ตอนที่ 8-10 ดาบเดียว
“ลีย์, เจ้าคิดว่าแม่นางเจนน์เป็นยังไงบ้าง?นางสวยมากไหม?” แลนซ์พูดเสียงในลำคอ
“นางงดงามมาก” ลินลี่ย์พยักหน้ายอมรับ
ลูเธอร์ที่อยู่ใกล้ๆ เดินเข้ามา “นางไม่ใช่แค่งามเท่านั้น ในหลายปีมานี้ ข้าเดินทางไปมาก็มาก ข้าเห็นสาวงามมานับไม่ถ้วน แต่แม่นางเจนน์ หึ หึ นางสุดยอดแน่นอน ลีย์! เจ้าสนใจแม่นางเจนน์บ้างไหม?”
ลินลี่ย์กระพริบตาตกใจ
แลนซ์ยังคงจ้องมองลินลี่ย์โดยขยิบตาในทำนองที่บุรุษทุกคนเข้าใจได้ “ลีย์! เป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับผู้แข็งแกร่งทรงพลังที่จะมีหญิงงามหลายคน ถ้าเจ้าไม่ฉวยโอกาส หลังจากเจ้าออกจากคาราวานไปแล้ว เจ้าจะไม่มีโอกาสอื่น”
“ท่านทั้งสอง....” ลินลี่ย์ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
นานมาแล้วอลิซทำให้ลินลี่ย์ปิดกั้นหัวใจกับเรื่องความรักหนุ่มสาว และตอนนี้ลินลี่ย์ยังไม่ถึงขั้นหิวกระหายต้องไล่ตามเกี้ยวเด็กสาวงามทุกคนที่เขาพบเห็น
“แม่นางเจนน์และน้องชายของนางเพิ่งจะออกมา” ลูเธอร์พูดเสียงเบาทันที
ลินลี่ย์หันไปมอง แน่นอนแม่นางเจนน์และคีนน้องชายของนางเดินตรงไปที่กองไฟซึ่งมีบ่าวรับใช้ชราอยู่ด้วย
คีนเด็กผู้ดีอดหันมามองดูเสือดำเมฆาอีกครั้งไม่ได้
เสือดำเมฆาแยกเขี้ยวเป็นประกายเยือกเย็นของมันทันที คีนหวาดกลัวจนคว้ามือพี่สาวของเขาเอาไว้แน่น เจนน์เหมือนกับจะรู้สึกอะไรบางอย่างได้จึงหันมาทางลินลี่ย์เช่นกัน
นางค้อมตัวเป็นการขอโทษลินลี่ย์ เจนน์พาน้องชายนางไปนั่งที่กองไฟถัดออกไป
….
“พี่, อสูรเวทนั่นสง่างามมากเลยนะ!” ตาของคีนเป็นประกายราวกับอัญมณีและเต็มไปด้วยความต้องการ “จะต้องเป็นเรื่องเยี่ยมยอด ถ้าสักวันข้ามีอสูรเวทที่ทรงพลังด้วยเช่นกัน”
บ่าวชราหัวเราะเบาๆ “คุณชายคีน,การฝึกอสูรเวทให้เชื่องไม่ใช่เรื่องง่าย จะฝึกฝนอสูรเวทที่ทรงพลัง ท่านจะต้องปราบมันให้อยู่ และจะปราบมันได้ ท่านจะต้องเอาชนะมันให้ได้โดยตรง เท่าที่ข้ารู้อสูรเวทประเภทเสือดำชนิดที่อ่อนแอที่สุดล้วนอยู่ที่ระดับเจ็ดทั้งนั้น ท่านลีย์นั้นต้องเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง”
“ที่อ่อนแอที่สุดเป็นอสูรเวทระดับเจ็ดเชียวหรือ?” คีนสูดหายใจหนาวเหน็บ “ปู่แลมเบิร์ต มันแข็งแกร่งทรงพลังเท่าปู่แลมเบิร์ตหรือเปล่า?”
