ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 11 รองจ้าวลัทธิมารสิ้นชีพ
ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 11 รองจ้าวลัทธิมารสิ้นชีพ
ลูู่เฉียงเป็นรองจ้าวลัทธิมารสาขาเมืองฉู่ในแคว้นฉินและมีพลังยุทธ์อยู่ในขอบเขตวิญญาณขั้นที่สาม
ด้วยพลังยุทธ์ขอบเขตวิญญาณ เดิมทีลูู่เฉียงไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นหนึ่งในผู้นำสาขาเมืองฉู่ แต่ที่เขาได้รับตำแหน่งนี้เพราะเขาเก่งในการหลบซ่อนตัว
ครั้งหนึ่งเขาเคยซ่อนตัวใกล้ยอดฝีมือขอบเขตว่างเปล่าขั้นที่ห้าถึงครึ่งเดือนโดยไม่ตรวจพบ
ด้วยความสามารถนี้จึงทำให้เขาไต่เต้าขึ้นมาเป็นรองจ้าวลัทธิมารสาขาเมืองฉู่
ในเวลานี้ลัทธิมารสาขาเมืองฉู่กำลังถูกตระกูลฉู่กวาดล้าง เมื่อเผชิญหน้ากับตระกูลฉู่หนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของแคว้นฉิน ลัทธิมารก็รับมือไม่ได้แม้แต่น้อย
ลูู่เฉียงถึงกับจ่ายอย่างหนักเพื่อให้สาวกมารแฝงตัวเข้าไปทำลายอาณาเขตตระกูลฉู่ และบังคับให้ตระกูลฉู่ถอนคนบางส่วนเพื่อช่วยบรรเทาสถานการณ์อันล่อแหลมที่ลัทธิมารเผชิญอยู่
แต่สุดท้ายสาวกมารที่ส่งไปก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยโดยไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นกับอาณาเขตตระกูลฉู่
เมื่อเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากตระกูลฉู่ ลูู่เฉียงจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องจ่ายอย่างหนักอีกครั้งเพื่อซื้ออาภรณ์ซ่อนเร้นแล้วลงมือด้วยตนเอง
ด้วยความสามารถในการหลบซ่อนของลูู่เฉียงบวกกับอาภรณ์ซ่อนเร้น ทำให้เขาแอบเข้าไปในอาณาเขตตระกูลฉู่ได้ไม่ยากเย็น
แน่นอนว่าเขาไม่สามารถแอบเข้าไปถึงจวนตระกูลฉู่ได้
ในจวนตระกูลฉู่เต็มไปด้วยยอดฝีมือมากมาย โดยเฉพาะฉู่เทียนหมิงที่อยู่ในขอบเขตว่างเปล่าขั้นสูงสุดหรือแม้แต่ยอดฝีมือขอบเขตกึ่งรวมศูนย์ ไม่ว่าความสามารถในการหลบซ่อนของลู่เฉียงจะดีเลิศเพียงใด เขาจะถูกพบตัวทันทีหากเข้าใกล้มากเกินไป
ความสามารถอันเป็นเอกลักษณ์ของยอดฝีมือขอบเขตว่างเปล่าคือพลังวิญญาณและเจตจำนงวิญญาณผสานเข้ากับความว่างเปล่า ทำให้ตรวจจับการเคลื่อนไหวแม้เพียงน้อยนิดได้ ไม่ว่าความสามารถในการหลบซ่อนของลู่เฉียงจะดีเลิศเพียงใด เขาก็ไม่มีทางหลีกเลี่ยงการตรวจจับของยอดฝีมือขอบเขตว่างเปล่า
