินได้มากขนาดไหนพวกเขาก็ไม่สามารถเทียบได้กับราชวงศ์ของอาณาจักรหนึ่งได้
“เจนน์ คีน” ลินลี่ย์พูดทันที “พวกเจ้าพักอยู่ที่นี่นะ ข้าต้องไปฝึกต่อ”
เจนน์กับคีนมองดูลินลี่ย์ทั้งคู่ คีนหยอกล้อ “พี่ลีย์ ไม่ต้องใช้เวลาฝึกในคืนนี้มากก็ได้ พี่ต้องจำไว้ว่าต้องมาร่วมทานอาหารค่ำ คืนนี้พี่เจนน์จะลงมือทำอาหารด้วยตัวเอง”
เจนน์หน้าแดงทันที
ตั้งแต่งานราตรีสโมสรคืนก่อนเมื่อคีนประกาศอย่างเปิดเผยว่าลินลี่ย์เป็นคู่หมั้นของเจนน์ ประชาชนชาวเมืองเซียร์ทุกคนต่างก็เชื่อเรื่องนี้กันจริงๆ แม้แต่บ่าวทาสก็พลอยเชื่อไปด้วย เรื่องนี้ทำให้เจนน์เขินอายมาก
“ก็ได้” ลินลี่ย์โบกมือและยิ้มให้
ทันใดนั้นในลานหน้าคฤหาสน์ มีหีบสี่ใบไม่ทราบว่าปรากฏมาจากที่ใดหีบสี่ใบนั้นถูกเปิดออกทั้งหมดและเต็มไปด้วยงานศิลปะทุกชนิด แก่นเวทที่มีค่าและของหายากบางอย่าง วัสดุที่มีราคาสูง
“อะไรกันนี่?” คีนและเจนน์ตะลึงทั้งคู่
“นี่คือสมบัติของตระกูลโฮลเมอร์ ข้าไม่แน่ใจนักว่าหีบทั้งสี่ใบนี้จะมีค่าเท่าใด มีแนวโน้มว่าจะมีค่าเกินกว่าล้านเหรียญทอง เก็บหีบทั้งสี่ใบเหล่านี้ไว้เลย” ลินลี่ย์ดึงการ์ดเครดิตเวทออกมาแปดใบ “นี่คือการ์ดเครดิตเวทที่ไม่ได้ประทับลายมือ แต่ละใบน่าจะมีมูลค่าล้านเหรียญทองเก็บเอาไว้”
ลินลี่ย์ได้ยินข้อมูลนี้จากการสนทนาระหว่างท่านหญิงเว็ดกับพี่ชายทั้งสองของนางจึงได้รู้มูลค่าของการ์ดเครดิตเวท
“นี่... นี่...”คีนและเจนน์และแม้แต่แลมเบิร์ตจ้องมองลินลี่ย์อย่างตกใจ
“รวมกันทั้งหมดแล้วน่าจะมีมูลค่าใกล้ๆสิบล้านเหรียญทอง ได้มั้ง? ด้วยสมบัติขนาดนี้.. พวกเจ้าไม่ต้องตระหนี่จนเกินเอาไปใช้จัดการดูแลหัวเมืองปกครองเซียร์ได้เลย เอาล่ะ ได้เวลาที่ข้าต้องไปฝึกแล้ว”
ลินลี่ย์โยนการ์ดเครดิตเวททั้งแปดใบไว้ในหีบตามปกติ จากนั้นหมุนตัวเดินออกไป
เจนน์คีนและแลมเบิร์ตจ้องมองดูหีบทั้งสี่ใบ และการ์ดเครดิตอักษรรูน พวกเขาไม่รู้จะพูดอะไร
“พี่เจนน์” คีนมองดูเจนน์
เจนน์ตะลึง “เดิมทีเมื่อข้าขอให้พี่ลีย์ช่วยเราข้าบอกว่าข้าจะจ้างเขาหมื่นเหรียญทอง นี่...”
ความจริงสองพี่น้องไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ พวกเขาเสนอค่าจ้างให้ลินลี่ย์หมื่นเหรียญทองขอให้ช่วยพวกเขา แต่เขากลับรับไปแค่เหรียญทองเดียว.. และตอนนี้ยังมอบโชคลาภมูลค่าสิบล้านเหรียญทองให้กับพวกเขา
สิบล้านเหรียญทอง!
นี่คือโชคลาภที่น่าอัศจรรย์
เมื่อตระกูลเด็บส์แห่งอาณาจักรเฟนไลรุ่งเรืองขีดสุดทรัพย์สินล้วนๆของพวกเขามีค่าร้อยล้านเหรียญทอง หลังจากได้รับผลกระทบจากการถูกตัดสินคดีค้าของเถื่อน มูลค่าทรัพย์สินตกลงราวๆ สิบล้านเหรียญแต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังเป็นตระกูลใหญ่ในเฟนไล
“คุณหนู คุณชาย ท่านลีย์ผู้นี้ไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ”สีหน้าแลมเบิร์ตเคร่งขรึม
เจนน์กับคีนพยักหน้าทั้งสองคน
นั่นไม่จำเป็นต้องพูดเลย คนธรรมดาจะโยนเงินสิบล้านออกมาโดยปกติได้อย่างไร?
