ตอนที่ 171 กลัวจนโง่
ถังเทียนเบิกบานใจจากการต่อสู้
เขาควงกระบองเขี้ยวหมาป่าในมือเป็นกังหันกวาดไปทั่วห้องโถง ทุกที่ซึ่งเขาไปถึงต่างก็ถูกกวาดทำลายได้ง่าย เสียงร้องโหยหวนได้ยินอย่างต่อเนื่อง ความเร็วของเขามากมายจนนักสู้ไม่มีเวลาได้หนี
“อ๊า.. อ๊าค... อ๊า!”
“ไป ไป ไป!”
“ฆ่า ฆ่า ฆ่า!”
ถังเทียนคำรามลั่นห้องโถง
เมื่อเห็นถังเทียนบ้าดีเดือด หลู่ชิงกลัวจนคิดอะไรไม่ออก เขาสูญเสียความตั้งใจสู้ และรีบวิ่งไปที่กลางซากหักพังทลายเพื่อช่วยผู้เฒ่าหวี
ถังเทียนตาไวเหมือนเหยี่ยว เขาสังเกตเห็นหลู่ชิงและผู้เฒ่าหวี เขาโห่ร้องเสียงประหลาดทันทีกระทืบเท้ากับพื้นและทะยานขึ้นไปในอากาศ พร้อมกับชูกระบองเหนือหัว
ถังเทียนลอยตัวขึ้นไปสูงราวๆ 20 เมตรและร่วงลงมาเหมือนดาวตก หลู่ชิงและผู้เฒ่าหวีขยายขนาดอย่างรวดเร็วในสายตาของเขา เขาสามารถมองเห็นสีหน้าหวาดกลัวสยดสยองของทั้งสองคนได้ชัด
สายตาของถังเทียนบ่งบอกว่าตั้งใจจะฆ่าเมื่อนึกถึงความอัปยศที่อาเสวี่ยต้องทนทรมาน เขาจึงมีแต่ความโกรธ เจ้าแก่ระยำนี่จะทำให้หลายคนต้องทนทุกข์ทรมานต่อไป ถ้าหากเขายังมีชีวิตอยู่
รังสีฆ่าฟันเต็มอยู่ในหัวใจของเขาจึงเป็นธรรมดาที่ถังเทียนใช้พลังเต็มที่
แครก แครก แครก!
ข้อต่อทุกข้อเหมือนกับร่ำร้อง กล้ามเนื้อทุกส่วนตื่นตัวเต็มที่ถังเทียนอยู่ในอากาศในท่าเหมือนธนูที่โก่งสายเต็มเหนี่ยวร่างของเขายืดถึงขีดจำกัด กระบองเขี้ยวหมาป่าในมือที่ชู ยกสูงขึ้นไปไม่กี่นิ้ว!
“ฆ่า!”
ถังเทียนถลึงตาด้วยความโกรธ ลมหายใจหนักหน่วง
พลังในร่างทั้งหมดถูกรวมไว้ จู่ๆกระบองที่ชูเหนือหัวเขาอันตรธานไปจากในมือ พวกนักสู้ที่มีพลังสายตาดีสามารถมองเห็นกระบองพุ่งลงมาในอากาศหนามเขี้ยวสุนัขบนกระบองแต่ละเขี้ยวสั่นรุนแรงแหวกอากาศจนเกิดเสียงหวีดฟังแล้วเสียวสันหลังวาบกันทุกคน
วีดดดด
โดยไม่มีการเตือนรังสีที่แกร่งกร้าวเย็นยะเยียบปรากฏวาบอยู่ต่อหน้าต่อหน้าเขา
ม่านตาของถังเทียนหดแคบแต่เขาไม่แตกตื่นแม้แต่น้อย แรงเหวี่ยงของเขาอยู่ในระดับสูงสุดไปแล้ว ต่อให้เป็นไซอามาเองเขาก็ไม่กลัวแม้แต่น้อย
กระบองและรังสีขวานปะทะกันตรงๆ
ปัง!
