ตอนที่ 178 การตื่นขึ้นของเกราะนกยูง
ถังเทียนถอยหลัง ประกายกระบี่ของชิงหลวนคล่องแคล่วว่องไวเหมือนกับมีชีวิต เป็นครั้งแรกที่เขาพบวิชากระบี่ที่มีฝีมือเฉพาะและคล่องแคล่าวขนาดนั้น แม้ว่าเขาจะมีสัญชาตญาณที่ดี แต่ภายในเวลาสั้นๆ เขายังคงถูกตรึงให้ทำอะไรไม่ได้
วิชากระบี่ของชิงหลวนยังอ่อนเมื่อเทียบกับพี่จิ่งหาว และพลังสายเลือดฟีนิกซ์เขียวเมื่อเทียบกับพลังสายเลือดเทพ ถังเทียนรู้สึกว่าไม่ได้เพิ่มพลังให้นางมากนัก แต่ทั้งสองอย่างกลับหนุนเสริมพลังกันได้ดี ดังนั้นพลังจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและทำให้ถังเทียนตกใจ
ถังเทียนมักคิดเสมอว่าพลังสายเลือดมักเพิ่มคุณสมบัติร่างกายให้สูงขึ้น คิดไม่ถึงเลยว่าพลังสายเลือดและวิทยายุทธสามารถเสริมผสานได้ลงตัวสมบูรณ์แบบ
กระบี่ประกายเขียวที่อยู่ต่อหน้าเขาเป็นเหมือนกลุ่มเอลฟ์สีเขียว ที่ยากจะตรวจสอบได้และร่องรอยของพวกมันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เหมือนกับน้ำล้นฝาย ที่พุ่งตรงมาหาถังเทียน
ถ้าไม่ใช่เพราะสัญชาตญาณที่ดีและแข็งแกร่งผิดธรรมดาของเขา เขาคงพ่ายแพ้ไปนานแล้ว
อย่างไรก็ตามชิงหลวนรู้สึกตรงกันข้าม ถังเทียนรู้สึกอึดอัดแน่นอน หลายครั้งเมื่อนางคิดว่านางจะชนะ ถังเทียนมักหลบพลังโจมตีได้อย่างคาดไม่ถึง ถังเทียนดูเหมือนกับจะพลาดท่า แต่เขาก็ไม่พลาดท่าเสียที
นางครอบครองพลังสายเลือดฟีนิกซ์เขียวและท่านโหวยังเลือกการ์ดทองวิชากระบี่วิหคเขียวให้นาง เขาผสานทั้งสองอย่างจนลงตัวทำให้พลังต่อสู้ของนางเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง แค่เพียงว่านางไม่ค่อยมีโอกาสใช้โจมตี ปกติประสบการณ์การต่อสู้ของนางเกือบเป็นศูนย์
แต่ในการทดสอบประลองในกลุ่มคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับนาง คนที่สามารถเอาชนะนางได้แทบจะนับนิ้วได้
คิดไม่ถึงเลย....
ผ่านไปร้อยกระบวนท่านางก็ยังไม่สามารถโค่นถังเทียนได้!
นอกจากตกใจแล้ว นางยังรู้สึกโกรธแค้นมากขึ้น
เสียงหวีดหวิวยาว ด้ามกระบี่กลับกลายรังสีกระบี่เขียวเต็มท้องฟ้าและครอบคลุมร่างนาง
ปีกกระบี่เขียวช่วยเพิ่มความเร็วให้ ทันใดนั้นร่างของนางเบาเท้าซ้ายของนางยันอยู่บนพื้น นางลอยขึ้นในอากาศตามปกติ
ปีกกระบี่สะท้าน!
