ตอนที่แล้วEp.471 - บอสฮัง vs แม่ทัพมังกรมรณะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.473 - ไข่มุกและเทคนิคเคลื่อนมิติ

Ep.472 - ดาวข่ม


2/3

Ep.472 - ดาวข่ม

สาเหตุที่รอบข้างจมดิ่งสู่ความว่างเปล่าและเหลือแค่ภาพขาวดำ

หลักๆก็เพราะเซนอสร่ายสกิลขั้น 4 ‘เขตแดนแห่งความตาย’

ฮังอวี่สามารถตรวจพบข้อมูลนี้ได้จากในความทรงจำอย่างรวดเร็ว มันคือสกิลหลักของมรดกขั้น 4 ‘ผู้ปกปักษ์ยมโลก’ มีพลังในการควบคุมภาคสนามอันแก่กล้า เอฟเฟกต์หลักมีทั้ง: ปิดกั้นเสียง ปิดกั้นกลิ่นอาย ลดค่าคุณสมบัติ สร้างภาพหลอน และทำให้พลังของธาตุทั้งสี่อันได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ อ่อนแอลงอย่างมาก

พายุทรายท่ามกลางเขตแดนหายไปในเวลาไม่ถึงสามวินาที

ฮังอวี่รู้ดีว่าภายใต้อิทธิพลของสกิลนี้ คาถาที่เกิดจาก《หนังสือแห่งทราย》ปราศจากความหมายอีกต่อไป

เพราะคาถาในหนังสือเล่มนี้ล้วนแล้วแต่มีธาตุลม หากเปิดใช้งานในสภาพแวดล้อมนี้ เอฟเฟกต์คงอ่อนแอลงมาก ผลลัพธ์ลดลงเท่าหนึ่ง และนั่นไม่มากพอที่จะคุกคามแม่ทัพมังกรมรณะ

เหลือแค่ต้องใช้การโจมตีทางกายภาพเท่านั้น!

และต้องรีบทำให้เสร็จ!

เพราะยิ่งปล่อยให้เวลาเนิ่นนาน ฮังอวี่ก็ยิ่งเป็นฝ่ายถูกกดดันขึ้นเรื่อยๆ

ฮังอวี่กุมนักฆ่าขุมนรก ปลดปล่อยสกิลบลิงค์เข้าโจมตีสายฟ้าแลบ ผ่าร่างของเซนอส

แต่ในจังหวะนั้นเอง สัมผัสที่ได้ มันราวกับตัดลงบนหมอก ไม่ให้ความรู้สึกว่าโจมตีโดนเป้าหมายเลย

ร่างของเซนอสกลายเป็นหมอกสีเทากลุ่มใหญ่กระจายออกไป ลอยวูบผ่านหน้าฮังอวี่ไปโผล่ด้านหลังเขาอย่างรวดเร็ว

เมื่อกลุ่มควันกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ร่างท่อนบนของเซนอสก็กลับคืนสู่สภาพเดิม แต่ท่อนล่างยังคงอยู่ในรูปร่างของควัน

เซนอสวาดออกด้วยมือซ้าย ประทับคาถาผนึกลงบนร่างของฮังอวี่

ท่าทีของฮังอวี่แปรเปลี่ยนไป เขาเปิดใช้งานปราณสงครามทันที สกัดกั้นผนึก

เซนอสได้รับแรงปะทะจากปราณสงคราม ร่างกระจัดกระจายอีกครั้ง ก่อนไปรวมตัวกันในระยะห่างออกไปหลายสิบเมตร

ฮังอวี่หนักใจท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ เห็นได้ใชัดว่าเขตแดนแห่งความตายไม่ใช่ลูกเล่นที่แก่กล้าที่สุดของเซนอส เมื่อครู่มันใช้ความสามารถพิเศาที่สืบทอดมาที่ชื่อว่า ‘เงามืดลิซ’

พรสวรรค์นี้จะสามารถเปลี่ยนร่างเลือดเนื้อให้กลายสภาพเป็นควัน

ภายใต้สถานะนี้ ไม่ต่างอะไรกับร่างวิญญาณ การโจมตีทางกายภาพแทบไร้ผล ไม่น่าแปลกใจที่เซนอสมั่นใจนัก!

