Ep.476 - แผน B

3/5

Ep.476 - แผน B

เอลฟ์เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีรูปลักษ์ดูดีแทบทุกตน แต่เอลฟ์ผมม่วงเบื้องหน้าจัดได้ว่าเป็นผู้หญิงที่สวยแม้ในหมู่เอลฟ์ จากมุมมองด้านสุนทรียภาพของมนุษย์ เธอดูดีมาก

อย่างไรก็ตาม

นั่นไม่ใช่ประเด็น

ฮังอวี่แน่ใจว่านี่คือคนที่เขากำลังตามหา

ทาเซียยังคงรู้สึกระแวง แต่เธอได้ลงนามในสัญญาวิญญาณของพันธมิตรหนามทมิฬแล้ว เลยสามารถสัมผัสได้ ว่าในตัวฮังอวี่มีคลื่นความผันผวนของจิตวิญญาณที่สอดคล้องกัน และความผันผวนนี้ไม่อาจปลอมแปลงได้

ฮังอวี่หยิบนกหวีดทองแดงออกมา “นี่คือสัญลักษณ์การเข้าร่วมพันธมิตรของผม ผู้แนะนำคือนักกลั่นโพชั่นมนตราซามูเอล”

เรื่องที่เป็นเครื่องยืนยันฮังอวี่ได้มีสามข้อ

ข้อแรก ฮังอวี่รู้จักนาเซอร์ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้มีตำแหน่งสูงสุดในกลุ่มพันธมิตรหนามทมิฬ เป็นไปไม่ได้ที่นาเซอร์จะทรยศพันธมิตร

ข้อสอง ฮังอวี่ลงนามในสัญญาวิญญาณ นี่แสดงว่าเขาคือสมาชิกของหนามทมิฬจริงๆ

ข้อสาม ฮังอวี่ถือนกหวีดทองแดงของซามูเอล และซามูเอลกับเธอเป็นเพื่อนสนิทกัน

ทาเซียรู้ว่าซามูเอลจะไม่แนะนำใครให้เข้าร่วมองค์กรโดยไม่มีเหตุผล

ทาเซียแสดงความขอบคุณ “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ข้าถูกจองจำที่นี่ โดนบังคับให้ทำงานแก่ราชามังกรคลั่ง ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะสามารถฝ่าการป้องกันแน่นหนาของเมืองมังกรมาถึงที่นี่ได้”

“กระบวนการไม่ยาก แต่มันเสียเวลาถ้าให้อธิบาย ตอนนี้พวกเราต้องรีบแล้ว” ฮังอวี่หยิบนักฆ่าขุมนรกออกมา “ผมจะตัดโซ่ตรวนของท่านปรมาจารย์ก่อน จากนั้นพวกเราหนีไปด้วยกัน”

“ช้าก่อน!”

ฮังอวี่ขมวดคิ้วและกล่าวว่า “ผมแอบเข้ามาในเมืองมังกร เป็นไปไม่ได้ที่จะไหม่ทิ้งร่องรอยกลิ่นอายเอาไว้ หากยอดฝีมือด้านการตรวจสอบค้นพบความผิดปกติ ถึงตอนนั้นคิดออกไปคงยากแล้ว เราจะรอช้าไม่ได้”

“โซ่ตรวนนี่เชื่อมต่อกับค่ายกล หากมันเกิดความเสียหาย ยามทั้งหมดในบริเวณนี้จะบุกเข้ามา หรืออาจกระทั่งราชามังกรมาด้วยตัวเอง ข้ามั่นใจว่าพวกมันจะไม่ยอมอยู่เฉย” ทาเซียนกล่าว “ครั้งนี้พวกเจ้ามากันกี่คน? ข้างนอกมีมาตรการรับมืออย่างไร?”

มากันกี่คน?

ฮังอวี่กระอักกระอ่วนขึ้นมาทันใด

ผู้ช่วยเหลือมันมีซะที่ไหนกันเล่า!