ในใจของคีน คนที่เขาเทิดทูนที่สุดในโลกก็คือปู่แลมเบิร์ตของเขา
เมื่อเขากับพี่สาวอยู่ในสหภาพศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาไม่มีใครให้พึ่งพาอาศัย ตลอดเวลาที่ผ่านมาเป็นปู่แลมเบิร์ตคอยปกป้องพวกเขา ถ้าไม่ใช่เพราะปู่แลมเบิร์ต เหล่าขุนนางในเมืองที่พวกเขาอาศัยอยู่คงส่งคนไปจับพี่สาวเขานานแล้ว เขาเห็นกับตาตัวเองว่าปู่แลมเบิร์ตต่อยโล่ของการ์ดขุนนางผู้นั้นจนแตกในหมัดเดียว จากนั้นเอาชนะการ์ดอีกสิบคนได้อย่างง่ายดาย
“ข้าน่ะหรือ? ข้ามีฝีมืออยู่นิดเดียวเขาสามารถฆ่าข้าได้ง่ายๆ ในการโจมตีครั้งเดียว” แลมเบิร์ตหัวเราะและลูบศีรษะคีน “คุณชายคีน เมื่อเราไปถึงจักรวรรดิโอเบรียน เจ้าต้องระมัดระวังมียอดฝีมือมากมายในโลกนี้ ข้าแค่ปกป้องเจ้าได้ในที่อย่างเมืองเล็กๆ เหล่านั้นได้ แต่เมื่อเราไปถึงเมืองใหญ่....”
“ไม่เป็นไร! ครั้งนี้เราจะไปรับตำแหน่งเจ้าเมืองใช่ไหม?” คีนเชิดหัวน้อยๆ อย่างถือดี “เมื่อข้าเป็นเจ้าเมือง ข้ายังจะกลัวใครอีกเหรอ?”
เมื่อเห็นคีนอย่างนั้นเจนน์อดลูบศีรษะเขาอย่างเอ็นดูไม่ได้ “คีน! ในอนาคตเจ้าจะต้องเป็นเจ้าเมืองที่สง่างาม
“แน่นอน” คีนมั่นใจมาก
………
อย่างช้าๆ คนในคาราวานส่วนใหญ่เริ่มทยอยกันหลับ มีเพียงทหารรับจ้างสองสามคนยังคงตื่นอยู่คอยป้องกันพื้นที่โดยรอบ ลินลี่ย์นั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นดาบหนักอดาแมนเทียมพาดอยู่บนตักเขาอยู่เสมอ
ลินลี่ย์ไม่ทราบว่าบรรพบุรุษของตระกูลเขาฝึกการใช้ดาบหนักระดับสาม ‘ระดับกำหนด’ ได้ยังไง แต่วิธีฝึกของลินลี่ย์ทำให้วิญญาณของเขากลายเป็นหนึ่งกับแผ่นดินที่ยิ่งใหญ่และเป็นหนึ่งกับสายลมที่ไร้ขอบเขต
แผ่นดินมีชีพจรที่เต้นได้เป็นของตนเองอย่างน่าอัศจรรย์
ชีพจรเฉพาะนั้นเต้นมีจังหวะเป็นของตนเองซึ่งลินลี่ย์ฝังตัวจดจ่ออยู่ ขณะที่สายลมที่ไร้ขอบเขตซึ่งเต็มอยู่ในท้องฟ้าทั้งมวลมีความเกี่ยวโยงที่ลึกซึ้งกับอวกาศซึ่งเป็นส่วนสำคัญทำให้เขาสามารถเข้าใจแก่นแท้ของระดับ กำหนดได้
ฝังตัวอยู่ในธรรมชาติ.... เข้าใจธรรมชาติ....
