ตอนที่แล้วตอนที่ 171 กลัวจนโง่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 173 ปัญหาอาจม

ตอนที่ 172 โลกเปลี่ยนไปอย่างรวดรวดเร็ว


เมื่อถังเทียนค่อยๆ ได้สติ เขาลืมตาขึ้นมาอย่างงุนงง

ผ้าห่มอ่อนนุ่มคลุมตัวของเขา  กลิ่นหอมอ่อนละมุนโชยออกมาจากผ้าห่ม  เตียงก็นุ่มด้วยเช่นกันให้ความรู้สึกสบายจนถังเทียนไม่อยากลุกขึ้น

ที่นี่ที่ไหนกัน.....

ทันใดนั้น เสียงของของอาเสวี่ยดังออกมาจากนอกบ้าน,  เดี๋ยว! ทำไมจู่ๆเขาถึงได้มาอยู่ที่นี่?

“เฮ้, ลุง!” ถังเทียนอดถามไม่ได้ “เกิดอะไรขึ้น?”

ปิงลอยออกมาอย่างเกียจคร้าน หน้าที่เหมือนไพ่ของเหมือนยังอยู่ในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่น  คิ้วทั้งสองข้างตก  “โอว,พลังที่เจ้าดูดกลืนจากพลังสายเลือดมีปัญหาบางอย่าง”

“มีปัญหาบางอย่างหรือ?” ตาของถังเทียนเบิกกว้างแทบถลน “ปัญหาอะไร,  มีปัญหาอะไร?”

“พลังไหลย้อน”  ปิงหาว  “ตอนนี้เจ้าปลอดภัยแล้ว”

เมื่อได้ยินว่าตอนนี้เขาปลอดภัยแล้ว  ถังเทียนตอบรับ “โอว”และจ้องมองปิงด้วยความสงสัย  “นี่ลุง,ทำไมลุงถึงดูเหนื่อยนักล่ะ?”

“แก่แล้ว,อย่าเอาไปเทียบเด็กอย่างเจ้าเลย” ปิงหาวไม่หยุด ประกายน้ำตาปรากฏอยู่ในตาของเขา เขาพูดตัดบทว่า “ไม่ไหวแล้ว  ข้าจะไปนอนล่ะ...”

หลังจากพูดจบ เขาก็หายไป

ตึง ตึง ตึง!

เสียงฝีเท้าหนักๆ ดังต่อเนื่องไปทั่ว ร่างเล็กๆ วิ่งไปมาอย่างสนุกสนานอยู่ข้างเตียงเดี๋ยวโดดขึ้นโดดลงอยู่บนตัวถังเทียน หยาหยาโบกมือของมัน ใบหน้าของมันดูตื่นเต้น

“เจ้าตัวน้อยนี่ก่อกวนจริงๆ  หยาหยาเมื่อไหร่เจ้าจะพูดได้สักที เฮ้อ” ถังเทียนลูบหัวของมันแล้วบ่นพึมพำขณะที่เขาดึงผ้าห่มออกไปและเดินลงจากเตียง

เมื่อเขาเดินออกมาจากประตู เขาตะลึงกับภาพที่เห็นต่อหน้า

พวกเยี่ยนเซี่ยทั้งสี่คนภายใต้การนำของหัวหน้าที่แปลกหน้ายืนตรงเข้าแถว  ทุกคนโค้งคำนับต่อหน้ากู้เสวี่ยใบหน้ายิ้มแย้ม

นี่มัน...

ถังเทียนงงไปหมด  แค่หลับไปงีบเดียวทั้งโลกก็เปลี่ยนไปสิ้นเชิงอย่างนั้นหรือ

กู้เสวี่ยได้ยินเสียงอยู่ด้านหลังของนาง และเมื่อนางหันไปเห็นถังเทียนสีหน้านางผ่องใสทันที ขณะที่นางตะโกนเรียกเขาอย่างอบอุ่น “อาเทียน!”

