ตอนที่ 184 บุรุษหนุ่มในเกราะเงิน
“แล้วไงเหรอ?” เด็กเคาะศีรษะเธอทำท่าทางคิดและตอบอย่างไม่แน่ใจ “ดูเหมือนว่าท่านพ่อจะพูดถึงเรื่องบางอย่างที่เป็นเรื่องน่าเสียดาย ข้าไม่รู้ว่าอะไรเป็นเรื่องน่าเสียดาย แต่หลังจากนั้นระดับของไซอาตกลงไปมาก ไม่แน่ใจว่ามีความเกี่ยวโยงกับสองเรื่องนี้หรือเปล่า แต่ท่านพ่อจะไม่ค่อยให้ความสนใจใครง่ายๆนั่นคือเหตุผลที่สร้างความประทับใจให้ข้า”
“ดังนั้นนั่นจึงเป็นเหตุให้พลังของเขาตกลง” ถังเทียนพยักหน้าเข้าใจนั่นคือสาเหตุทำให้เขารู้สึกว่าไซอายังคงห่างจากอู่กวง ดูเหมือนจะคู่ควรกับการตัดสินของเขาแล้ว
“น่าเสียดายที่ข้าไม่ได้เห็นไซอาในสภาพที่เขารุ่งถึงขีดสุด” ถังเทียนมีท่าทีเสียใจ “จะยอดเยี่ยมถึงเพียงไหนหากข้าสามารถเอาชนะเขาได้ในช่วงที่เขารุ่งเรืองถึงขีดสุดน
ชิงหลวนไม่คุ้นกับความยโสของถังเทียนจึงอดพูดไม่ได้ “มือกระบี่ในม่านมืดไร้เทียมทานในช่วงที่เขาอยู่ในระดับสุดยอด ทั่วทั้งรัฐบาลอู่โหวเขาแค่เป็นรองท่านอู่โหว ครั้งหนึ่งเขาเคยลอบบุกรุกเข้ามายามดึกและสู้กับท่านโหว แต่ไม่มีผู้ใดชนะ”
ไจ๋เหิงจ้านดูประหลาดใจ “ข้าไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน”
ชิงหลวนตอบ“ตอนนั้นเจ้าไม่ได้อยู่ที่นั่น และมีคนที่รู้เพียงไม่กี่คนเช่นกันก็แค่เป็นโอกาสบังเอิญที่นายท่านโหวรู้ว่าข้าเชี่ยวชาญวิชากระบี่ ดังนั้นท่านจึงให้ข้าสังเกตการณ์ต่อสู้ มือกระบี่ในม่านมืดตอนนั้น น่ากลัวมากจริงๆ
เมื่อนางพูดถึงประโยคสุดท้าย, ชิงหลวนรำลึกเหตุการณ์ครั้งกระโน้น หน้าของนางมีแววทึ่ง ดังนั้นนางสามารถรู้สึกถึงพลังของไซอาได้มาก
“น่าเสียดาย ยอดฝีมือที่น่ากลัวขนาดนั้นไม่สามารถพบกับเขาในช่วงฝีมือเขารุ่งเรืองที่สุด ช่างน่าเสียดาย” ถังเทียนดูเศร้า เขาเคาะศีรษะและไตร่ตรอง จากนั้นพูดว่า“แต่เนื่องจากนี่คือความจริง อย่างนั้นก็ไม่มีทางเลือก ก่อนอื่นก็ต้องเอาชนะมือกระบี่ในม่านมืดที่ไม่สมบูรณ์ให้ได้เสียก่อน”
ชิงหลวนแค่นเสียง ไซอาคือหนึ่งในแบบอย่างวิชากระบี่ของนาง ดังนั้นเมื่อได้ยินว่าถังเทียนอ้างว่าต้องการเอาชนะไซอาจึงรู้สึกแสลงหูและนางอดพูดขึ้นไม่ได้ “แม้ว่าฝีมือของเจ้าจะดีมากก็ตาม แต่ถ้าเจ้าต้องการเอาชนะไซอาให้ได้ เจ้าคิดว่าจะง่ายขนาดนั้นเชียวหรือ?”