ทว่าจุดประสงค์ของลู่เฉียงคือทำลายอาณาเขตตระกูลฉู่เท่านั้น เขาเพียงต้องการปล่อยหมอกพิษเพื่อก่อความวุ่นวายภายในตระกูลฉู่และบังคับให้ตระกูลฉู่ถอนยอดฝีมือกลับไปปกป้องดินแดนของตนเองเพื่อลดแรงกดดันที่ลัทธิมารเผชิญอยู่
หมอกพิษที่ลู่เฉียงนำมาในครั้งนี้รุนแรงกว่าหมอกพิษที่สาวกมารสองคนก่อนนำมา และยังกำจัดยากยิ่งกว่าอีกด้วย
เมื่อหมอกพิษถูกปล่อยลงในอาณาเขตตระกูลฉู่ มันจะสร้างความเสียหายได้อย่างร้ายแรง
ลู่เฉียงหลีกเลี่ยงผู้พิทักษ์ของตระกูลฉู่ได้อย่างง่ายดาย แม้แต่ผู้พิทักษ์ขอบเขตวิญญาณก็ไม่สามารถค้นพบร่องรอยของเขา
หลังจากลูู่เฉียงเข้าสู่อาณาเขตตระกูลฉู่ได้สำเร็จ มุมปากของเขาก็โค้งขึ้น เวลานี้ตระกูลฉู่เป็นเป้านิ่งที่ได้แต่รอให้หมอกพิษถูกปล่อย
ที่นี่คือชายขอบของอาณาเขตตระกูลฉู่ ลู่เฉียงได้ตัดสินใจที่จะบุกเข้าไปต่อเพื่อเพิ่มผลลัพธ์ให้มากขึ้น ขั้นต่ำเขาก็ต้องเข้าไปใกล้ใจกลางของอาณาเขตตระกูลฉู่
ในอาณาเขตตระกูลฉู่ การป้องกันของส่วนนี้เปราะบางที่สุด สถานที่นี้ลู่เฉียงสามารถแอบเข้าไปได้ง่ายที่สุดและหลบหนีได้ง่ายที่สุดอีกด้วย
ลูู่เฉียงยังคงแอบเข้าไปต่อ แต่ก่อนเขาจะทันไปได้ไกลก็สังเกตเห็นบ้านหลังเล็กในระยะไกล
“รายงานที่สืบมาระบุว่าบุตรชายของฉู่ชิวหลัวถูกขับไล่ออกจากจวนบรรพชนดูเหมือนเขาจะอาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้น”
ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวของลู่เฉียง เขามีความคิดที่กล้าหาญ!
ฉู่ชิวหลัวเป็นอัจฉริยะไร้ที่เปรียบของตระกูลฉู่ ครั้งหนึ่งเขาเคยสะกดข่มคนรุ่นเดียวกันในแคว้นฉิน
บุตรชายของเขาเป็นขยะก็ตาม ทว่าในท้ายที่สุด ฉู่เซวียนก็เป็นบุตรชายของฉู่ชิวหลัว หากเขาตาย ปีศาจเฒ่าฉู่เทียนหมิงคงไม่รู้สึกดีอย่างแน่นอน?
หากฉู่ชิวหลัวรอดกลับมายังตระกูลฉู่ และรู้ว่าบุตรชายของตนเองถูกปีศาจเฒ่าขับไล่ออกจากตระกูล ทำให้ถูกลัทธิมารสังหาร? ฉู่ชิวหลัวจะยังอยู่อย่างสงบสุขในตระกูลฉู่ได้อีกหรือ?
บางทีเขาอาจเปิดศึกกับปีศาจเฒ่าฉู่เทียนหมิงเลยก็ได้
ต่อให้บุตรชายของฉู่ชิวหลัวจะถูกขับไล่ออกมา แต่หากอีกฝ่ายต้องการกลับไปยังจวนบรรพชนข้ารับใช้จะกล้าหยุดเขาได้ยังไง?
ถึงฉู่เซวียนไม่สามารถกลับไปยังจวนบรรพชนได้ ทว่าการปล่อยหมอกพิษออกมารอบๆ จวนบรรพชนยังคงส่งผลกระทบต่ออาณาเขตตระกูลฉู่
“ช่างเป็นโอกาสเหมาะเจาะจริงๆ!”
ดวงตาของลู่เฉียงเป็นประกาย นี่เป็นโอกาสที่สวรรค์ประทานมา!
ลู่เฉียงยิ่งคิดถึงเรื่องนี้ก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น นี่คือโอกาสที่ปีศาจเฒ่าฉู่เทียนหมิงสร้างขึ้นมาให้เขาด้วยตนเอง!