รังสีเขียวในดวงตาชิงหลวนเพิ่มขึ้นทันที ด้วยพลังสั่นสะเทือนของกระบี่ยาว นางหายวับไปทันที
กลุ่มแสงรังสีเขียวแพรวพราวพุ่งเข้าใส่ทัศนวิสัยการมองเห็นของเขา
ถังเทียนรู้สึกถึงอันตรายแรงกล้า และเกือบในขณะเดียวกัน กระแสไหลเวียนของอากาศที่เบาและตรวจจับไม่เจอไหลเวียนอยู่รอบตัวเขา ม่านตาของถังเทียนขยายทันที
ใครบางคนกำลังจะลอบทำร้าย
ความรู้สึกรุนแรงถึงอันตรายล้อมรอบถังเทียนในช่วงเวลานั้นถังเทียนสงบอย่างคาดไม่ถึง
จิตวิญญาณพลังยุทธในตัวเขาลุกโชนขึ้นมาเหมือนไฟ ทันใดนั้นเองความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจ เขาตะโกนออกมาแทบไม่ต้องคิด
“นกยูง!”
จุดแสงสีเงินขยายออกมาจากส่วนลึกในม่านตาของถังเทียน และจากนั้นก็ระเบิดออกมาจากภายในกายเขา!
แสงสีเงินแพรวพราวนับไม่ถ้วนเหมือนกับคมมีด, เหมือนกับสายฝนตก กวาดไปทั่วเป็นปริมณฑล
ผู้อาวุโสที่ลอบทำร้ายถังเทียนไม่เคยคาดถึงสถานการณ์เช่นนั้น แสงเงินที่แพรวพราวแยงนัยน์ตาเขาจนรู้สึกเจ็บปวดและภาพที่มองเห็นของเขาขาวโพลนสิ้นเชิง
โอวไม่นะ!
สีหน้าของผู้อาวุโสนั้นเปลี่ยนไปอย่างมากมายและพยายามจะถอยอย่างรวดเร็ว ฝนแสงเงินที่ตกลงมา ทำให้เขารู้สึกถึงอันตราย ร่างไร้กระดูกของเขาขดตัวกลมทันทีและกลิ้งถอยหลังอย่างรวดเร็ว
ฟุ่บ!
รังสีแสงเงินกระทบกับหลังของเขา ร่างของเขาสั่น ปราณที่เย็นและอันตรายแทรกเข้าไปในร่างกายของเขาตรงจุดที่รังสีแสงกระทบใส่
ชิงหลวนที่กำลังพุ่งจู่โจมใส่ถังเทียนกลางอากาศตกตะลึง แต่ไม่ตื่นเต้น กระบี่คู่มือของนางแปรสภาพคล้ายกับเป็นร่มโดยอัตโนมัติ รังสีกระบี่เขียวมากมายนับไม่ถ้วนถูกร่มทำให้เบี่ยงเบนและกระจายออกไปจากกระบี่ยาวในมือนาง
ติง ติง ติง!
นางกัดฟันจนเจ็บ
ชิงหลวนอยู่ในกลางอากาศพร้อมกับกระบี่ที่กางปีกของนางต้องถอยออกไปที่ละนิ้วๆด้วยเสียงปะทะแต่ละครั้ง
ทุกคนผู้เป็นประจักษ์ในภาพนี้ล้วนแต่รู้สึกตกใจ ร่างของชิงหลวนเป็นเหมือนหุ่นเชิดที่ถอยออกไปที่ละนิดๆ เหมือนราวกับภาพวีดิโอที่ขาดๆหายๆ
เมื่อแสงรังสีเงินสุดท้ายถูกปัดป่ายเบี่ยงเบน แขนของชิงหลวนรู้สึกเจ็บและอ่อนล้า นางตกตะลึง ปีกกระบี่สะท้านคือท่านสังหารที่แท้จริงของนาง เมื่อใดก็ตามที่นางใช้ออก นางจะไม่มีทางพ่ายแพ้ แม้แต่ท่านโหวก็ยังยกย่องท่านี้ด้วยตนเอง
วิชาปีกกระบี่สะท้านของนางถูกคนอื่นข่มได้จริงๆ....
ชิงหลวนจ้องมองถังเทียนที่อยู่ต่อหน้าอย่างงวยงง คนผู้นี้น่ากลัวมาก! รังสีเงินกระจายทั่วท้องฟ้าดูงดงามมาก จากนั้นนางจึงได้เห็นรังสีเหล่านี้ชัดขึ้น รังสีเงินแต่ละสายเป็นชิ้นของวัตถุเงินนั้นคืออะไรกันแน่?
