ตอนที่ 185 คุณชายขลุ่ยวิเศษ
พวกเขาคุ้นเคยกับถังเทียนที่ขี้เล่นและไร้เดียงสาเมื่อเห็นถังเทียนแสดงความเด็ดขาดอย่างนั้นทุกคนตะลึงทันที
มีแต่หลิงซิ่วที่กัดฟันกรอดและโกรธยิ่งขึ้น “บัดซบเอ๊ย!รอให้ข้าฟื้นคืนพลังเสียก่อน เจ้าตายแน่!”
ชิงหลวนต้องการพูดบางอย่าง แต่นางตะลึงมากจนนางไม่สามารถพูดออกมาได้ มุมมองด้านหลังของชายหนุ่มในเกราะเงิน ในสายตานางเผาลนด้วยความปรารถนาจะต่อสู้ นางแทบไม่สามารถทนได้ ทันใดนั้น นางนึกถึงคำแนะนำของไจ๋เหิงจ้านก่อนนั้นว่า ถังเทียนเป็นคนอันตราย
หน้าของกู้เสวี่ยมีแวววิตกกังวล แต่นางไม่ห้ามปรามเขา ไจ๋เหิงจ้านและชิงหลวนอาจจะไม่เข้าใจถังเทียน แต่นางรู้ดี ภายใต้รูปลักษณ์ที่โง่เขลาและท่าทางไร้เดียงสาของถังเทียนเขามีหัวใจของยอดฝีมือที่แท้จริง
ถังเทียนเข้าไปในลานจตุรัสช้าๆ
ขุนพลวิญญาณเหมือนกับกลุ่มก้อนควันลอยออกมาจากกล่องบรอนซ์และก่อตัวเป็นรูปหนึ่ง
นัยน์ตาสีฟ้าชัดใสเหมือนอัญมณีใบหน้างดงามหล่อเหลาประดับรอยยิ้มน้อยๆ เท้าทั้งสองลอยอยู่ในอากาศ เขามีรูปร่างสูงโปร่งและให้ความรู้สึกแปลกเล็กน้อย
“ข้าคือขลุ่ย”
เสียงของเขาไพเราะ อบอุ่นและน่าหลงใหล
ทุกคนตกใจ ขุนพลวิญญาณสามารถพูดได้จริงๆ! เด็กหญิงนึกอะไรบางอย่างได้ สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และเธอตะโกนลั่น “อาจารย์ระวังนะ! เขาคือขลุ่ยวิเศษ”
“ขลุ่ยวิเศษ?” ถังเทียนตะลึง พูดตามตรง เมื่อขลุ่ยวิเศษพูดตอนแรก เขาตกใจ เขาไขว้มือเหมือนกับขุนพลวิญญาณหลายๆราย แต่เป็นครั้งแรกที่เขาพบกับขุนพลวิญญาณที่พูดได้จริงๆ แน่นอนปิงเป็นข้อยกเว้น แม้แต่กรงเล็บภูตพรายก็ยังเงียบเป็นปกติ
“นึกไม่ถึงเลยว่าหลังจากผ่านไปหลายปี ยังมีคนจำข้าได้อยู่อีก ข้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างสุดซึ้ง” ขลุ่ยยิ้ม และโค้งคำนับแสดงความซาบซึ้งต่อเด็กหญิง
เด็กหญิงหน้าซีดขาวทันที ขณะที่คนอื่นดูอย่างมึนงง พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้
เมื่อเห็นการตอบสนองของเด็กหญิง ถังเทียนรู้ว่าคู่ต่อสู้มีเบื้องหลังที่น่ากลัว อย่างไรก็ตาม เขาไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย กลับตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น เขาจ้องมองดูขลุ่ย และคำราม “เลิกโยกโย้เสียที มาสู้กันได้แล้ว”
ขลุ่ยโค้งให้เล็กน้อย ท่าทางของเขาดูสง่างาม “ยินดีทำตามคำสั่ง”
เขาโบกมือ เกิดม่านแสงรอบๆ สร้างขึ้นเป็นรูปกรง
ขลุ่ยอธิบาย “อย่าห่วงชั้นม่านแสงนี้เอาไว้กันเสียงขลุ่ยของข้าหลีกเลี่ยงไม่ให้ทำร้ายสหายผู้ทรงคุณค่าของเจ้า”
ถังเทียนประหลาดใจ นี่เป็นขุนพลวิญญาณที่สุภาพที่สุดเท่าที่เขาเคยพบ เขาอดสะกิดถามปิงในใจไม่ได้ “เฮ้ลุง!ลุงก็เป็นขุนพลวิญญาณกันทั้งนั้น ทำไมลุงถึงแตกต่างจากเขามากนักเล่า?”
