ตอนที่ 30 โทษทุกอย่างที่อธิบายไม่ได้(ฟรี)
ภายในหุบเขาไร้คน บนเนินหินทราย
เจียงมู่ซึ่งอยู่ในสภาพล่องหนซ่อนตัวอยู่หลังก้อนหิน
แอบสังเกตพระเอกเอกกับปีศาจบนผืนทรายที่อยู่ไกลออกไป
“ไม่เป็นไรๆ หลิงอ่าวเทียนยังไม่ตาย”
ในที่สุดหัวใจกังวลอยู่ของเจียงมู่ก็ผ่อนคลายลง
เขาเห็น หลิงอ่าวเทียนถูกขังอยู่ในกรงทรายรูประฆัง ขาข้างหนึ่งคุกเข่าลง หน้าซีด เสื้อผ้าเต็มไปด้วยเลือดและกำลังหอบหนัก
เขาบาดเจ็บสาหัส และผู้ที่อยู่นอกกรงทรายคือ ชาหวู่เหวิน
มันมีใบหน้าเหมือนมนุษย์ มีเขาสีดำสองเขาบนหน้าผาก ร่างกายปกคลุมด้วยเกราะแมลงสีดำ แขนขายาวคล้ายปล้อง มีดวงตาดำโปน
ชาหวู่เหวินก็ได้รับบาดเจ็บหนักเช่นกัน
แขนขวาหัก เกราะแมลงสีดำบนร่างกายพังยับเยินแฃะเขาบนหน้าผากหักครึ่ง
เป็นไปได้ว่าการต่อสู้ระหว่างทั้งสองคงรุนแรงมาก และจากผลลัพธ์นี้ ดูเหมือนว่า ชาหวู่เหวิน จะเป็นฝ่ายชนะในท้ายที่สุด
ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่บนพื้น ดูดซับเม็ดทรายรอบตัวเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ
“ให้ตายเถอะ พื้นทรายนี่มันสนามหลังบ้านของชาหวู่เหวิน ชัดๆ”
“หลิงอ่าวเทียนช่างโง่จริงๆ ถูกความเกลียดชังบังตา และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเผ่าหนอนทรายกลืนวิญญาณมีความเชี่ยวชาญในการควบคุมทราย”
เจียงมู่อดไม่ได้ที่จะบ่นเล็กน้อยเกี่ยวกับพระเอกคนนี้
ถึงจะบ่นก็ตาม เขาก็ยังต้องหาทางให้เนื้อเรื่องดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น
“แต่จะทำยังไงดีล่ะ?”
เจียงมู่สามารถคิดวิธีเดียว
ยาพิษระเบิด!
ด้วยการล่งอหน เขาสามารถแอบเข้าไปใกล้ ชาหวู่เหวินและโยนระเบิดพิษใส่
เมื่อ ชาหวู่เหวิน ถูกระเบิดยาพิษ กรงทรายจะสูญเสียการควบคุมและถูกยกเลิกโดยธรรมชาติ
ในเวลานั้นหลิงอ่าวเทียนจะหลุดออกจากกับดักและฆ่า ชาหวู่เหวิน ด้วยมือของเขาเอง
สมบูรณ์แบบ!
เจียงมู่ใช้งานยาพิษระเบิดภายในตันเถียนทันที
และแอบไปยังจุดที่ชาหวู่เหวินอยู่อย่างลับๆ
***
หลิงอ่าวเทียนสูดหายใจเข้าลึก ๆ พยายามใช้แรงทั้งหมดและตะโกนอย่างขุ่นเคือง
“อาจารย์ ข้าด้วย!”