ในสภาวะนี้ลินลี่ย์ไม่ทันสังเกตเวลาที่ผ่านไปแม้แต่น้อย แต่ในช่วงครึ่งคืนหลังเมื่อคนในคาราวานส่วนใหญ่นอนหลับมีเพียงทหารรับจ้างเพียงไม่กี่คนที่ยังคอยเฝ้าระวัง
“วิ้วว, วิ้ววว”
ตกดึก สายลมเย็นพัดและไล้เข้ากับปอยผมของลินลี่ย์ตาที่หลับของลินลี่ย์พลันลืมขึ้นทันที จากนั้นสะพายดาบหนักไว้กับหลัง
“ลุกขึ้น” ลินลี่ย์ปลุกแลนซ์และลูเธอร์พร้อมกัน
แลนซ์และลูเธอร์เป็นทหารรับจ้างทั้ งสองคนใช้ชีวิตอยู่บนคมหอกคมดาบมาแล้ว พวกเขาเป็นพวกนอนไว และลุกขึ้นทันที แลนซ์กับลูเธอร์เห็นว่ายังคงเป็นกลางคืนอยู่
“ลีย์, มันดึกแล้ว ทำไมเจ้ายังไม่นอน?” แลนซ์ไม่พอใจเล็กน้อย แต่เขาไม่กล้าบ่น”
“พวกโจรกำลังมา” ลินลี่ย์พูดตามปกติ
“โอว”
ลูเธอร์หลับตาอีกครั้งแต่แล้วก็ต้องลืมตาโพลงทันทีจ้องดูลินลี่ย์ด้วยความตกใจ “ลีย์! เจ้าพูดอะไร? พวกโจรกำลังมาหรือ?”
“มาเป็นกลุ่มราวๆร้อยคนกำลังเข้ามาใกล้จากด้านหน้าห่างออกไปราวสามร้อยเมตร พวกมันตรงมาทางนี้อย่างช้าๆ” ลินลี่ย์พูดต่อ
ตอนนั้นลินลี่ย์เชื่อมโยงกับชีพจรแผ่นดินและกระแสไหลเวียนของสายลม
ลินลี่ย์สามารถรู้สึกได้ชัดถึงฝีเท้ากำลังเข้ามาห่างออกไปราวร้อยเมตร ปกติภายใต้สถานการณ์ธรรมดาลินลี่ย์จะไม่สามารถตรวจพบพวกเขาได้เร็วนัก แต่หลังจากกลายเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ความรู้สึกอ่อนไหวของเขากว้างไกล
ลูเธอร์ตกใจกลัว
“อย่ายืนบื้ออยู่ตรงนั้นเจ้าโง่ ปลุกพี่น้องของเราทุกคน” แลนซ์สงบมากกว่า
“โอว เข้าใจแล้ว” ลูเธอร์ออกไปปลุกทหารรับจ้างทีละคน ขณะที่แลนซ์ไปเตือนทหารรับจ้างทุกคนให้เตรียมพร้อม
พอถูกปลุกจากฝันหวานในตอนกลางดึก ทหารรับจ้างทุกคนไม่พอใจเป็นธรรมดา
“โจรกำลังมา” แต่แค่เพียงประโยคสั้นๆนั้นก็เพียงพอให้พวกเขาตื่นตกใจได้
“พวกมันอยู่ไหน?” พลางกวาดตามองไปทุกที่ในราตรีที่มืดมิด ทหารรับจ้างที่ตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นแม้แต่เงาโจรสักคน ทุกคนเริ่มแสดงความไม่พอใจ
หัวหน้าทหารรับจ้างเคราครึ้มกระชากคอเสื้อแลนซ์ “เจ้าบอกว่ามีโจร มันอยู่ไหน?”
