ตอนที่ 8-14 พยายามลอบฆ่า
“อันตรายมากหรือ?” ลินลี่ย์เริ่มหัวเราะ “อันตรายมากขนาดไหนกัน?”
เมื่อเห็นอาการสนองตอบของลินลี่ย์ เจนน์พยักหน้ารัวอย่างช่วยไม่ได้ “อันตรายอย่างที่สุดปัจจุบันนี้ท่านป้าข้าควบคุมเมืองเซียร์ไว้ได้ และอำนาจสิทธิ์ขาดของนางเทียบเท่ากับเจ้าเมืองในตอนนี้”
เจนน์พูดอย่างอึดอัดใจ“พี่ลีย์ ข้าเสียใจจริงๆที่ข้าไม่ได้บอกเรื่องเหล่านี้ก่อน ไม่จำเป็นเลยที่ท่านต้องเอาตัวมาเสี่ยงเพื่อข้ามันไม่คุ้มกัน”
“ฮ่าฮ่า...”
ลินลี่ย์หัวเราะ “ไม่คุ้มกันหรือ? ข้าไม่มีอะไรอย่างอื่นทำในตอนนี้ คุ้มกันเจ้าตามเส้นทางเป็นเรื่องที่ต้องทำแน่นอน อันตรายมากจนน่ากังวลน่ะหรือ?ข้าเข้าใจดีกว่าเจ้าว่ามันอันตรายหรือไม่ ช่างเถอะ, เจนน์ กลับไปพักเถอะ”
“พี่ลีย์” เจนน์ตะลึงมองลินลี่ย์
“กลับไปเถอะ” ลินลี่ย์พูดพลางยิ้มน้อยๆ
เจนน์มองแสดงความขอบคุณลินลี่ย์“ขอบคุณพี่ลีย์” แต่จากนั้น เจนน์มองเขาอย่างเคร่งขรึม “แต่ว่าพี่ลีย์ ข้าไม่อยากให้พี่ต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อประโยชน์ของข้า”
“กลับไปนอนซะ” ลินลี่ย์เริ่มทำหน้าเข้มเหมือนดุว่านาง
“โอว” เหมือนกับเด็กที่โดนดุเจนน์พยักหน้าอย่างว่าง่าย จากนั้นหันกายออกมาจากห้อง ความจริงในใจนางตอนนี้เจนน์รู้สึกมีความสุขมาก ที่สำคัญนางเป็นเด็กสาววัยสิบแปดปีแล้ว เมื่อเด็กสาวเห็นบุรุษหนุ่มที่โดดเด่นปฏิบัติกับนางเป็นอย่างดี แน่นอนว่าเด็กสาวย่อมรู้สึกเป็นสุขใจ ความจริงเจนน์ไม่ต้องการแยกจากลินลี่ย์
หลังจากเดินออกมานอกประตูเจนน์หันหน้ามาทันที
เจนน์ยิ้มหวาน“พี่ลีย์ เมื่อท่านตีสีหน้าเข้มอย่างนั้น ท่านดูน่ากลัวจริงๆ” จากนั้นนางทำท่าเหมือนเด็กวิ่งลงไปจากห้องของลินลี่ย์
เมื่อเห็นนางวิ่งออกไปลินลี่ย์ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
เมื่อสูดหายใจลึกลินลี่ย์สงบจิตใจได้จากนั้นกลับไปที่เตียงของเขาและนั่งขัดสมาธิเงียบๆ เริ่มเข้าสู่สภาวะฝึกจิตต่อ ไม่ว่าที่ไหนหรือเมื่อใดลินลี่ย์จะต้องฝึกทุกครั้งเท่าที่เป็นไปได้
ลินลี่ย์ไม่เคยลืมเรื่องการแก้แค้นให้บิดามารดาของเขา
เขาไม่เคยลืมเรื่องความตายของปู่เดลิน
ไม่มีทางลืมได้จนบัดนี้ว่าเขาได้ตั้งเป้าหมายของตัวเองไว้ ทำลายศาสนจักรเจิดจรัสแบบถอนรากถอนโคนให้ได้
“จะต้องมีสักวัน...”ลินลี่ย์ตัดสินใจอย่างมั่นคง ตอนนี้เขาไม่ต้องการอำนาจ ไม่ต้องการฐานะ ทั้งหมดที่เขาต้องการคือฝึกฝนอย่างสงบ
…..
