ตอนที่ 179 บรรลุระดับใหม่
เมื่อยุติการต่อสู้ในลักษณะดังกล่าวทำให้ทุกคนรู้สึกแปลก ตอนนี้ทุกคนสังเกตเห็นว่าเด็กหญิงอายุเจ็ดแปดขวบดูเป็นผู้ใหญ่มาก การวางตัวมารยาทของเธอและท่าทีที่ชิงหลวนมองดูเธอ แสดงว่าเธอเป็นคนที่มีอำนาจอิทธิพล พวกที่มีสติปัญญาไวพอจะคาดเดาฐานะของเด็กหญิงได้ แม้ว่าหลายคนพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาความสงบไว้ แต่แววประหลาดใจในดวงตาพวกเขาไม่ใช่สิ่งที่ข่มเอาไว้ได้
เดี๋ยวก่อน.....อาจารย์!
พวกเขานึกได้ทันทีว่าเด็กหญิงวางตัวต่อถังเทียนอย่างไร พวกเขาจึงไม่อาจสงบต่อไปได้
กู้เสวี่ยมองถังเทียนนิ่ง แม้ว่านางพอจะคาดเดาภูมิหลังถังเทียนได้ แต่นางไม่เคยคาดเลยว่า ถังเทียนจะเป็นอาจารย์ขององค์หญิงหมิงจูได้จริงๆ
มิน่าเล่า..... อาเทียนถึงได้น่ากลัวนัก
ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ไม่มีใครตั้งตัวเป็นอาจารย์ได้ ไม่ต้องพูดถึงว่าเป็นจารีตที่สืบทอดกันมาหรือเป็นสถาบันสอน อาจารย์ต้องมีลักษณะท่าทีเคร่งขรึม
แต่กู้เสวี่ยก็สงสัยสองสามข้อแทบจะทันที เพราะด้วยวัยอย่างอาเทียนยังถือว่าอายุน้อยมาก ทันใดนั้นภาพของถังเทียนกำลังสอนองค์หญิงหมิงจูอย่างคร่ำเคร่งผุดขึ้นในใจของนางทำให้นางอดหัวเราะไม่ได้
เดี๋ยวก่อน มีบางอย่างไม่ถูกต้อง อาเทียนบอกว่าเขาไม่ได้มาจากองค์การวิญญาณมืด กู้เสวี่ยสับสนหนัก แต่ไม่ช้านางก็ปัดความสงสัยออกไปจากใจ นางสังเกตรายละเอียดได้อีกอย่างหนึ่งดูเหมือนอาเทียนต้องการเงิน...
นางอดรู้สึกผิดอย่างช่วยไม่ได้ เพราะในช่วงไม่กี่วันมานี้นางไม่เคยถามเรื่องนี้กับอาเทียนเลย
“คุณหนู....”ชิงหลวนน้ำตาคลอ ใบหน้ารู้สึกเหมือนกับไม่ได้รับความเป็นธรรม
เด็กหญิงพูดนุ่มนวล “ไม่ว่ายังไงเขาก็ยังเป็นอาจารย์ของข้า ถ้าพวกท่านมีเรื่องกัน ข้าจะลำบากใจมาก”
ชิงหลวนเบะปากและเกือบน้ำตาร่วง แม้ว่านางกับองค์หญิงจะมีสัมพันธ์ฉันท์นายบ่าวแต่ความจริงพวกนางสนิทกันเหมือนพี่น้อง
ไจ๋เหิงจ้านมองดูถังเทียนเดินห่างออกไปอย่างอารมณ์ดีและพูดเบาๆ ว่า “เขาอันตรายมากเลยนะ”
เมื่อเห็นว่าชิงหลวนยังดูไม่ยินยอมพร้อมใจไจ๋เหิงจ้านถอนหายใจและสงบกว่าเดิม “เขาบังเกิดเพลิงอำมหิตแล้ว ต้องระวัง อย่ายั่วโมโหเขา”
ชิงหลวนถลึงตา และถามอย่างไม่ค่อยเชื่อ “เขากล้าฆ่าข้าหรือ?”
ไจ๋เหิงจ้านไม่หลบสายตาชิงหลวน เขาตอบอย่างชัดถ้อยคำว่า “ทำไมจะไม่กล้าเล่า?”