“ไม่ใช่ข้า แต่เป็นลีย์ ที่บอกว่ามีโจร” แลนซ์รีบอธิบาย
“งั้นเหรอ?” บุรุษเคราครึ้มตกใจ เกี่ยวกับยอดฝีมือผู้นี้ซึ่งเขารับไว้ระหว่างเดินทางของเขา แค่ดูจากเสือดำบุรุษเคราดกก็รู้ว่านี่ไม่ใช่คนที่เขาสามารถตอแยได้ เมื่อยอดฝีมือกล่าวอ้างอย่างนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาคงไม่ได้กลั่นแกล้งกันแน่
และในทันใดนั้น บุรุษเคราดกครึ้มก็ได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่วมากดังมาแต่ไกล
เมื่อพิจารณาจากพลังของบุรุษเคราดกแล้ว ตอนนี้เขาสามารถได้ยินเสียงชัดเจนแล้ว
“พวกโจร, เตรียมตัว เตรียมตัว!” เสียงคำรามที่น่ากลัวของบุรุษเคราครึ้มปลุกคนอื่นทันที แม้แต่พ่อค้าที่หลับไหลหลายคนและสารถีของพวกเขาก็พลอยตื่นขึ้นด้วย
ทหารรับจ้างเหล่านี้มีราวๆ ร้อยคนตั้งแถวกันอย่างเป็นระเบียบ
“ฮ่าฮ่า เจ้าเครามาโลน ข้านักไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะตื่นเร็วนัก หลายปีมานี้เจ้ามีความก้าวหน้าอยู่บ้างดูเหมือนว่าการลอบโจมตีของเราจะล้มเหลว งั้นเราคงต้องโจมตีซึ่งหน้า” เสียงหัวเราะดังลั่นได้ยินทั่ว จากนั้นร่างหนึ่งในชุดดำปรากฏตัวอยู่หน้าขบวนคาราวาน
“เป็นเจ้าหรือ?” หน้าของบุรุษไว้เคราเปลี่ยนไป ขณะที่เขาจ้องมองบุรุษผมทองตาเดียว
อสรพิษตาเดียวแม็คคินเลย์ ในเส้นทางที่ยาวไกลซึ่งไม่มีใครควบคุมนี้ ชื่อนี้เป็นชื่อที่โด่งดังมาก คนผู้นี้มีชื่อเสียงอื้อฉาวทั้งในเรื่องความชั่วร้ายและพลังของเขาด้วย
“แว้...” ทารกในกองคาราวานด้านหลังเริ่มร้องไห้
“โจร!” หลายคนเริ่มแตกตื่น
“เงียบบบบบ!” บุรุษเคราครึ้มคำรามด้วยความโกรธ หลายๆคนในคาราวานเริ่มจับกลุ่มทันทีเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนอยู่ด้วยกันเด็กหนุ่มหลายคนมีอาวุธพร้อมต่อสู้
บุรุษเคราดกมองดูบุรุษตาเดียวผมทอง “อสรพิษตาเดียว อย่ากดดันกันเกินไปข้าขอเสนอห้าพันเหรียญทองให้เจ้า และเจ้าปล่อยให้พวกเราผ่านไป ตกลงไหม?”
“ห้าพันเหรียญทอง?” บุรุษตาเดียวหัวเราะเย็นชา “มาโลนเจ้าเห็นข้าแม็คคินเลย์เป็นขอทานงั้นหรือ? ฟังนะ หนึ่งแสนเหรียญทอง แล้วข้าจะปล่อยพวกเจ้าไป มิฉะนั้น ฮึ่ม...”
หน้าของทหารรับจ้างทุกคนเครียดทันที
แสนเหรียญทอง? ค่าจ้างสำหรับภารกิจนี้ของพวกเขาก็แค่เพียงหกหมื่นหรือเจ็ดหมื่นเหรียญทองเท่านั้น ถ้าพวกเขายอมมอบแสนเหรียญทองออกไป เงินพวกเขาคงเกลี้ยงกระเป๋า ที่สำคัญคือ ตามกฎของทหารรับจ้างเมื่อพวกเขายอมรับภารกิจแล้ว ต่อให้พวกเขาต้องจ่ายบางส่วนให้โจรกลุ่มกิจการของทหารรับจ้างก็ต้องควักกระเป๋าเอง
“อสรพิษตาเดียว อย่ารุกล้ำจนเกินไปนัก เจ้าควรจะพอใจกับราคาห้าพันเหรียญทองโดยที่คนของเจ้าไม่ตายสักคนเดียว” บุรุษเคราดกชูขวานศึกของเขา “มิฉะนั้น เราต้องมาดูกันว่าใครแข็งแกร่งกว่ากัน” บุรุษเคราดกมาโลนค่อนข้างมั่นใจ ในอดีตเขาเคยสู้กับแม็คคินเลย์และพวกเขามีระดับพลังเสมอกัน เขาเชื่อว่าด้วยการลอบโจมตีที่ล้มเหลว แม็คคินเลย์คงไม่กล้าเสี่ยงทุ่มกำลังโจมตีแน่
“ก็ควรเป็นเช่นนั้น พี่น้อง..บุก!” แม็คคินเลย์ตะโกนลั่น
ทันใดนั้นโจรทุกคนชักอาวุธและโห่ร้องเกรี้ยวกราด เริ่มบุกใส่ทันทีเรื่องนี้สร้างความตกใจให้มาโลนจริงๆ
ควับ ควับ ควับ!