ตั้งแต่ต้นจนจบ ฮังอวี่มาด้วยฝีมือตัวเองล้วนๆ!

ทาเซียคือบุคคลที่มีอายุยาวนานกว่า 50 ปีมาแล้ว ประสบการณ์ชีวิตไม่สามารถนำมาเทียบกับชาวพื้นเมืองทั่วไปได้ เธอถอนหายใจและพูดว่า “มีแค่เจ้า? แม้จะรู้เทคนิคเชิงมิติอยู่บ้าง แต่นั่นยังไม่มากพอที่จะช่วยข้าออกไปจากที่นี่ และหากผิดพลาดเจ้าก็จะถูกขังที่นี่ด้วย เจ้ายังไม่รู้ถึงพลังของราชามังกรแห่งเมืองมังกร”

น่าผิดหวังเสียจริง!

ข้าถูกขังมานานหลายปี!

นึกว่าจะเจอผู้ช่วยชีวิต ที่ไหนได้กลายเป็นแค่คนโง่เง่า

เขาวิ่งเข้ามาช่วยคนทั้งๆที่ไม่ทราบข้อมูลของราชามังกรด้วยซ้ำ

แล้วแบบนี้เขาจะช่วยเหลือสำเร็จได้อย่างไร? คิดว่าราชามังกรคลั่งที่มีอายุยาวนานเกือบพันปีเป็นคนโง่รึไง?

เมื่อสัญญาณเตือนดังขึ้น ฮังอวี่ไม่มีปัญญาตอบโต้ใดๆแน่นอน!

ราชามังกรมีวิธีมากมายเพื่อหยุดเขาจากการหลบหนี

ด้วยพลังรบของฮังอวี่ในปัจจุบัน เมื่อเทียบกับเมืองมังกรที่มีการป้องกันแน่นหนาและเต็มไปด้วยยอดฝีมือแล้ว เขาไม่มีโอกาสรอดเลย!

“ช่างเถิด เจ้าควรออกไปเสียดีกว่า อย่าเสี่ยงดวงใดๆอีกเลย” ทาเซียกล่าว “กลุ่มพันธมิตรนับวันยิ่งสูญเสีย พลังรบกับความสามารถของเจ้าไม่อ่อนแอ แทนที่จะมาเสียสละตัวเองที่นี่ ควรไปช่วยเหลือนาเซอร์ในการรวบรวมสมาชิกตนอื่นๆเพื่อต่อกรกับเฮสการ์ดีกว่า”

ให้ออกไป?

อย่ามาล้อเล่นน่า!

พี่สาว! คิดว่ามันง่ายหรอกว่าฉันจะเดินทางมาถึงที่นี่?

แผน A ถูกยกเลิกก่อนที่จะเริ่มด้วยซ้ำ!

งั้นเปลี่ยนมาใช้แผน B ต่อเลยแล้วกัน!

ในความคิดของฮังอวี่ แผนนี้เป็นแผนที่มีประโยชน์ต่อเขามาก

แผน A ของเขาคือการพาทาเซียหนี เมื่อช่วยชีวิตเธอสำเร็จก็ขอให้ซ่อมชุดคลุมจักรพรรดิเป็นการตอบแทน จากนั้นเลิกแล้วต่อกัน

ส่วนแผน B หากทำสำเร็จ สิ่งที่จะได้ไม่ใช่แค่การซ่อมชุดคลุมสีม่วง แต่ยังได้พี่สาวไนท์เอลฟ์เป็นคนของตัวเอง

ฮังอวี่กล่าว “งั้นเอาอย่างนี้ ถ้าผมสามารถพาท่านปรมาจารย์ออกไปได้ แต่วิธีนั้นอาจเป็นการผูกมัดท่าน ไม่ทราบท่านปรมาจารย์จะยินดีจ่ายราคานี้หรือไม่?”