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวของทองและเหล็กปะทะกันกลบเสียงอื่นทั่วทั้งห้องโถง
ถังเทียนรู้สึกแต่ว่าพลังกล้าแกร่งเมื่อเทียบกับที่ขวางหน้ากระบองของเขา กระบองในมือของเขาดูเหมือนปะทะใส่กำแพง
แรงสั่นสะเทือนมหาศาลทำให้ข้อมือของเขาถึงกับชา
ถังเทียนแตกตื่นเขายืมแรงสะท้อนและเด้งถอยกลับไปด้วยความเร็วสูง
ส่วนคนอื่นเห็นถังเทียนกำลังพุ่งใส่หลู่ชิงและผู้เฒ่าหวีอย่างโกรธเกรี้ยว เด้งกลับไปด้วยความเร็วสูง
จนกระทั่งมีร่างที่ไม่คุ้นร่างหนึ่งปรากฏออกมาจากฝูงชนเมื่อนั้นทุกคนถึงได้รู้ตัว
“ท่านหัวหน้า!” เยี่ยนเซี่ยจำผู้มาใหม่ได้ทันที เขาคือหัวหน้ากลุ่มสวี่ซื่อ สวี่ฉางเทียน กำลังตกใจอย่างหนัก
ก่อนที่เขาจะทันตั้งตัว ถังเทียนคำรามลั่นอีกครั้งและพุ่งเข้าหาสวี่ฉางเทียนด้วยความเร็วสูงพร้อมกับกระบองในมือเขา
บัดซบ!
เจ้าผู้นี้ปรากฏออกมาไม่มีปี่มีขลุ่ยและเข้ามาขัดขวางพลังโจมตีของเขา ถังเทียนรู้สึกว่าเหยื่อหลุดรอดมือไปได้ทำให้เขาโกรธจัดทันที
น่าคลั่งใจนัก
บุรุษแปลกหน้าตัวเตี้ยหลังโกงถูกมองว่าเป็นศัตรูของถังเทียนทันที รูปร่างของฝ่ายตรงข้ามเตี้ยล่ำ แต่แข็งแรงมากขวานหนาหนักสองเล่มอยู่ในมือของเขาอยู่ในท่าตั้งรับพร้อมกับสีหน้าที่เคร่งเครียด
พลังรบหรือเปล่า?
ถังเทียนฉีกยิ้มลี้ลับ หลังจากสู้มาจนถึงตอนนี้ เขาไม่อาจควบคุมตนเองได้แล้ว เขารู้สึกว่าตนเองกำลังเร่าร้อน แม้ว่าเลือดในร่างกายเขาที่ดูดซับมาจะเป็นเลือดแคระและเลือดเทพ แต่เลือดเหล่านั้นยังไม่ได้ย่อยสลายได้สิ้นเชิง ดังนั้นจึงทำให้ถังเทียนตื่นเต้นผิดปกติ ถังเทียนไม่มีถอยอยู่แล้วเนื่องจากคู่ต่อสู้สามารถสู้เขาได้ในแง่ความแข็งแกรง นี่จะทำให้การต่อสู้ของเขาทวีความดุเดือด
พร้อมกับเสียงตวาดถังเทียนพุ่งเข้าไปหาด้วยเร็วยิ่งกว่าครั้งก่อน
และโจมตีด้วยพลังของเขาทั้งหมด!
สวี่ฉางเทียนเตรียมจะพูดแต่เขาไม่เคยคาดเลยว่าถังเทียนไม่มีความคิดจะให้เขาพูด กระบองมาปรากฏอยู่เหนือศีรษะเขาอีกครั้งหนึ่ง ด้วยอันตรายที่มากกว่าครั้งก่อน
หัวใจของสวี่ฉางเทียนเย็นเฉียบ เขาไม่กล้าประมาท และรวบรวมปราณเที่ยงแท้ยกขวานคู่ขึ้นต้าน
ปัง!
เสียงปะทะดังสนั่นทำให้ทุกคนหูอื้อ
พลังประหลาดมาจากขวาน สวี่ฉางเทียนตกใจ แรงหวดของถังเทียนครั้งนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าครั้งก่อน เท้าของเขาจมลึกลงไปถึงข้อเท้าพื้นแตกร่วนเหมือนขนมปังกรอบ
เจ้าผู้นี้, มีพลังมากขนาดนั้น
สวี่ฉางเทียนมีชื่อเสียงในเรื่องพลัง มีคนมากมายที่ฝีมือดีกว่าเขา แต่ที่มีความพละกำลังเหนือกว่าเขา เขายังไม่เคยเจอ พละกำลังเป็นความสามารถที่เขาภูมิใจ คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะโดนคนอื่นเล่นงานได้
“ไปลงนรกซะเถอะ!”
ถังเทียนโกรธไม่ลืมหูลืมไปแล้วหมอกโลหิตในร่างกายเขาหลอมรวมกับเลือดเนื้อของเขาได้เร็วขึ้น ดวงตาของถังเทียนเริ่มมีรอยเส้นเลือดแดงปรากฏ เนื่องจากพลังสะท้อนกลับที่รุนแรงขณะที่ถังเทียนเด้งกลับไปในอากาศ เขาพลิกตัวแล้วพุ่งเข้าหาสวี่ฉางเทียนด้วยความเร็วกว่าเดิมอีกครั้ง
บึ้ม บึ้ม บึ้ม!
เสียงปะทะยังดังอย่างต่อเนื่องเป็นประทัดแตก
ถังเทียนหวดกระบองของเขาใส่อย่างดุร้าย แรงหวดใส่อย่างต่อเนื่องรุนแรงทำให้สวี่ฉางเทียนเป็นเหมือนตะปูยักษ์ที่ถูกค้อนกระหน่ำใส่ไม่หยุดและจมลงทีละนิ้วๆ หน้าของสวี่ฉางเทียนแดงก่ำ แขนเจ็บชา และกลั้นลมหายใจเฮือกสุดท้ายไว้ ความถี่ในการโจมตีของถังเทียนทำให้เขากระวนกระวายและไม่กล้าอ้าปาก เพราะทันทีที่เขาอ้าปาก พลังที่เหลือในตัวของเขาจะหายไป
เยี่ยนเซี่ยและพวกตะลึงพูดไม่ออกกับภาพที่อยู่ต่อหน้าพวกเขา พวกเขาไม่เคยนึกฝันเลยว่าหัวหน้าคณะปกครองจะถูกถังเทียนเล่นงานได้”
เป็นไปได้อย่างไร....
คำเหล่านี้ว่า “เหมือนผีหลอก” ลอยขึ้นมาในใจของพวกเขา ผลกระทบของภาพใหญ่ยิ่งกว่าการต่อสู้ระหว่างถังเทียนกับผู้เฒ่าหวีทำให้พวกเขาลืมก้าวเข้าไปช่วยเหลือ
จนกระทั่งร่างของสวี่ฉางเทียนจมลึกลงไปถึงเข่า ตอนนั้นเยี่ยนเซี่ยค่อยรู้สึกตัว สีหน้าเขาเปลี่ยนไป และเหมือนธนูที่หลุดจากแล่งเขาพุ่งเข้าหาถังเทียน
ฮึ่ม!
ร่างบรอนซ์ขนาดยักษ์เป็นเหมือนกำแพงทองแดงปรากฏอยู่ต่อหน้าเยี่ยนเซี่ยโดยไม่มีเค้าลาง
“ปัง ปัง ปัง.....”
เสียงปะทะดังสะท้านวิญญาณชะงัก
นั่นมัน....
ม่านตาของเยี่ยนเซี่ยขยาย เขาจำเจ้าสิ่งนี้ได้ตั้งแต่แรกสีหน้าของเขาเปลี่ยนทันที! ไวมาก! เขานึกไม่ถึงเลยว่าอาวุธจักรกลที่หนักถึงเพียงนั้นจะมีความเร็วอย่างน่าทึ่งถึงเพียงนั้น
เขากัดฟันและเตรียมตัวโจมตีแต่เมื่อเขาได้ยินหัวหน้าตะโกนด้วยความกังวล “หยุดนะ”
เยี่ยนเซี่ยตกใจ เขาระงับการจู่โจมโดยไม่คิดอะไร
ปิงใช้มือข้างหนึ่งหิ้วตัวถังเทียนไว้และอีกข้างหนึ่งถือกระบองเขี้ยวหมาป่า กระบองใหญ่น่ากลัวเมื่ออยู่ในมือปิงกลับดูเหมือนกับของเด็กเล่น
ตาของเสือเขี้ยวดาบจ้องมองเขาอย่างเย็นชา
หัวใจของเยี่ยนเซี่ยหนาวเหน็บอย่างอธิบายไม่ถูก แต่สายตาของเขามองดูถังเทียนที่อยู่ในมือของเสือเขี้ยวดาบ เขาตะลึงเพราะถังเทียนล้มลงหมดสติไปโดยไม่รู้ตัว
สวี่ฉางเทียนยืนโงนเงนแขนขาไม่เหลือเรี่ยวแรงแม้แต่น้อย หน้าของเขาซีดขาวหลั่งเหงื่อโชกตัว แต่ตอนนี้เขาตะโกนว่า “อย่าตื่นเต้น! ทุกคน.. มีอะไรก็เจรจากันได้!”
เจรจากันได้...
เยี่ยนเซี่ยชะงักทันทีเขาแทบจะสงสัยว่าได้ยินผิดไป คำพูดเปี่ยมด้วยไมตรีเช่นนั้นเป็นไปได้อย่างไรที่หลุดออกมาจากปากหัวหน้าคณะปกครองผู้โหดเหี้ยมฆ่าคนได้โดยไม่กระพริบา
แฮก... แฮก....แฮก
สวี่ฉางเทียนอ้าปากหอบหายใจ, ปัง! ขวานคู่ของเขาร่วงลงพื้นและเขาไม่เหลือเรี่ยวแรงจะถือไว้ต่อไป เขาหอบหายใจรุนแรง อกของเขารู้สึกร้อนเหมือนไฟไหม้ ชุดของเขาเปียกเหงื่อโชก แขนทั้งสองเหมือนกับไม่ใช่ของเขา
ดูเหมือนว่าเขาจะหมดแรงแล้ว....
สวี่ฉางเทียนฝืนหัวร่อในใจ สายตาเขามองไปที่ถังเทียนโดยไม่ได้ตั้งใจแต่จิตใจเขากลับว้าวุ่น
เถื่อนอะไรอย่างนี้!
พลังของเขาโดนกำราบอย่างเต็มที่สถานการณ์เช่นนี้ ตัวเขาคงไม่เป็นที่น่าเชื่อถือในตอนนี้ แต่เมื่อความอ่อนเพลียเข้าครอบงำตัว เขาได้แต่ฝืนยิ้ม
เขาเพิ่งกระตุ้นพลังสายเลือดมาหรือนี่?
ถังเทียนสลบไสลมองดูเหมือนทารกในตอนนี้
เป็นความจริงที่ว่าเขาโดนเล่นงานโดยคนที่เพิ่งกระตุ้นพลังสายเลือด ถ้าข่าวนี้แพร่กระจายไปเขาคงกลายเป็นตัวตลกให้คณะปกครองอีกสามกลุ่มแน่ และยอดฝีมือจักรกลผู้นี้...
หัวใจของสวี่ฉางเทียนกระตุกด้วยความระมัดระวัง เขาอยู่ใกล้ที่สุดและเห็นชัดที่สุดด้วยเช่นกันยอดฝีมือจักรกลผู้นี้โจมตีได้อย่างแม่นยำ ถังเทียนที่กำลังคลั่งโดนซัดหมดสติทันทีถังเทียนเพิ่งผ่านการกระตุ้นพลังสายเลือดและยังย่อยสลายพลังสายเลือดได้ไม่เต็มที่ เขาเพิ่งอยู่ในสภาวะคลั่งจนทำให้พลังสายเลือดไหลย้อน นั่นเป็นสภาวะที่อันตรายมาก
ยอดฝีมือผู้มีสามัญสำนึกจะไม่มีทางเข้าต่อสู้ทันทีก่อนที่พวกเขาจะย่อยสลายพลังสายเลือดทั้งหมดอย่างเต็มที่แล้ว
สำหรับถังเทียนถือว่าอันตรายมาก แต่สำหรับเขาก็อันตรายพอกัน
สวี่ฉางเทียนเกือบจะพลาดท่าอยู่แล้วอดแอบดีใจไม่ได้ ถ้าเขาแพ้ถังเทียน เขาคงจะเสียศักดิ์ศรีอย่างมาก
แต่...ยอดฝีมือจักรกลที่พรวดพราดเข้ามากะทันหันทำให้สวี่ฉางเทียนตะลึงกับฝีมือของเขา
ยอดฝีมือจักรกลผู้นี้น่ากลัวกว่าทุกคนที่เขาผ่านพบมามากนัก นึกไม่ถึงเลยว่ายังมียอดฝีมือจักรกลที่น่ากลัวขนาดนั้นอยู่ในโลก
เมื่อนึกถึงคำขอของผู้ว่าการดวงดาวสวี่ฉางเทียนสูดหายใจลึกและรู้สึกว่าตนเองโชคดีอีกครั้ง โชคดีที่เขามาทันเวลา
ปิงจ้องมองสวี่ฉางเทียนโดยไม่พูดอะไรเขาแบกถังเทียนที่หมดสติและลากกระบองเสียงดังแคร้งๆ เดินห่างออกไป
สวี่ฉางเทียนถอนหายใจโล่งอก
“ท่านหัวหน้า!ไม่เป็นไรใช่ไหม?” เยี่ยนเซี่ยวิ่งมาอยู่ต่อหน้าสวี่ฉางเทียน
“เข้ามาประคองข้าที” สวี่ฉางเทียนหายใจหนักหน่วง
เยี่ยนเซี่ยตะลึง หัวหน้าของเขาแทบไม่เหลือพลังแม้แต่จะเดิน เขารีบวิ่งเข้ามาและช่วยประคองเขาออกจากหลุม
สวี่ฉางเทียนกวาดสายตาไปรอบๆและนิ่งงัน “ความสัมพันธ์ของเราเลวร้ายลงไปหรือไม่?”
เยี่ยนเซี่ยแตกตื่น หลังจากลังเลใจ เขากระซิบ“นอกจากทำร้ายผู้คุ้มกันตระกูลกู้บาดเจ็บไปคนหนึ่ง เราไม่มีความขัดแย้งอะไรอื่น”
สวี่ฉางเทียนถอนหายใจโล่งอก กล่าวว่า“ดี ดีมาก!”
เยี่ยนเซี่ยเป็นคนฉลาด เขารู้ว่าสถานการณ์เปลี่ยนไป “เป็นไปได้หรือว่า...”
สวี่ฉางเทียนลดเสียง“พวกเจ้าไปขอโทษกู้เสวี่ยซะ และจำไว้ว่าอย่าแสดงความไม่พอใจออกมา”
ถึงตอนนี้ อูหนานก็วิ่งมาถึงเมื่อเขาได้ยินคำพูดของหัวหน้ากลุ่มพูด พวกเขาตะลึงจนแทบไม่เชื่อหูตนเอง
“พวกเจ้าต้องแสดงความจริงใจออกไป ไม่ว่าพวกเขาต้องการให้ชดเชยอะไรก็ให้ยอมรับทั้งหมด” สวี่ฉางเทียนลดเสียงลง หลังจากคิดชั่วครู่แล้ว เขาส่ายหัว “ข้าคิดว่าข้าพาพวกเจ้าไปตรงนั้นดีกว่านั่นเป็นการแสดงความจริงใจได้ดีกว่า”
เพราะเจ้าสี่คนนี้กลัวจนสมองไม่เหลือแล้ว