ถังเทียนไม่ถือสา “ถ้าไม่ง่ายตั้งแต่ทีแรกเลยก็ดีแล้ว แล้วจะสนุกได้ยังไงถ้าง่ายตั้งแต่แรก?เจ้าไม่คิดหรือว่าการเอาชนะไซอาให้ได้ แค่คำพูดเหล่านี้ก็น่าหลงใหลเสียแล้วใช่ไหม?”
ถังเทียนกำหมัดแน่นมีความปรารถนาจะสู้
ชิงหลวนตะลึง
“น่ารำคาญชะมัด” หลิงซิ่วแค่นเสียง หน้าของเขาซีดเล็กน้อย การต่อสู้ที่เพิ่งผ่านมานี้แทบทำให้เขาแย่ เขาโยนของบางอย่างให้ถังเทียน“ข้าเพิ่งได้รับมา”
ถังเทียนยื่นมือรับไว้ มันเป็นกล่องโลหะขึ้นสนิม
เด็กหญิงชำเลืองมองและอุทานขึ้นมาทันใด “ว้าว, ข้าลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไร! ม่านพลังขุนพลวิญญาณแต่ละม่าน จะต้องมีบางอย่างเพื่อปกป้องเรียกว่าสมบัติวิญญาณปกป้อง ด้วยสมบัติวิญญาณปกป้องนี้ ขุนพลวิญญาณเหล่านี้จะต้องมีศูนย์กลางให้พวกเขาปกป้องเพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้ไม่หายไปง่ายๆ ปกติขุนพลวิญญาณที่แข็งแกร่งจะต้องมีสมบัติวิญญาณให้ปกป้อง รีบเปิดดู...เร็วเข้า”
ถังเทียนพอได้ยินคำว่า“สมบัติ” นัยน์ตาเขาเป็นประกายทันที และเปิดกล่องโลหะโดยไม่ลังเลใจทันที
มีแต่เพียงแก่นพลังวิญญาณสีดำอยู่ภายในกล่อง และวัสดุของแก่นพลังวิญญาณนั้นดูแย่คล้ายกับที่เขาได้จากงูอสูรดวงดาวก่อนนั้นเล็กน้อย
ถังเทียนผิดหวังอย่างหนักพลิกดูรอบๆ กล่องและดึงมันออกเพื่อดูว่าจะมีช่องลับใดๆ หรือไม่
แต่ก็ยังไม่มีอะไร
“สิ่งนี้ไม่มีค่าพอทำเงินเลย” ถังเทียนผิดหวังเต็มที่ “ซิ่วซิ่วน้อย, ครั้งต่อไปเล็งห่านทองคำเลยนะ!หลังจากสู้อยู่ครึ่งวัน เจ้าเพียงแต่ชนะได้ขนมให้หยาหยาเท่านั้นเอง, หยาหยา! ออกมาเร็ว มีขนมให้เจ้าแล้ว!”
หยาหยาตะเกียกตะกายออกมา เมื่อมองเห็นแก่นพลังวิญญาณนัยน์ตาของมันเป็นประกายทันที ขาเล็กของมันสั้นมากมันใช้ทั้งขาทั้งมือด้วยกันดูเหมือนสุนัขน้อยปีนขึ้นมาอยู่บนไหล่ของเขามือของมันคว้าแก่นพลังวิญญาณและกลืนกินรวดเดียว
เด็กหญิงเห็นหยาหยาถึงกับตะโกนด้วยความประหลาดใจ“หวา..น่ารักจัง, ชื่อหยาหยาเหรอ?”