ชิงหลวนถูกขัดใจ แต่นางไม่ได้ดื้อด้านป่าเถื่อนแน่นอน นั่นเป็นเพราะองค์หญิงปฏิบัติต่อนางอย่างไม่ยุติธรรมนางจึงไม่รู้สึกยินยอม ไจ๋เหิงจ้านแตกต่างจากนาง เขามีประสบการณ์ต่อสู้ระดับแนวหน้าและประสบความสำเร็จมามากในหน้าที่ของเขาแล้วไจ๋เหิงจ้านได้รับการยอมรับนับถือ
องค์หญิงน้อยพูดอย่างมีความหมาย “จู่ๆข้าก็รู้สึกขึ้นมาว่าเขาอาจเป็นอาจารย์ฝีมือดีก็ได้”
กู้เสวี่ยพบถังเทียน และถามเขาตามตรง “อาเทียน เจ้าต้องการเงินหรือ?”
ถังเทียนมีความสุข “ฮ่าฮ่า, ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว! หวาสองร้อยล้านเหรียญดาวเชียวนะ แค่สู้ครั้งเดียวข้าก็ทำรายได้สองร้อยล้านเหรียญดาวแล้วแล้วจะไม่ให้ข้าอยากสู้ได้ยังไง”
กู้เสวี่ยไม่ได้ยกเรื่องเงินมาเป็นหัวข้อสนทนาอีก นางรู้ชัดว่า ต่อให้นางพูดอีก อาเทียนก็คงไม่ยอมรับ แม้ว่าอาเทียนจะทำตัวดูเหมือนบ้าๆ บอๆ มาตลอด แต่เขาเข้าใจทุกอย่างชัดเจน
“จริงสิ สองร้อยล้านเหรียญดาว อาเทียน, เจ้าโชคดีจริงๆ” กู้เสวี่ยปิดปากและหัวเราะ ถึงอาเทียนไม่ยอมรับเงินดวงดาวแต่นางสามารถให้ของขวัญอย่างอื่นแก่เขาได้
ตระกูลกู้กลับคืนสู่ความสงบและประมุขตระกูลทั้งหมดมาประชุมกัน องค์หญิงหมิงจูมีสติปัญญาเฉลียวฉลาดมาก เธอฉวยโอกาสไม่มีประหยัดยั้งออมสักนิด กู้เสวี่ยเปิดใช้พลังสายเลือดรุ้งหิมะได้ ทำให้มีอนาคตสดใสรอนางอยู่ที่สำคัญที่สุด นางมีสหายที่น่าเกรงขามอย่างถังเทียน
องค์หญิงหมิงจูลอบสนับสนุนตระกูลกู้ทำให้อิทธิพลและอำนาจของตระกูลกู้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประมุขตระกูลทั้งหมดได้รับรู้ตั้งแต่นั้นมาตระกูลกู้กลายเป็นตระกูลหนึ่งที่ทรงอำนาจอิทธิพลมากที่สุดในดาวไพรมายา
ความเชื่อมโยงสัมพันธ์ระหว่างตระกูลกู้และรัฐบาลอู่โหวมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดเป็นพิเศษ
นักเลงผู้ทรงอิทธิพลในท้องถิ่นอาจจะมีท่าทีหยิ่งต่อหน้าผู้ว่าการดวงดาวได้ แต่ไม่มีใครกล้าทำตัวหยิ่งวางอำนาจสูงส่งต่อหน้าองค์หญิงหมิงจู ผู้ว่าการดวงดาวเป็นเจ้าหน้าที่ภายใต้บังคับของรัฐบาลอู่โหว แต่องค์หญิงหมิงจูเป็นแก้วตาดวงใจของอู่โหว อยู่ต่อหน้าอู่โหวความดำรงคงอยู่ของพวกเขาก็ไม่ต่างกับมดแมลง
เพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลกู้ ตระกูลหวีตกเป็นเป้าหมายของการกล่าวโทษการกระทำที่โง่เขลาของผู้เฒ่าหวี ก่อให้เกิดหายนะต่อตระกูลหวี พื้นที่และสมบัติทั้งหมดของตระกูลหวีถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องจนหดหายไปอย่างรวดเร็ว ยอดฝีมือของตระกูลหวีพากันหนีไปหมด ขณะที่ศิษย์ของตระกูลหวีมักตกเป็นเป้าหมายการสุ่มโจมตี