“ตอนนั้น แค่เพียงท่านลีย์โบกมือเท่านั้นหีบสมบัติก็ปรากฏออกมาอย่างไม่ปี่มีขลุ่ย ถ้าข้าคาดไม่ผิด..ท่านลีย์จะต้องมีแหวนมิติเก็บสมบัติในตำนานอยู่แน่” หน้าของแลมเบิร์ตจริงจังมากขึ้น
“แหวนมิติเก็บสมบัติ?” เจนน์และคีนไม่เคยได้ยินเรื่องอย่างนี้มาก่อน
แลมเบิร์ตพยักหน้า “ใช่แล้วแหวนมิติเก็บสมบัติเป็นสมบัติที่ประมาณค่ามิได้ ในทวีปยูลาน นั่นคือเครื่องพิสูจน์สถานะและพลังของคนในตำนานที่ข้าเคยได้ยินมา ต่อให้มีคนเสนอซื้อวงหนึ่งหลายร้อยล้านเหรียญทองก็ยังไม่มีใครเต็มใจขาย”
“หลายร้อยล้านเหรียญทอง?” เจนน์กับคีนตาโต
หลายร้อยล้านเหรียญทองจะเป็นยังไงถ้าท่านเก็บทั้งหมดไว้คนเดียว? พวกเขาไม่กล้าคิดเลยว่าทรัพย์สินมหาศาลขนาดนั้นจะเป็นยังไง
“ในเขตมณฑลพายัพมีเพียงผู้นำตระกูลในตำนานของตระกูลชาร์ค เจ้าเมืองที่ปกครองทั้งมณฑลมีแหวนมิติเก็บสมบัติอยู่วงหนึ่ง” การได้อยู่ในเมืองเซียร์มาหลายปีทำให้แลมเบิร์ตรู้เรื่องราวกิจการของตระกูลชาร์คอยู่บ้าง
“ปู่กำลังพูดถึงเรื่อง... ปู่ทวดแม็คเคนซี่ใช่ไหม?” คีนพูดทันที
ความภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับตระกูลชาร์คมีสองเรื่องก็คือชาร์คผู้นำตระกูลคนแรกและผู้นำตระกูลในตำนานของเขา ก็คือ แม็คเคนซี่ ชาร์ค
ในอดีตชาร์คเป็นคนธรรมดาสามัญ เขาลงเอยโดยเข้าร่วมกับกองทัพและได้เลื่อนยศมาอย่างต่อเนื่องและนอกจากนี้ยังทำผลงานยิ่งใหญ่ให้กับจักรวรรดิโอเบรียน ในที่สุดเขาก่อตั้งกองทหารใหม่เพื่อจักรวรรดิโอเบรียน นั่นคือกองกำลังชาร์ค
ขณะที่ชาร์คมีชื่อเสียงโด่งดัง เขาก่อตั้งตระกูลชาร์คด้วยตนเอง
จักรพรรดิทรงมอบดินแดนมณฑลพายัพให้ชาร์คจัดการเพื่อตระกูลของเขา จากตรงนี้ ใครๆก็สามารถบอกได้ว่าชาร์คได้รับการโปรดปรานจากราชวงศ์เป็นอย่างมาก
แต่แน่นอน...ผู้นำตระกูลรุ่นแรกมีชื่อเสียงเพราะความสามารถทางทหาร ความสามารถในการนำทัพ โดยส่วนตัวแล้วเขาก็ทรงพลังจนกระทั่งวันที่เขาตาย เขายังคงเป็นนักรบระดับแปด
แต่แม็คเคนซี่ชาร์คคือความภาคภูมิใจของตระกูล กว่าห้าสิบปีมาแล้ว แม็คเคนซี่เข้าสู่ระดับเซียนก่อนอายุครบสองร้อยปี
นักสู้ระดับเซียน!
เมื่อตระกูลหนึ่งสร้างนักรบระดับเซียนออกมาได้ ตราบใดที่นักรบผู้นั้นไม่พินาศและตระกูลไม่ก่อการกบฏ ความรุ่งเรืองของตระกูลจะไม่ตกต่ำเลย
“ปู่ทวดแม็คเคนซี่ก็มีแหวนมิติเก็บสมบัติด้วยหรือ?” คีนประหลาดใจ
“ถูกแล้ว และเขามีเพียงวงเดียว เพราะในอดีตฝ่าบาทคือองค์จักรพรรดิเองพระราชทานให้เขา” แลมเบิร์ตปลาบปลื้มใจ “ตระกูลชาร์คมักจะภูมิใจความจริงข้อนี้ เจ้าต้องเข้าใจ แม้แต่กษัตริย์ของอาณาจักรที่รุ่งเรืองในทวีปยูลานก็ยังไม่มีแหวนมิติเก็บสมบัติ”
จนถึงตอนนี้เจนน์และคีนค่อยเข้าใจอย่างแท้จริงว่าแหวนมิติเก็บสมบัติมีค่ามากเพียงไหน
“แต่ข้าไม่คาดเลยว่า...ท่านลีย์ก็ยังครอบครองแหวนมิติเก็บสมบัติ มิน่าเล่า..มิน่าเล่า เงินสิบล้านไม่มีผลอะไรต่อเขา”
เจนน์และคีนรู้สึกเหมือนว่าพวกเขาหายใจไม่ออก
“ข้าคิดว่าข้าได้ตำแหน่งสูงล้ำในฐานะผู้สืบสายเจ้าเมือง ข้าคิดว่าข้าสามารถมอบตำแหน่งสำคัญอย่างเป็นทางการให้กับพี่ลีย์ได้ แต่ดูเหมือนว่า พี่ลีย์...”ตอนนี้คีนเริ่มเข้าใจแล้ว
เจ้าเมืองปกครองเมืองสำหรับคนธรรมดาสูงส่งกว่าพวกเขาราวกับอยู่ในสวรรค์
แต่ยอดฝีมืออย่างลินลี่ย์นั้นถือว่าไม่มีอะไร เขาสามารถฆ่าใครเมื่อไหร่ก็ได้ที่เขาต้องการ