ชิงหลวนสงสัย
หือ!
รังสีเงินกระจายอยู่ในท้องฟ้า เส้นสายสีเงินแพรวพราวยิงใส่ร่างถังเทียน
ร่างของถังเทียนมีแสงสีเงินแพรวพราวคลุมตัวอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตามความสว่างแพรวพราวครั้งมาเร็วและหายไปเลยในชั่วพริบตากลับมาปรากฏต่อหน้าสายตาทุกคนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ถังเทียนมีชั้นเกราะขนสีเงินแปลกประหลาดคลุมตัวเป็นพิเศษ
นกยูงเงินที่เด่นสง่าภูมิฐานปรากฏอยู่บนไหล่ของถังเทียน นกยูงนี้มีสีเงินตลอดตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งตาของมันสีเงินขาวบริสุทธิ์และดูเหมือนจะเยือกเย็นผิดธรรมดาที่สะดุดตาที่สุดก็คือขนหงอนยาวเกือบสองเมตรสีน้ำเงินที่หน้าผากมันจะอ่อนทิ้งตัวอยู่ด้านหลังของมันทำให้ดูเหมือนกับริบบิ้นโบกพริ้วในสายลม
นกยูงเกาะอยู่บนไหล่ของถังเทียน เกราะเงินอยู่บนตัวถังเทียนทั้งหมดก็คือขนของมัน
“นี่..... นี่คือเกราะชั้นเงิน!”
ไจ๋เหิงจ้านอุทานดังลั่น สายตาของเขาถูกตรึงดึงดูดโดยเกราะเงินที่งดงามและซับซ้อนบนตัวถังเทียน ไม่มีใครไม่ชอบเกราะ แต่ที่นี่คือเขตอิทธิพลขององค์การวิญญาณมืดเกราะเป็นของที่หาได้ยากมาก อย่าว่าแต่สมบัติชั้นบรอนซ์เลย
สายตาของไจ๋เหิงจ้านเปลี่ยนเป็นทั้งอิจฉาและริษยา มีเกราะชั้นเงินอยู่ชิ้นเดียวในรัฐบาลอู่โหว แต่ว่าเป็นของอู่โหว นอกจากนั้นมีเพียงไม่กี่คนที่ครอบครองเกราะชั้นบรอนซ์และไจ๋เหิงจ้านเองไม่มีแม้แต่คุณสมบัติครอบครองเกราะบรอนซ์
เด็กหญิงก็ตะลึงเช่นกัน เห็นชัดว่าเธอรู้จักเกราะชั้นเงินเช่นกันและเธอรู้มากกว่านั้น
นั่นคือการตื่นขึ้น
ตาของนกยูงเงินเยือกเย็นและแฝงแววอบอุ่น แต่เธอสามารถเห็นริ้วรอยประวัติศาสตร์ยาวนานได้อย่างประหลาด
หลิงซิ่วมองดูถังเทียนที่สง่างามและกระชับหอกเงินแน่นโดยไม่ได้ตั้งใจ
หลิงซิ่ว! เจ้าต้องฝึกให้หนักขึ้น!
เบื้องหลังประตูดาวกางเขน
ปิงชำเลืองมองกรงเล็บภูตพรายที่มีท่าทีไม่แยแสและถอนหายใจ“ไม่เคยคาดหวังไว้เลยว่าเจ้าเด็กนี่สามารถปลุกนกยูงได้เร็วนัก!จิตวิญญาณพลังยุทธของเจ้าเด็กนี่น่ากลัวมากแน่นอน”
“อย่างไรก็ตามนกยูงคือสิ่งมีชีวิตที่เด็ดเดี่ยวอย่างที่ข้าคาดไม่ถึง บางทีมันคงรู้สึกอยู่อย่างเดียวดายมานานเกินไปถึงได้กระหายอยากสู้เหมือนเมื่อก่อน”
ปิงพึมพำกับตนเอง
“เมื่อคราวแรกที่ข้าสวมชุดเสือเขี้ยวดาบข้ารู้สึกมึนงงเช่นกัน เมื่อนึกถึงอดีตการรบครั้งก่อนเหมือนกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
“ความจริงโชคของเจ้านับว่าไม่เลว เจ้ากลายเป็นขุนพลวิญญาณแล้ว แต่วิทยายุทธและนกยูงของเจ้า ยังคงอยู่ต่อและยังสามารถสู้ต่อได้”
กรงเล็บภูตพรายยังคงเงียบมีแต่ดวงตาดูเหมือนพลุกพล่านอยู่ภายในเงียบๆ
“สักวัน นกยูงจะได้ต่อสู้เคียงข้างเขาอย่างภาคภูมิ”
ปิงพูดเบาๆ
※※※※
ถังเทียนรู้สึกสงบและสัมผัสถึงพลังที่พลุกพล่านจากนกยูงได้รอยยิ้มน้อยๆปรากฏที่มุมปากของเขา และคลี่ขยายเป็นยิ้มกว้างอย่างรวดเร็ว
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! นกยูง,เราได้สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันอีกแล้ว!”