บางทีแม้แต่กู้เสวี่ยก็นึกภาพไม่ออกว่าจะเป็นเช่นนั้นไปได้ สามเดือนต่อมาตระกูลหวีที่ครั้งหนึ่งเคยประสบความสำเร็จรุ่งเรือง กลับหายไปโดยไร้ร่องรอย
พวกหัวหน้าตระกูลที่ยิ้มแย้มเบิกบาน น่าสนิทสนมไม่มีความเมตตาเลยแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตามอาจารย์ผู้ลึกลับขององค์หญิงยังไม่ปรากฏตนเลยสักครั้ง ยอดฝีมือหนุ่มน้อยผู้ครอบครองเกราะชั้นเงิน ทำให้ประมุขตระกูลเหล่านั้นคิดถึงการต่อสู้ครั้งนั้น
แต่ ไม่มีผู้ใดกล้าแสดงความไม่พอใจ
เกราะชั้นเงิน พลังสายเลือดสองชนิดเพียงแค่สองจุดนี้เท่านั้น ก็เพียงพอปกครองดาวไพรมายาแล้ว นอกจากนี้ถังเทียนยังอายุน้อยอยู่มาก อนาคตของเขาย่อมสดใสแน่นอน
ผู้เฒ่าที่ถูกถังเทียนสังหารมีพลังสายเลือดงูทองสามารถขายได้ร้อยล้านเหรียญดาวโดยให้ตระกูลกู้ช่วยดำเนินการให้ถังเทียนซื้อหินดวงดาวระดับหกสองร้อยก้อนด้วยทรัพย์สินของเขากู้เสวี่ยได้ยินว่าถังเทียนต้องการหินดวงดาวจึงมอบหินดวงดาวระดับหกให้เขาร้อยก้อนโดยไม่มีความกังวลใจอีกต่อไป
พริบตาเดียวถังเทียนมีหินดวงดาวระดับหกถึงสามร้อยก้อนในมือ
ถังเทียนเริ่มการฝึกที่บ้าคลั่งของเขาต่อ
ที่เหนือหุบเขาหิวโหยอาการโอดครวญของถังเทียนไม่เคยหยุด ทุกวันเป็นเหมือนกับนรก เขาไม่ยอมเสียเวลาแต่อย่างใด และอุทิศตนเองให้กับการฝึกฝน แม้ว่าปิงจะโหดเคี่ยวเข็ญในการฝึกฝนก็ไม่มีปัญหาอะไรแม้แต่น้อย
การดูดกลืนพลังของตันเถียนและเส้นชีพจรของถังเทียนกำลังเติบโตประสิทธิภาพของการดูดกลืนพลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัญหาหินดวงดาวได้รับการแก้ไขแล้วถังเทียนจึงมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
ถังเทียนที่ยังมึนงงอยู่แต่ตันเถียนและเส้นชีพจรของเขาเป็นเหมือนน้ำวน ด้วยพลังดึงดูดที่กล้าแข็งและพลังเข้มข้นที่อยู่รอบตัวถูกดูดซึมเข้าร่างของเขาด้วยความเร็วที่น่าตระหนก
และถังเทียนในตอนนี้ยังคงมุ่งมั่นเพื่อผ่านอุปสรรคเข้าสู่ระดับที่หก
พลังสายเลือดภายในเส้นชีพจรของเขากำลังโคจรไปพร้อมกับปราณเที่ยงแท้ที่บริสุทธิ์และสมบูรณ์ พวกมันเป็นเหมือนทหารและมีถังเทียนเป็นผู้บัญชาการมันโคจรผ่านด่านประตูสวรรค์เข้าเผชิญกับแรงต้านและกระทุ้งใส่อุปสรรคขวางในตันเถียนอย่างต่อเนื่อง
นั่นคือผนังขวางกั้นที่สมบูรณ์