นางปล่อยสวี่ฉางเทียนและพวกไว้ก่อนทันที รีบขยับชุดและวิ่งไปหาถังเทียน

“อาเสวี่ย, นี่....” ถังเทียนชี้ไปที่สวี่ฉางเทียนและพวกอย่างงงงวย

“หัวหน้าสวี่มาที่นี่เพื่อขอโทษ” กู้เสวี่ยยิ้มหวาน และเงยหน้าพูด ผิวของกู้เสวี่ยขาวปานหิมะ  ใบหน้าที่น่ารัก  รอยยิ้มนี้ทำให้ถังเทียนหลงเสน่ห์โดยไม่รู้ตัว

อย่างไรก็ตาม  ขอโทษ...

สีหน้าของถังเทียนดูประหลาดยิ่งขึ้น และมองดูสวี่ฉางเทียนและคนอื่นด้วยความสงสัย  คนพวกนี้จะมาไม้ไหนกันแน่?

สวี่ฉางเทียนรีบยิ้มใสซื่อบริสุทธิ์ใจ

“อาเสวี่ย! เจ้าต้องระวังให้ดีในสังคมนี้มีโจรอยู่มากมาย!” ถังเทียนเตือนกู้เสวี่ยอย่างจริงจัง “อย่าหลงกลตกลงไปในอุบายตบตาของพวกเขา เมื่อข้าอยู่ที่นี่ ใครก็ตามที่รังแกเจ้า ข้าจะทุบให้เรียบ”

หลังจากที่ถังเทียนจ้องมองสวี่ฉางเทียนและพวกด้วยสายตาที่น่ากลัว

สวี่ฉางเทียนจัดพวกในกลุ่มทั้งห้าให้เป็นแถวเดียวกัน  และเค้นยิ้มบริสุทธิ์ใจอย่างเป็นระเบียบ

ถังเทียนรู้สึกแปลกและอึดอัด

กู้เสวี่ยปิดปากและแอบหัวเราะ

สวี่ฉางเทียนเอ่ยขึ้น “เราจะไม่รบกวนท่านทั้งสองแล้ว อย่าห่วงไปเลยประมุขตระกูลกู้ ในพวกเราต่อไปนี้จะไม่มีใครกล้ารังแกตระกูลกู้อีกต่อไป”

สวี่ฉางเทียนตบอก มีสีหน้าจริงใจ

สมองของคนพวกนี้คงเสื่อมไปแล้ว..ก็พวกเจ้าเป็นฝ่ายที่ต้องการจะจัดการตระกูลกู้อยู่ชัดๆ....

ถังเทียนมองดูทั้งกลุ่มด้วยความสงสัยกว่าเดิม

สายตาถังเทียนทำให้สวี่ฉางเทียนพวกที่เหลือยิ้มค้าง พวกเขารีบกล่าวคำอำลาและจากไปโดยไม่ลังเลเลย

“อาเทียน, เจ้ารู้สึกยังไงบ้าง? ติดขัดอะไรตรงไหนไหม?”

เสียงของกู้เสวี่ยเต็มไปด้วยความกังวลใจระคนความไม่สบายใจ  หัวใจถังเทียนรู้สึกอบอุ่น  จากนั้นเขาหัวเราะลั่นตบอกตัวเองเสียงดัง  “ฮ่าฮ่าฮ่า หนุ่มน้อยชาวฟ้าคนนี้คือบุรุษเหล็ก ปัญหาเล็กน้อยเท่านี้ก็แค่อุบัติเหตุ!  ข้ายังแข็งแรงพอจะฆ่าซิ่วซิ่วน้อยได้อย่างสบายๆเลย”

จากนั้นกู้เสวี่ยถอนหายใจโล่งอก

“ข้านี่แหละจะฆ่าเจ้าก่อน!” หน้าของหลิงซิ่วเยาะเย้ยก่อนจะพูดประโยคนี้ออกมา นัยน์ตาเขาเป็นประกาย

โอวไม่..ข้าโดนจับได้เสียแล้ว

ถังเทียนยิ้มค้างบนใบหน้า แต่ตาของเขายังคงเป็นประกายและจ้องด้วยตาเบิกกว้างขณะที่ชี้ไปที่ผมของหลิงซิ่ว  “ซิ่วซิ่วน้อย เกิดอะไรขึ้นผมของเจ้า”