ลู่เฉียงมาที่เรือนสี่ประสานอย่างเงียบๆ
เพียงแต่ลู่เฉียงหารู้ไม่ว่าตอนที่เขาเข้ามาใกล้เรือนสี่ประสาน แมวน้อยน่ารักตัวหนึ่งกำลังเดินตามหลังเขาอยู่อย่างเงียบๆ
ลู่เฉียงโบกมือแล้วพลังวิญญาณที่ปะทุออกมาก็กลายเป็นอสรพิษและพุ่งไปยังห้องของฉู่เซวียน
พลังวิญญาณนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงและผันแปรรูปร่างได้ร้อยแปดพันเก้า!
มันคือสัญลักษณ์ของขอบเขตวิญญาณ!
ฉู่เซวียนถึงกับพูดไม่ออก พวกลัทธิมารเป็นบ้ากันไปหมดแล้วหรือ?
เหตุใดพวกมันถึงแอบเข้ามาทีละคนๆ และเหตุใดสิ่งแรกที่พวกมันคิดคือจะควบคุมเขาได้อย่างไร?
ยิ่งกว่านั้นตระกูลฉู่ก็ไร้ประโยชน์เกินไป พวกเขาถูกแทรกซึมทุกครั้ง
ตอนที่ลูู่เฉียงเข้ามาใกล้เรือนสี่ประสาน ฉู่เซวียนก็สังเกตเห็นมันแล้ว
ฉู่เซวียนได้ทิ้งร่างพลังวิญญาณแทนตนเองเอาไว้ และร่างจริงของเขาหลบซ่อนอยู่ในมุมมืดของบ้าน
ร่างพลังวิญญาณที่ฉู่เซวียนทิ้งไว้นั้นมีชีวิตเหมือนกับคนจริงๆ จนแทบจะแยกไม่ออก และเขายังได้เจือปนร่องรอยของเจตจำนงวิญญาณเอาไว้อีกด้วย
หากไม่เห็นด้วยตาเปล่าก็ไม่อาจจะบอกได้ว่านั่นคือร่างปลอมของเขา
ลูู่เฉียงใช้พลังวิญญาณสร้างอสรพิษแล้วไปรัดร่างพลังวิญญาณของฉู่เซวียนอย่างรวดเร็ว
“บุตรชายของฉู่ชิวหลัวนี่มันขยะจริงๆ!”
ลู่เฉียงถอนหายใจอย่างสุดจะพรรณนา
เขากลัวว่านี่คือเหยื่อล่อจึงใช้พลังวิญญาณไปมัดฉู่เซวียน
อสรพิษพลังวิญญาณกลับมา
แต่ทันใดนั้นลู่เฉียงรู้สึกถึงความผิดปกติ
ร่างของฉู่เซวียนดูเหมือนผิดปกติ
แม้ว่าจะยังมีความผันผวนของเจตจำนงวิญญาณอยู่ แต่เหตุใดร่างของเขาถึงไม่เหมือนกับร่างที่มีเลือดเนื้อ?
แย่แล้ว!
เสียงระฆังเตือนใจของลู่เฉียงดังขึ้นอย่างรุนแรง นี้ไม่ใช่ร่างจริงของเขา แต่เป็นร่างที่ก่อขึ้นมาจากพลังวิญญาณ!
เหยื่อล่อ!
ปีศาจเฒ่าฉู่เทียนหมิงจอมเจ้าเลห์!
เขาประมาทเกินไป!
ลืมคิดไปว่าฉู่เซวียนอย่างไรก็เป็นบุตรชายของฉู่ชิวหลัว ไม่ว่าเขาจะเป็นขยะแค่ไหน ปีศาจเฒ่าฉู่เทียนหมิงจะไม่ปกป้องเลยได้อย่างไร?
ลูู่เฉียงถอยหนีอย่างรวดเร็ว เขาได้หลบหนีออกจากเรือนสี่ประสานพร้อมกับปล่อยหมอกพิษ
ผัวะ!
ทันใดนั้นไหล่ของลูู่เฉียงก็ทรุดลง!
