ตอนที่ 186 – ตอนที่ 178 นางเซียนหงส์ฟ้า P1
ปีศาจกฎฟ้าหรือ?
ปีศาจกฎฟ้าคือหนึ่งในนักสู้ผู้แข็งแกร่งที่สุดในวังปีศาจแห่งเขาทลายจองจำ คู่กับปีศาจมุกฟ้าและปีศาจแค้นฟ้า นางเป็นหนึ่งในสามมหาปีศาจฟ้า
กล่าวกันว่าปีศาจกฎฟ้าเป็นสตรี ผู้เป็นลำดับที่สองในสิบมหาปีศาจฟ้า ฝีมือของนางแค่เป็นรองจากปีศาจมุกฟ้าผู้แข็งแกร่งที่สุดในวังปีศาจ ปีศาจกฎฟ้ายังแข็งแกร่งกว่าองครักษ์พิทักษ์ฟ้าเสียอีก นักสู้ระดับ 6 บางทียังต้องพบจุดจบถูกฆ่าทันที หากต้องปะทะกับนางโดยบังเอิญ ในตอนนี้ เย่ว์หยาง, องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและคนอื่นบาดเจ็บกันหมดและยังอ่อนล้าเต็มที พวกเขาจะต่อต้านมหาปีศาจฟ้าผู้แข็งแกร่งได้อย่างอย่างไร?
เย่ว์หยางรู้สึกใจตกวูบ ตั้งแต่แรกแล้ว เขารู้สึกแล้วว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
อาจารย์จิ้งจอกเฒ่ายังไม่สามารถซ่อนความแข็งแกร่งที่แท้จริงจากเขาได้ แต่อนุปีศาจฟ้าอย่างเซียนหงส์ฟ้านี้สามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าว่ากันตามเหตุผลด้วยทักษะระดับนาง นางไม่น่าแข็งแกร่งกว่าอาจารย์จิ้งจอกเฒ่า…
เว้นแต่ว่านางคือปีศาจกฎฟ้าจริงๆ!
ปฏิกิริยาแรกของหญิงงามลึกลับคือสั่นศีรษะนางอย่างแรง “เป็นไปไม่ได้ เจ้าไม่มีทางเป็นปีศาจกฎฟ้าได้แน่ นักสู้ระดับสูงทุกคนในโลกนี้เห็นด้วยที่จะทำสัญญาห้ามฆ่าผู้เยาว์จากแต่ละฝ่าย ถ้าเจ้าเป็นปีศาจกฎฟ้าจริงๆ และเจ้าฆ่าเรา อย่างนั้นองครักษ์พิทักษ์ฟ้าทุกคนจากสามประเทศและนักสู้ที่แข็งแกร่งจากสี่นิกายจะเข้าจู่โจมใส่เขาทลายจองจำของเจ้าและกำจัดวังปีศาจอย่างเด็ดขาด ….. ถ้าเจ้าเป็นปีศาจกฎฟ้าจริงๆ เจ้าไม่ควรร่วมสู้เพื่อสังหารเรา พวกเรายังเป็นผู้เยาว์เท่านั้น ท่านควรจะสู้กับนักรบที่แข็งแกร่งจากแดนปีศาจในหอทงเทียนชั้นที่เจ็ดหรือไม่ก็ชั้นที่แปด ทำไมท่านต้องมาเพื่อฆ่าเราที่นี่ เซียนหงส์ฟ้าอาจเป็นชื่อปลอม แต่ข้ากล้าบอกได้ว่าเจ้าไม่ใช่ปีศาจกฎฟ้าแน่นอน!”
เซียนหงส์ฟ้าผู้ทรงเสน่ห์และยั่วยวนหัวเราะคิกคัก “อย่ากังวลเกินไปนัก แม้ว่าข้าจะไม่ใช่ปีศาจกฎฟ้า แต่ข้าก็ยังเป็นเซียนหงส์ฟ้า อนุปีศาจฟ้าอยู่ดี พวกเจ้าทุกคนยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าอยู่ดี”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ สีหน้าขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกลับกลายเป็นดีขึ้นเล็กน้อย
สวรรค์ช่วย!