ปิงเผยอตาและพูดเบาๆ “พวกคุณชายจากตระกูลคนชั้นสูงก็เป็นแบบนั้นทุกคนนั่นแหละ แต่จำนวนของตระกูลชนชั้นสูงที่เรากำจัดเมื่อตอนนั้นอย่างน้อยก็8,000 หรือ 1 ล้าน สำหรับจำนวนคุณชายที่ถูกฆ่า เอ่อ.. นี่ยังคำนวณได้ไม่ชัดเจน...”
ถังเทียน “........”
ตอนนี้เขาไม่มีเวลาทะเลาะกับลุงปิง สายตาเขาจับจ้องนิ่ง คุณชายขลุ่ยมีขลุ่ยบรอนซ์ในมือตัวขลุ่ยสะท้อนประกายเหมือนใหม่ สว่างเป็นเงา
ถังเทียนรออย่างตั้งใจ คู่ต่อสู้เรียกตัวเองว่าขลุ่ยวิเศษ นี่หมายความว่าวิธีโจมตีต้องเกี่ยวข้องกันอย่างใดอย่างหนึ่งแน่
ฟังเหมือนเป็นวิทยายุทธ?
ถังเทียนสงสัยและคาดหวัง เขาไม่เคยพบคู่ต่อสู้อย่างนั้นมาก่อน
คุณชายขลุ่ยคำนับ และพูดชัดเจน “โปรดฟังผลงานเพลงชิ้นเอกของข้า!”
เขาหลับตาเบาๆ ถือขลุ่ยบรอนซ์ในแนวขวางจ่อกับริมฝีปากของเขาและถ่ายลมหายใจเข้าไปขลุ่ยบรอนซ์ในมือของเขาเปล่งเสียงดัง บทเพลงเหมือนกับสายน้ำ และค่อยๆ ไหลออกมาจากขลุ่ยบรอนซ์
ภายในม่านแสง ในไม่ช้าอากาศก็เริ่มเคลื่อนไหวช้า
ดวงตาของถังเทียนกลอกไปมาและแสดงท่าทางประหลาดใจ ร่างของเขาชาและอ่อนเพลียเล็กน้อย
เสียงขลุ่ยชัดเจนและไพเราะ เมฆหมอกค่อยๆ ก่อตัวรอบตัวขลุ่ยวิเศษ เมฆสีขาวลอยรอบตัวของเขา ตาของขลุ่ยวิเศษพริ้มลงและสีหน้าของเขาเคร่งขรึม
“ฮึ่ม!” ถังเทียนคำราม ปราณแท้ในร่างของเขาที่รู้สึกอ่อนก็หายไปทันที ขาของเขาที่ถ่ายรับพลังเริ่มเข้าจู่โจมใส่ขลุ่ยวิเศษ
วิทยายุทธของเจ้าผู้นี้ประหลาดแท้
เสียงขลุ่ยอ้อยอิ่งอยู่ในอากาศ ถังเทียนรู้สึกว่าสภาพรอบด้านเปลี่ยนไปทันที อากาศโดยรอบหนาแน่นขึ้นมาก ถังเทียนดูเหมือนติดอยู่ในโคลน ในทุกย่างก้าวต้องใช้พลังงานมากมาย
อากาศเป็นเหมือนกำแพงซึ่งเดินได้ยาก
ขลุ่ยวิเศษอยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตรกำลังทุ่มเทสมาธิเป่าขลุ่ย
ถังเทียนคำรามด้วยความโกรธปล่อยหมัดไปข้างหน้าเสียงดังปังทันที
หมัดถล่มทลายน้อย!