ทาเซียกล่าวว่า “เจ้าประเมินข้าต่ำไป หากสามารถรอดพ้นจากการเป็นเชลย และได้กลับค่ายไปต่อกรกับราชามังกรคลั่ง แม้จะต้องจ่ายราคาสูงเพียงใด ข้าก็ยอมรับได้ ว่าแต่แผนเจ้าคืออะไร?”

“ใช้สัญญาอุปการะ”

ฮังอวี่อธิบายกระบวนการสั้นๆ แผนการนี้ไม่ซับซ้อน ไม่มีอะไรมากไปกว่าการให้ทาเซียลงนาม

หากทำแบบนี้ฮังอวี่จะสามารถนำทาเซียกลับสู่โลกจริงได้  และแผนนี้ใช้เวลาไม่นาน ต่อให้ราชามังกรคลั่งจะบุกมาเร็วเพียงใดก็ตาม ก็ไม่มีทางหยุดการข้ามมิติของพวกเขาได้

แต่เห็นได้ชัด ว่าเมื่อลงนามในสัญญาอุปการะ ทาเซียจะกลายเป็นข้ารับใช้ของฮังอวี่

เฉกเช่นเดียวกับเสี่ยวไป๋ กระบองทอง และเพลิงสีชาด

เป็นความจริงที่ทาเซียจะได้รับอิสรภาพกลับคืนมา แต่ก็ต้องตกเป็นข้ารับใช้ใหม่ ขึ้นอยู่กับว่าเธอเต็มใจจะรับมันเองหรือเปล่า

“เจ้าคือเผ่าพันธุ์จุติในตำนาน!” ถึงตอนนี้ทาเซียค่อยล่วงรู้ถึงตัวตนของฮังอวี่ “ไม่น่าแปลกใจเลยที่ข้าไม่เคยได้ยินหรือได้เห็นเผ่าพันธุ์เช่นเจ้ามาก่อน”

เธอทบทวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดพยักหน้าและเอ่ยว่า “ตกลง ตราบใดที่เจ้ามอบอิสระทางเจตจำนง ไม่บังคับให้ข้าทำสิ่งที่ไม่อยากทำ ข้ายินดีรับเงื่อนไขนี้ ... แต่สัญญาอุปการะเป็นของหายาก แม้เรี่ยวแรงข้าจะอ่อนแรงลงไปมาก ทว่าอย่างน้อยต้องใช้สัญญาเลเวล 15 สีเขียวขึ้นไป”

สัญญาอุปการะเป็นประเภทสัญญาที่ค่อนข้างหายาก

อย่างไรก็ตาม ฮังอวี่มีเก็บไว้กับตัว บางส่วนซื้อตุนไว้จากร้านค้าลึกลับ ส่วนอื่นได้มาจากโลกจริงผ่านช่องทางต่างๆ

สัญญาอุปการะมีประโยชน์มาก

ดังนั้นเลยกักตุนไว้เยอะๆเผื่อต้องใช้

ในทุกวันนี้สัญญาสีฟ้าหาได้ยากมาก และม้วนสุดท้ายที่ได้มา เขาใช้มันไปกับเพลิงสีชาดแล้ว เลยเหลือแค่สัญญาคุณภาพสีเขียวเท่านั้น

สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือ ทาเซียตอนนี้อ่อนแอจนสามารถใช้สัญญาสีเขียวได้พอดี อีกทั้งเธอยังไม่ต่อต้านแต่อย่างใด ยอมตกลงโดยคิดทบทวนแค่ไม่ถึงหนึ่งนาที

ห้ามลืมนะว่าการทำสัญญาอุปการะไม่สามารถบังคับผู้ลงนามได้ ต่างฝ่ายต่างต้องยอมรับจากใจจริง มีแค่วิธีนี้เท่านั้นสัญญาจึงจะสำเร็จ