ถ้านางเป็นหนึ่งในสามมหาปีศาจฟ้า อย่างปีศาจกฎฟ้าจริงๆ อย่างนั้นพวกนางไม่จำเป็นต้องสู้ในศึกครั้งนี้แล้ว
ขณะนี้ มีเพียงเย่ว์หยางที่ยังสงสัยถึงสิ่งที่เขารู้สึกได้จากก้นบึ้งของหัวใจตนเอง
“เจ้า, ข้าอยากจะถามเจ้าสักคำถาม ทำไมเจ้าถึงไม่เรียกอสูรของเจ้าออกมา? กลัวว่าข้าจะเห็นไม้ตายก้นหีบของเจ้าหรือ?” เซียนหงส์ฟ้าส่งยิ้มให้เย่ว์หยาง เสียงของนางนุ่มนวลและไพเราะเหมือนกับว่านางกำลังคุยกับคนรัก อย่างไรก็ตาม ยิ้มหวานของนางทำให้เย่ว์หยางเหงื่อออกเต็มศีรษะทันที
การต่อสู้ทั้งหมดที่เย่ว์หยางเผชิญมา เขาจะยอมบาดเจ็บแทนที่จะเรียกสัตว์อสูรออกมา
ทั้งนี้เป็นเพราะมีความกลัวที่อธิบายไม่ได้เกิดขึ้นในใจเขา เขากลัวว่านางเซียนหงส์ฟ้าจะเห็นความลับของเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิธีที่นางพญากระหายเลือดผสานร่างกับเงาปีศาจของเขา เรื่องการปรับโครงสร้างใหม่ของโคเงา หรือความคงอยู่ของปีศาจอสรพิษน้อย เสี่ยวเหวินหลี ทั้งหมดเป็นความลับ ถ้าใครพบความลับนั้นเข้า แม้ว่าเขาจะชนะการศึกในครั้งนี้ แต่เขาจะดึงดูดศัตรูมาได้อย่างไม่สิ้นสุด
เขามีอสูรพิทักษ์สามตนผู้มีชีวิตผูกติดกับเขาและแบ่งปันทักษะกับเขา นี่คือสิ่งที่คนอื่นหวังได้แต่ในความฝันเท่านั้น
ตราบใดที่นางเซียนหงส์ฟ้าประกาศเรื่องนี้ให้กับคนทั่วไปทราบหรือรายงานวังปีศาจ ผลที่ตามมาจะเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง
เย่ว์หยางไม่มีความมั่นใจที่จะฆ่านางเซียนหงส์ฟ้าได้ นางเป็นนักสู้ที่อย่างน้อยมีความแข็งแกร่งระดับอนุปีศาจฟ้า ถ้าเขาต้องการเอาชนะนาง เขาต้องใช้จุดอ่อนนั้น ถ้านางเป็นปีศาจกฎฟ้าจริงๆ อย่างนั้นจุดอ่อนจะต้องเป็นสิ่งที่นางจงใจล่อให้ศัตรูของนางเข้ามาสู่กับดักของนาง ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ เขาคงต้องพบกับโชคร้ายในที่สุดแน่นอน
หลังจากฆ่ากู่จุย เย่ว์หยางพยายามสังเกตเซียนหงส์ฟ้าอย่างลับๆ เขาพบว่านางแตกต่างจากคนอื่นโดยสิ้นเชิง มองดูเหมือนกับว่า เย่ว์หยางเหยียบย่ำได้เฉพาะมดน้อยในบ้านของนาง เมื่อเย่ว์หยางซ่อนตัวอยู่ในน้ำและยิงปราณก่อกำเนิดกระบี่ไร้ลักษณ์สามารถแทงทะลุหลังศีรษะเสียนกงและสังหารเขาผู้มีฝีมือแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มได้ นางเซียนหงส์ฟ้าก็ยังสงบและใจเย็นอยู่ได้ เมื่อองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน, เจ้าเมืองโล่วฮัวและหญิงงามลึกลับสังหารศัตรูด้านนอกได้สีหน้าของนางเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ไม่ใช่เรื่องสำคัญว่านางจะเป็นปีศาจกฎฟ้าจริงหรือไม่ แต่สตรีนางนี้ไม่ใช่ศัตรูที่จะรับมือได้ง่ายแน่นอน