พลธนูทั้งสองฝ่ายเริ่มยิงธนูโต้ตอบกันอย่างไม่ปราณี แต่ในการต่อสู้ขนาดเล็กอย่างนี้แต่ละฝ่ายมีพลธนูเพียงร้อยคนไม่มากพอจะสร้างผลกระทบทั่วทั้งสนามรบ
“มาโลน, ตายซะเถอะ!” แม็คคิลเลย์บุกตรงเข้ามาพร้อมกับง้าวแหลมคมเขากระโจนขึ้นในอากาศและฟันใส่มาโลนสุดกำลังด้วยอานุภาพปานฟ้าผ่า
มาโลนยกขวานศึกขึ้นต้านรับ ไม่ยอมแสดงความอ่อนแอ
“ปึ้ก...” รังสีดำครอบคลุมง้าวและทวีความรุนแรงขึ้นทันที
“บึ้ม!”
มาโลนรู้สึกว่ามือของเขาชา และเขาถอยไปสองสามก้าวอย่างช่วยไม่ได้
“เจ้า....?” มาโลนจ้องแม็คคินเลย์อย่างประหลาดใจ เขารู้แน่ว่าแม็คคินเลย์แข็งแกร่งขนาดไหน ถ้าว่ากันในเรื่องสู้กันซึ่งหน้าอาวุธของเขาเองได้เปรียบแม็คคินเลย์ แต่ตอนนี้คู่ต่อสู้กลับได้เปรียบเหนือเขา นี่....
“เจ้าคาดเดาได้ถูก ข้าเป็นนักรบระดับแปดแล้ว” หน้าของแม็คคินเลย์เต็มไปด้วยความหยิ่งยโส
“มิน่าเล่า เจ้าถึงไม่กังวลเรื่องการโจมตีซึ่งหน้าแม้แต่น้อย”ตอนนี้มาโลนเข้าใจแล้ว
“เจ้านาย, มีหญิงงามคนหนึ่งอยู่ที่นี่” มีเสียงหนึ่งดังขึ้นทันที
แม็คคินเลย์หันหน้าและเห็นเจนน์ ใบหน้านางขาวซีดจากอาการตกใจกลัว ตอนนี้เจนน์ปกป้องน้องชายของนางอย่างเต็มที่ ใบหน้าที่น่าเวทนาของนางดูตื่นเต้น
“ฮ่าฮ่า, สตรีคนนั้นเป็นของข้า!” แม็คคินเลย์ตื่นเต้นมากทันที
….
เหล่าทหารรับจ้างต่อสู้อยู่กับพวกโจร โจรคนหนึ่งฆ่าทหารรับจ้างได้คนหนึ่ง และจากนั้นก็ถูกทหารรับจ้างอีกคนหนึ่งเสียบหน้าอก
“ถอยก่อน ถอย!” มาโลนตะโกนขณะที่เขาถอยอย่างรวดเร็ว ทหารรับจ้างของเขาทุกคนถอยมารวมกับเขาเช่นกัน
“ท่านลีย์, ข้าขอวิงวอนท่าน ได้โปรดช่วยกองคาราวานของพวกเราด้วยเถิด”มาโลนพูดกับลินลี่ย์ด้วยความเคารพร้อมขอความช่วยเหลือจากเขา ตอนนี้ทหารรับจ้างก่อขบวนเป็นวงกลมพ่อค้าทั้งหมดอยู่ในวงกลมชั้นใน ลินลี่ย์และมาโลนทั้งสองคนยืนอยู่ที่วงกลมชั้นนอก
เมื่อเจอกับคำขอร้องของมาโลน ลินลี่ย์พยักหน้าครั้งหนึ่ง
“ข้าจะช่วยท่านจัดการกับหัวหน้าเท่านั้น” ลินลี่ย์กล่าว มาโลนตื่นเต้นนัยน์ตาเป็นประกายทันที ถ้าแม็คคินเลย์ถูกฆ่า พวกเขายังจะกลัวพวกโจรที่ยังเหลือด้วยหรือ?