“เจ้ามาทันเวลาพอดี!”
“มาเถอะ,นกยูงกับมนุษย์ร่วมสู้ด้วยกันจะไม่พ่ายแพ้ใคร พวกต่อต้านเราทั้งหมด เตรียมตัวรับการตอบโต้จากเรา”
ถังเทียนคำรามอย่างห้าวหาญให้ได้ยินกันทุกคน
นกยูงไม่พูด แต่ตาสีเงินมีแววพลุกพล่านปรารถนาจะสู้
“พร้อมหรือยัง? เจ้านกยูง!”
ทันใดนั้นถังเทียนย่อตัว และถามด้วยเสียงเบา
ราวกับว่ากระแสจิตสื่อถึงกัน นกยูงสยายปีกของมันทันที เกราะปีกเงินเกิดจากขนที่ซ้อนกันหลายชั้นคลี่กางอยู่ด้านหลังของถังเทียน
“ฆ่า!”
พร้อมกับเสียงคำรามกึกก้อง ถังเทียนหายวับทันที
ชิงหลวนที่ตื่นตัวตะลึง ถังเทียนไม่ได้พุ่งจู่โจมนาง...
ผู้อาวุโสที่ลอบทำร้ายขดตัวอยู่ในมุมหนึ่ง ลมหายใจของเขาตอนนี้นิ่งสนิทสภาพของเขาในตอนนี้เหมือนกับท่อนไม้แห้งที่ไม่มีสัญญาณของชีวิต
เจ้าผู้นี้เป็นตัวประหลาดแบบไหนกัน? มีพลังสายเลือดคู่ แข็งแรงเหมือนโคถึก วิทยายุทธดี แต่ความสำเร็จของเขาเป็นเหมือนผ่านการค้นคว้าวิจัยมานาน
และเขายังมีเกราะอยู่ชุดหนึ่ง.....นั่นคือเกราะชั้นเงิน!
เมื่อเขาเห็นชัดเจนว่าเป็นเกราะชั้นเงิน เขากลัวจนคิดอะไรไม่ออกเขาเคยเห็นประจักษ์พลังของเกราะเงินมาก่อน ครั้งนั้นเมื่อเขาใช้ชีวิตห่างไกลจากบ้านเกิด เขาเห็นยอดฝีมือเกราะเงิน เพียงแค่กระดิกนิ้วเขาก็ฆ่ายอดฝีมือที่มีชื่อเสียงมากกว่าเขาได้
ตั้งแต่นั้นเขาท้อแท้และกลับดาวไพรมายาไม่เคยออกมาอีกเลย
ฝีมือของถังเทียนแกร่งกล้าห้าวหาญอยู่แล้ว ยิ่งด้วยการช่วยเหลือจากเกราะเงินในตอนนี้ ฝีมือของเขายิ่งเพิ่มสูงอีกมาก ตอนนี้เขาไม่ใช่คู่ต่อกรถังเทียนเลย เมื่อขนของเกราะชิ้นหนึ่งที่เพิ่งแทงเขาปราณที่หนาวเย็นยากทนทานแทรกซึมเข้ามาในร่างของเขา เขาได้รับบาดเจ็บแล้ว และยังทำให้เขาสูญเสียความมั่นใจ
เขาตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ทุกคนจะรู้ตัวเขารีบเลื้อยไปที่มุมและซ่อนตัวเอง
พลังสายเลือดงูทองของเขาสามารถซ่อนลมหายใจของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบเขาเคยใช้วิธีนี้ช่วยพาตัวเองออกจากสถานการณ์อันตรายหลายครั้งแล้ว เขาตัดสินใจว่าทันทีที่หาโอกาสได้เขาจะหนีไปให้ไกลจากตระกูลกู้ทันที เขาต้องการหนีไปให้พ้นจากที่ๆ น่ากลัวแห่งนี้