“อย่าเปลืองแรงเลย เจ้าตะโกนไปหลายรอบแล้ว ถ้าอาจารย์เจ้าจะมา คงมานานแล้ว”
ชาหวู่เหวิน ยิ้มเย้ยหยันเผยฟันแหลมสีดำเป็นแถว
ในความเป็นจริงเขายังกลัวอาจารย์ที่หลิงอ่าวเทียนเรียกอยู่
เพราะก่อนหน้านี้ อาจารย์ของหลิงอ่าวเทียนเป็นผู้ระเบิดฐานทัพของเขา ฝังเขาลงใต้ดินหนึ่งร้อยเมตร
เพื่อที่จะสามารถระเบิดภูเขาได้ อย่างน้อยก็ต้องผู้ฝึกตนหลอมสุญตาเท่านั้นจึงจะทำได้!
ดังนั้นทันทีที่เขาถูกค้นพบ เขาแกล้งทำเป็นได้รับบาดเจ็บสาหัสและหลบหนีไปทันที
ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด คือ คนที่ตามเขามา
น่าแปลกใจที่มีเพียงหลิงอ่าวเทียนคนเดียว
“ในเมื่ออาจารย์ของเจ้าไม่ได้ตามเจ้ามา ดังนั้นการมีเจ้าเป็นตัวประกันก็ไม่มีประโยชน์!”
ชาหวู่เหวิน หัวเราะเยาะ
เดิมที เขาต้องการจับหลิงอ่าวเทียนไว้ใช้เป็นตัวประกันเพื่อที่เขาจะได้มีโอกาสรอดชีวิต
ในเมื่ออาจารย์ของหลิงอ่าวเทียนไม่ออกมา เขาจึงไม่ต้องกังวลอีกต่อไป
เขาจึงตัดสินใจฆ่าหลิงอ่าวเทียนแล้วจะหนีกลับไปที่ชายแดนปีศาจใต้!
แต่ก่อนฆ่า. เขาต้องทรมานมันก่อนเพื่อบรรเทาความเกลียดชังที่ฐานที่มั่นของเขาถูกทำลาย!
ชาหวู่เหวิน ยืนขึ้นและเดินไปด้านหน้าของ หลิงอ่าวเทียนยิ้มแดกดันขณะที่เขาพูด
“แค่อาศัยเจ้า คิดจะฆ่าผู้บัญชาการคนนี้เหรอ?”
“แก้แค้น?
“124 คนในหมู่บ้านหลิงของเจ้าถูกสังหารตามคำสั่งของผู้บัญชาการคนนี้
“ตอนนี้ศัตรูที่กวาดล้างหมู่บ้านของเจ้าอยู่ตรงหน้าเจ้าแล้ว เจ้าจะทำอะไรกับข้าได้หรือ?”
หลิงอ่าวเทียนไม่สามารถตอบโต้ได้
เขาทำได้เพียงแสดงความโกรธด้วยสายตาอาฆาตและการกัดฟัน
ชาหวู่เหวิน หัวเราะเยาะก่อนทำมุทราใช้คาถาวิญญาณกรวยทราย
ทรายบนพื้นรวมตัวกันเป็นรูปกรวยหลายสิบแท่งยิงใส่หลิงอ่าวเทียนในกรงทราย
“อ๊ากกก!”
หลิงอ่าวเทียนร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด บนเสื้อผ้าของเขาปรากฏรูเลือดหลายแห่ง
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
ชาหวู่เหวิน หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง มองไปที่ หลิงอ่าวเทียนที่โชกเลือดและสะบักสะบอม หัวใจของเขารู้สึกโล่งใจอย่างมาก
ทันใดนั้นเขาพูดด้วยรอยยิ้มที่ดูร้ายกาจ
“ข้าจะบอกความลับอีกอย่างกับเจ้าก็ได้”
“มีเด็กสาวขี้แยคนหนึ่งชื่อหลิงซานเอ๋อ”
“ก่อนที่นางจะตาย นางทิ้งคำพูดสุดท้ายไว้”
“เจ้าอยากรู้ไหมว่านางพูดอะไร”
หลิงซานเอ๋อ?