“หยาหยา, ทำตัวน่ารักหน่อย” ถังเทียนออกคำสั่ง
หยาหยางงชั่วเวลาต่อมา มันเอามือปั้นหน้าและลูบจนหน้ามันจ้ำม่ำ
เด็กหญิงตาเป็นประกาย “หวา หวา หวา อาจารย์ให้เป็นของขวัญข้าได้ไหม? ข้าชอบจริงๆ”
หยาหยาตาโตทันทีและจ้องมองเด็กหญิงด้วยความโกรธ มันแยกเขี้ยวและมีสีหน้าไม่เป็นมิตร
“ให้เจ้าน่ะหรือ? ฝันไปก่อน” ถังเทียนพูดตามปกติ “แต่ข้าให้ยืมได้ ชั่วโมงละพันเหรียญดาว ไม่มีการคืนเงินนะ”
“ตกลง!” เด็กหญิงรับคำโดยไม่ลังเลเลย
หยาหยาหน้าบึ้งทันทีและพยายามประท้วง “ฮูว ฮูว” แต่ก็ต้องสะอึกทันทีเพราะถังเทียนจับมันโยนให้เด็กหญิงและสำทับไว้ว่า “หยาหยา!บริการลูกค้าดีๆ”
เด็กหญิงคว้าตัวหยาหยาไว้และราวกับว่าเธอได้รับสมบัติ เธอหยอกล้อหยาหยาและในไม่ช้าหยาหยาก็มีความสุข
ถังเทียนยินดีมากที่เขามีความเฉียบแหลมในการทำธุรกิจ ว่าแต่ชั่วโมงละพันเหรียญแล้วเขาจะทำเงินได้มากเท่าใดกันแน่ หลังจากขมวดคิ้วคำนวณอยู่ครึ่งค่อนวัน ถังเทียนก็ยอมแพ้ ถ้าเชียนฮุ่ยอยู่ที่นี่อย่างนั้นเขาคงไม่ต้องกังวลกับวิชาคณิตศาสตร์
“ไปกันเถอะ, สมบัติเหล่านั้นคงต้องเหงามากๆมันกำลังคอยให้หนุ่มน้อยชาวฟ้าไปเก็บมัน” ถังเทียนพูดต่ออย่างมั่นใจ “เพื่อคุณธรรม!”
หลิงซิ่วที่อยู่ด้านข้างจ้องมองเขาอย่างโมโห “อย่ามาเลียนแบบข้า!”
“คุณธรรมเป็นของทุกคนนะ” ถังเทียนฉีกยิ้มและนำทาง
กู้เสวี่ยปิดปากนาง แต่รอยยิ้มที่มุมปากนางไม่สามารถปิดบังได้
ไจ๋เหิงจ้านตัดสินทุกอย่างด้วยสายตาเขา แต่เขาอดรู้สึกแปลกใจมิได้ เขาเห็นยอดฝีมือมาแล้วทุกรูปแบบ แต่ถังเทียนพิเศษที่สุด ถ้าเป็นที่อื่น คนอื่น ไจ๋เหิงจ้านคงคิดว่าสมองของอีกฝ่ายคงมีปัญหาแน่นอนแต่กับถังเทียน ไจ๋เหิงจ้านไม่กล้าดูแคลนเขา เพราะคนผู้นี้ลึกลับจริงๆ และเข้าใจได้ยาก
ขณะที่เขาเดินถังเทียนบ่นพึมพำ “ทำไมไซอาถึงมาที่นี่? นอกจากนี้ นอกจากนี้เขายังสามารถซ่อนตัวอยู่ภายในนี้ได้ ดูเหมือนเขาจะคุ้นเคยกับสถานที่นี้มาก เป็นไปได้ไหมว่าเขาก็ให้ความสนใจกระบี่มาร? ไม่มีทาง, แนวทางวิชากระบี่ของเขาและกระบี่มารแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง”
“บางทีเขาอาจมาที่นี่เพื่อสมบัติก็ได้ ถ้าไม่อย่างนั้นเขาต้องสนใจสมบัติบางอย่างก็เป็นได้ นอกจากกระบี่มารแล้ว สมบัตินี้อาจรวมถึงของมีค่าอื่นๆ ก็ได้” กู้เสวี่ยนึกเรื่องหนึ่งขึ้นได้ “ไซอาอาจอยู่ที่นี่มานานแล้วก็ได้ เขาถึงสามารถหลบม่านพลังขุนพลวิญญาณได้ บางทีเขาอาจได้อะไรบางอย่างไปแล้วก็ได้”
คนอื่นพยักหน้า ข้อสันนิษฐานของกู้เสวี่ยมีเหตุผลมากทีเดียว
“ถูกต้อง” ถังเทียนโพล่งขึ้นมา “ตราบใดที่เราเอาชนะเขาได้ เราจะรู้ทุกอย่างเอง”
น่ารำคาญ เจ้ามันน่ารำคาญเสียจริง! ชิงหลวนแค่นเสียงในใจ
ในถ้ำมืดแคบมากสามารถเข้าไปได้ทีละสองคน ไจ๋เหิงจ้านยกท่อนไม้ส่องแสงส่องดูไปตามถ้ำ
“นั่นอะไร?” ถังเทียนถามด้วยความสงสัย
“ไม้ส่องแสง!”ไจ๋เหิงจ้านเอาออกมาอีกท่อนหนึ่ง และส่งให้ถังเทียน “แค่ถ่ายปราณแท้ลงไปเล็กน้อยมันจะเปล่งแสง ดีกว่าไฟฉายมาก”
ถังเทียนลองใช้ดู ท่อนไม้ในมือเขาสว่างขึ้นและให้แสงสว่างจ้า เขาตื่นเต้นทันทีเขาเตรียมลองถ่ายปราณแท้เพิ่มมากขึ้น แต่ไจ๋เหิงจ้านสังเกตดูอยู่แต่แรกตะโกนห้ามทันที“เจ้าอย่าถ่ายปราณลงมากเกินไป ถ้าเจ้าถ่ายปราณแท้ลงมากเกินไป มันจะปล่อยแสงสว่างจนตาพร่า และไม้จะมอดไหม้เหลือแต่เถ้าถ่านเช่นกัน บางครั้งเราจะใช้สิ่งนี้ระหว่างต่อสู้! อาจจะไม่มีประโยชน์เมื่อใช้สู้กับยอดฝีมือ แต่ถ้ามีศัตรูมากเกินไป มักจะมีอยู่สองสามคนที่นัยน์ตาพร่าได้”
ถังเทียนตื่นตัวทันที เขารู้สึกได้ทันทีว่าไม้ส่องแสงมีประโยชน์มาก เขารีบขอไจ๋เหิงจ้านเพิ่ม “ข้าขออีกสองสามท่อนได้ไหม?”
ไจ๋เหิงจ้านหยิบออกมาเกือบสิบท่อนให้ถังเทียนทันที ของเหล่านี้ราคาถูกมาก เพียงแต่คนธรรมดาหาซื้อไม่ค่อยได้
จากนั้นถังเทียนเก็บไว้ในตู้อาวุธอควาเรียส
เมื่อใช้ไม้ส่องแสงส่องดู ทุกอย่างในถ้ำมองเห็นได้ชัด ดังนั้นจึงไม่มีที่ให้ซ่อนตัวและไม่ต้องห่วงว่าไซอาจะลอบทำร้าย
อุโมงค์ยาวมากถังเทียนพูดขึ้นทันที “เรากำลังเดินลงไป!”
ทุกคนตะลึง เมื่อมองดูใกล้ๆ พื้นใต้เท้าพวกเขามุมลาดเอียงเล็กน้อย ไจ๋เหิงจ้านยิ่งทึ่งกับสัญชาตญาณของถังเทียน
หลังจากเดินไปราวๆยี่สิบนาที ที่ด้านหน้าเป็นกลุ่มแห่งแสงสว่าง ทุกคนรีบเร่งสาวเท้าทันที
ครั้งนี้เมื่อพวกเขาออกมาจากถ้ำ ถังเทียนและคนที่เหลือระมัดระวังตัวเต็มที่กลัวว่าไซอาจะลอบทำร้าย แต่ทุกคนก็ต้องถอนหายใจโล่งอก ไซอาไม่ปรากฏให้เห็น นี่เป็นโถงที่กว้างขวางเรียบร้อยอยู่นอกถ้ำไม่มีที่ให้ซ่อนตัว
ในตอนกลางห้องโถงมีกล่องบรอนซ์อยู่หนึ่งกล่อง
ใบหน้าของเด็กหญิงเป็นประกาย เธอรีบเตือนทันที “ระวังนะ, นี่คือม่านพลังกระจ่าง”
“ม่านพลังกระจ่าง?” ถังเทียนถามทันที