ทันใดนั้นร่างสีเงินมาปรากฏอยู่ต่อหน้าเขาโดยไม่มีสัญญาณเตือน
ผู้อาวุโสนั้นแทบไม่อยากเชื่อสายตา ถังเทียนหาเขาพบได้อย่างไร...เขาไม่ได้สังเกตจนบัดนี้
ผู้อาวุโสนั้นตกใจยืดตัวกระโดดขึ้นและหันหลังวิ่งหนี แต่ทันใดนั้นเขารู้สึกเจ็บคอ เพราะมือที่หุ้มเกราะเงินคว้าคอเขาไว้
กร๊อบ
ถังเทียน... หาเขาพบได้ยังไง....
ดวงตาของผู้อาวุโสเบิกกว้างและประกายจางลงอย่างรวดเร็ว
พลังสายเลือดของฝ่ายตรงข้ามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก ลมหายใจของเขาถูกซ่อนไว้อย่างสมบูรณ์ แต่เพราะเขาเพิ่งถูกขนนกยูงจากเกราะทำร้าย พลังนกยูงชอนไชอยู่ในร่างเขา เนื่องจากพลังยังไม่ได้สลายออกไปเต็มที่มันจึงตกเป็นเป้าหมายอย่างดี และนกยูงก็หาจุดซ่อนตัวของฝ่ายตรงข้ามได้ง่ายดาย
“กล้าลอบทำร้ายข้า เบื่อหน่ายชีวิตแล้วหรือไง?”
ถังเทียนคำราม และหันมาเผชิญหน้ากับชิงหลวนเขายกมือขวา “เข้ามาเลย มาสู้กันอีกสักยก”
ชิงหลวนกดด้ามกระบี่ลงปีกกระบี่สยายออกอยู่ด้านหลังนาง รัศมีของนางพุ่งขึ้นสูง
ทันใดนั้นร่างเล็กบางร่างหนึ่งกระโดดเข้ามาในลาน เป็นองค์หญิงน้อยนั่นเอง
“นางยอมรับความพ่ายแพ้!”
เด็กหญิงพูดแทรกขึ้นมา ทำให้ชิงหลวนตะลึงจากนั้นนางพูดอย่างกระวนกระวาย “คุณหนู!”
“ชิงหลวน, เจ้าจะขัดคำสั่งข้าหรือ?” เด็กหญิงมองดูชิงหลวนอย่างใจเย็น
ชิงหลวนตะลึง
ทว่าถังเทียนกลับรู้สึกรำคาญ “เฮ้ เฮ้ เฮ้, นี่มันเรื่องอะไรกัน? พวกเจ้าเป็นฝ่ายท้าสู้แล้วตอนนี้กลับเลิกราตามอำเภอใจได้ยังไง? ฮึ่ม..มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกนะ!”
ชิงหลวนแค้น แต่เด็กหญิงพูดอย่างร่าเริง “อาจารย์! มาตกลงกันดีกว่า ข้าให้สองร้อยล้านเหรียญดาวเพื่อให้เรื่องนี้เลิกรากันไป เป็นยังไง?”
ถังเทียนยิ้มกริ่มทันที “ศิษย์ผู้น่ารัก, เมื่อเจ้าพูดถึงขนาดนั้น ข้าจะให้เกียรติเจ้าก็แล้วกัน!”
คนอื่นๆตกตะลึงมึนไปหมดกับเหตุการณ์ที่หักมุมแบบนี้