เจนน์กอดน้องชายนางอยู่ใกล้กองไฟไว้แน่น
“พี่, หัวหน้าทหารรับจ้างนั้นดูเหมือนกำลังขอร้องท่านลีย์”นัยน์ตาของคีนเป็นประกายขณะที่เขามองดูเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ เจนน์หันไปมองลินลี่ย์เหมือนกัน
ลินลี่ย์ยืนอยู่ในกลางถนนมองดูพวกโจรอย่างใจเย็น
“บัดซบ!” แม็คคินเลย์ควงง้าวในมือและบุกใส่ด้วยความเร็วสูง เขาพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงมาก และร่างของเขากระพริบวาบจากซ้ายไปขวาเหมือนกับว่าเขาแยกออกเป็นสองร่างทำให้คู่ต่อสู้ยากจะกำหนดว่าใครคือแม็คคินเลย์ตัวจริงใครคือภาพลวงตา
ดาบลวงตา!
นี่คือไม้ตายพิเศษประจำตัวของแม็คคินเลย์ อสรพิษตาเดียว
“น่าขัน” ลินลี่ย์บรรลุถึงระดับ ‘กำหนด’ไปแล้ว แค่เพียงเคล็ดวิชาระดับนี้ย่อมไม่มีผลต่อเขาแต่ประการใด
“ตาย!” ประกายตาที่น่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงและดุร้ายปรากฏอยู่ในดวงตาของแม็คคินเลย์
ลินลี่ย์ชักดาบหนักอดาแมนเทียมจากฝักดาบด้านหลังของเขา ท่วงท่าชักดาบนี้เต็มไปด้วยความน่าทึ่ง มีราศีสง่างามขณะที่พื้นที่รอบดาบถูกแช่แข็งทันที
ดาบหนักอดาแมนเทียมฟันใส่แม็คคินเลย์อย่างเรียบง่าย
แม็คคินเลย์อยากหลบทันทีแต่ก็ต้องหวาดหวั่นเมื่อเขาพบว่าพื้นที่รอบตัวเขามีแรงบีบอัดหนาแน่นจนขยับไม่ได้ ในทันใดนั้นแม้แต่เสียงก็ยังหลุดรอดไปจากพื้นที่นั้นไปไม่ได้
เขาไม่มีที่ให้หลบ และความจริงไม่เห็นอะไรอื่น ตาของเขามองอยู่แต่ที่ดาบหนักอดาแมนเทียมที่เข้ามาใกล้ทุกขณะ
เขาต้องการยกง้าวของเขาขึ้นป้องกัน แต่กลับรู้สึกว่าเหมือนติดอยู่ในหลุมทรายดูดลึกไม่สิ้นสุด ง้าวของเขาให้ความรู้สึกเหมือนกับหนักขึ้นเป็นหมื่นปอนด์และช้ามาก
“บึ้ม!”
ดาบหนักอดาแมนเทียมฟาดเข้าที่ร่างของแม็คคินเลย์ ในทันใดนั้นทั่วร่างแม็คคินเลย์ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าเปลี่ยนสภาพเป็นกองเนื้อเละ พวกโจร ทหารรับจ้าง เจนน์ คีนและคนอื่นๆต่างเพ่งมองอย่างพิศวงปากอ้าตาค้าง
“โจรเล็กโจรน้อยที่เหลือ พวกท่านรับมือเอาเอง” ลินลี่ย์เก็บดาบเข้าฝักขณะที่พูดกับเจ้าเคราดกมาโลนอย่างใจเย็น