เจ้าหมอนี่เจ้าเล่ห์จริงๆ เริ่มจากใช้เขตแดนทำให้พลังธาตุอ่อนลง นี่ส่งผลกระทบต่อการโจมตีทางเวทย์อย่างมาก จากนั้นเปลี่ยนร่างเป็นสถานะควันเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันการโจมตีทางกายภาพ

กล่าวคือ

ตอนนี้ไม่ว่าจะนักเวทย์หรือนักรบ หากต้องเผชิญหน้ากับแม่ทัพมังกรมรณะ แทบไม่มีโอกาสชนะเซนอสได้เลย

เซนอสใช้กลยุทธ์นี้ข่มคู่ต่อสู้ได้อย่างสิ้นเชิง

ต่อให้ฮังอวี่เป็นนักรบที่มีพลังแก่กล้า แต่การโจมตีเกือบทั้งหมดของเขาจัดอยู่ในประเภทกายภาพ แทบไม่มีโอกาสทำร้ายเซนอส วิธีที่ดีที่สุดคือยืดเวลาออกไป รอให้พลังจิตของเซนอสหมด

แต่ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าวิธีนั้นเป็นไปไม่ได้เช่นกัน

เนื่องจากพลังจิตของฮังอวี่ไม่มีทางอยู่ได้นานกว่าเซนอส

และระหว่างนั้นเซนอสก็ไม่คิดอยู่เฉยเช่นกัน

หลังจากร่ายคาถาอยู่นาน ไม้เท้าในมือแม่ทัพมังกรก็วาดเป็นวงกลางอากาศ  อากาศภายในวงพังทลายลงอย่างรวดเร็ว สกิลขั้น 4 อันทรงพลังถูกปลดปล่อยออกมา

“ประตูเขตแดนยมโลก!”

หลุมดำปรากฏขึ้น

ทว่าปราศจากแรงดึงดูดใดๆ ตรงกันข้าม หลุมดำกลับพ่นกลิ่นอายนรกภูมิที่เสียดแทงไปถึงกระดูกออกมาอย่างต่อเนื่อง

ราวกับว่ามันเชื่อมต่อโดยตรงกับยมโลก ชวนให้รู้สึกเย็นเยียบไปถึงจิตวิญญาณ

อัศวินอันเดธควบขี่ม้าออกมาจากทางผ่านอันบิดเบี้ยว

นี่ไม่ใช่อัศวินอันเดธธรรมดา แต่เป็นอัศวินม้าผีอันแก่กล้า ร่างของพวกมันคล้ายปราศจากตัวตน ซึ่งหมายความว่ามีความต้านทานต่อการโจมตีทางกายภาพค่อนข้างสูง และพลังรบไม่อ่อนแอ ทั้งหมดเป็นชนชั้นยอดขั้นโกลด์ในเลเวล 15

หากพวกมันมีไม่ถึง 10 ตน ด้วยพลังรบในปัจจุบันของฮังอวี่ นี่ไม่มากพอที่จะคุกคามเขา

แต่ประตูยมโลกเบื้องหน้า ใช้เวลาไม่นาน ก็ปล่อยพวกมันออกมามากกว่า 20 30 ตน

หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ในไม่ช้าคงเพิ่มจำนวนเป็น 50 60 ตน หรือมากกว่านั้น!

ภายใต้พื้นที่จำกัด

ภายใต้สถานการณ์ถูกกดดัน

หากถูกล้อมด้วยมอนสเตอร์จำนวนมากในเวลาเดียวกัน

ต่อให้เป็นฮังอวี่ก็ไม่ไหว สุดท้ายตกอยู่ในอันตราย มีโอกาสถูกเฆี่ยนตีจนตาย

ที่กล่าวมายังไม่นับรวมว่ามีเซนอสอยู่ด้วยนะ

เซนอสคือผู้ใช้วิญญาณที่เชี่ยวชาญการพรางตา ตอนนี้ยิ่งทำให้ยากที่จะล็อคตำแหน่งของมัน

ท่ามกลางสภาพแวดล้อมเช่นนี้ หากไม่ตั้งสมาธิดีๆ คงไม่ต่างอะไรจากการแส่หาที่ตาย

แสงสีแดงจำนวนมากถูกปล่อยออกมาจากร่างกายของฮังอวี่ ฉีกกระชากพื้นที่ขาวดำ สร้างคุกโลหิตขึ้นกลางเขตแดนแห่งความตาย ขังเซนอสและอัศวินม้าผีเอาไว้

“จัตุรัสคุกโลหิต?”

“นี่มันสกิลของปีศาจคลั่งอาบโลหิต?”