หัวใจของ หลิงอ่าวเทียนเจ็บปวด
นั่นคือเด็กสาวที่เขาชื่นชอบ ไร้เดียงสา น่ารัก และกระตือรือร้น มักจะติดตามเขาและเรียกเขาว่า “พี่อ่าวเทียน”
ถ้าเขาไม่ได้ออกไปล่าสัตว์ทั้งคืนในวันนั้น
เขา...อาจ...พาหลิงซานเอ๋อหนีไปด้วยได้ ….
“คำพูดสุดท้ายของนางคืออะไร!”
ดวงตาสีแดงของหลิงอ่าวเทียนจ้องไปที่ชาหวู่เหวิน
เขาอยากจะฉีกมันออกเป็นพันๆชิ้น!
“เจ้าอยากรู้ไหม”
ชาหวู่เหวิน กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของ หลิงอ่าวเทียนอยู่ครู่หนึ่ง
"บอกข้า!!!"
หลิงอ่าวเทียนคำรามอย่างไร้เรี่ยวแรง
“ข้าแนะนำว่าอย่ารู้เลย”
ชาหวู่เหวิน ปิดหูของเขา
เมื่อเห็นท่าทางกวนตีนของชาหวู่เหวิน หลิงอ่าวเทียนกัดฟัน เลือดไหลออกมาตามไรฟันของเขา เขาเค้นเสียงพูดออกมาทีละคำ
“บอก ข้า มา!!!”
ชาหวู่เหวิน มองดูมสภาพที่ทำอะไรไม่ได้และทนไม่ไหวของหลิงอ่าวเทียนด้วยความยินดีอยู่สักพัก
จากนั้นเขาก็เข้าใกล้กรงทรายอย่างสบาย ๆ และมองลงไปที่หลิงอ่าวเทียนจากด้านบน
เขายกขาขึ้นและชี้ไปที่… และหัวเราะออกมา
“ในตอนนั้น หลิงซานเอ๋ออยู่ในห้องของข้าผู้นี้… ก่อนที่นางจะตาย นางร้องออกมาอย่างมีความสุข: 'พี่อ่าวเทียน ซานเอ๋อต้องการ * อ้า!'”
บึ้ม!!!
เสื้อของ หลิงอ่าวเทียนฉีกออกจากกัน ดวงตาของเขาแดงราวฉานราวกับอสูรร้ายที่ผุดขึ้นมาจากยมโลก และเขาจับกรงและตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้น
“ไอ้สวะ-!!!”
มือของเขาจับกรงทรายแน่น
กรงทรายปล่อยแสง ดูดซับความชื้นจากแขนของเขา ทำให้แขนของเขาเหี่ยวเฉา
"อ๊าก!!!"
หลิงอ่าวเทียนเอามือจับแขนด้วยความเจ็บปวดและทรุดตัวไปข้างหลัง
น้ำตาของเขาไหลออกมาจากดวงตา
ในใจของเขาแทบทนไม่ไหวที่จะได้ฉีกชาหวู่เหวินออกเป็นชิ้นๆ!
แต่ถ้าไม่มีอาจารย์ ข้าไม่สามารถเอาชนะสวะนี่ได้ และหนีออกจากกรงนี้ไม่ได้!
ข้า..ต้องมาตายอยู่ที่นี่หรือ?
หลิงอ่าวเทียนไม่เต็มใจ
ทันใดนั้นหัวใจของเขาก็เต้นแรง
มันเป็นแท่งก้อนผลึกในหัวใจของเขา
นี่คือ....
ถูกต้อง! ข้ายังมีไพ่ตายนี้อยู่!
หลิงอ่าวเทียนเห็นความหวังทันที
ตราบใดที่เขาใช้พลังของก้อนผลึกลึกลับนี้ เขาก็สามารถพลิกสถานการณ์ได้!