“วิธีเก๋าแบบนั้น  อย่าหวังจะหลอกข้าเลย!”หลิงซิ่วไม่ตื่นเต้น และตั้งท่าชี้ปลายหอกมาที่ถังเทียนและกัดฟัน  “เข้ามาเลย มาประลองให้เต็มที่สักครั้ง”

“เอ่อ.. อาซิ่ว,ผมของเจ้าเปลี่ยนไปจริงๆนะ” กู้เสวี่ยอุทาน

“อาเสวี่ย!  อย่าไปช่วยเจ้างั่งนี่!”  หลิงซิ่วแสดงสีหน้าชัดเจนว่า“ข้าไม่ยอมถูกหลอก”

“จริงๆ นะ!  ผมของเจ้าเปลี่ยนไปเป็นสีเงิน!”  กู้เสวี่ยกล่าวจริงจัง

ถังเทียนลืมตัววิ่งมาอยู่ข้างหลิงซิ่วและถอนเส้นผมออกมาด้วยความอยากรู้  “แปลกจริง!  นี่ยังไม่แห้งเลย  ข้าได้ยินว่าหมูสายพันธุ์พิเศษบางพวกเมื่อพวกมันโต  ขนของมันจะเปลี่ยนไป นึกไม่ถึงเลยว่าซิ่วซิ่วน้อยจะเป็นสายพันธุ์พิเศษ!”

“พันธุ์....หมู....”หน้าของหลิงซิ่วเขียวคล้ำยิ่งกว่าเมฆครึ้ม หางตากระตุก ทันใดนั้นเขาสูดลมหายใจเยือกเย็นและถลึงตาทันที

ถังเทียนวางผมที่เขาเพิ่งถอนออกมาไว้ข้างหน้าหลิงซิ่วโดยไม่รู้ตัว  “นี่ไง, ดูซะ โคนผมเริ่มกลายเป็นสีเงิน!”

หลิงซิ่วปรี่เข้ามาจะเอาเรื่องพอเห็นผมสองสามเส้นในถังเทียนครึ่งหนึ่งสีฟ้าครึ่งบนสีน้ำเงินเขายืนงงอยู่กับที่เหมือนกับถูกฟ้าผ่า

สายตาของเขาจับจ้องเส้นผมสองสามเส้นในมือของถังเทียนอย่างงงงวย

เส้นผมที่ครึ่งหนึ่งเป็นสีน้ำทะเล อีกครึ่งหนึ่งเป็นสีเงิน

หลิงซิ่วถูกตรึงอยู่กับที่ สีหน้ายังคงเปลี่ยนไป

ครู่ต่อมา เขาแค่นเสียง “สีเงินดูดีกว่า”

หลังจากนั้นเขาไม่สนใจถังเทียนและกู้เสวี่ย เขาหันหลังเดินกลับออกไป และพูดทิ้งท้ายไว้

“สองสามวันนี้ ไม่ต้องเข้ามารบกวนข้า ข้าจะปิดประตูฝึกฝนวิชาหอกของข้า”

ถังเทียนพูดเบาๆ กับกู้เสวี่ยด้วยสีหน้าไม่สบายใจ “ดูเหมือนเรื่องนี้จะสร้างความกระทบกระเทือนใจให้ซิ่วซิ่วน้อยนะ”

ดูเหมือนกู้เสวี่ยคิดอะไรไม่ออก

ถังเทียนรู้สึกว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้แปลกมาก  “จริงสิ, อาเสวี่ย,เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับคนจากคณะปกครองหรือ?”

กู้เสวี่ยค่อยรู้สึกตัว  นางแสดงสีหน้าที่ไม่เข้าใจและส่ายหัว  “ข้าก็นึกไม่ออกเหมือนกัน  แต่พวกเขาพูดว่าจะมีคนสำคัญมากๆมาเยี่ยมในอีกไม่กี่วัน และขอให้เราเตรียมตัวไว้”

ถังเทียนหัวเราะเย็นชา  “เขาเป็นใครถึงได้มาสั่งให้เราเตรียมตัว? นี่เราต้องเตรียมตัวเพราะเขาสั่งอย่างนั้นหรือ? นี่เราต้องกลัวจนไม่เป็นตัวของตัวเองแล้วหรือ?  พวกเขาทำร้ายลุงเมอเรย์  เรื่องนี้ต้องไม่จบง่ายๆ”

กูเสวี่ยเห็นถังเทียนไม่ยินดีก็ลอบยินดี นางหัวเราะ “ลุงเมอเรย์อาการดีขึ้นแล้ว เป็นเพราะยาพิเศษที่หัวหน้าสวี่ใช้ช่วยรักษาเขา  เขาขอโทษลุงเมอเรย์ไปแล้ว และให้สมบัติชั้นบรอนซ์เป็นค่าทำขวัญ  ลุงเมอเรย์ก็ให้อภัยเขาไปแล้ว”

ถังเทียนประหลาดใจ  เขาเบะปาก“โชคดีที่พวกเขารู้ตัว  ถ้าไม่อย่างนั้นข้าไม่ยอมปล่อยพวกเขาแน่!”

กู้เสวี่ยยิ้มเล็กน้อย แล้วจู่ๆนางก็นึกอะไรขึ้นมาได้ “อาเทียน!  ข้าอยากให้เจ้าช่วยอะไรสักอย่าง”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น  ถังเทียนตบอกโดยไม่ลังเลใจทันที  “พูดมาได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ!”

“ข้าอยากจะใช้เทวรูปห้าตาเพื่อลองดูว่าจะช่วยเรื่องกระตุ้นสายเลือดข้าได้หรือไม่  แต่ข้ารู้เรื่องเทวรูปห้าตาน้อย   ข้าไม่รู้ว่าจากนั้นจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นตามมาหรือเปล่า  ดังนั้นข้าหวังว่าเจ้าจะช่วยจับตาดูอยู่ใกล้ๆด้วย”

สีหน้าของกู้เสวี่ยแสดงถึงความตั้งใจ หลายเรื่องที่เผชิญมาในไม่กี่วันนี้ทำให้นางเข้าใจลึกซึ้ง  ไม่มีความสามารถนางก็ไม่สามารถแม้แต่จะช่วยตนเอง  ทันใดนั้นเองนางมีความตั้งใจจะใช้เทวรูปห้าตาที่ถังเทียนมอบให้ ศึกครั้งนี้ทำให้นางตัดสินใจใช้เทวรูปห้าตาเพื่อความก้าวหน้า เพราะถ้านางสามารถกระตุ้นสายเลือดรุ้งหิมะในตัวนางได้  นางจะไม่เป็นตัวถ่วงอาเทียนอีกต่อไป

“ไม่มีปัญหา!” ถังเทียนเห็นด้วยโดยไม่คิดอะไร เขารู้สึกว่านี่เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องทำอยู่แล้ว  “เดี๋ยวนี้เลยหรือเปล่า?”

กู้เสวี่ยสั่นศีรษะ “ข้าจำเป็นต้องเตรียมบางอย่าง แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าจะต้องระวังอะไรบ้างเมื่อใช้เทวรูปห้าตา  แต่ก็ต้องมีการเตรียมการง่ายๆ เท่าที่จำเป็นเสียก่อน  อย่างไรก็ตาม ถ้ามีอาเทียนอยู่ใกล้ๆข้าก็วางใจ”

นางจ้องมองหน้าถังเทียน เมื่อนางเห็นใบหน้าหยาบกร้าน หัวใจนางก็สงบลงทันที

นางจ้องมองเงียบๆ และยิ้มให้ถังเทียนเล็กน้อย “อย่างนั้นข้าจะไปเตรียมการ เมื่อข้าพร้อมเมื่อใด ข้าค่อยตามเจ้าอีกครั้ง”