อย่างไรก็ตาม แม้คุกโลหิตเป็นสกิลขั้นสี่ที่สามารถกักขังศัตรู แต่มันคือสกิลที่ยังไม่ได้รับการสืบทอดมรดก ดังนั้นไม่อาจสู้เขตแดนแห่งความตายได้

สถานการณ์ปัจจุบันคือ

เซนอสขังฮังอวี่ด้วยเขตแดน

ฮังอวี่ขังเซนอสด้วยจัตุรัสคุกโลหิต

ทว่าคุกโลหิตยังไม่แกร่งพอที่จะต้านทานเอฟเฟกต์ของเขตแดนทั้งหมดได้ ค่าคุณสมบัติของฮังอวี่ยังคงลดลงต่อเนื่อง

ขณะที่การโจมตีจากคุกโลหิตยังไม่สามารถคุกคามเซนอสได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้แต่ตำแหน่งของเซนอสก็ยังไม่สามารถระบุได้อย่างแม่นยำ

ฮังอวี่เปิดใช้งานปลุกเลือดปีศาจ เปลี่ยนร่างเป็นขุนนางเลือดปีศาจ จากนั้นชุบโลหิตลงบนอาวุธ เข้าฟาดฟันอัศวินม้าผี ทำดาเมจอย่างรุนแรงแก่พวกมัน

ชุบโลหิตคือการโจมตีที่เกิดจากพลังงานแผดเผา จึงสามารถทำร้ายอัศวินม้าผีได้

มองไปยังฮังอวี่ที่เข้าเผชิญหน้ากับอัศวินม้าผีอย่างดุดัน มุมปากเซนอสยกขึ้นเล็กน้อย เผยท่าทีเหยียดหยาม

จากมุมมองของมนุษย์ ชายผู้นี้แก่กล้ามากจริงๆ

แต่ด้วยระดับเพียงเท่านี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะตน ขอแค่สร้างอัศวินม้าผีต่อไป ถ่วงเวลาสู้ให้นานขึ้น ภายใต้สภาวะคุกโลหิต ด้วยพลังจิตของนักรบ จะปล่อยสกิลนี้ได้นานสักแค่ไหนเชียว?

เซนอสยังคงเปิดใช้งานประตูสู่ยมโลก หวังสร้างอัศวินม้าผีมากขึ้น ในเวลาเดียวกันคอยใช้สกิลสายควบคุมต่างๆ สถานะเชิงลบต่างๆ บวกกับสกิลลวงตาเข้าโจมตี

สร้างความปั่นป่วนแก่ฮังอวี่อย่างมาก

ฮังอวี่เปิดใช้งานปราณสงครามเกราะ ด้วยเอฟเฟกต์ปัดเป่าของมัน ทำให้ยังพอสู้ต่อไปได้

แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะพลิกสถานการณ์!

มอนสเตอร์ผียิ่งนานยิ่งถูกอัญเชิญ หากยังเป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่มีวันสิ้นสุด

ฮังอวี่ตัดสินใจเรียกใช้เอฟเฟกต์ของสร้อยคอโลกันต์โลกาวินาศ

ร่างอันเดธทุกตนที่อยู่ในคุกโลหิต รวมไปถึงเซนอสถูกแผดเผา ทำดาเมจหลายสิบหน่วยต่อวินาที

“ฤทธิ์ของไฟนี้ทะลุการป้องกัน ... สมควรเป็นเพลิงโลกันต์!”

เมื่อเซนอสและเหล่าอัศวินม้าผีได้รับดาเมจ ด้วยเอฟเฟตก์ของคุกโลหิต นี่จึงช่วยเป็นการเพิ่มพลังแก่คุกโลหิต ลดการสิ้นเปลืองพลังงานของฮังอวี่ ขณะเดียวกันช่วยเพิ่มค่าคุณสมบัติแก่เขา

การอัญเชิญสมุนของเซนอส กลับกลายเป็นผลดีต่อฮังอวี่แทน

“นี่ไม่ใช่พลังของเขา ... แต่น่าจะเกิดจากอุปกรณ์ที่แข็งแกร่งบนตัว”

เซนอสรับรู้ได้ถึงอุปกรณ์ที่สามารถกระตุ้นเพลิงโลกันต์ได้

กล่าวคือบนตัวมนุษย์ผู้นี้ มีโอกาสเก้าในสิบส่วนที่จะมีไอเท็มสีม่วง 2 ชิ้น

ชายผู้นี้ยังเป็นมนุษย์จริงๆหรือ? เขาได้รับไอเท็มสีม่วงมากกว่าหนึ่งชิ้นในช่วงเวลาสั้นๆเช่นนี้ได้อย่างไร?