“ใช่, ม่านพลังวิญญาณมีสองชนิดหนึ่งคือม่านพลังวิญญาณปกป้องสมบัติ และอีกอย่างก็คือม่านพลังกระจ่าง อีกรูปแบบหนึ่งจะไม่แสดงสมบัติที่วิญญาณคุ้มกันและรู้จักในฐานะม่านพลังลับ ม่านพลังที่เราเพิ่งผ่านมาจัดเป็นม่านพลังลับชนิดหนึ่ง” เด็กหญิงยังคงพูดต่อ “ปกติจะมีม่านพลังกระจ่างอยู่น้อยมาก เมื่อวิญญาณคุ้มกันสมบัติพลาดท่าในเงื้อมคู่แข่ง ม่านพลังจะทำลายตัวเองเป็นเรื่องปกติที่จะเกิดขึ้นได้ ผู้ที่ติดตั้งม่านพลังนี้ค่อนข้างมั่นใจในม่านพลังสูง”
“ข้าเข้าใจแล้ว....” ถังเทียนไตร่ตรอง
“อืม” เด็กหญิงพยักหน้า สีหน้าเธอสดใสขึ้น“ม่านพลังกระจ่างนี้ยากจะทำลายผ่านไปได้ ดังนั้นต้องระวังเป็นพิเศษ และยิ่งมีผู้ท้าทายน้อยคนยิ่งดีเพราะม่านพลังส่วนมากตั้งค่ามาเพื่อป้องกันผู้รุกรานจำนวนมากเป็นพิเศษ ยิ่งมีผู้ท้าทายเข้ามามาก ระดับความยากในการผ่านก็จะสูงขึ้น คนส่วนมากไม่เข้าใจและคิดว่าม่านพลังวิญญาณแค่มีไว้เพื่อป้องกันเท่านั้น แต่ความจริงเป็นที่รูปแบบคำสั่งไม่อย่างนั้นพวกเขาสามารถสร้างกับดักได้โดยตรง จะต้องใช้ม่านพลังไปเพื่ออะไร?”
ไจ๋เหิงจ้านพูดจริงจัง“ให้ข้าเอง”
“ไม่! ให้ข้าไปเอง”ชิงหลวนพูดจริงจัง “ในที่นี้ฝีมือข้าเป็นรองแค่ถังเทียน ข้าจะทำเอง”
“เหลวไหล” หลิงซิ่วโกรธและถลึงตาชุดของเขาพลิ้วไสวเหมือนอยู่สายลม “เจ้าหมายความว่าเจ้าแข็งแกร่งกว่าข้างั้นหรือ?”
เขาเตรียมจะพุ่งใส่ชิงหลวนควั่บ มือข้างหนึ่งคว้าคอเขาไว้ หลิงซิ่วเพิ่งผ่านการต่อสู้อย่างยากลำบาก จึงไม่เหลือพลังต่อต้าน เมื่อถูกถังเทียนจับเหมือนกับลูกไก่ก็ยิ่งโกรธมาก เตรียมตัวใช้หอกเงิน
“ถ้าเจ้ายังกล้าเคลื่อนไหว ข้าจะซัดเจ้าให้หมอบตรงนี้” ถังเทียนยิ้มเจ้าเล่ห์
หลิวซิ่วชะงักค้าง เขาบอกได้เลยว่าถังเทียนเอาจริง
จากนั้นถังเทียนกันหลิงซิ่วให้หลบไปด้านข้างและสาวเท้ายาวเดินตรงเข้าไปในลานสี่เหลี่ยมเอง แสงสีเงินสว่างวาบอยู่ใต้เท้าเขาและไล่ลามมาตลอดทั้งขาของเขา ทุกย่างก้าวเกราะเงินจะเพิ่มขึ้นทีละนิด ในที่สุดเมื่อเข้าไปในลานสี่เหลี่ยม ทั้งร่างของเขาก็คลุมไปด้วยเกราะเงิน เขาเพิ่งสู้กับไซอาและได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ความปรารถนาต่อสู้ในตัวเขากำลังลุกโพลง
เหมือนกับมีลูกไฟเผาผลาญอยู่ในอก ทุกย่างก้าวของเขายิ่งมั่นคง ร่างของเขาเหมือนกับมีกลองศึกลั่นอยู่ภายใน ความปรารถนาจะสู้ของเขากล้าแข็งขึ้นทุกที
บุรุษหนุ่มในเกราะเงินของเขาก้าวย่างช้าๆ อย่างมั่นคง
“ในเมื่อข้าแข็งแกร่งที่สุดอย่างนั้นข้าจะไปเอง”