ตอนนี้ถังเทียนไม่ได้ฝึกฝนพลังภายในระดับหก ดังนั้นเขาจึงต้องใช้อีกวิธีหนึ่ง
อย่างไรก็ตามชั้นของอุปสรรคที่ไม่มีรูปแบบนี้ ทนทานเป็นพิเศษไม่ว่าถังเทียนจะใช้ปราณเที่ยงแท้ยังไงก็ตาม มันก็ไม่ขยับ
พลังยังไม่พอ
ถังเทียนนึกถึงอุบายอย่างหนึ่งเนื่องจากเขาไม่ได้ฝึกฝนพลังภายในระดับหก เขาจึงได้แต่ใช้พลังปราณเที่ยงแท้ระดับห้าเพื่อทลายชั้นอุปสรรคที่ขวาง การ์ดพลังภายในระดับหก มีราคาสูงมาก ถังเทียนจนกรอบย่อมไม่มีทางจ่ายได้เป็นธรรมดา และเขารู้ชัดเจนถึงความสำคัญของการฝึกพลังภายใน อย่างเช่นพลังร่างกระเรียนในคัมภีร์ปราณกระเรียนพลังมังกรฟ้าในวิชาสี่มังกรฟ้าก็เป็นวิธีการโจมตีที่สำคัญของเขา
การผสานพลังสายเลือดและวิทยายุทธของชิงหลวนสร้างแรงบันดาลใจให้เขาเป็นอย่างมาก
หากวิชาพลังภายในและพลังสายเลือดวิทยายุทธและพลังของเกราะสามารถผสานกันได้สมบูรณ์อย่างนั้นพลังก็จะเพิ่มพูนขึ้นอย่างมาก ถังเทียนสู้ต่อหรือไม่ก็ไม่ได้อะไร อย่างไรก็ตาม การบรรลุพลังยุทธระดับหกจะช่วยให้เขามีพลังก้าวกระโดด
ความก้าวหน้าในหลายวันมานี้มีมากมายปราณเที่ยงแท้ในร่างของเขามีพลังสูงสุด ทำให้ถังเทียนมีความมั่นใจมาก
เขาสามารถทำลายผ่านอุปสรรคได้แน่นอน
แต่สิ่งที่ถังเทียนพลาดไปก็คือเมื่อปราณเที่ยงแท้ของเขาแข็งแกร่งขึ้น ผนังอุปสรรคก็แข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน ไม่ว่าเขาจะพยายามทะลวงผ่านมากขนาดไหน แต่สิ่งที่ขวางอยู่นั้นก็ไม่ขยับหวั่นไหว
พลังยังไม่พอ!
ทันใดนั้นถังเทียนมีความคิดอย่างหนึ่ง เขานึกถึงพลังร่างกระเรียนของเขา ดูเหมือนเขามักขาดแคลนปราณเที่ยงแท้อยู่เสมอ แต่พลังงานร่างกระเรียนสามารถเพิ่มพลังโจมตีของเขา และทำให้มีพลังงานเพิ่มขึ้น
การควบคุมการใช้พลังร่างกระเรียนของถังเทียนทำได้แทบจะเป็นไปตามธรรมชาติ เมื่อเปลี่ยนแปลงทัศนคติปราณเที่ยงแท้ของเขาก็ค่อยๆ เลื่อนชั้นขึ้นมาช้าๆ และถูกดันไปข้างหน้าทีละชั้นทีละชั้นปราณเที่ยงแท้ทั้งหมดในตัวของถังเทียน ซ้อนกองอยู่ต่อหน้าม่านพลังอุปสรรคที่ขวาง
ทันทีที่พลังปราณเที่ยงแท้ที่ดูเหมือนคลายตัวเบาบางได้รับการกระตุ้น ชั้นของปราณเที่ยงแท้ พลังปราณเที่ยงแท้ที่ดูหลวมพลันแปรเปลี่ยนเป็นรูปร่างเหมือนจะงอยปากกระเรียนและจิกใส่ม่านอุปสรรคอย่างดุเดือด
ปัง!
ถังเทียนสะดุ้งและม่านพลังที่กีดขวางไม่ขยับเขยื้อนก่อนนั้น กลับสะเทือนทันที
วิธีนี้ใช้ได้!”
ถังเทียนได้รับการยืนยัน ไม่ต้องกังวลต่อไป เขายังคงใช้พลังร่างกระเรียนปลุกพลังปราณเที่ยงแท้ของเขาอย่างต่อเนื่อง
ปัง ปัง ปัง!