กระทั่งเซนอส สมบัติระดับสีม่วงยังเป็นสิ่งหายาก กระทั่งในสันเขามังกร ไอเท็มสีม่วงยังเป็นของหายาก

เซนอสล้มเลิกความประมาททั้งหมดที่มี ภายใต้สถานะเงามืดลิซ  แม้จะมีภูมิคุ้มกันต่อการโจมตีทางกายภาพส่วนใหญ่ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถเติมเลือดได้เช่นกัน

เมื่อต้องรับมือกับดาเมจจากสองสิ่ง คุกโลหิต + โลกันต์แผดเผา เกรงว่าหากปล่อยไว้นานคงตึงมือ

เซนอสปลดเกราะป้องกันลวงตา ตัดสินใจเข้าสู้ด้วยตัวเอง กำจัดมนุษย์ผู้นี้โดยเร็ว

ปรากฏตัวแล้ว!

ฮังอวี่ไม่พลาดโอกาสนี้ ตัวเขาลุกเป็นไฟ เจิดจ้าด้วยแสงสว่าง ระเบิดความเร็วที่ไม่อาจแยกแยกด้วยตาเปล่า

ภายในเวลาไม่ถึงวินาที พุ่งไปไกลหลายร้อยเมตร โผล่มาอยู่เบื้องหน้าเซนอส

“หนึ่งกระบี่ล่าแสง!”

“กลบฝังปีศาจคลั่ง!”

สีหน้าของเซนอสแปรเปลี่ยนไป มันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทานรับการโจมตีอันทรงพลังนี้ ร่างเงามืดลิซขุ่นมัวลงอย่างแรงจากการปะทะอันดุเดือด

และวินาทีต่อมา อาวุธในมือของฮังอวี่เกิดการเปลี่ยนแปลง กลายเป็นกระบี่แสงสว่างไสว

เซนอสรู้สึกได้ถึงพลังปราณธาตุแสงอันทรงอานุภาพ สองตาเบิกกว้างฉายวี่แววของความสยดสยอง

ร่างเงามืดลิซมีภูมิคุ้มกันต่อการโจมตีทางกายภาพมากก็จริง แต่เมื่อถูกโจมตีด้วยธาตุแสง ดาเมจจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

ฮังอวี่ไม่เปิดโอกาสให้มันตอบโต้ ปลดปล่อยวิถีกระบี่ล่าแสง , ก้าวล่าแสง และสังหารลมกรดทันที!

ระเบิดความว่องไวถึงขีดสุด!

ถึงจุดนี้ เซนอสเพิ่งตระหนักได้ ว่าตลอดมาฮังอวี่ยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดที่มี อีกฝ่ายเพียงเฝ้ารอช่วงจังหวะที่เหมาะสม คอยโอกาสที่ตนเผยจุดอ่อนออกมา

กระบี่แสงฟาดฟันครั้งแล้วครั้งเล่า

“ไม่ได้การ!”

เซนอสค้นพบว่าพลังชีวิตของตัวเองไหลราวกับน้ำ ทุกการโจมตีของศัตรู ทั้งหมดถูกแปลงเป็นธาตุแสงที่ทำดาเมจสองเท่า!

ไอ้ทุเรศเอ๊ย!

นี่ข้ากำลังจะตายงั้นหรือ?

เซนอสจำใจเปิดใช้งานเทคนิคเอาชีวิตรอด มิติรอบตัวมันบิดเบี้ยว

วินาทีต่อมา ทุกสิ่งอย่างภายใต้กระบี่แสงหายวับไป

ฮังอวี่ตัวแข็งค้าง “โยกย้ายมิติ? เจ้าหมอนี่ครอบครองสกิลมิติอันแสนหายากไว้ด้วย!? ”

สมแล้วที่เป็นหนึ่งในสามแม่ทัพมังกรของราชามังกรคลั่ง มีลูกเล่นมากมายจริงๆ

แต่ก็เพราะมันคือแม่ทัพมังกรเช่นกัน ที่เป็นเหตุผลให้ไม่อาจปล่อยให้หลุดไปรายงานข้อมูลได้

“หวังเอ๋อ!”

“ฮ่ง เจ้านาย พวกเรารวยแล้ว!”

“อย่าเพิ่งสนของดรอป แม่ทัพมังกรถูกฉันตีได้รับบาดเจ็บสาหัส รีบตามกลิ่นมันไป ฉันต้องฆ่ามันให้ได้!”