ทั้งสองคนทำพิธีทำสัญญาสั้นๆ

ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ช่างซ่อมระดับผู้เชี่ยวชาญทาเซียจะกลายเป็นผู้ติดตามคนใหม่ของฮังอวี่ สถานะของเธอจะคล้ายกับเสี่ยวไป๋ แต่เมื่อพิจารณาถึงหลายๆอย่างเป็นกรณีพิเศษแล้ว อาจมีอีกหลายเรื่องที่ผ่อนปรนให้เธอเพิ่มเติม แบบนี้จะได้สบายใจกันทั้งสองฝ่าย

ฮังอวี่จะไม่สั่งหรือบังคับให้เธอทำอะไร

แต่เนื่องจากลงนามในสัญญาแล้ว ยังไงเธอก็ถูกกำหนดให้ผูกมัดกับฮังอวี่

เลเวลของเธอไม่อาจเหนือกว่าฮังอวี่ได้ ในขณะเดียวกันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทรยศต่อ ฮังอวี่ ไม่อาจทำเรื่องใดๆที่อันตรายต่อชีวิตเขา

แต่ไม่ว่าฮังอวี่จะมอบอิสระภาพให้เธอเพียงใด สุดท้ายทั้งคู่ผูกมัดกันแล้ว เว้นแต่คนใดคนหนึ่งเสียชีวิต มิฉะนั้นจะไม่สามารถลบล้างได้

“พร้อมไหม?”

“ข้าพร้อม!”

ฮังอวี่ยกนักฆ่าขุมนรกขึ้น และฟันโซ่อย่างแรง ตรวนที่ผนึกทาเซียขาดจากกัน

แทบจะในทันทีที่ทาเซียได้รับอิสรภาพ ค่ายกลเตือนภัยส่งเสียงร้องเตือน

“สถานที่นี้จะถูกล้อมในไม่ช้า” ฮังอวี่วางมือบนไหล่ทาเซีย “ไปกันเถอะ”

หลังจากยืนนิ่งๆหนึ่งถึงสองนาที

ฮังอวี่ ทาเซีย และเสี่ยวไป๋หายวับไปในเวลาเดียวกัน

สิบนาทีต่อมา

ชาวมังกรและสมุนทหารกลุ่มใหญ่กระแทกเปิดประตู แต่เบื้องหน้าพวกมัน มีเพียงความว่างเปล่า

“ทาเซียหายไปไหน?”

“บัดซบ! นางหนีไปแล้ว!”

“สกิลมิติ นี่ต้องเป็นสกิลมิติแน่ๆ!”

“เร็วเข้า! รีบไปรายงานฝ่าบาท ประกาศภาวะฉุกเฉิน ส่งกองกำลังออกค้นหาให้ทั่วเมืองมังกร! พวกเขาคงไปได้ไม่ไกล!”

หลังทราบว่าทาเซียหนีจากคุก ความคิดแรกที่พวกมันนึกได้คือออกค้นหา

แต่พวกมันคงไม่รู้เลย ว่าสิ่งที่ฮังอวี่ใช้มิใช่แค่สกิลมิติ แต่มันคือการข้ามโลก

เขาได้ออกจากอาณาจักรมังกรโลกาไปแล้ว

ลูกเล่นนี้ของฮังอวี่ดูเหมือนจะเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

ทางหนึ่งช่วยเหลือทาเซีย อีกทางหนึ่งดึงตัวฝ่ายผลิตระดับผู้เชี่ยวชาญออกจากเมืองมังกร

กระนั้น ในความเป็นจริงเขาก็เสี่ยงมากเช่นกัน หากชาวมังกรรู้ว่าเผ่ามนุษย์ปล้นคุก

หากชาวมังกรมีความเข้าใจเรื่องความสามารถของมนุษย์มากพอ แล้วจัดตั้งกลุ่มยอดฝีมือดักรอในจุดที่วาร์ปข้ามโลก

เมื่อฮังอวี่กลับเข้าสู่อาณาจักรมังกรโลกาอีกครั้ง เขาจะถูกจับกุมในทันที

ทว่าจวบจนถึงตอนนี้ ชาวมังกรก็ยังไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น