แม้ว่าจะเป็นวิทยายุทธระดับต่ำ แต่มันช่วยให้ถังเทียนเข้าใจถึงแรงสั่นสะเทือนอากาศหนาแน่นข้างหน้าเขาพังทลายเหมือนกองดิน
ถังเทียนฉวยโอกาสวิ่งไปข้างหน้า!
เขาเพิ่งจะออกไปได้ก้าวเดียว อากาศโดยรอบกลับมาอยู่ในสภาพหนาแน่นภายใต้เสียงขลุ่ยชักนำอีก
ถังเทียนไม่กังวล ตราบเท่าที่ยังมีวิธีจัดการกับมัน
หมัดของเขาเหวี่ยงสลับกัน หนึ่งหมัดต่อหนึ่งก้าวยังคงเข้าหาขลุ่ยวิเศษช้าๆ และต่อเนื่อง ขลุ่ยวิเศษเหมือนกับจะลืมตัวคงเป่าขลุ่ยบรอนซ์ต่อไปเหมือนกับเขาไม่ตระหนักถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น
หลังจากก้าวต่อเนื่องไปเจ็ดหรือแปดก้าว ตอนนี้ถังเทียนอยู่ห่างขลุ่ยวิเศษประมาณเจ็ดเมตร
ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ ระยะเจ็ดเมตรสำหรับถังเทียนแล้วก็แทบไม่มีอะไร แต่ตอนนี้ ถังเทียนไม่ได้ใส่ใจ เพราะจนกระทั่งบัดนี้แม้ว่าเสียงขลุ่ยจะเป็นเอกลักษณ์และแปลก ถังเทียนไม่ได้รู้สึกว่ามันทรงพลังมาก
ตราบเท่าที่เขาสามารถเข้าไปใกล้ในระยะสามเมตร เขามั่นใจว่าเขาสามารถกำจัดคู่ต่อสู้ได้
ถังเทียนผู้ไม่รู้เรื่องเพลงไม่ได้สังเกตว่าเสียงของขลุ่ยเปลี่ยนไปเงียบๆ
※※※※
ด้านนอกม่านแสงหน้าของเด็กหญิงซีดขาวเต็มที่
กู้เสวี่ยเห็นหน้าของเด็กหญิงแล้วนางอดถามไม่ได้ “องค์หญิง! ขลุ่ยวิเศษผู้นี้น่ากลัวมากนักหรือ?”
เด็กหญิงขบริมฝีปากเธอแน่นและเสียงของเธอสั่น “ยุคสมัยของขลุ่ยวิเศษจะมีมาก่อนยุคกระบี่มารราวร้อยปี เขามาจากตระกูลคนชั้นสูงและเชี่ยวชาญดนตรีการตั้งแต่อายุน้อย หลังจากฝึกวิทยายุทธสำเร็จแล้วเขาหลอมรวมเพลงเข้ากับวิทยายุทธของเขาและบัญญัติวิทยายุทธเสียงเพลงที่ไม่เหมือนใครเสียงของขลุ่ยเหมือนกับมีพลังวิเศษ เพราะอย่างนั้นเขาจึงเป็นที่รู้จักในนามว่าขลุ่ยวิเศษ เกิดมาในตระกูลชนชั้นสูงขลุ่ยวิเศษก็มีลักษณะสง่างามและดูมีชีวิตชีวา ดังนั้นเขาจึงเป็นที่รู้จักกันในนามว่าคุณชายขลุ่ยวิเศษ การต่อสู้ที่สร้างชื่อเสียงให้เขาก็คือเมื่อครั้งดาวไพรมายาพบกับคลื่นโจมตีอสูรดวงดาวขนาดใหญ่ พวกมันบุกทำลายเมืองต่อเนื่องถึงเจ็ดเมืองซากศพกระเด็นกระจายอยู่ทุกที่และไม่มีใครสามารถหยุดยั้งพวกมันได้ เมื่อคลื่นของอสูรดวงดาวบุกมาถึงเมืองที่แปด ขลุ่ยวิเศษก็มาปรากฏตัวอยู่บนกำแพงชมดาว ใช้แค่เพียงขลุ่ยเลาเดียวก็ทำให้คลื่นอสูรดวงดาวเหล่านั้นถอยหนีกลับไป คลื่นอสูรดวงดาวนั้นทุกตัวเป็นอสูรดวงดาวระดับเก้า!”