เย่ว์หยางหวังว่าการปลอมตัวของนางมาจากความสามารถของสัตว์อสูรล้วนๆ ไม่ได้มาจากความสามารถควบคุมปราณของนางเอง เย่ว์หยางจะไม่เรียกเสี่ยวเหวินหลีออกมา แม้ว่าเขาจะถูกเล่นงานเจียนตาย เพราะเสี่ยวเหวินหลีคืออาวุธลับของเขา ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาจะไม่ยอมให้ศัตรูที่แข็งแกร่งขนาดนั้นรู้ได้ ถ้าเขาไม่สามารถเอาชนะนางได้ เย่ว์หยางคิดว่านางเซียนหงส์ฟ้านี้คงจะพาตัวของเขา, องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและคนอื่นๆ ไปเป็นเชลยที่วังปีศาจ เขาทลายจองจำ ในที่สุด เขาก็แค่รอให้ราชองครักษ์พิทักษ์ฟ้าของสามอาณาจักร, แม่เฒ่าอู่เถิง และอาจารย์จิ้งจอกเฒ่ามาช่วยพวกเขา
เขาสามารถแสดงไม้ตายต่อหน้าคนสองประเภทเท่านั้น ประเภทแรกคือคนที่ไม่มีทางหักหลังเขาและจะช่วยเขาเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ และประเภทที่สองคือคนที่จะต้องตายอย่างแน่นอน
แม้ว่าคนในครอบครัวของเขาจะไม่มีทางหักหลังเขาก็ตาม แต่เขาก็ไม่ยอมให้พวกเขาได้รู้ความลับนี้ได้ง่ายๆ เพราะความรู้เช่นนี้ไม่มีประโยชน์ต่อพวกเขาเลย
“ข้าได้ยินว่าความแข็งแกร่งของเจ้าจะเพิ่มขึ้นได้หลายเท่าเมื่อเจ้าโกรธ บางทีเป็นสิบเท่าก็มี ถ้าอย่างนั้น เข้ามาจู่โจมใส่ข้าสุดแรงของเจ้าเลย!” นางเซียนหงส์ฟ้าผู้พราวเสน่ห์ยื่นมือเรียวงามไปที่เย่ว์หยาง นิ้วมือของนางชี้มาทางเย่ว์หยางแต่ระยะไกล จากนั้นนางรวบนิ้วเป็นกำปั้น จากนั้นร่างของเย่ว์หยางก็ลอยเข้าหาทางทันที
เย่ว์หยางหมุนตัวกลางอากาศชักดาบวิเศษฮุยจินระเบิดพลังเปลวเพลิงม่วงออกมา
แล้วฟันลงมาด้วยอานุภาพแยกฟ้าทลายดิน
อย่างไรก็ตาม เขาต้องตกใจสุดขีดกับภาพที่น่ากลัวข้างหน้า
พลังวงกลมหยินหยางที่เขาฟันลงไปอย่างสุดแรงถูกนางเซียนหงส์ฟ้าใช้นิ้วเดียวก็หยุดยั้งไว้ได้
“เด็กน้อย! อย่าออมฝีมืออยู่เลย เจ้าสามารถใช้พลังได้มากกว่านี้ ข้าก็ยังรับมือได้” นางเซียนหงส์ฟ้าเผยให้เห็นรอยยิ้มที่อบอุ่น แต่การกระทำของนางไม่ได้แสดงความเมตตาแต่อย่างใด พอนางบิดตัวก็จับเย่ว์หยางทุ่มใส่หินทั้งตัว เสียงดังราวกับฟ้าผ่า ตลอดทั้งถ้ำสั่นสะเทือนจากแรงกระแทก เย่ว์หยางรู้สึกหน้ามืดศีรษะมึนงง ทั้งกระดูกสันหลังและซี่โครงเจ็บปวดไปหมดเหมือนกับว่าเขาได้รับแรงกระแทกจนกระดูกในตัวลั่นไปทั้งร่าง
พื้นหินกว้างภายใต้ตัวของเย่ว์หยางเป็นรอยแตกแยกเหมือนใยแมงมุมเพราะแรงกระแทกจากตัวของเขา พื้นหินทิ้งรอยแตกร้าวเป็นทางจนถึงขาขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนผู้ยังยืนตกใจนิ่งค้าง
พื้นผิวน้ำแข็งที่ปกคลุมบ่อแตกกระจายจากแรงกระแทก
ร่างของเจ้าเมืองโล่วฮัวที่นอนอยู่บนพื้นยังกระเด้งลอยจากแรงกระแทกทั้งที่นางยังหมดสติ หญิงงามลึกลับรีบรับร่างนางไว้แล้วค่อยๆ จับนางลงนอน
นางเซียนหงส์ฟ้าก้มลงจนเย่ว์หยางเห็นอกขนาดใหญ่ชวนเลือดกำเดาพุ่ง ขณะที่นางถามทั้งที่ยิ้มว่า “เจ็บปวดมากไหม? เจ้าโกรธขึ้นบ้างหรือยัง? คนหนุ่มไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลตลอดเวลาหรอก มันไม่ดีหรอกนะที่เจ้าจะต้องทำตัวมีเหตุผลทุกครั้ง เจ้าควรจะโกรธและใจร้อนเหมือนวัวบ้าได้แล้ว นั่นเป็นวิธีที่คนหนุ่มควรจะเป็น!”