หลิงอ่าวเทียนแอบรวบรวมพลังวิญญาณเพื่อสื่อสารกับผลึกในหัวใจของเขา
ในเวลาเดียวกัน เขาก็ด่าชาหวู่เหวินด้วยความโกรธ
"ไอ้เศษสวะ!! ข้าจะฉีกเจ้าออกเป็นชิ้นๆ!! ล้างแค้นให้ซานเอ๋อ!!!"
ชาหวู่เหวินหัวเราะออกมา
“แน่นอน เผ่ามนุษย์ที่ผูกมัดด้วยอารมณ์ โกรธง่ายด้วยคำพูดไม่กี่คำ ช่างโง่เขลาเสียจริง”
“มนุษย์ผู้ต่ำต้อยเช่นเจ้าจะครอบครองดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ของทวีปเก้ารัฐได้อย่างไร”
“มีเพียงข้า เผ่าพันธุ์หนอนทรายกลืนกินวิญญาณ ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะปกครองทวีปเก้ารัฐ และแม้แต่โลกชางหลิง ทั้งหมด! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
ใบหน้าของชาหวู่เหวินเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและหัวเราะออกมา
เสียงหัวเราะแผ่กระจายไปกับสายลมและผืนทราย ดังก้องไปทั่วเนินหินทราย
สิ่งนี้ทำให้ เจียงมู่ซึ่งอยู่ใกล้เขาพูดไม่ออก
“พี่ชาย เจ้าไม่รู้หรือว่าตัวร้ายมักตายเพราะพูดมากเกินไป? นี่เรียกว่าความฉลาดลดลงหรือเปล่า? ดูเหมือนว่าผู้เขียนหนังสือห่วยๆ เล่มนี้จะไม่รู้วิธีสร้างตัวร้ายดีๆ”
ในขณะที่เขาบ่นในใจ เจียงมู่รีบใช้งานระเบิดยาพิษภายในตันเถียนเพื่อป้องกันไม่ให้หลิงอ่าวเทียนเปิดเผยไพ่ลับล่วงหน้า
มิฉะนั้น หากหลิงอ่าวเทียนเปิดเผยก้อนผลึก
และชาหวู่เหวินหนีไปได้สำเร็จ เขาจะนำความลับนี้ไปบอก ชาเฮอ
จากนั้นโครงเรื่องก็จะเละเทะ
"ออกมา! ยาพิษระเบิด!"
เพียงความคิด ปรากฏปราณสีดำหมุนวนอยู่บนฝ่ามือและยาพิษระเบิดพิษสีดำขนาดครึ่งกำปั้นลอยอยู่เหนือฝ่ามือของเขา
"ใคร!"
หัวใจของ ชาหวู่เหวิน สั่นสะท้านในขณะที่เขาหันหลังกลับอย่างกระวนกระวาย
เขารู้สึกได้ถึงลมหายใจแห่งความตายจมาจากข้างหลังเขา
แต่สิ่งที่เขาเห็นข้างหลังเขาคือกองทราย และไม่มีอะไรอยู่แม้แต่สิ่งเดียว
ภาพหลอน?
เขารู้สึกโล่งใจเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม วินาทีต่อไป ทรงกลมสีดำขนาดครึ่งกำปั้นก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา
บนพื้นผิวของทรงกลมสีดำปล่อยปราณพิษที่รุนแรงและมันก็เต็มไปด้วยลมหายใจแห่งควาตาย!
“อ…!”
บูม!!!
ทรงกลมสีดำระเบิดออก กลบเสียงกรีดร้องอันหวาดกลัวของ ชาหวู่เหวิน
หมอกพิษสีแดงและสีดำปกคลุมทั่วร่างกายของเขาในทันที
"อา! นี่มัน …. พิษของปีศาจต้นไม้พิษเลือด! กับ…. พิษวารีทมิฬ!!! อ๊าา!!!"