ไม่ทราบว่าเด็กหญิงตื่นเต้นหรือว่ากลัวกันแน่แต่เมื่อเธอพูดตำนานเรื่องนี้แล้ว เธออดสนใจอย่างช่วยไม่ได้
เมื่อได้ยินเช่นนั้น คนอื่นๆ รู้สึกมีอารมณ์ท่วมท้นไปด้วยความกลัวและกังวล
อสูรดวงดาวระดับเก้า ทำได้ยังไง?
มีเพียงหลิงซิ่วที่ตะลึง ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าคนที่กำลังเป่าขลุยที่ดูเหมือนคร่ำครึงมงายที่อยู่ในม่านแสงนั้น ความจริงน่ากลัวมาก
“อย่างนั้น เขาก็เป็นนักสู้ระดับสวรรค์วิถีใช่ไหม?” เสียงของไจ๋เหิงจ้านตื่นเต้น
“อืม” เด็กหญิงเม้มริมฝีปากและมองดูจัตุรัสด้วยความกังวลใจอย่างมาก “ระหว่างปีที่คุณชายขลุ่ยวิเศษรุ่งเรืองที่สุด ครั้งหนึ่งเขาเคยเอาชนะนักสู้ระดับสวรรค์วิถีถึงสามคน”
คนอื่นๆลิ้นพันกันและตกใจจนพูดไม่ออก ความขัดแย้งระหว่างนักสู้สวรรค์วิถีและการเอาชนะนักสู้ระดับสวรรค์วิถีได้ถึงสามคน พวกเขาสามารถเข้าใจได้ตามปกติ
หลิงซิ่วเบิกตากว้างรู้สึกตะลึงในใจ ยอดเยี่ยมเป็นบ้า
เจ้างี่เง่าถังตกอยู่ในอันตรายแล้ว!
ผิดแล้ว!
“ถ้าเป็นกรณีอย่างนั้น เจ้างั่งถังคงเหลือแต่เถ้าถ่านไปนานแล้ว” หลิงซิ่วขมวดคิ้ว
“ข้าคิดว่าฝีมือของเขาตกลงไป” ไจ๋เหิงจ้านมีประสบการต่อสู้มากที่สุด เขาสามารถบอกได้เพียงแค่เหลือบมองจุดวิกฤติ “ระดับของขุนพลวิญญาณจะตกลงต่อเนื่องเมื่อผ่านไปหลายปี แน่นอนว่าคงเทียบไม่ได้กับช่วงยุคที่เขารุ่งเรืองที่สุด”
“เจ้างี่เง่านั่นนับว่าได้โอกาสดีจริงๆ” หลิงซิ่วแค่นเสียง แต่ก็คลายใจลงมาก
เด็กหญิงสั่นศีรษะ “ระดับอาจตกลงไป แต่ความเข้าใจในวิทยายุทธจะไม่มีทางตกลงเลย คุณชายขลุ่ยวิเศษมีชื่อเสียงเพราะกระบวนท่าสังหารของเขาคือ เวทผลาญสำเนียง”
“เวทผลาญสำเนียง?” ทุกคนถามขึ้นพร้อมกัน
“อืม” สีหน้าของเด็กหญิงยังเต็มไปด้วยความกังวล “ยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า ทำนองเจ็ดสังหาร”
“ทำนองเจ็ดสังหาร?”
แค่ชื่อนี้เท่านั้นก็ทำให้ทุกคนกลัวแล้ว
“อืม...” เด็กหญิงกังวลมากขึ้นกว่าเดิม “ข้าไม่รู้เช่นกันว่า เรื่องจะกลายเป็นเช่นนี้ แต่ข้าได้ยินมาว่ากระบวนท่านี้ของคุณชายขลุ่ยวิเศษไม่เคยล้มเหลวมาก่อน”
ไม่เคยล้มเหลว....