ในที่พักแบบบ้านเดี่ยวหันหน้าเข้าหาอาคารโรมแรมมีอยู่ห้องหนึ่งจุดโคมสว่างไสวทั้งคืนบุรุษผมแดงนั่งอยู่ในห้องมีคนหกคนยืนรายล้อมเขาไว้
“ถ้างานนี้เราทำสำเร็จทุกคนจะได้รับผลประโยชน์ แต่ถ้าเราล้มเหลวพวกเจ้าทุกคนคงรู้นะว่านายหญิงเว็ดอำมหิตเพียงไหน” บุรุษผมแดงพูดอย่างใจเย็น
หัวใจของบุรุษทั้งหกเต็มไปด้วยความกลัว
ท่านหญิงเว็ดโหดร้ายอำมหิต เมื่อท่านเคาท์เว็ดยังมีชีวิตทุกคนในเมืองเซียร์รู้ว่าท่านเคาท์เว็ดเป็นเจ้าเมืองแต่เพียงในนาม ในความเป็นจริง เจ้าเมืองตัวจริงก็คือท่านหญิงเว็ดนั่นเอง
แม้แต่บุตรของท่านหญิงเว็ดก็มักรู้สึกกลัวและหนาวยะเยือกทุกครั้งที่เจอหน้านาง
โชคไม่ดีที่บุตรของนางตายไปในเวลานี้
ตามกฎแล้ว ผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าเมืองของท่านเคาท์เว็ดต้องเป็นบุตรชาย แต่ท่านหญิงเว็ดจะยอมให้พี่น้องบ้านนอกสองคนรับตำแหน่งไปได้ง่ายๆอย่างไรกัน?
“หัวหน้า ไม่ต้องห่วงครั้งนี้เราไม่พลาดแน่ แม้ว่ายอดฝีมือผู้นั้นจะแข็งแกร่งทรงพลังแต่เขาไม่สามารถคุ้มกันพวกเขาได้ตลอดเวลาแน่”หนึ่งในหกคนนั้นกล่าวอย่างเข้มแข็งและมุ่งมั่น
คนอื่นๆพยักหน้าเช่นกัน
“ดี, ข้าจัดการติดสินบนเจ้าของโรงแรมไว้แล้ว บนชั้นสามของโรงแรมมีห้องอยู่สองห้องหันหน้าเข้าหาที่พักของสองพี่น้อง เมื่อได้เวลาพวกเจ้าสี่คนจะต้องไปอยู่ที่ห้องทั้งสองนั้นอีกสองคนมากับข้า จำเอาไว้เราจะต้องเคลื่อนไหวให้เร็ว ทันทีที่มีโอกาส แต่เป้าหมายแรกก็คือเด็กผู้ชาย” บุรุษผมแดงย้ำเตือน
เพราะในตอนนี้คีนเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งอันดับหนึ่ง
เจนน์เป็นผู้หญิง คงจะเป็นเรื่องยากมากสำหรับนางที่จะรับตำแหน่งเจ้าเมือง
“เมื่อเด็กผู้ชายออกมา เราจะลงมือ หลังจากฆ่าเขาถ้าเรามีโอกาสเราสามารถฆ่าเด็กผู้หญิงด้วยเช่นกัน” บุรุษผมแดงพูดอย่างเย็นชา “ตอนนี้ เราไปรอกัน บางทีเด็กผู้ชายอาจต้องการเดินไปห้องน้ำตอนกลางคืนก็ได้นั่นจะทำให้เราจบภารกิจได้ง่ายขึ้น”
“ขอรับ หัวหน้า!”
บุรุษสี่ในหกคนทำตามคำสั่งบุรุษผมแดงออกจากที่พักทันทีมุ่งหน้าตรงไปยังโรงแรมและไปยังห้องพักที่ชั้นสามซึ่งได้ตระเตรียมไว้ก่อน
จันทราโค้งลอยเด่นอยู่ในท้องฟ้ายามราตรีและแสงจันทร์ฉายลงมายังพื้นโลกนุ่มนวลตา
มือธนูที่บุรุษผมแดงพามาด้วยในครั้งนี้เป็นพลธนูฝีมือดีของเมืองเซียร์ พวกเขาน่าจะยิงเด็กผู้ชายผู้อ่อนแอและไม่ทันตั้งตัวได้ง่ายๆจากระยะห่างห้าสิบหรือหกสิบเมตร
“หัวหน้า, เราจะเอาไงดี?” บุรุษอีกสองคนที่ยืนอยู่ข้างบุรุษผมแดงถาม
บุรุษผมแดงพูดอย่างใจเย็น “ภารกิจของเจ้าคือ...ถ้าสี่คนนั้นไม่มีโอกาสฆ่าเด็กผู้ชายจงปลอมตัวเป็นบริกรของโรงแรมส่งอาหารเช้าไปให้พวกเขา เมื่อเจ้าอยู่ใกล้เด็กผู้ชายจงฆ่าเขาด้วยการลงมือครั้งเดียว”
“หัวหน้า!” ทั้งสองคนลนลานทันที
สั่งให้พวกเขาปลอมเป็นบริกรไปฆ่าเด็กชายหรือ? แต่นักสู้ผู้แข็งแกร่งนั่นกับสหายเสือดำยังอยู่ตรงนั้น ต่อให้พวกเขาทำสำเร็จพวกเขาจะสามารถรอดอยู่ได้หรือ?