ชาหวู่เหวิน ล้มลงกับพื้นอย่างเจ็บปวด ร้องไห้ออกมาด้วยเสียงขาดห้วง
ร่างกายแขนขาของเขาเริ่มบิดเบี้ยวและเป็นอัมพาต
เนื้อทั่วร่างกายของเขาค่อยๆ เหี่ยวย่นและยุบตัวด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
เลือดและน้ำผสมกับเนื้อถูกขับออกจากที่ที่มีรู
ใช้เวลาเพียงครู่เดียว
ร่างของชาหวู่เหวินก็เหี่ยวเฉาและถูกย้อมไปด้วยสีดำแดง!
เมื่อมองไปฉากนี้ หลิงอ่าวเทียนที่อยู่ในกรงทรายก็รู้สึกตกตะลึง
แต่ที่มากกว่านั้นคือความยินดี!
เขารู้สึกได้ว่า ชาหวู่เหวิน ถูกพิษของวารีทมิฬ!
อาจารย์! อาจารย์มาช่วยข้าแล้ว!!!
หลิงอ่าวเทียนตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น
ในเวลาเดียวกัน กรงทรายที่ขังเขาไว้ก็พังทลายไปพร้อมกับตอนที่ชาหวู่เหวินล้มลง!
“ไอ้สวะ ข้าจะฆ่าเจ้าด้วยมือของข้า!!!”
หลิงอ่าวเทียนระเบิดพลังวิญญาณและกระโดดขึ้นไปกลางอากาศ
เขาเหยียดแขนขวาออกไป
“หมัดวารีพิษเทพนาคา!!!”
พลังปีศาจที่บ้าคลั่งล้อมพันรอบแขนของเขา ม้วนกลายเป็นงูสีดำขนาดใหญ่ที่มีตาสีทอง
“จงยอมรับชะตากรรมของเจ้าซะเถอะ!!!”
ปัง!
กำปั้นอันรุนแรงฟาดเข้าที่หลังของ ชาหวู่เหวิน
มันแทงทะลุหน้าอกของเขา!
งูสีดำที่มีรูม่านตาสีทองขนาดใหญ่เจาะเข้าไปในร่างกายของชาหวู่เหวิน ทันที
เนื่องจากงูสีดำรูม่านตาสีทองมีทั้งพิษวารีทมิฬและพิษต้นไม้เลือด มันยิ่งทำให้ร่างกายของ ชาหวู่เหวิน แหลกสลายและเหี่ยวย่นมากขึ้น
ในที่สุดร่างกายของเขาก็เปลี่ยนจากการกระตุกเป็นหดตัว
"อ๊าก!"
ชาหวู่เหวินซึ่งร่างกายพิการไปแล้ว กระอักเลือดสีดำออกมาโดยปราศจากความเจ็บปวดใดๆ
เขารู้สึกสำนึกผิดอย่างยิ่ง เขาควรจะจะวิ่งหนีทันทีหลังจากฆ่าหลิงอ่าวเทียน
แต่ไม่มียารักษาความเสียใจในโลกนี้
เขารู้ว่าเขาจะไม่รอดแน่
ดังนั้นเขาจึงร่ายคาถาต้องห้ามของเผ่าหนอนทรายกลืนวิญญาณ
“เทพทรายหลอกเปลือก!”
ศีรษะของเขาซึ่งหลุดออกจากร่างไปแล้ว กลายเป็นเม็ดทรายและรวมเข้ากับแผ่นดินในพริบตา
“หลิงอ่าวเทียน! ผู้บัญชาการคนนี้จะไม่มีวันปล่อยเจ้าไป!!!”
หลังจากทิ้งคำพูดไว้ ชาหวู่เหวิน ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ดูเหมือนว่าเขาหนีไปแล้ว
“สารเลว! ข้า หลิงอ่าวเทียนขอสาบาน! ข้าจะต้องสังหารเจ้าและกวาดล้างเผ่าหนอนทรายกลืนวิญญาณทั้งหมดให้ได้!!!”
