Ep.474 - แทรกซึม
1/5
Ep.474 - แทรกซึม
“เหล่าได ผมขอแนะนำอีกครั้ง”
“สันเขามังกรอยู่ไม่ได้อีกแล้ว”
“อพยพได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี และจะดีที่สุดถ้าลงมือตอนนี้ทันที!”
การต่อสู้สิ้นสุดลงแล้ว
พัคแจวูถูกฆ่าตายอย่างลึกลับ
กองทัพมังกรจู่ๆก็หยุดสู้และล่าถอยกลับไปอย่างไม่คาดฝัน
กระบวนการทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วเกินไป
บวกกับเกิดพายุทรายเข้าบดบัง ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ที่พวกเขารู้ นี่คือเรื่องใหญ่แน่นอน!
ไดหยุนจง จี้ฉวงต่างรอดชีวิตจากการต่อสู้!
แม้สามารถหยุดความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ แต่พวกเขาไม่มีความสุขเลย!
กลุ่มราชวงศ์สวรรค์ที่ทรยศจัดได้ว่าเป็นชนชั้นนำ แม้การกระทำของพวกเขาจะแย่มาก แต่ที่ร้ายแรงยิ่งกว่าก็คือ ชาวมังกรเริ่มโจมตีมนุษย์แล้ว!
นี่คือวิกฤติที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา!
หากเผ่ามนุษย์ต้องเผชิญหน้ากับราชามังกรคลั่งในสันเขามังกร ...... นั่นไม่ต่างจากตั๊กแตนแค่คิดหยุดรถม้า!
ไม่มีทางชนะได้!
ดังนั้นฮังอวี่จึงเสนอแผนอพยพแก่พวกไดหยุนจง หวังว่าพวกเขาจะออกจากสันเขามังกรโดยเร็ว มิฉะนั้นสิ่งที่ต้องเผชิญต่อไปคงไม่พ้นความตาย
และเมื่อตกอยู่ในเงื้อมมือของราชามังกร ด้วยกลวิธีของราชามังกร มันมีวิธีมากมายที่จะทำลายวิญญาณ
ซึ่งนี่แตกต่างจากความตายตามปกติ เพราะหากวิญญาณถูกทำลายแล้วเท่ากับว่าตายจริงๆ
“บอสฮังพูดถูก ราชามังกรคลั่งเริ่มหวาดกลัวมนุษย์แล้ว” ครั้งนี้ไดหยุนจงรับฟังและเห็นด้วยกับเขา “วันนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้น การต่อสู้ระหว่างเผ่ามนุษย์กับชาวมังกรกำลังเริ่มขึ้น สถานการณ์ต่อไปจะยิ่งเลวร้าย”
จี้ฉวงเป็นกังวล “ฉันคิดว่ามันสายเกินไปแล้วถ้าจะอพยพกันตอนนี้ ด้วยพลังรบของราชามังกรในสันเขามังกร พวกมันสามารถค้นหาคนที่ต้องการพบได้แม้ต้องขุดดินลึกลงไปเป็น 300 ฟุต เพราะงั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะอพยพกันอย่างปลอดภัย”
“ไม่หรอก อย่าลืมสิว่าข้อได้เปรียบของมนุษย์คืออะไร?” ฮังอวี่กล่าวต่อ “ข้อได้เปรียบที่ว่าก็คือพวกเราสามารถข้ามมิติได้ แม้อพยพไม่สำเร็จ แต่พวกเรายังสามารถหนีจากคลื่นลมคลื่นฝนได้ชั่วคราว”
นั่นเป็นเรื่องจริง
ตราบใดที่ใช้ความสามารถในการข้ามมิติ ต่อให้มังกรคลั่งมีพลังแค่ไหน มากสุดก็ได้แค่เฝ้ามอง
ตัวอย่างเช่น ตอนนี้ทุกคนรู้สึกว่าโลกวิญญาณอันตรายมาก และคิดว่าคงหนีจากพื้นที่นี้ไม่ทัน ผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดคือการกลับสู่โลกจริงเพื่อหลบภัย ไม่เข้าสู่โลกวิญญาณในช่วงเวลาสั้น ๆ แม้ต้องเสียสละเวลาพัฒนาอันมีค่า แต่ก็ยังดีกว่าถูกราชามังกรจับได้ จริงไหม?
ไม่ว่าราชามังกรคลั่งจะแข็งแกร่งเพียงใด
ก็ไม่มีทางไล่ตามพวเขาไปโลกจริงได้!
ฮังอวี่กล่าวว่า “ไม่ต้องลังเลแล้ว อย่าลืมว่าต้องออกจากสันเขามังกรโดยเร็ว ยิ่งไกลเท่าไหร่ยิ่งดี”
คนของค่ายหนองน้ำถูกโน้มน้าวอีกครั้ง ทุกคนพยักหน้า
ว่ากันตามตรงแล้ว ไม่ใช่พวกเขาหวั่นไหว แต่ที่ตกลงเพราะไม่มีทางเลือก
ไดหยุนจงรวมกลุ่มทุกคน รอคนที่ตายจากการต่อสู้ฟื้นคืนชีพ จากนั้นระดมคนทั้งหมดถอนตัวจากสันเขามังกร
แน่นอน
สำหรับกลุ่มราชวงศ์สวรรค์ ไดหยุนจงจะไม่ยอมปล่อยพวกมันไป!
เมื่อกลับไปโลกจริง เขาจะเปิดโปงพวกมัน!
พฤติกรรมไร้ยางอายของกลุ่มราชวงศ์สวรรค์ ทางประเทศเกาหลีไม่แน่ว่าอาจรู้เรื่องอยู่แล้วและคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ความชั่วร้ายของพวกมันจะต้องถูกประจารไปทั่วโลก!
เรื่องนี้จะปล่อยไปไม่ได้!
“บอสฮัง ฉันเสียใจจริงๆ พวกเราช่วยคุณหาทางเข้าเมืองมังกรไม่ได้!”
“ไม่เป็นไร ผมมีแผนใหม่แล้ว!”
กล่าวอำลาไดหยุนจง
ฮังอวี่ไม่ได้อ้อยอิ่ง เขาเดินลึกเข้าป่าเพียงลำพัง ในที่สุดก็มาถึงเมืองมังกร
ขนาดของเมืองมังกรนั้นใหญ่กว่าเมืองธารทะเลทรายและเมืองฟ้าเดียวดายหลายเท่า ที่นี่มีฟังก์ชั่นมากมาย ประชากรมหาศาล เป็นเมืองที่ทรงพลังที่สุดในอาณาจักรมังกรโลกา
และจากข้อมูลที่มี จำนวนสายพันธุ์อัจฉริยะในเมืองมังกรมีมากกว่า 5,000 ตน และจำนวนทหารทั้งหมดในเมืองมีมากกว่า 100,000 นาย
โคตรทรงพลัง!
ไม่น่าแปลกใจที่ขุนนางตนอื่นๆไม่กล้าล่วงเกินราชามังกรคลั่ง
หรือต่อให้มีผู้ท้าทายเฮสการ์ แต่สุดท้ายผลลัพธ์ก็ลงเอยไม่ดี!
การป้องกันของเมืองมังกรนั้นเข้มแข็งที่สุดในอาณาจักรมังกรโลกา ทั้งภายในและภายนอกกำแพงเมือง ทั้งบนบกและใต้ดิน แม้กระทั่งท้องฟ้า มันเต็มไปด้วยเขตแดนและกับดัก ครอบคลุมทั้ง 360 องศา ไม่มีช่องโหว่
การเข้าออกเมืองมังกรจำเป็นต้องมีการยืนยันตัวตน เข้มงวดมาก ยากที่จะแอบเข้าไป
แผนก่อนหน้านี้ของฮังอวี่คือการหาวิธีได้ข้อมูลประจำตัวเพื่อเข้าสู่เมืองมังกรอย่างถูกกฎ แต่แผนนี้กลายเป็นเรื่องยากด้วยการกบฏของกลุ่มราชวงศ์สวรรค์ และการโจมตีของชาวมังกรต่อเผ่ามนุษย์
นี่แหละหนอที่เขาเรียกโชคชะตาบางครั้งก็ไม่แน่นอน
ครั้งนี้ฮังอวี่ตั้งใจจะใช้ลูกเล่นจากสกิลเคลื่อนมิติ
หากให้อธิบายชัดๆ คือมีแค่สกิลประเภทมิติเท่านั้นที่จะสามารถทะลุเขตแดนป้องกันได้
เขตแดนป้องกันทั่วๆไป ไม่ว่าพลังป้องกันจะสูงเพียงใด แต่กำแพงอุปสรรคของมันจัดอยู่ในรูปแบบทางกายภาพเท่านั้น
อย่างพวกกำแพงเมือง ไม่ว่าจะทำจากไม้ หิน เหล็ก ทอง จะทรงสี่เหลี่ยม ทรงกลม หรือรูปทรงอื่นๆ แต่ยังไงซะกำแพงก็คือกำแพง เรื่องนี้ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
ขณะที่หลักการของสกิลเคลื่อนมิติคือ : เทเลพอร์ตจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งโดยตรง!
ซึ่งหมายความว่า นี่ไม่ใช่การเคลื่อนที่เป็นเส้นตรง ไม่ใช่สิ่งที่กำแพงจะขวางกั้นได้
การป้องกันของเมืองมังกรแม้เข้มแข็ง แต่ปราศจากการป้องกันลูกเล่นเชิงมิติ
ดังนั้นด้วยสกิลมิติของฮังอวี่ เขาสามารถฝ่าเขตแดนภายนอกเข้าไปได้!
ฮังอวี่อัพเกรดสกิลเคลื่อนมิติเป็นขั้น 3 ทำแบบนี้จะช่วยให้เพิ่มระยะได้ไกลขึ้น และไม่จำเป็นต้องกำหนดทิศทางแบบแม่นยำ ขอแค่ล็อคทิศทางคร่าวๆ ก็สามารถข้ามสิ่งกีดขวางได้โดยอัตโนมัติ แต่จะไปโผล่ตำแหน่งไหนต้องลุ้นกันอีกที
เรื่องนี้แม้เสี่ยงอยู่บ้าง
แต่ก็คุ้มค่าที่จะลอง!
ฮังอวี่ยืนอยู่บนยอดเขาเตี้ยๆที่ห่างจากเมืองมังกรประมาณ 700 เมตร
ก่อนอื่นเขากะระยะด้วยสายตา จากนั้นเปิดใช้งานเคลื่อนมิติ บริเวณรอบตัวเขาบิดเบี้ยวทันที ค่ายกลเทเลพอร์ตปรากฏใต้ฝ่าเท้า ยิ่งระยะทางไกล ก็ยิ่งใช้เวลานาน ครั้งนี้เทเลพอร์ตไปประมาณ 3-4 กิโลเมตร จึงใช้เวลาประมาณสามหรือสี่วินาที
แสงทอวาบ
ฮังอวี่หายวับไปจากยอดเขา
และแทบจะในเวลาเดียวกัน ในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองมังกร อากาศโดยรอบสั่นสะเทือน มีร่างหนึ่งโผล่ออกมาเหนือหลังคาตึก เขามองไปรอบๆ อย่างระแวดระวัง
แต่ไม่พบอันตรายใดๆ
โชคดีจริงๆ!
ขั้นแรกประสบความสำเร็จ!
เมืองมังกรมีการป้องกันทางเข้าที่เข้มงวดแล้วยังไง?
สุดท้ายก็ขวางฉันไม่ได้!
ฮังอวี่ร้องไชโยในใจนานกว่า 2 วินาที ก่อนปล่อยหวังเอ๋อออกมา “เจ้าหมา ถึงตานายแล้ว ฉันอยากรู้ว่าเป้าหมายของภารกิจนี้อยู่ที่ไหน”
“ฮ่ง รับทราบ!”
หวังเอ๋อปล่อยร่างแยก ทั้งหมดเข้าสู่สถานะล่องหน แยกย้ายไปในทิศทางต่างๆ
ฮังอวี่หยิบโพชั่นมนตราอำพรางที่เตรียมไว้ล่วงหน้าออกมา เปลี่ยนรูปลักษณ์และกลิ่นอายของเขา จากนั้นเดินไปตามถนนอันใหญ่โตของเมืองมังกร แม้ระหว่างทางจะพบยามลาดตระเวนหลายกลุ่ม แต่สังเกตจากพฤติกรรมของพวกมัน ก็สามารถยืนยันความจริงได้อย่างหนึ่ง : ไม่มีปัญหา!
การแทรกซึมประสบความสำเร็จ!
ตราบใดที่เขาไม่ก่อเรื่องเอะอะจนเกินไป ไม่มีทางที่เมืองมังกรจะสังเกตเห็นความผิดปกติในช่วงสั้นๆ