การกระแทกใส่แต่ละครั้งทำให้ผนังอุปสรรคสะเทือนรุนแรง
ความถี่ของการกระทุ้งมากขึ้นหนาแน่นขึ้นทุกทีและความถี่ของการกระทบกระเทือนของม่านพลังอุปสรรคก็รุนแรงมากขึ้นเช่นกัน
ทันใดนั้น เพล้ง, เสียงดังเหมือนแก้วแตก ปราณเที่ยงแท้พุ่งทะลักไปข้างหน้าราวกับกระแสน้ำไหลบ่า
สำเร็จ!
ถังเทียนไม่สามารถยินดีได้ เพราะตลอดทั้งร่างของเขาพลันสั่นสะท้านทันทีและจิตใจของเขาดับวูบ
แทบจะในเวลาเดียวกันปิงที่ให้ความสนใจถังเทียนอยู่ตลอดเวลาบดหินดวงดาวระดับหกยี่สิบก้อนทันทีพลังอัดแน่นจนเต็มห้องฝึก
พลังงานที่หนาแน่นทะลักเข้าไปในร่างของถังเทียนอย่างบ้าคลั่งและโคจรไปตามบันไดสวรรค์ ในร่าง
แอ่งตันเถียนที่ใหญ่กว่ากว้างกว่าเดิมมากเหมือนทะเลสาบแห้งแล้งรอฝนหลั่งรด อาจกล่าวได้ว่าแอ่งตันเถียนระดับห้าเป็นเหมือนสระว่ายน้ำส่วนแอ่งตันเถียนระดับหกเป็นเหมือนทะเลสาบขนาดย่อม
พลังปราณเที่ยงแท้เข้าไปในแอ่งตันเถียนระดับหกอย่างรวดเร็วและหล่อเลี้ยงแอ่งตันเถียนไว้
แอ่งตันเถียนระดับหกถูกเติมเต็มอย่างช้าๆ พอแอ่งตันเถียนได้รับพลังหล่อเลี้ยงก็เริ่มกระปรี้กระเปร่ามีชีวิตชีวาขึ้น พลังสายเลือดที่เชื่อมแอ่งตันเถียนระดับหกเริ่มถูกอัดฉีดด้วยพลังปราณเที่ยงแท้และความสบายที่มิอาจอธิบายได้ทำให้ถังเทียนครางออกมา
ถังเทียนมีความรู้สึกว่าร่างกายของเขาเป็นเหมือนต้นไม้ที่ร่วงโรยและพอได้รับฝนหล่อเลี้ยงทำให้มีความสุขมาก
นี่เขาบรรลุพลังระดับใหม่หรือนี่?
นี่คือระดับหกใช่ไหม?
โลกดูเหมือนเปลี่ยนไปเล็กน้อย แม้ว่าความเปลี่ยนแปลงจะไม่ได้รู้สึกรุนแรงเหมือนกับเมื่อตอนที่ประสบความสำเร็จได้จิตวิญญาณพลังยุทธเงินแต่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่นี้ชัดเจนน่าหลงใหล
พลัง!
ไม่มีอะไรน่าปลาบปลื้มมากไปกว่าการได้พลังอีกแล้ว
จิตวิญญาณพลังยุทธทำให้เขาเข้าใจโลกได้ลึกซึ้งขึ้น ขณะที่ปราณเที่ยงแท้ทำให้เขาสามารถควบคุมร่างกายได้ดีขึ้น ปราณเที่ยงแท้โคจรไปตามเส้นชีพจรและเข้าไปถึงทุกซอกมุมของร่างกาย ซอกมุมในกายที่ขาดพลังหล่อเลี้ยงโดยไม่รู้ก่อนนั้น ค่อยๆ ถูกกระตุ้นทีละส่วนๆ จนมามีชีวิตชีวา
เขาสามารถรู้สึกได้ว่าพลังของเขาก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญ แม้แต่ความแข็งแรงของเขาก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ทันใดนั้น ถังเทียนเกิดความรู้แจ้ง
การฝึกฝนปราณเที่ยงแท้ก็คือกระบวนการพัฒนาและใช้งานอย่างต่อเนื่อง
เมื่อทุกส่วนมุมลับในร่างกายได้รับการกระตุ้นจากปราณเที่ยงแท้อย่างช้าๆ เลือดเนื้อก็คงสมบูรณ์ในตัวมันเอง
ถังเทียนลืมตา เขาตื่นเต้นอย่างมาก