หัวใจทุกคนตกวูบทันที สายตาของพวกเขาจับจ้องอยู่ที่จตุรัส
ระยะห่างระหว่างถังเทียนกับขลุ่ยวิเศษในลานจัตุรัสไม่เกิน7 เมตร สำหรับถังเทียน แค่ขยับเข้าไปได้อีกเล็กน้อยก็จะเข้าระยะโจมตี
แต่ในช่วงนี้เองมีอาการสะดุดที่คาดไม่ถึง
ภายในม่านแสงมีฟองลูกโป่งลอยผุดออกมาไม่มีปี่มีขลุย ในพริบตาก็มีลูกโป่งลอยปรากฏออกมาอีกทำให้ทุกคนกลั้นลมหายใจโดยไม่รู้ตัวอากาศภายในม่านแสงเหมือนกับจะเดือด ฟองอากาศลูกแล้วลูกเล่าผุดออกมาทันที
ฟองอากาศโปร่งแสงเหล่านี้ใหญ่ขนาดกำปั้นปรากฏออกมาลอยอยู่ในอากาศเงียบๆ
ในชั่วพริบตาถังเทียนก็ถูกฟองอากาศกลุ่มใหญ่ลอยล้อมรอบ
นั่น...อะไรกัน?
คนที่อยู่ภายนอกม่านแสงทุกคนถึงกับเบิกตากว้าง
※※※※
บอลสุญญากาศ!
ถังเทียนตื่นตัวเต็มที่ฟองอากาศแต่ละลูกก็คือบอลสุญญากาศ ถังเทียนสามารถสร้างบอลสุญญากาศโดยใช้หมัดสะท้านฟ้าของเขา แต่เมื่อเทียบกับกลุ่มบอลสุญญากาศหนาแน่นนับไม่ถ้วนที่อยู่ต่อหน้าของเขา ถังเทียนรู้สึกว่ากระบวนท่าของเขานั้นกลายเป็นเรื่องเล็กน้อย
ถ้าถังเทียนไม่สามารถวัดฝีมือของฝ่ายตรงข้ามได้ก่อนหน้านี้ อย่างนี้ท่านี้ก็จะทำให้ถังเทียนเข้าใจทักษะของขลุ่ยวิเศษได้ทั้งหมด
ดูเหมือนถังเทียนตระหนักได้ว่าเสียงธรรมชาติจากขลุ่ยนี้เป็นพลังสั่นสะเทือนรูปแบบหนึ่ง
เขาเคยฝึกหมัดสะท้านฟ้ามาก่อนและเข้าใจพลังสั่นสะเทือนได้ลึกซึ้งกว่าคนอื่น ถ้านักสู้ต้องการสร้างบอลสุญญากาศ เขาต้องใช้แรงสั่นสะเทือนที่แข็งแกร่งเพื่อทำลายอากาศ
แต่สร้างบอลสุญญากาศได้มากมายรวดเดียวกันนี่...
ในสายตาของถังเทียนบอลสุญญากาศเป็นเหมือนจุดสั่นสะเทือนที่หนาแน่นเป็นพันๆ จุดกำลังสั่นสะเทือน
ขลุ่ยวิเศษที่น่ากลัว....เขาทำอย่างนั้นได้ยังไง?
ถังเทียนอยากเคาะศีรษะตนเองนัก เขาไม่สามารถคิดได้ว่าขลุ่ยวิเศษทำแบบนี้สำเร็จได้ยังไง อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกถึงอันตรายในใจเขาเพิ่มขึ้นสูงอย่างที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ห่างออกไปจากฟองอากาศจำนวนมาก หัวของร่างขลุ่ยวิเศษก้มต่ำลงขณะเป่าขลุ่ยของเขา กลายเป็นตัวตนขึ้นมา รังสีฆ่าฟันเกือบชัดเจน ขลุ่ยวิเศษมีผมยาวพริ้วไสวอยู่ในสายลมใบหน้าหล่อเหลางามสง่าดูเคร่งขรึม
นิ้วเรียวยาวของเขาขยับพลิ้วไปตามขลุ่ยบรอนซ์ ความเคลื่อนไหวที่แผ่วพริ้วนี้ทำให้ถังเทียนถึงกับผมตั้งทั่วทั้งท้องฟ้าเต็มไปด้วยบอลสุญญากาศลอยตัวอยู่เงียบๆ และค่อยๆ ลอยเข้าหาถังเทียนจากทุกทิศ