“ข้า…” เย่ว์หยางโกรธมาก จนเริ่มจะสบถออกมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะได้สบถออกมา นางเซียนหงส์ฟ้าก็เข้ามาจับตัวเขาแล้วเหวี่ยวเข้าหาผนังภูเขา ทำให้เขาพุ่งเข้าหาผนังภูเขาราวกับดาวตก
เย่ว์หยางใช้ขาดีดตัวจากผนังภูเขา และรีบโจมตีตอบโต้โดยใช้พลังทั้งหมด เขาปลดปล่อยพลังเปลวไฟม่วงจากดาบฮุยจินผสมผสานทักษะใหม่ที่เขาค้นพบจากการใช้วงกลมหยินหยาง และใช้ดาบฟันใส่เซียนหงส์ฟ้า
แต่เซียนหงส์ฟ้าแค่ยื่นมือนางออกมาคว้าข้อมือเย่ว์หยางไว้
ดาบฮุยจินของเย่ว์หยางถูกหยุดไว้ในระยะที่ห่างจากหว่างคิ้วนางเพียงสามเซนติเมตร ไม่สามารถขยับมากไปกว่านั้นได้
ขณะนี้ นางเซียนหงส์ฟ้าเงยหน้าและโปรยยิ้มที่มีเสน่ห์ของนาง “ทำไมเจ้าถึงไม่พยายามใช้ทักษะโซ่ล่องหนนั้นของเจ้าเล่า? นั่นเป็นทักษะธรรมชาติของเจ้าใช่ไหม? แต่ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าตาของเจ้า มันสะท้อนแววว่ามีความสามารถบางอย่าง ที่ข้ารู้สึกว่าไม่ง่ายอย่างที่เห็น?”
“ข้าจะฆ่าเจ้า!” เย่ว์หยางโกรธ เขารู้สึกว่า ถ้าเขาไม่ฆ่าเซียนหงส์ฟ้าตอนนี้ นางคงขุดคุ้ยความลับของเขาออกมาหมด
เขาปลดปล่อยทักษะโซ่ล่องหนของเสี่ยวเหวินหลี ปราณกระบี่สีทองนับไม่ถ้วนก่อตัวเป็นปราณก่อกำเนิดกระบี่สุดยอด ยิงออกไปจนเกิดเสียงระเบิดสนั่นตรงเข้าใส่หัวใจของเซียนหงส์ฟ้า พลังโจมตีขนาดนั้นยังแทงทะลุฝ่ามือของจ้าวปีศาจฮาซินได้ เซียนหงส์ฟ้านี้เป็นแค่อนุปีศาจฟ้าเท่านั้น ดังนั้น นางจะไม่สามารถป้องกันต่อต้านจนได้ในที่สุด แต่เมื่อเย่ว์หยางยิงกระบี่สุดยอดออกไป เขาก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าโซ่ล่องหนของเขาที่เป็นทักษะแฝงได้หายไปแล้ว นี่ไม่ใช่เพียงหนึ่งวินาที จ้าวปีศาจฮาซินสามารถสลัดออกได้ก่อนหนึ่งวินาที แต่ในตอนนั้น ทักษะธรรมชาติโซ่ล่องหนของเสี่ยวเหวินหลียังไม่ปรับระดับเพิ่ม ตอนนี้มันปรับระดับความแข็งแกร่งแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดเซียนหงส์ฟ้าได้แม้แต่วินาทีเดียวหรือนี่
นาง นางไม่ใช่แค่อนุปีศาจฟ้าแน่นอนแล้ว
สวรรค์!
นางคือปีศาจกฎฟ้าจริงๆ ด้วย….
เย่ว์หยางรู้สึกตัวชาไปหมดด้วยความรู้สึกหวาดกลัว
เขากัดฟันเสี่ยงทุกอย่างที่มีใช้ปราณกระบี่สุดยอดแทงใส่อกนางเซียนหงส์ฟ้า
นางเซียนหงส์ฟ้าตอนแรกก็ต้องออกมาอย่างตกใจ แต่ทันใดนั้นนางยิ้มออกมาอย่างพอใจ เหมือนกับว่าได้ยืนยันความจริงบางอย่าง ร่างที่ทรงเสน่ห์ของนางหายแว่บเข้ามาปรากฏอยู่ในอ้อมแขนของเย่ว์หยางทันทีหลบพ้นกระบี่สุดยอดของเย่ว์หยางได้อย่างง่ายดาย นางกระซิบที่ข้างหูเย่ว์หยาง “คนดี! อย่าใจร้ายเกินไปนักสิ..เจ้าจะหักใจทำร้ายสาวสวยอย่างข้าได้ลงคอเชียวหรือ…”
“ตายซะ!” เย่ว์หยางใช้ศอกทั้งคู่กดนางลง จากนั้นปล่อยปราณกระบี่ออกจากข้อศอก
……………………….