ขนปุกปุยได้กระโดดขึ้นบนไหล่ของเขาโดยปราศจากสัญญาณเตือนหรือซุ่มเสียงใดๆ ลูู่เฉียงไม่มีโอกาสที่จะหลบแม้แต่น้อย
ลู่เฉียงหนังศีรษะด้านชา เหงื่อเย็นเยียบไหลออกมาจากหน้าผาก
ในช่วงเวลาวิกฤต พลังวิญญาณของเขาได้ปะทุขึ้นเพื่อกระแทกเจ้าสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่บนไหล่
ผัวะ ผัวะ ผัวะ ผัวะ!
พลังวิญญาณของลู่เฉียงพลันสลายไป ทั้งใบหน้าและศีรษะของเขาถูกตบนับครั้งไม่ถ้วนด้วยความไวสูง
เขารู้สึกเพียงอุ้งเท้าอวบอ้วนเล็กๆ ที่ได้ฟาดทั้งใบหน้าและศีรษะด้วยความเร็วสูง
ใบหน้าของลู่เฉียงบวมเป๋งและศีรษะยังปูดนูน
ลู่เฉียงรู้สึกหน้ามืด ตัวสั่นทึ่ม และตาพรัวมัว!
เขากำลังหมดสติ!
ลูู่เฉียงต้องการต่อสู้ครั้งสุดท้ายด้วยความสิ้นหวัง แต่ก็ไร้ประโยชน์ ทันทีที่เขาล้มลง เขารู้ว่าตนเองจบสิ้นแล้ว!
ฉู่เซวียนเดินออกมาและมองไปยังลูู่เฉียงที่นอนนิ่งอยู่บนพื้น เพียงแค่ผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตวิญญาณขั้นที่สามก็กล้าเข้ามาจัดการเขาหรือ? กำลังรนหาที่ตาย
แมววิญญาณสวรรค์ลากลู่เฉียงมาอย่างง่ายดาย
เมื่อมองไปยังแมวน้อยน่ารัก ฉู่เซวียนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ กรงเล็บเล็กๆ ของเจ้าแมวตัวนี้รวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์
ด้วยการเคลื่อนไหวที่ทิ้งภาพติดตาชุดนั้น ลูู่เฉียงจึงลงไปนอนกองอยู่กับพื้นโดยไร้หนทางต่อต้าน
นี่แค่แมววิญญาณสวรรค์แสดงความเมตตานะ
แมววิญญาณสวรรค์ขึ้นไปนั่งบนไหล่ของลู่เฉียง คงแปลกหากเขาไม่ไหล่ทรุด
เมื่อมองไปยังลู่เฉียงที่นอนอยู่บนพื้น ฉู่เซวียนก็ขมวดคิ้ว เขาควรทำยังไงดี?
มอบตัวให้แก่ตระกูลฉู่?
มีแต่เสี่ยงที่จะเปิดเผยตัวเอง
งั้นก็สังหารมันแล้วกัน
บุปผากลืนวิญญาณโผล่ออกมาและยื่นดอกไม้ไปที่ร่างของลู่เฉียง มันแสดงท่าทางว่าอยากกิน
“กินเขาซะ”
ฉู่เซวียนพยักหน้า
บุปผากลืนวิญญาณเต็มไปด้วยความสุข รากของมันไต่ขึ้นไปบนร่างของลูู่เฉียง จากนั้นในไม่ช้าก็กลืนลู่เฉียงเข้าไป
ลู่เฉียงรองจ้าวลัทธิมารสาขาเมืองฉู่ได้สิ้นชีพจากไปอย่างสงบ
“ดูความทรงจำของเขา”
ฉู่เซวียนสั่งให้บุปผากลืนวิญญาณสกัดความทรงจำของลูู่เฉียง แล้วแสดงให้เขาเห็น
ลู่เฉียงเป็นรองจ้าวลัทธิมารสาขาเมืองฉู่?
สถานะของเขาไม่ต่ำต้อย
เพียงแต่ว่าเขาอ่อนแอเล็กน้อย
สำหรับความสามารถในการซ่อนเร้นของเขา มันไม่มีประโยชน์สำหรับฉู่เซวียน
ลู่เฉียงนำหมอกพิษมาก็เพื่อสร้างความหายนะอีกครั้ง ลัทธิมารทำได้แค่นี้หรือ?