“ก็ได้!” ถังเทียนผงกศีรษะโดยเร็ว

กู้เสวี่ยรีบเตรียมการโดยเร็ว

หยาหยาโดดขึ้นไหล่ของถังเทียน และโบกมือน้อยๆ ของมันให้กู้เสวี่ย

ถังเทียนมองดูลานที่ว่างเปล่า ทันใดนั้นเขาเอียงหัวคิด เขารู้สึกว่าเขาลืมอะไรบางอย่างไป หลังจากคิดอยู่ชั่วครู่ ถังเทียนตบหน้าผากตัวเองทันที ในที่สุดเขาก็นึกได้ว่าเขาลืมอะไรไป

ยังมีคนสองคนที่เขายังซ่อนไว้ในตู้

สองคนนี้คงจะไม่หิวโหยจนตายแล้วกระมัง....

ถังเทียนรู้สึกผิดเล็กน้อย และรีบวิ่งไปที่ลานเก่า  ไม่มีร่องรอยหลิงซิ่ว  เจ้าหมอนี่ไปฝึกวิชาหอกที่ไหนก็ไม่รู้

ถังเทียนรู้สึกผิด เขาเปิดประตูอย่างระมัดระวัง  ร่องรอยต่างๆเหมือนเดิมราวกับไม่เคยมีใครผ่านมา ถังเทียนค่อยๆ ย่องไปที่ตู้แล้วเปิดประตูออกจากนั้นเขาค่อยโล่งใจเมื่อมองเห็นเด็กหญิงมีสีหน้าโกรธ

โชคดี ที่พวกเขาไม่ได้อดตาย!

ถังเทียนดีใจดึงพวกเขาออกมาทันที

ทันทีที่เขาดึงผ้าอุดปากเด็กหญิงออก เด็กหญิงก็เริ่มทุบเขาทันที “เจ้าพยายามจะให้พวกเราอดตายใช่ไหม?  ทั้งที่ข้าอุตส่าห์ออกอุบายวางแผนให้เจ้าแล้ว  เจ้าเป็นคนไม่ดี! แง้.....”

เด็กหญิงพูดไปร้องไห้ไป

ถังเทียนรู้สึกผิดมากขึ้น และไม่รู้จะทำยังไง เขาต้องการปลอบให้เด็กหญิงหยุดร้องไห้แต่ก็ไม่รู้วิธี “นั่นเพราะ...”

เด็กหญิงที่จากเดิมร้องไห้ ยิ่งร้องไห้จ้าหนักกว่าเดิม ทั้งน้ำมูกน้ำตากระจายไปทั่ว

“ก็...ก็....”

ถังเทียนรู้สึกว่าเงียบเสียดีกว่า  แน่นอนว่าหลังร้องไห้อยู่สิบนาทีกว่าเด็กหญิงก็หยุดร้องไห้ แต่ยังคงสะอื้น แต่เธอยังทำหน้ามุ่ย

“ข้าหิวแล้ว”

เด็กหญิงพูดอย่างน่าสงสาร

“โอว โอว จริงสิ” ถังเทียนตอบสนองทันทีและรีบดึงขนมปังแห้งออกมาออกมาและมอบให้เด็กหญิงกิน

หลังจากกัดไปหนึ่งคำ เด็กหญิงขมวดคิ้วพูดงึมงำ “รสชาติเหลือทนจริงๆ”  แต่เธอก็กัดกินจนหมดอย่างรวดเร็วในระดับความเร็วที่ทำให้ถังเทียนตะลึง เธอต้องหิวโหยขนาดไหนกัน ถึงทำได้ขนาดนี้

เขาถามด้วยความรู้สึกสำนึกผิดอยู่บ้าง “ต้องการเพิ่มอีกไหม?”

“ข้าอยากได้น้ำ!” เด็กหญิงพูดอย่างขัดเคือง

ถังเทียนรีบหาน้ำมาให้เธอ

เด็กหญิงค่อยฟื้นฟูเรี่ยวแรงของเธอ และถามถังเทียนด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย“ความคิดและแผนการที่ข้าสอนเจ้า ใช้ได้ไหม?  ผลเป็นยังไงบ้าง?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด