ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 10 แผนภาพบ่มวิญญาณและวิชาหมื่นชำระวิญญาณ
ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 10 แผนภาพบ่มวิญญาณและวิชาหมื่นชำระวิญญาณ
วันที่ยี่สิบเก้าของการเก็บตัวอยู่บ้าน ฉู่เซวียนอยู่ในเรือนสี่ประสานวันพรุ่งนี้ก็จะครบหนึ่งเดือน
นับตั้งแต่ที่เขาสังหารพวกสาวกมารที่แอบเข้ามาในตระกูลฉู่ ก็ไม่มีสาวกมารคนใดพยายามแอบเข้ามาในตระกูลฉู่อีกเลย
ในช่วงสองวันที่ผ่านมา ฉู่เซวียนได้รู้มาจากข้ารับใช้ว่าพวกลัทธิมารในเมืองฉู่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากตระกูลฉู่และได้สูญเสียผู้อาวุโสขอบเขตว่างเปล่า
ทั้งแคว้นฉินสั่นสะเทือน ทุกขุมอำนาจต่างตกตะลึงกับท่าทีที่ตระกูลฉู่แยกเขี้ยวอย่างกะทันหัน
แม้แต่ข้ารับใช้ที่รู้ผลของการต่อสู้ก็เห็นว่าตระกูลฉู่ได้รับชัยชนะท่วมท้นในการลงมือครั้งนี้
ตราบใดที่ตระกูลฉู่ยังไม่ถูกพิชิต ฉู่เซวียนก็สามารถอยู่ได้อย่างสบายใจและค่อย ๆ สะสมแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น
ในไม่ช้าเวลาหนึ่งเดือนก็มาถึง
ฉู่เซวียนตั้งหน้าตั้งตารอว่าระบบจะให้รางวัลอะไรแก่เขาหลังจากอยู่ในเรือนสี่ประสานมาหนึ่งเดือน
“โฮสต์ได้เก็บตัวอยู่บ้านหนึ่งเดือน โฮสต์ได้รับรางวัลคือพลังภูเขามิสั่นคลอน”
รางวัลสำหรับการเก็บตัวอยู่บ้านหนึ่งเดือนคือพลังภูเขามิสั่นคลอน
ฉู่เซวียนรีบรับรางวัล
พลังภูเขามิสั่นคลอนคือวิชาป้องกันที่ทรงพลังอย่างยิ่ง ไม่ใช่แค่ป้องกันร่างกายแต่ยังป้องกันวิญญาณศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย
เมื่อสำเร็จวิชา ร่างกายก็จะแข็งแกร่งราวกับภูเขาที่ยากจะสั่นคลอน
โดยเฉพาะการป้องกันวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ มันจะสร้างชั้นของภูเขาขึ้นมาปกป้องวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ตราบใดที่ไม่สามารถเจาะชั้นป้องกันของภูเขาก็ไม่มีทางทำร้ายวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ได้
นี่เป็นวิชาป้องกันที่ทรงพลังอย่างยิ่ง แม้แต่ตอนที่บรรลุขอบเขตจักรพรรดิแล้วก็ตาม
ฉู่เซวียนเริ่มฝึกฝนพลังภูเขามิสั่นคลอนทันที ตัวเขาสั่นสะท้านเมื่อพลังวิญญาณเริ่มรวมตัวกัน หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วยามเขาก็สำเร็จวิชา
ภูเขาขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นรอบวิญญาณของเขาเพื่อป้องกันการโจมตีจากภายนอก
ในเวลาเดียวกัน ฉู่เสวียนก็ทะลวงไปยังขอบเขตห้วงลี้ลับขึ้นที่เก้า
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็ถึงช่วงปลายเดือนที่สอง
ฉู่เสวียนได้ทะลวงไปยังประตูวิญญาณแล้วครึ่งก้าว
ความเร็วในการฝึกฝนพลังยุทธ์ของเขานั้นเร็วมากจนทำให้อัจฉริยะจำนวนนับไม่ถ้วนต้องตกตะลึง
ในช่วงเดือนที่ผ่านมานี้ ฉู่เซวียนได้รับรางวัลมากมายจากระบบ ไม่ว่าจะเป็นวิชา พลังลี้ลับ โอสถ อาวุธวิญญาณ และอาวุธสมบัติ
แม้ว่าเขาจะอยู่ในเรือนสี่ประสานและไม่ได้ก้าวเท้าออกจากประตูแม้แต่ก้าวเดียว ฉู่เซวียนก็รับรู้ถึงสถานการณ์ที่ตึงเครียดในเมืองฉู่
หลังจากที่ลัทธิมารได้รับความเสียหายอย่างหนัก พวกมันก็ได้เปิดการโจมตีอย่างกะทันหัน ตระกูลฉู่ก็ได้สูญเสียผู้พิทักษ์ขอบเขตวิญญาณและรุ่นเยาว์ขอบเขตห้วงลี้ลับหลายสิบคน
ในเวลานี้ แคว้นฉินได้ใช้ความแข็งแกร่งของทั้งแคว้นเพื่อกวาดล้างลัทธิมาร
ภายใต้คำสั่งของราชวงศ์ฉินและแรงกดดันของตระกูลขุนนางทั้งสาม ขุมกำลังและผู้ฝึกยุทธ์นับไม่ถ้วนในแคว้นฉินได้เข้าร่วมในการปิดล้อมและปราบปรามลัทธิมาร
นอกจากแคว้นฉิน แคว้นเพื่อนบ้านอย่างแคว้นต้าโจวและแคว้นจื่อเย่วก็ได้เริ่มลงมือเช่นกัน
การป้องกันของอาณาเขตตระกูลฉู่แข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก ในบางครั้งถึงกับมีผู้พิทักษ์ขอบเขตวิญญาณออกมาปกป้องเขต
เมื่อสามวันก่อน การสู้รบกันในช่วงสั้น ๆ ได้เกิดขึ้นในอาณาเขตตระกูลฉู่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเรือนสี่ประสานของฉู่เซวียน
การต่อสู้จบลงในเวลาไม่นาน แต่มันทำให้ฉู่เซวียนรู้สึกกังวล
หากยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณหรือแม้แต่ยอดฝีมือขอบเขตว่างเปล่าของลัทธิมารลงมือเอง การอยู่ชายขอบเขตตระกูลจะไม่เป็นอันตรายมากหรือ?
เขาจะต้องรีบทะลวงไปยังขอบเขตวิญญาณให้เร็วที่สุด
ตอนนี้ การปิดล้อมลัทธิมารไม่ได้จำกัดอยู่แค่ตระกูลฉู่ขุมกำลังเดียว แต่ทั้งแคว้นฉิน แคว้นต้าโจว และแคว้นจื่อเย่วกำลังร่วมมือกัน
ต้องรู้ว่า ขุมอำนาจที่อยู่เบื้องหลังของลัทธิมารคือจักรวรรดิต้าเซี่ย
ราชสำนักที่มารจะนิ่งดูดายให้ลัทธิมารถูกกำจัดหรือ?
การปิดล้อมลัทธิมารอาจกล่าวได้ว่าตระกูลฉู่เป็นผู้ชักนำโดยและยังเป็นตระกูลฉู่ที่ขัดขวางแผนการของลัทธิมาร
หากจักรวรรดิต้าเซี่ยเคลื่อนไหวจริง ๆ เป้าหมายแรกของพวกเขาจะต้องเป็นตระกูลฉู่อย่างแน่นอน
ตระกูลฉู่อย่างจะต้องเพิ่มความแข็งแกร่งให้เร็วที่สุดก่อนที่จักรวรรดิต้าเซี่ยจะเคลื่อนไหว!
“โฮสต์ได้เก็บตัวอยู่บ้านสองเดือน โฮสต์ได้รับรางวัลคือกล่องโอสถวิญญาณ”
โอสถวิญญาณคือโอสถที่ใช้ในการทะลวงขอบเขตวิญญาณและยังเป็นโอสถฝึกยุทธ์ในขอบเขตวิญญาณ
ฉู่เซวียนกินโอสถวิญญาณเพื่อรีบทะลวง
หลังจากที่ได้ทะลวงขอบเขตวิญญาณ ฉู่เซวียนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ขอบเขตวิญญาณถือว่าไม่อ่อนแอในแคว้นฉิน ไม่ว่าลัทธิมารจะทรงพลังเพียงใดแต่ก็มียอดฝีมือขอบเขตวิญญาณไม่มากนัก
เวลานี้ฉู่เซวียนมั่นใจว่าตราบใดที่ไม่ถูกยอดฝีมือขอบเขตว่างเปล่าบุกโจมตีด้วยตนเอง เขาก็สามารถจัดการกับมันได้
เผลอแป๊บเดียวใกล้จะถึงเดือนมีนาคมแล้ว
ฉู่เซวียนอยู่ในเรือนสี่ประสานมาเกือบสามเดือนแล้ว เขาไม่ได้ก้าวขาออกจากบ้านแม้แต่ก้าวเดียว
คนที่เขาเห็นทุกวันคือข้ารับใช้ที่มาส่งอาหารและทำความสะอาดบ้านของเขา ซึ่งพวกเขาไม่ค่อยพูดอะไรมากนัก
ในบ้านนอกจากบุปผากลืนวิญญาณ เขายังขาดสัตว์เลี้ยง
ฉู่เซวียนค่อนข้างสงบนิ่ง ต้องไม่ลืมว่าเขายังไม่แข็งแกร่งพอ การออกไปข้างนอกตอนนี้ยังอันตรายเกินไปสำหรับเขา
ไม่ว่ามันจะน่าเบื่อแค่ไหน ฉู่เซวียนยังต้องอดทน!
“โฮสต์คิดว่าการอยู่คนเดียวน่าเบื่อเกินไปงั้นหรือ? ข้าจะมอบรางวัลให้โฮสต์เป็นสัตว์เลี้ยง แมววิญญาณสวรรค์”
สัตว์เลี้ยง?
ฉู่เซวียนรู้สึกประหลาดใจและกดรับรางวัลทันที
แมวตัวสีขาวราวกับหิมะที่มีรูปลักษณ์งี่เง่าและน่ารักปรากฏขึ้น
“แมววิญญาณสวรรค์เป็นสัตว์พิศวงแห่งฟ้าดิน มันสามารถท่องไปในเก้าโลก ลงไปในยมโลก และปีนขึ้นสู่เก้าสวรรค์ชั้นฟ้า มันเก่งในการซ่อนตัว มีความเร็วอันไร้ที่เปรียบ และมีรูปลักษณ์ที่งี่เง่าและน่ารัก แต่เมื่อมันโกรธมันจะปลดปล่อยพลังของสัตว์เทพพยัคฆ์ขาว...”
ฉู่เซวียนมองไปที่ข้อมูลแมววิญญาณสวรรค์และอดไม่ได้ที่จะอุทานด้วยความประหลาดใจ อันที่จริงแมวน้อยที่มีรูปลักษณ์งี่เง่าและน่ารักตัวนี้เป็นสัตว์พิศวงแห่งฟ้าดิน และพลังของมันยังน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง
แน่นอนว่าเวลานี้มันยังอยู่ในวัยเด็ก
ความแข็งแกร่งของมันอยู่ในขอบเขตวิญญาณขั้นที่สามเท่านั้น
ทว่าด้วยความเร็วและความว่องไวสุดขีดของแมววิญญาณสวรรค์ แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตว่างเปล่าขั้นที่หนึ่งก็ไม่สามารถทำร้ายมันได้
เรือนสี่ประสานของฉู่เซวียนจึงไม่น่าเบื่อและจำเจอีกต่อไป นอกจากอ่านหนังสือแล้วเขายังสามารถเลี้ยงแมวได้ด้วย!
แถมเป็นแมวที่กินโอสถวิญญาณทุกวัน ฉู่เซวียนถอนหายใจ ทั่วทั้งทวีปไม่มีใครฟุ่มเฟือยเท่าเขาอีกแล้ว ให้อาหารแมวด้วยโอสถวิเศษ
“โฮสต์ได้เก็บตัวอยู่บ้านสามเดือน โฮสต์ได้รับรางวัลคือแผนภาพบ่มวิญญาณและวิชาหมื่นชำระวิญญาณ(ส่วนที่หนึ่ง)”
ฉู่เซวียนหัวใจเต้นกระดอนขึ้น วิชาฝึกเจตจำนงวิญญาณที่เขาเคยคิดหาในที่สุดก็มาแล้ว
แผนภาพบ่มวิญญาณเป็นแผนภาพที่ลึกลับอย่างยิ่ง ลายเส้นที่บิดเบี้ยวและวกวนประกอบกันจนเกิดเป็นภาพที่ดูเหมือนกับแม่น้ำและภูเขา
เมื่อมองแวบเดียวก็อดไม่ได้ที่จะดำดิ่งลงไปในภาพแล้ว บางคนอาจรู้สึกได้ว่าลายเส้นของภาพนั้นกำลังบิดเบี้ยวและวกวนอย่างต่อเนื่อง
ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ฉู่เซวียนรู้สึกเวียนหัวและต้องรีบหลบสายตาออกมา
ทันทีที่เขาละสายตา ความรู้สึกเวียนหัวก็หายไป แต่วิญญาณของเขาได้เติบโตขึ้นเล็กน้อย
ฉู่เซวียนรู้สึกประหลาดใจมาก การดูแผนภาพบ่มวิญญาณสามารถช่วยเขาพัฒนาวิญญาณได้
ส่วนวิชาหมื่นชำระวิญญาณเป็นวิชาชั้นยอดที่เหนือกว่าเคล็ดวิชาจักรพรรดิ ถึงแม้จะเป็นแค่ส่วนแรกแต่ยังทรงพลังอย่างยิ่ง
ด้วยความช่วยเหลือของแผนภาพบ่มวิญญาณ วิญญาณของฉู่เซวียนจะมีความแข็งแกร่งพุ่งทะยาน
จนเทียบเคียงกับผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตว่างเปล่า
ฉู่เสวียนเริ่มฝึกฝนวิชาหมื่นชำระวิญญาณ ยิ่งเจตจำนงวิญญาณของเขาแข็งแกร่งขึ้นเท่าไหร่ ระยะของจิตสัมผัสของเขาจะยิ่งกว้างมากขึ้นเท่านั้น วิชามายาก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นตาม
ในอนาคตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกผนึกรวมจะแข็งแกร่งและทรงพลังมากขึ้นเช่นกัน
และการป้องกันจากพลังภูเขามิสั่นคลอนจะแข็งแกร่งขึ้นตามไปด้วย
จนถึงตอนนี้ ฉู่เซวียนได้สร้างภูเขาร้อยลูกเพื่อปกป้องเจตจำนงวิญญาณของเขา
เป้าหมายต่อไปของเขาคือการสร้างภูเขาพันลูกเพื่อปกป้องเจตจำนงวิญญาณของเขาอย่างมั่นคง
ในการสร้างภูเขาเพื่อปกป้องเจตจำนงวิญญาน เขาต้องใช้เจตจำนงวิญญาณ และมันไม่ใช่สิ่งที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน
ทุกครั้งที่เจตจำนงวิญญาณของใครคนหนึ่งถูกใช้ไปและได้รับการฟื้นฟูในภายหลัง มันจะถูกควบคุมอารมณ์และวิญญาณจะเริ่มยืดหยุ่นมากขึ้นเรื่อย ๆ
วิชาหมื่นชำระวิญญาณสร้างขึ้นมาเพื่อควบคุมเจตจำนงวิญญาณอย่างต่อเนื่อง ทำให้คุณภาพและปริมาณของวิญญาณเพิ่มขึ้น บวกกับการสร้างภูเขาเพื่อปกป้องเจตจำนงวิญญาณทำให้ผลลัพท์เป็นทวีคูณ
หลังจากอยู่ในเรือนสี่ประสานมาเกือบสี่เดือน ความแข็งแกร่งของฉู่เซวียนก็มาอยู่ที่ขอบเขตวิญญาณขั้นที่ห้า เจตจำนงวิญญาณของเขาไม่ได้ด้อยกว่าผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตว่างเปล่าขั้นที่สาม
ในคืนนี้ ร่างหนึ่งได้แอบเข้ามาในอาณาเขตตระกูลฉู่โดยไร้ซุ่มเสียง
แม้แต่ผู้พิทักษ์ขอบเขตวิญญาณที่ลาดตระเวนตระกูลฉู่ก็ไม่สังเกตเห็น