ความโกรธและความขุ่นเคืองอันไร้ขอบเขตดังก้องไปทั่วป่าหินทราย
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เจียงมู่ซึ่งอยู่ด้านหลังก้อนหินในระยะไกลก็รู้สึกขอบคุณอย่างลับๆ
“ดี! ผลลัพธ์นี้สอดคล้องกับโครงเรื่องเดิม”
“ให้ตายเถอะ มันเป็นความผิดของยายแก่จมูกยาวนั่นที่บิดเบี้ยวอย่างอธิบายไม่ได้!”
"ห่ะ? นางปีนขึ้นมาจากหลุมลึก 100 เมตรได้จริงๆเหรอ? ”
เจียงมู่รู้สึกตกใจมากที่เห็นว่า เฮยสุยชาที่มีลำตัวและหางเป็นงูกำลังรีบออกจากป่าด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาทและไปถึงจุดที่หลิงอ่าวเทียนอยู่
“ต้องรีบเผ่นแล้ว….”
เจียงมู่ไม่กล้าอยู่ต่อ ดังนั้นเขาจึงยกเท้าขึ้นและจากไปอย่างเงียบๆ
“ให้ตายเถอะ ข้าไม่ควรไปดูการต่อสู้ขอหลิงอ่าวเทียนอีกต่อไป”
“สุญตาเทพซ่อนเร้นที่ได้รับมาจากระบบหมาๆไม่สามารถซ่อนตัวจากสัมผัสเทพของ เฮยสุยชาได้ …”
***
"อาจารย์! ชาหวู่เหวิน หนีไปแล้ว!”
หลิงอ่าวเทียนชี้ไปที่ศพไร้หัวบนพื้นด้วยความโกรธ
“เห็นแล้ว”
เฮยสุยชารู้อย่างชัดเจน และรูม่านตาแนวตั้งสีทองของนางจ้องมองไปที่ศพไร้หัวบนพื้น
ดูเหมือนว่า ชาหวู่เหวิน จะใช้วิชาต้องห้ามของเผ่าหนอนทรายกลืนวิญญาณ 'เทพทรายหลอกเปลือก' เพื่อทำให้ศีรษะของเขากลายเป็นทรายละเอียดและผสานเข้ากับพื้นดิน
ในที่สุดเขาก็หลบหนีและกลับไปที่ชายแดนปีศาจใต้
กล่าวอีกนัยหนึ่ง เนื้อเรื่องดำเนินไปได้ด้วยดี!
ตามที่คาดไว้สำหรับพระเอก แม้จะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากประสบการณ์เชิงกลยุทธของเฮยสุยชาแต่เขาก็สามารถพลิกสถานการณ์ได้ในท้ายที่สุด
"ทำได้ดีมาก!"
เฮยสุยชาอารมณ์ที่ดีและชื่นชมหลิงอ่าวเทียนอย่างหาได้ยาก
นางพอใจกับผลลัพธ์
อย่างไรก็ตาม ในวินาทีถัดมา สีหน้าเย็นชาและไร้ความปรานีปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง
เจียงมู่ ไอ้ลูกหมา!
เมื่อฤดูล่าสิ้นสุดลง เทพองค์นี้จะต้องไปหาเจ้าถึงหน้าประตูบ้านและตัดขาเจ้าให้ได้!
***
“ฮัชชิ้ว!”
เจียงมู่ซึ่งออกจากหุบเขาไร้คนแล้วจู่ ๆ ก็จาม
“วันนี้อากาศร้อน ทำไมข้าถึงจาม”
“มีใครคิดถึงข้างั้นเหรอ”
“อาจเป็นติงหนานหรง”
เมื่อนึกถึงภาพของติงหนานหรงกำลังตามหาเขา เขารู้สึกอยากระอักเลือด
เจียงมู่ไปที่ริมลำธารและล้างหน้าด้วยน้ำ
และหาที่ร่มๆแล้วนั่งลงไป
เขาดึงบันทึกของเขาออกมา
เขาวางแผนที่จะเขียนบันทึกด่าเฮยสุยชาเพื่อระบายความโกรธของเขา