“ฮึ่ม..”
บุรุษผมแดงมองดูพวกเขาเย็นชา “พวกเจ้าทั้งสองไม่มีทางเลือก เมื่อพวกเจ้าแปดคนมากับข้าครอบครัวของพวกเจ้าทั้งหมดถูกท่านหญิงเว็ดจับไปหมด เมื่อภารกิจของเจ้าล้มเหลวไม่เพียงแต่เจ้าถูกตัดสินเท่านั้น แม้แต่ครอบครัวของเจ้าก็จบสิ้นด้วยเช่นกัน แต่ถ้าเจ้าทำได้สำเร็จ ต่อให้เจ้าตาย แต่ครอบครัวเจ้าจะได้รับการปฏิบัติอย่างดี”
บุรุษทั้งสองหน้าซีดทันที
“เจ้าทั้งสองคนควรรู้ว่าท่านหญิงเว็ดเป็นคนแบบไหน,และข้าเป็นคนแบบไหน” บุรุษผมแดงพูดอย่างไม่ไยดี
แม้ว่าบุรุษผมแดงนี้ปกติจะเป็นหัวหน้าพวกเขาแต่ในความเป็นจริง เขาไม่มีอะไรมากไปกว่าสุนัขรับใช้ผู้ภักดีของท่านหญิงเว็ด เขาจะไร้ความปราณีเมื่อฆ่าคน
“แต่แน่นอน ถ้าอีกสี่คนทำงานสำเร็จ อย่างนั้นไม่มีความจำเป็นต้องให้พวกเจ้าต้องเสี่ยงชีวิต” บุรุษผมแดงพูดอย่างใจเย็น “ตอนนี้ เจ้าทั้งสองคนควรอธิษฐาน อธิษฐานว่าเทพสงครามจะอำนวยพรให้พวกเจ้า”
ทั้งสองคนได้แต่เงียบ
พวกเขาได้ชื่อว่าเป็นทหารมือดีจากกองทัพ แต่คนตัวเล็กๆอย่างพวกเขาจะสามารถต่อต้านท่านหญิงเว็ดได้อย่างไร? และสิ่งที่ยิ่งกว่านั้นบุรุษผมแดงยังคงจับตาดูพวกเขา
……
ตอนนี้มีมือธนูสี่คนประจำอยู่บนชั้นสามของโรงแรม ทุกคนกำลังนอนซุ่มอยู่ในห้องแยกกัน ในแต่ละห้องพักอยู่หนึ่งคน ขณะที่อีกคนคอยมอง พวกเขาต้องอยู่ในสภาพสุดยอดและทันทีที่คีนก้าวเท้าออกมาพวกเขาจะปลุกคนอื่นทันที
ยามราตรีผ่านไปเชื่องช้า
คืนนี้คีนไม่ได้ออกมาจากห้องของเขาแม้แต่ก้าวเดียว ท้องฟ้าเริ่มสางและอากาศยามเช้าสดชื่นทำให้จิตใจของมือธนูทั้งสี่สดชื่น
“แอ๊ด”
ประตูเปิดออก
“เขากำลังออกมา” พวกมือธนูที่จับตาดูในอีกห้องหนึ่งเตือนเพื่อนร่วมงานของพวกเขา
มือธนูสี่คนในอีกสองห้องรู้สึกหัวใจเต้นแรง ทุกคนลอบมองไปทางหน้าต่างที่ตำแหน่งที่เจนน์กับคีนพัก
“เป็นเด็กผู้หญิง อย่าเพิ่งรีบร้อน รอก่อน” มือธนูรออย่างเงียบงันต่อ
……
เมื่อผลักเปิดประตู หน้าของเจนน์มีรอยยิ้ม หลังจากรู้ว่าลินลี่ย์ไม่จากไปและจะยังตามคุ้มครองพวกเขาแม้ว่านางจะรู้ว่าเส้นทางข้างหน้าเต็มไปด้วยอันตราย เจนน์ก็ยังรู้สึกมีความสุขมาก
“อา..ดีจริง อากาศสดชื่นจริงๆ”เจนน์หลับตาสูดอากาศสดชื่นยามเช้า
และจากนั้นเจนน์เดินกลับเข้าไปที่ห้องของน้องชายนาง เสียงชัดใสของนางดังขึ้น “คีน, ได้เวลาลุกขึ้นแล้ว อย่าเกียจคร้านเอาแต่นอนเลย” ขณะที่นางพูด เจนน์เคาะประตูด้วย
เมื่อได้ยินเสียงเจนน์ ลินลี่ย์ลืมตาและเสร็จสิ้นการฝึก ขณะที่แฮรุเสือดำเมฆาของลินลี่ย์หลับอยู่ที่ฐานเตียงของลินลี่ย์ มันยังไม่ลืมตา
….
คีนยังอยู่ในชุดนอนขณะเปิดประตูเขาขยี้ตาสะลึมสะลือบ่น “พี่, ทำไมปลุกข้าแต่เช้านักเล่า? ข้ายังไม่อยากตื่น ไม่ได้นอนอย่างสมใจแบบนี้มานานแล้ว”
ในช่วงนั้นเองตาของมือธนูที่อยู่ในชั้นสามของโรงแรมเป็นประกาย
“เป้าหมายเคลื่อนไหวแล้ว”
มือธนูทั้งสี่ขึ้นสายธนูพร้อมกันและเตรียมยิง
…..
“คุณหนู คุณชายพวกท่านทั้งสองลุกขึ้นแต่เช้านัก” แลมเบิร์ตบ่าวชราผลักเปิดประตูออกมาเช่นกัน
“อรุณสวัสดิ์ ปู่แลมเบิร์ต”เจนน์ทักทายอย่างเป็นกันเอง
คีนเพิ่งจะลุกแต่ก็ยังลูบตาของเขาอยู่ “ปู่แลมเบิร์ตข้าไม่ได้ลุกขึ้นเร็วนะ เป็นพี่สาวปลุกข้า”
ขณะนั้นเอง
“ยิง!”
มือธนูจากหนึ่งในห้องชั้นที่สามส่งเสียงออกคำสั่งเบาๆมือธนูอีกสองคนลุกขึ้นยืน ธนูของเขาปรากฏที่หน้าต่าง
“ควั่บ ควั่บ”
ธนูแหลมคมสองดอกยิงออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันมือธนูอีกสองคนจากอีกห้องหนึ่งก็ยิงออกมาเช่นกัน
“ควั่บ ควั่บ!
ธนูสองดอกหน้าและสองดอกหลัง ในพริบตาธนูเหล่านั้นแหวกอากาศพุ่งตรงมาข้างหน้าเจนน์ ธนูสองดอกเล็งเป้าหมายที่นาง ขณะที่อีกสองดอกเล็งใส่คีน
ช่วงเวลานี้เอง...ลินลี่ย์ยังคงอยู่ในห้องของเขา แลมเบิร์ตบ่าวชราอยู่ห่างสองพี่น้องเกินกว่าสิบเมตร ต่อให้เขาใช้ความเร็วไม่มีทางที่เขาจะป้องกันได้ทันเวลา
“คุณหนู!” แลมเบิร์ตได้แต่ร้องเตือน
เจนน์กับคีนสองพี่น้องรู้สึกถึงอันตรายกำลังใกล้เข้ามาจึงหันศีรษะมาดู แต่ทั้งหมดที่สองพี่น้องเห็นเหมือนกับเป็นภาพช้าธนูเหล่านั้นพุ่งเข้ามาใกล้พวกเขาทุกขณะ
ธนูเหล็กแหวกอากาศส่งเสียงหวีดดังแสบแก้วหู
“แคล้ง แคล้ง แคล้ง แคล้ง!”
เสียงธนูดังตามลำดับกัน
…..
เจนน์กับคีนสองพี่น้องยืนแข็งทื่ออยู่กับที่ แลมเบิร์ตกลัวจนตัวแข็ง แอ๊ด..เสียงประตูห้องลินลี่ย์เปิดออก
ลินลี่ย์ออกมาจากห้อง
“บีบี, จัดการให้หมด”
บีบียังยืนบังอยู่ข้างหน้าเจนน์กับคีนจากนั้นในพริบตา บีบีป้องกันลูกธนูทั้งสี่ได้อย่างง่ายดาย
หลังจากพยายามลอบฆ่าเมื่อวานนี้ ลินลี่ย์คาดว่ามือสังหารในลักษณะนี้จะต้องลงมืออีกในวันนี้ ดังนั้นเขาสั่งให้บีบียืนเฝ้าข้างนอกทั้งคืนเพื่อรักษาความปลอดภัย
ลักษณะกายภาพของบีบีเล็กมาก เมื่อมันซุ่มอยู่ในพื้นที่พุ่มหญ้าในลานบ้านแม้แต่เจนน์และคีนก็ไม่ทันได้สังเกตเห็นมัน พอๆ กับมือธนู
“เจ้านาย คอยดูก็พอ”บีบีเลียริมฝีปากอย่างตื่นเต้น
“ควั่บ”
เงาดำที่ดุร้ายพุ่งวับผ่านอากาศทันที ความสูงราวๆ สิบเมตรไม่มีผลอะไรต่อบีบีมันโดดตรงเข้าไปในหน้าต่างที่เปิด เมื่อมือธนูลอบทำร้ายล้มเหลวมองเห็นหนูเงาน้อยหัวใจพวกเขาสั่นสะท้านและพยายามหนีทันที
แต่ก่อนที่พวกเขาจะมีโอกาสออกมาจากห้อง บีบีก็เข้าห้องมาแล้ว
กรงเล็บทั้งสองของมันสะบัดไปข้างหน้ามือธนูสองคนล้มลงจมกองเลือดทันที จากนั้นบีบีกระแทกเข้าที่ผนังอย่างรุนแรงทะลุผ่านรูที่มันสร้างเข้าไปอีกห้องหนึ่ง
มือธนูที่เหลืออีกสองคนก็รีบหนีเช่นกัน
เมื่อพวกเขาหันมาก็เห็นเงาดำบินผ่านพวกเขาไป พวกเขาไม่มีโอกาสได้ส่งเสียงร้อง “ฉัวะ ฉัวะ”เสียงกรงเล็บทั้งสองตัดผ่านก้านคอได้ยินชัดเจน
บีบีหันไปมองดูซากศพทั้งสองบนพื้น จากนั้นหมุนตัวออกมาทางหน้าต่างกลับมาที่ลานบ้าน ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ ใช้เวลาสองสามวินาที
“บีบี, ทำได้เยี่ยม” ลินลี่ย์ชมขณะหัวเราะ
บีบียืดตัวเชิดหัวอย่างดีใจขณะนั้นเองเสือดำเมฆาแฮรุคำรามเบาๆ ไม่พอใจบีบี “ฮึ.. ถ้าข้าไปเองยังจะไวกว่านี้อีก”
บีบีคำรามเถียงเสือดำเมฆาอย่างไม่พอใจ
ลินลี่ย์ไม่อาจใส่ใจปลอบโยนพวกมันทั้งสองได้ เขาเดินไปหาเจนน์กับคีนและแลมเบิร์ตที่ยังอยู่ในอาการตกใจ พวกเขาหลบหลีกจากห้วงความเป็นความตายสองวันติดๆ กัน แม้ว่าในอดีตสองพี่น้องจะถูกรังแกบ่อยแต่พวกเขาไม่เคยตกอยู่ในอันตรายขนาดนั้น
“ปลอดภัยทุกอย่างแล้ว ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว”
ลินลี่ย์แตะไหล่เจนน์เบาๆ เจนน์ร้องกรี๊ด..หลั่งน้ำตากอดลินลี่ย์แน่นทันที คีนที่อยู่ข้างๆเริ่มสะอื้นและเข้ามากอดลินลี่ย์ด้วยเช่นกัน
ลินลี่ย์ไม่มีทางเลือกได้แต่ปลอบโยนสองพี่น้อง
หลังจากสองคนสงบใจได้แล้วลินลี่ย์ถามแลมเบิร์ตที่อยู่ใกล้ๆ “แลมเบิร์ต, ท่านเตรียมอาหารเช้าไว้แล้วใช่ไหม?”
“ใช่แล้ว, อีกเดี๋ยวทางโรงแรมอาจจะส่งคนนำอาหารเช้ามาให้” แลมเบิร์ตมองดูลินลี่ย์ด้วยสายตาซาบซึ้งและขอบคุณ